ตี 5 เราก็มาถึงเกาะเต่าแล้วครับ ผมกับพี่ป๊อบก็เดินลงจากเรือแล้ว แล้วก็ชวนกันเดินไปหาอะไรกินรองท้องที่ 7-11 จากนั้นก็มานั่งตรงจุดบริการนักท่องเที่ยว ผมพยายามหา Koh Tao Complete Guide หรือคัมภีร์เกาะเต่าในตำนานที่แทบทุกรีวิวเกี่ยวกับเกาะเต่าใน Pantip จะต้องมีเจ้าเล่มนี้อยู่ทุกรีวิวครับ แต่หาไม่ได้ครับ มันหมด ได้เป็นแผนที่เกาะเต่าแบบพับหน้าตาแบบนี้มาแทน
ลองมาดูแผนที่ของเกาะเต่ากันครับ จะได้ทราบว่าผมไปจุดไหนมาบ้าง ขอขอบคุณภาพจาก http://เกาะเต่า.net มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ระหว่างรอฟ้าสว่าง ผมก็นั่งวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่จุดไหนบ้างในวันนี้ ซึ่งเป้าหมายส่วนมากก็จะเป็นหาดทางใต้ ถ้ามีเวลาเหลือก็จะไปจุดชมวิว Mango Point ในตำนานครับ ประมาณ 6 โมงเช้า ผมก็แยกกับพี่ป๊อบไปหาที่พักสำหรับคืนนี้เพราะว่าพี่ป๊อบเขาจองที่พักใกล์กับท่าเรือตั้งแต่ก่อนมาแล้ว
แล้วผมก็เริ่มเดินเลาะไปทางหาดทรายรียาวๆครับ
ระหว่างทางเดินเจ้าถิ่นเยอะเลยครับ
อีกหนึ่งมุมแห่งมวลมหาประชาชนแห่งกระทู้รีวิวเกาะเต่าครับ ต้องมีอยู่แทบทุกกระทู้ อยู่ตรง Lotus Bar มี 2 ต้น
สรุปมาได้ Baan Avenue Guesthouse ครับ คืนละ 300 บาท เป็นห้องรวม 5 เตียง เตียงละ 2 ชั้นครับ มีห้องอาบนํ้าและห้องส้วมอยู่ในตัว อย่างละ 2 ห้อง มีตู้ล็อกเกอร์ให้ด้วย แต่ต้องเตรียมกุญแจไปเอง เป็นห้องแอร์ อยู่ที่หาดทรายรีตอนเหนือ และอยู่ในทำเลที่ลอบล้อมไปด้วยบาร์ครับ
พอรับกุญแจมา ก็เข้าห้องเอาของไปเก็บของก่อนเลย ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 7 โมงครับ ทุกคนในห้องยังไม่ตื่นกัน ดูจากหน้าตาส่วนมากก็น่าจะเป็นฝรั่งจากโซนยุโรปกันซะเป็นส่วนใหญ่ ผมได้เตียงชั้นล่างติดผนังครับ เป็นทำเลที่ผมค่อนข้างต้องการทีเดียว เนื่องจากง่ายต่อการดูแลทรัพย์สินเวลาเรานอนหลับครับ (ของมีค่าเอาไว้ชิดกำแพง) ผมเอาของเข้าไปเก็บที่เตียงผม แล้วก็รีบเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมาเลยครับ จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ
