ตะลุยหญ้าคา วัดใจสันคมมีด @ เขาช้างเผือกอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
คือต้องบอกเลยว่าคันมากอยากจะไปแต่ไม่มีความพยายามมากพอเลยเกาะทริปคนอื่นไป ไม่ได้มีประโยชน์ในการให้ข้อมูลใดๆทั้งนั้น มีหน้าที่เกียมตัวและจ่ายเงิน 2,000 บาท
ไปกะเพื่อนชื่อ"เฮียเนตร" เพื่อนสมัยเรียนอนุบาลหมีน้อยมาด้วยกัน แกงค์เฮียแกเป็นคนโทรจองได้ข่าวว่าโทรสายแทบไหม้กว่าจะชิงพื้นที่โควต้าขึ้นเขาช้างเผือกมาได้
เริ่มเดินทาง คืนวันที่ 22 ธันวาคม 2559
นัดเจอ 6 โมงที่บีทีเอส สุรศักดิ์ เสือกมาโน่นทุ่มกว่า เลววมาก!!!!!!!!!!!!!!!!!!! แถมให้วอร์มขาด้วยการเดินพร้อมแบกสัมภาระไปตึกจิวเวอร์รี่เทรด หอบสาสสสส อยากจะด่า จากนั้นออกเดินทางไปรับสมาชิกที่เหลือจากนครปฐมจนครบและมุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ถึงที่ทำการประมาณตี 2 กว่า จำได้ว่าหนาวมาก ลมแรง สั่นหงั่กๆ เสร็จละนอนที่ทำการอุทยาน 1 คืน
วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2559
ตื่นมาตอน 6 โมงมืดตึ้บ ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมรายงานตัวกับจนท.ตอนประมาณ 7 โมงเช้าเพื่อขึ้นเขาช้างเผือกกกกกกกก พร้อมมากฟิตสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี บนยอดเขามีลักษณะเป็นภูเขาหญ้า มีหินบ้างตามสันเขา การเดินทางไปยังยอดเขาช้างเผือก จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เพื่อลงทะเบียนรายชื่อคนที่ขึ้นเขา ในแต่ละวันทางอุทยานฯ มีการจำกัดคนบนเขาไว้ที่ 60 คน เพราะพื้นที่กางเต็นท์บริเวณยอดเขามีพื้นที่จำกัด
การเดินขึ้นสู่เขาช้างเผือกจะเริ่มจากบริเวณหลังหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ เป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงในการเดินขึ้นไปจนถึงจุดกางเต็นท์
เสร็จเรียบร้อยเอารถออกมุ่งหน้าไปบ้ายอีต่องเพื่อกินข้าวและหาลูกหาบ
เช้านี้ ณ บ้านอีต่อง อากาศเย็นสบายยยยมากกกกกนึกว่าอยู่เชียงใหม่
หน้าทางเข้าบ้านอีต่อง
แมวอารมณ์ดี จากบ้านอีต่อง กินหญ้ายังยิ้ม ลูกหาบจะมายืนให้การต้อนรับพวกเราอยู่จุดนี้ ลูกหาบ 1 คน แบกสัมภาระได้ไม่เกิน 30 กก. หลังจากชั่งนน.สัมภาระแล้วเราก็ไปหาข้าวกินแล้วก็ตุนเสบียงไปเป็นอาหารกลางวัน แกงค์เราเลือกข้าวไข่เจียว จากนั้นเดินออกจากหมู่บ้าานไปตามทางเรื่อยๆชิวๆ ชมนกชมไม้ ระยะทาง 8 กิโลไปถึงทางขึ้นเขาช้างเผือก อ่านไม่ผิด 8 โล !!!!!!! เดินไปเรื่อยๆ ช่วยเค้าถือข้าวแกว่งไปแกว่งมาข้าวไข่เจียวรวมกะข้าวเป็นข้าวผัด 555555555555555 ถึงทางเข้าเช็คชือกับจนท.