ก็ตามหัวข้อเรื่องเลยครับ ยากกว่าการพิชิตเขา ก็การจองที่จะขึ้นเขานี่แหละครับ

ยากถึงขนาดว่าทำให้บางคนงอลไม่ปงไม่ไปกันเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะหลายคนที่คอยจ่องที่จะไปเขานี้ให้ได้ ประกอบกับช่องทางการจอง ที่จองได้เเค่เฉพาะการโทรเท่านั้น

เรียกได้ว่าเป็นมหากาฬสงครามการโทรจองเลยก็ว่าได้ครับ

เเต่ก็น่ะ ดูจากภาพจากรีวิวหลากหลายช่องทาง คนชอบเที่ยวอย่างเราๆก็อยากไปกันทั้งนั้น ผมก็เช่นกัน

สงครามจะหนักแค่ไหนเราก็คงยอมลงสนามสักครั้ง โทรไปเลยเผื่อฟลุค 55+

ก็น่ะ บางคนจะจองคนเดียว บางคนจะจองสองคน บ้างก็มาเป็นเเก๊ง บางคนโทรกันเป็นร้อยๆสาย ก็ไม่เเปลกครับที่สายจะไหม้ 555+ โทรไม่ติด สายไม่ว่าง ไม่แปลกเลย และที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นคือโทรติดแล้ว แต่เต็ม 555+ (ความรู้สึกคงเหมือนโดนเทเเหละครับ นก นก นก 555+)

ข้อมูลการโทรจองก็ประมาณนี้น่ะครับ ปีหน้าใครจะไปก็คงต้องผ่านสงครามนี้กันก่อนครับ ทำใจไว้ก่อนศึกนี้ยังอีกยาวไกล

ส่วนเบอร์โทร ข้อมูลข่าวสาร ไปติดตามกันในเพจอุทยาน ดีกว่าครับ เขาเปลี่ยนเบอร์บ่อย

ถ้าผมบอกว่าจะมารีวิวเจาจ้างเจือก  เอ่ย เขาช้างเผือก(นิดเดียวมึงก็ยังจะเล่น555+)

ก็คงบอกได้เลยว่าทุกคนคงได้อ่านกันไม่รู้กี่กระทู้กี่รีวิวมาแล้ว เอาเป็นว่ากระทู้รีวิวนี้เป็นอีกทางเลือกนึงให้กับทุกคนที่ผ่านมาอ่านล่ะกัน กรุณาตื่นเต้นด้วยครับ

ลิงค์สำหรับรูปภาพ 360 องศาน่ะครับ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1395479983869305&set=a.1397270113690292&type=3&theater

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1393700864047217&set=a.1397270113690292&type=3&theater

ส่วนนี่เป็นอัลบั่มรูปทั้งหมดของผมที่รวมมาน่ะครับ ถ้าใครไม่สะดวกอ่านรีวิวนี้ ก็ไปอ่านสรุปคร่าวๆในลิงค์นี้ได้เลย

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1397270113690292&type=1&l=8f79112a02

เพื่ออรรถรสในการอ่าน ใครยังไม่ได้ตื่นเต้น โปรดทำตัวให้ตื่นเต้นเดี่ยวนี้ครับ ฮ่า ๆ ของอย่างนี้ใครจะไปสั่งกันได้เล่า
ถ้าใครตื่นเต้นเเล้วก็ตามมาเลย มาเผือกกันเลยดีกว่า

ข้อมูลคร่าวๆ เพรียวๆไม่ผสมเฮลบลูบอย

จากการได้ไปสัมผัสสอบถามและอ่านรีวิวมาน่ะครับ
เขาช้างเผือก มีความสูงระดับน้ำทะเล 1249 ม.
ห่างจากหมู่บ้านอีต่อง 8.กม
ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิบ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ติดกับพม่า
สำหรับผมเป็นเขาที่สวยงามมากครับ
ความยากของการเดิน อยู่ในระดับปานกลาง ชันบ้าง หอบบ้าง ตรงบ้าง อารมณ์ประมาณเดินขึ้นไปในสวนยางอ่ะครับ แต่ต้องเข้าใจว่า 8 กิโลด้วยน่ะครับ ใช้เวลาเดินประมาณ 3-5 ชม.ขึ้นอยู่กับความฟิตของเเต่ละกลุ่ม เดินเองไม่ต้องมีใครประคอง ถ้ามาเป็นคู่อย่าเดินประคองครับ ขาไม่หักแน่นอนครับ (กูพาลหมดอ่ะ555+) ลำบากนิดๆ หน่อยๆเองแต่วิวด้านบน คุ้มกับการเดินครับ55+ จะเสียวหน่อยก็สันคมมีดแหละครับ เดินได้ทั้งผช.และ ผญ.