มาม่าทีกินไปเมื่อตอนช้ามืดมันไม่เพียงพอครับ เลยต้องหาอะไรกินตอนเช้า ซึ่งเดินย้อนกลับมาตามหาดทรายรี ก็เจอแต่ร้านอาหารประเภทที่ว่าเข้าไปนี่เสียไม่ต่ำกว่า 100 บาทแน่ๆ เพราะหน้าตาร้านเขาทำมาเพื่อรับรองต่างชาติโดยเฉพาะเลยครับ จังหวะนั้นผมนึกถึงคำแนะนำของคุณ Nutsuksawakhon ขึ้นมาได้ว่าอยากกินแบบประหยัดให้ร้านที่มันดูบ้านๆ แบบที่ชาวบ้านบนเกาะเขากินกัน คำถามคือ แล้วมันอยู่ตรงไหนวะ 55555555555 เดินมาเหนือจรดใต้ของหาดทรายรี ยังไม่เจอร้านที่ดูชาวบ้านๆ เลยครับ เลยกางแผนที่ขึ้นมาอีกรอบครับ ตาก็พลันไปเห็นถนนเส้นหนึ่งที่ขนานไปกับถนนเลียบหาดทรายรี ผมก็เลยลองเดินขึ้นไปลนถนนเส้นนี้ไปครับ ปรากฏว่ามันคือถนนคอนกรีตเส้นหลักที่เชื่อมตั้งแต่เหนือจรดใต้ของเกาะเต่าครับ ก็เดินเลียบๆเส้นนี้มาเรื่อยจนเจอร้านข้าวแกงกับข้าวตามสั่งอยู่ร้านนึง ก็เข้าไปเลยครับ
นี่ครับหน้าตาอาหารมื้อแรกบนเกาะเต่าของผม ตอนแรกจะสั่งข้าวตามสั่ง แต่ครัวยังไม่เปิด มื้อนี้โดนไป 50 บาทครับ
ลืมบอกไปว่าตอนเดินเลียบหาดทรายรีมา เจอร้านให้เช่าจักรยาน แต่เขายังไม่เปิด คือมาอารมณ์แบบนี้ผมอยากปั่นจักรยานมากกว่าขี่มอไซต์อ่ะครับ ผมขี้เกียจรอ เลยเดินไปหาข้าวกินก่อน พอกินเสร็จลองนั่งดูแผนที่ คิดว่าพวกหาดทางใต้จากจุดที่ผมอยู่มันไม่ไกลเท่าไร เลยกะว่าจะเดินเอาก็ได้ว่ะ ถือว่าได้ออกกำลังกายไปในตัว (เมิงพลาดแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาา)
หาดแรกที่เราจะไปคือ อ่าวลึก อันนี้เป็นทางที่จะลงไปหาดครับ ผมถ่ายรูปมาอาจจะไม่ชันเท่าไร แต่ของจริงชันมากครับ ฝรั่งที่พาแฟนซ้อนท้ายกันมา ปล่อยแฟนเดินลงกันรัวๆ ตามภาพ
หาดนี้เป็นหาด Private จะมีเตียงพร้อมร่มตั้งไว้ครับ ถ้าจะเข้าไปนั่งก็เสีย 200 บาท แต่ฟรีเครื่องดื่ม ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามีเครื่องดื่มอะไรบ้าง อ่อ ที่นี่ไม่สามารถเอาเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้ามาได้นะครับ ถ้าไม่ใช้บริการก็นั่งอาบแดดไปละกันครับ เพราะที่นี่เป็นหาดทรายโล้นๆเลย แต่เหมาะแก่การมาเล่นน้ำดีครับ โขดหินไม่เยอะ น้ำเป็นสีฟ้าสวย ผมอยู่ที่นี่นั่งเล่น นอนเล่น ถ่ายรูป อยู่ประมาณ 30 นาที ก็ออกเดินไปหาดที่สองต่อครับ
หาดที่สองคือ หาดทรายแดงครับ เป็นหาด Private เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ลงไปถึงตรงหาดครับ เพราะมีคนอยู่เยอะ เอารูปทางลงหาดไปดูละกันครับ มองเห็น Shark Island ด้วย (จริงๆคือหลงมาครับ ตอนแรกว่าจะเดินไปอ่าวโฉลกบ้านเก่า 5555555)
แล้วก็เดินมาถึงหาดโฉลกบ้านเก่า ครับ ตอนผมไปถึงรู้สึกว่าน้ำขึ้นเยอะครับ และอ่าวนี้เรือมาจอดค่อนข้างเยอะครับ บริเวณนี้มีที่พักกับร้านอาหารเยอะรองลงมาจากหาดทรายรีเลย