อีกครั้ง ความมันส์กำลังจะเริ่มขึ้น ลืมบอก AIS มีคลื่นตลอดเส้นทาง คือดีย์ พี่ลูกหาบบ เดินเร็วมากกกพูดเลย ไปกางเต็นท์ให้เรา ในขณะที่เราเดินยังไม่ถุงครึ่งทางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เดินฝ่าดงหญ้าคาไปเรื่อยๆอย่าได้หวังพึ่งงพาร่มไม้ใดๆบนเขาแห่งนี้ พึ่งพาหมวกของตัวเองเถอะ วิวระดับล้านแปด เหนื่อยระดับแปดล้านมาถึงเนินยำยำช้างน้อยละ ถ้าจำไม่ผิด
เหยยยยยแกรรรรรนั่นไงลานกางเต้นท์ ทางลงชันมากแล้วจากร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยมา อยากจะสไลด์ตัวลงไป ถึงลานกางเต้นท์ละ พักได้ มาถึงสักบ่ายสองได้มั่ง เก็บของและพักให้สบายใจ หิวน้ำมากเอาน้ำขวดเล็กมาแค่ขวดเดียว คิดว่าจะไม่หิวมาก เอาจริงคือจิบตลอดทางมันเหนื่อยมากกกกกกกกกกกก ควรพกน้ำขวดใหญ่นะคะ มันเหนื่อยมากจิงๆ พักได้แปบนึง เจ้าหน้าที่จะเรียกให้ไปปีนสันคมมีดประมาณบ่า่ยสามครึ่ง ทางชันมากกกกกสองข้างเป็นเหวเดินไม่ดีมีไปหวัดดีอาก๊งที่สวรรค์ ปีนไปเรื่อยๆเนินเทเลทับบี้ ลืมถ่ายด้านที่เป็นเขากับหญ้าเขียวๆเรียบๆ
พ้นเนินเทเลทับบี้มาได้ก็จะได้เห็นวิวสวยที่สุดบนเขาช้างเผือกละ แช๊ะกับป้ายเป็นที่ระทึกซะหน่อยยย
สันคมมีดถ่ายมาแต่ว่ารูปหายยยยยยยยยเสียใจมากกกกกกกกกกกกกกกก แต่ถ้าให้ไปเก็บภาพใหม่คงไม่ไป 5555555555555555555555555
ตะวันตกดินที่เขาช้างเผือก
ตะวันขึ้นที่เขาช้างเผือกกค่าใช้จ่ายในทริป เดินทางรวม 9 คน ขับรถกระบะไปกันเอง ใช้จ่ายไปคนละ 1,355 บาท
Tips:
1. แนะนำสำหรับการนำอาหารขึ้นไปบนเขา คือเราจะเหนื่อยมาก มาม่าคนละกระป๋องจริงๆก็จบแล้ว
แต่สำหรับใครที่แอดวานซ์ก็เตรียมของไปทำชาบูกินข้างบนก็ได้ฟินสุดๆ
2. แนะนำใช้ AIS สัญญาณแรงถึงบนยอดเขาเลยทีเดียว live สดไม่มีกระตุก
3. ควรเอาถุงมือไป เพราะเวลาไต่ขึ้นเขามันจำเป็นจริงๆจะปีนได้สบายขึ้นมาก ตอนลงจากเนินเทเลทับบี้เรารูดเชือกสลิงลงมาสบายมาก ยิ้มเลย :) ส่วนคนไม่มีถุงมือจะเจ็บมือมากกก
4. ตอนลงเนินชันๆที่ต้องจับสลิง ให้หันหลังลงจะง่ายขึ้น แถมถ้าเรามีถุงมือนะ เราจะไปแตะขอบฟ้าได้ก่อนคนอื่น
5. ควรพกน้ำขึ้นไปเยอะๆ เราให้ลูกหาบแบกน้ำขวดใหญ่ขึ้นไป 3 แพคสำหรับ 9 คน ส่วนน้ำดื่มระหว่างทางควรพกขวดใหญ่ไปเลย ขวดเล็กก็ประมาณ 2 ขวด ขึ้นไปบนเขาพอดีแกงค์เราน้ำไม่พอเลยไปติดต่อซื้อน้ำมาจากลูกหาบเค้าขายขวดใหญ่ ขวดละ 50 บาท !!!!
6.ไปแล้วเก็บขยะกลับมาให้หมดทุกชิ้น เราเห็นมีคนทิ้งทิชชู่ ขวดโค้ก กระดาษเปียก เสียดายธรรมชาติสวยๆ
**ถ่ายภาพโดยไอโฟน