หลังจากที่เราเอาชนะสงครามการจองมาแล้ว จะพิชิตใจเขาก็ต้องมาหาเขาก่อนน่ะครับ

การเดินทางมาเขาได้หลายวิธี
1.รถตู้สายใต้หรือหมอชิตก็ได้(ร้อยกว่าบาท)ไปเมืองกาญ ลงบขส. แล้วต่อรถไป อ.ทองผาภูมิ ลงที่ตลาดทองผาภูมิ(อีกร้อยกว่าบาท)
2.หมอชิต2รถทัวร์ 218บ. ไปลงตลาดทองผาภูมิเลยก็ได้ รถทัวร์นี่มีแค่รอบเดียว 6.30 น.ครับ

***ทั้งสองวิธีจะใช้เวลาประมาณ 6 ชม.มาถึงตลาดครับให้ขึ้นรถเช้าๆ น่ะครับ เพื่อให้ทันรถสองเเถวที่จะหมดรอบสุดท้าย 12.30 น. บางวันก็เลดบ้างอยู่ที่คนเต็มน้อยช้า รถสองเเถวจะขึ้นมา จะลงอุทยานก็ได้หรือบ้านอีต่องเลยก็ได้ (ราคา70บ.) ใช้เวลาจากตลาดขึ้นไปหมู่บ้านอีกประมาณ 2 ชม.ครับ
3.ขับรถมาเองครับ สะดวกที่สุดแล้วมั้งถ้ามีรถ
4.หรือใครสายติสหน่อยจะโบกเอาก็ได้ครับ

หรือใครจะประหยัดก็นั้งรถไฟฟรีมาลงกาญ ต่อสองแถวไป บขส.กาญ และนั้งรถตู้จากบขส.กาญมาที่ตลาดทองผาภูมิ

แต่จะไม่ทันกับรถสองเเถวขึ้นไปหมู่บ้านครับ ต้องอาศัยการโบกขึ้นไป

ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิเป็นจุดที่เราต้องมาลงทะเบียน จ่ายค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ค่ากางเต้นและค่าเข้าอุทยาน พอได้ตั๋วก็เก็บไว้เพราะพรุ้งนี้เราต้องใช้ตั๋วในการพิชิตใจเขา จัดการให้เรียบร้อยครับ

ค่าใช้จ่ายเบื่องต้นที่ต้องเสียก็มีค่าเข้าอุทยาน 40บ. ค่ากางเต้น 30 บ. ค่านำทาง 200 บ.

ซึ่งค่านำทาง 200บ.นี่มาจากการเฉลี่ย 60 คนน่ะครับ ใครมากันกี่คนก็แล้วแต่ เราก็ต้องเสียมัดจำไว้ 200 บ. คนที่มาคนเดียวไม่ต้องห่วงเลยครับผม สบายใจได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 10 คนก่อน

เห็นนกเงือกนั้นไหม ตัวจริงครับไม่ใช่รูปปั้นครับ จะมีอยู่สองตัวป้วนเปี้ยนเเถวที่ทำการอุทยาน
ดีไม่ดีเเถวด้านหน้าที่ทำการ เราอาจมีสิทธิเจอเก้งด้วยครับ ผมเจอมาเเล้ว

ซึ่งที่ทำการอุทยานจะอยู่ห่างก่อนถึงหมู่บ้านอีต่องประมาณ 10 กม.ครับ

ถ้าใครมากับรถสองแถวก็บอกพี่เขาก่อนได้ครับ พี่เขาจะจอดให้เราไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยขึ้นที่หมู่บ้านครับ แล้วค่อยขึ้นไป

หรือใครจะลงมานอนที่อุทยานเลยเลยก็ได้ครับ มีที่กางเต้น มีวิวสวยๆ มีห้องน้ำ เรียบร้อย แล้วพรุ้งนี้เช้าค่อยโบกรถนักท่องเที่ยวขึ้นไป