เสร็จแล้วก็ออกเดินไปต่อที่จุดชมวิว จอห์น - สุวรรณครับ อยู่ทางเดียวกับที่ไปหาด Freedom ครับ หาดนี้ก็ไม่ได้ลงไปอีกแล้วครับ เพราะคนมาเล่นเยอะ + เหนื่อยจากการเดินตากแดดครับ ถึงกับนั่งหอบก่อนเดินขึ้นจุดชมวิวกันเลยทีเดียว มีค่าเข้าจุดชมวิวนะครับ คนไทย 50 บาท ไม่รู้ว่าต่างชาติราคาเดียวกันไหม การขึ้นไปจุดชมวิวจะต้องปีนป่ายกันนิดนึงครับ จะมีเชือกให้คอยพะยูงตัวขึ้นไป ระหว่างทางขึ้น ผมได้สังเวยที่รัดส้นของรองเท้า Croc ที่ใส่มาไปข้างนึงครับ เพราะโดนหินบาด
บนจุดชมวิว เราจะมองเห็นหาดทางใต้ของเกาะเต่าแทบทั้งหมดครับ บอกได้คำเดียวเลยครับว่า ค่าเข้าหลักสิบ ค่าวิวหลักล้าน
[center][img]http://f.ptcdn.info/651/040/000/o3izcc10bjps1jNLc0a4-o.jpg[/img]
ผมได้เจอพี่ป๊อบอีกครั้งบนจุดชมวิว เลยลงมาพร้อมแล้วไปหาข้าวเที่ยงกินด้วยกันครับ ซึ่งผมซ้อนมอไซพี่ป๊อบไป
เสร็จแล้วก็ไปจองทัวร์ดำน้ำพรุ่งนี้กัน ซึ่งพวกเราเลือกของแสงทองทัวร์ครับ เพราะออพฟิตของแสงทองทัวร์อยู่ใกล์กับที่พักของพี่ป๊อบและใกล์กับท่าเรือ ซึ่งพี่ปุ๊ก เจ้าของแสงทองทัวร์ดีใจมากครับที่เห็นคนไทยอย่างพวกเรามา และยังลดราคา จาก 750 บาท เหลือแค่ 630 บาท โดย 600 เป็นค่าทริปดำน้ำ 4 จุด + ขึ้นเกาะนางยวน อาหารหนึ่งมื้อตอนเที่ยงบนเรือและเครื่องดื่ม อีก 30 บาท เป็นค่าขึ้นเกาะนางยวนครับ พี่ปุ๊กยังบอกอีกด้วยว่ามีคนไทยมาซื้อทัวร์กับพี่เขาเยอะ เพราะตามมาจากรีวิวของคุณ Nutsuksawakhon และยังพาพี่พม่าที่คุณ Nutsuksawakhon ได้กล่าวถึงในกระทู้เขาว่า พูดภาษาอังกฤษเก่งมากๆ และเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาภาษา มาให้ผมได้พบเจอด้วย
ซื้อทัวร์ดำน้ำเสร็จ ก็ไปจุดชมวิว Mango กันครับ เพราะได้ยินมาว่าจุดนี้ วิวเทพมาก แต่ทางขึ้นไปจุดชมวิวนี่พูดเลยครับ เมิงควรที่จะอวตารไปเกิดเป็นทางรถไฟเหาะมากๆ เพราะทางขึ้นนี่ชันแทบจะตั้งฉากเลยครับ ไอ้ตรงที่คิดว่าเราขึ้นจะสุดแล้วพอขึ้นมาถึงมันดันมีไปต่ออีก ลุ้นกันฉี่เหนียวเลยครับ
เราจะต้องเสียค่าเข้า 100 ครับ แต่พี่คนที่คุมทางเข้าเก็บพวกเราคนละ 50 เพราะเห็นเป็นคนไทย แต่ถ้าตั้งจะซื้อเครื่องดื่มในบาร์ก็ลองเจรจาดูก็ได้ครับว่าจะขอจ่ายเป็นค่าเครื่องดื่มที่บาร์แทน เพราะตอนที่ผมไปนั่งคุยกับพี่เจ้าของบาร์ เขาบอกว่าที่ต้องเก็บค่าเข้าจุดชมวิว เพราะเมื่อก่อน คนมากันเยอะ แล้วไม่ซื้อของที่บาร์เลย ถนนที่ขึ้นมานี่ก็เป็นถนนที่เขาทำขึ้นมากันเอง คนมากันเยอะ พอทางมันเสีย เขาก็ต้องควักเนื้อซ่อมเอง เลยต้องเก็บเป็นค่าเข้าจุดชมวิวครับ
เจ้าถิ่นที่ Mango View Point ครับ ผมนั่งปุ๊บ รีบเดินมานั่งตักผมเลย
ตรงจุดชมวิวจะเป็นศาลา และมีบาร์สามารถสั่งเครื่องดื่มต่างๆ มาได้ครับ และด้วยบรรยากาศที่ชิวมาก + กับเหนื่อยมาทั้งวัน ผมกับพี่ป๊อบก็งีบหลับเลยครับ 555555 ประมาณ 20 นาทีเราก็ตื่นขึ้นมา ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็นกว่าๆแล้ว น่าเสียดายทีว่าจากจุดนี้มองไม่เห็นพระอาทิตย์ตกครับ สอบถามจากพี่เจ้าของบาร์เขาบอกว่า เมื่อก่อนจะเห็นพระอาทิตย์ตก แต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นแล้ว พี่เขาก็แนะนำว่าให้ไปที่รีสอร์ทดุสิตบัญชา พวกเราก็ไม่รอช้าครับ รีบออกเดินทางไปกันเลย
ที่ดุสิตบัญชา นอกจากจะชมพระอาทิตย์ ยังสามารถชมวิวเกาะนางยวนได้ด้วยครับ (ได้ยินมาว่าจะมีบางจุดที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกตรงทะเลแหวกของเกาะนางยวนได้ด้วยครับ)
พอไปดูพระอาทิตย์ตกกันเสร็จ 6 โมงเย็นกว่าๆ พี่ป๊อบก็มาส่งตรงที่พักของผม ส่วนพี่เขาก็กลับที่พักของเขาครับ แยกย้ายกันอาบน้ำพักผ่อนก่อน เสร็จแล้วจะมาเจอกันตรงหน้าที่พักของผม เนื่องจากว่าอยู่ใกล์แหล่ง Night life ของเกาะเต่า ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกตัวว่าเป็นไข้แดดแล้วครับ เป็นผลมาจากการเดินตากแดดทั้งวัน + กับการที่ต้องใช้พละกำลังในการเดินขึ้นจากการลงไปหาดต่างๆ มาก อาบน้ำเสร็จเลยหลับไปประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
2 ทุ่มตื่นขึ้นมา ก็มาเจอกับพี่ป๊อบที่หน้าที่พักของผม เราไปหาข้าวเย็นกินกัน เย็นนี้ไปลงเอยที่ร้านข้าวหน้าเป็ดครับ ผมสั่งก๋วยเตี๋ยวเป็ด + ข้าวเปล่า เพราะอยากกินอะไรร้อนแก้ไข้สักหน่อย เจอค่าเสียหายไป 90 บาท (ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต้มยำ 80 ข้าวเปล่า 10)
เสร็จแล้วก็ไปนั่งฟังเพลง ดูควงไฟโชว์ ที่ Lotus Bar วันที่ไปทางร้านมีโปรเบียร์ Leo เล็ก 2 ขวด 120 บาท (ร้านขายอยู่ขวดละ 80) ก็จัดมากันคนละชุดครับ พอประมาณ 3 ทุ่มเป็นต้นไป ร้านจะเริ่มเปิดเพลงมันส์ขึ้นเรื่อยๆ ครับ พอ 4 ทุ่ม ทุกคนในร้านก็ลุกขึ้นมาออกสเต็ปกันโดยมิได้นัดหมาย
ประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง พี่ป๊อบก็ขอตัวกลับไปนอนก่อน ส่วนผมยังนั่งอยู่ประมาณ5ทุ่มครึ่งก็เดินกลับไปนอนเอาแรงครับ เพราะพรุ่งนี้เรามีทริปดำน้ำกันทั้งวัน