รูปนี้เป็นรูปจุดชมวิวที่กางเต้นของอุทยานครับ

รุ่งเช้าผมก็โบกรถนักท่องเที่ยวขึ้นมาที่หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านที่คลาสสิกมากครับ ชาวบ้านใจดีมาก เฟรนลี่มากด้วยครับ

หมู่บ้านอีต่องเป็นจุดสตาท เเละจุดนัดพบ ซื้อข้าวของเตรียมตัวกันที่นี่แหละครับ เจ้าหน้าที่จะนัดเจอเราที่นี่ 8โมงเช้า ซึ่งก็หมายความว่าเราต้องมาหมู่บ้านก่อนถึงเวลาน่ะครับ กลุ่มไหนพร้อมก็เริ่มเดินขึ้นไปพิชิตใจเขาได้เลยครับ อ่อระวังจะตกหลุมรักเขาน้าาา ถถถ

ระยะทางในการเดินจากหมู่บ้านไปถึงยอดเขามีระยะทางประมาณ 8 กม. ใช้เวลาประมาณ 3-6 ชม. ขึ้นอยู่กับความฟิตของเเต่ล่ะกลุ่มครับ ถ้ากลุ่มไหนมีสาวๆเยอะหน่อยก็ใช้เวลาหน่อนครับ

ต่อจากนี้ให้ภาพมันบรรยายบรรยากาศแทนล่ะกันน่ะครับ

รูปสุดท้ายนี่ไม่ใช่ลูกหาบน่ะครับ เป็นผมเองเผือกอยากลองแบกของที่พี่ลูกหาบเขาแบกกัน8กม. ส่วนผมอ่ะแค่ 8 ก้าวก็เซเเล้วครับ พวกพี่ๆแกนี่อึดจริงๆ

เมื่อเดินมาถึงลานกางเต้นทุกคนก็จับจอง

คำเเนะนำคือเลือกต่ำๆไว้ครับเพราะกลางคืนลมเเรง

กางเต้นและก็ลุยอาหารเที่ยงให้เรียบร้อย พักผ่อนให้หน่ำใจ เวลาอันเหมาะสมเจ้าหน้าที่นัดที่จะไปพิชิตเขาคือประมาณ 15.30 น. ระหว่างนั้นใครจะนอนจะพักจะชมวิวก็แล้วแค่เลยครับ

ลานกางเต้นมีพื้นที่จำกัด เป็นสาเหตุที่ทำให้ทางอุทยานจำเป็นต้องให้คนขึ้นได้แค่วันล่ะ 60 คน

มีห้องน้ำให้ด้วยครับ ในระดับที่ว่าถ้าจะมีห้องน้ำไหนสู้ห้องน้ำเมืองจีนได้ คงบอกได้เลยว่าที่นี่ครับ ส่งเข้าเเข่งกับเมืองจีนได้เลย (ไม่มีรูปให้น่ะครับ ถถถ)

กลางคืนถ้าเป็นวันที่ฟ้าเปิด จะเห็นดาวได้ชัดเจนมากครับ

ภาพที่ถ่ายเป็นกล้องมือถือเลยจับดาวไม่ค่อยได้ครับ ต้องขออภัยด้วยเน้อ

หลังจากที่ได้พักผ่อนกันหายเหนื่อยเเล้วพอถึงเวลาคือบ่ายสามครึ่งเราก็เริ่มเดินกันต่อครับ

และแล้วเราก็มาถึงสุดพีคที่สุดของการพิชิตเขาที่ได้ชื่อว่า ช้างเผือกครับ นั้นก็คือสัคมมีด พีคสุดๆล่ะครับ อารมณ์ประมาณปีนบันไดลิงแหละ แต่ถ้าพลาดมานี่คือเหวกับเหวครับ 555+ ก็ขอให้อยู่ในความไม่ประมาทล่ะกันครับ

หลังจากที่ผ่านจุดพีคสุด ก็เดินชิวๆเลยครับ วิวระดับร้อยล้านเลยก็ว่าได้ เดินกันไม่ค่อยเหนื่อยเพราะจะเพลินกับวิว ที่ได้ชื่อว่าเขาช้างเผือกคงมองจากจุดนี้ เห็นเหมือนหลังช้างแต่มีสี เลยเรียกกันว่า ช้างเผือก

ยอดเขาช้างเผือก