Hello Koh Waii....หนีไปพักกายด้วยกันมั๊ย ????

➡️พิกัด : เกาะหวาย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด

➡️ การเดินทาง :

รถส่วนตัว : Google ปักหมุด ท่าเรือซีเทลส์ เกาะหมาก-เกาะหวาย

รถโดยสารประจำทาง : นั่งรถตู้ หรือรถทัวร์ มาลงที่ บขส.ตราด

จากนั้นต่อรถสองแถวมายังท่าเรือแหลมงอบ

➡️ ค่าใช้จ่าย :

ค่าเรือไป - กลับ : 900 บาท/คน

ค่าฝากรถ : 50 บาท/คืน

ค่ามอเตอร์ไซด์พาไปฝากรถ : 40 บาท (เที่ยวละ 20 บาท)

ค่าที่พัก : 500 บาท/คืน

➡️ ติดต่อ :

เกาะหวายพาราไดซ์ / 06-1424-1556

เรือซีเทลส์ / 09-2669-4946

Good Feeling Resort / 08-1850-3410

************************************************************

#ไปเที่ยวด้วยกันน๊า #เที่ยวนอกบ้าน #เกาะหวาย #Kohwaii #เกาะหวายพาราไดซ์ #GoodFeelingResort

ติดตามผลงานเพจ FB: เที่ยวนอกบ้าน

รีวิวอื่นๆ :

Hokkaido Flower Park Khaoyai

เที่ยวเชียงใหม่....สวนสนบ่อแก้ว

เที่ยวเชียงใหม่....ทุ่งดอกไฮเดรนเยียบ้านขุนแปะ

************************************************************

ทริปนี้ถือว่าเป็นการเดินทางอย่างกระทันหันเนื่องจากผู้ร่วมทริปไม่สามารถลาพักร้อนในเดือนมีนาคมได้ ทำให้เราต้องเปลี่ยนแพลนมาเที่ยวในเดือนกุมภาพันธ์แทน หลังจากเช็คที่พักในหลายๆเกาะ ซึ่งส่วนมากจะเต็มจนสุดท้ายมาลงตัวที่นี่ "เกาะหวาย"

เราออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้าตรู่ เนื่องจากต้องมาให้ทันเรือ Speed Boat ข้ามเกาะ เวลา 13.00 น. ซึ่งมีอยู่แค่วันละเที่ยว จากฝั่งใช้เวลานั่งเรือชิลล์ๆ แค่ 45 นาทีก็มาถึงเกาะแล้วค่ะ ที่พักของเราในทริปนี้คือ "เกาะหวายพาราไดซ์"

เกาะหวายพาราไดซ์เป็นหนึ่งในรีสอร์ที่ได้รับความนิยมของเกาะแห่งนี้ ที่พักที่เป็นไฮไลท์ บ้านสวยๆ วิวปังๆอย่างบ้าน P1, P2, 19 หรือ 23 ซึ่งอยู่กระจายไปแต่ละหาด แน่นอนว่าเต็มไปนานแล้ว 5555+++

มาทำความรู้จักที่พักของเรากันก่อนค่ะ บ้านพักของที่นี่จะมี 30 กว่าหลัง ทุกหลังเป็นห้องน้ำรวมมีแยกเป็นจุดๆอยู่แต่ละหาด ไม่มีพัดลม ในบ้านจะมีแค่ที่นอน หมอน และผ้าห่มให้เท่านั้นค่ะ ของใช้ส่วนตัวอย่างอื่นเราต้องนำมาเอง เนื่องจากบนเกาะต้องปั่นไฟใช้เอง ในห้องจะไม่มีปลั๊กไฟให้เสียบนะคะ หากใครต้องการชาร์ตแบต สามารถมาใช้ที่ปลั๊กส่วนกลางบริเวณห้องอาหารได้ตั้งแต่เวลา 17.30 - 22.00 น. ค่ะ

ห้ามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม กาต้มน้ำไฟฟ้า เข้ามา
ห้ามนำเครื่องดื่มทุกชนิดเข้ามา
ไม่อนุญาติให้ประกอบอาหารปิ้ง ย่าง

สิ่งที่ควรต้องเตรียมมานอกจากของใช้ส่วนตัว คือ

Power Bank
ยาทากันยุง
พัดลมแบบชาร์ตแบต
ไฟฉายอันเล็กๆ (หรือถ้าไม่มีไฟจากโทรศัพท์ก็พอช่วยได้ค่ะ)

ตอนที่จองพี่หลอจะส่งรูปบ้านที่ยังว่างมาให้เลือก Target ของเราคืออยากได้บ้านที่อยู่ใกล้หาด อารมณ์ประมาณเดินไม่กี่ก้าวโดดลงทะเลได้เลย และเราตัดสินใจเลือก "บ้านหมายเลย 8" ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ

บ้านหมายเลข 8 ของเรา ราคาหลังละ 500 บาท สามารถพักได้ 2 คน จะตั้งอยู่บนหาดพาราไดซ์ซึ่งเป็นหาดที่มีความยาวที่สุดของรีสอร์ทแห่งนี้ อยู่ติดหาด ใกล้ห้องอาหาร แต่อาจจะไกลห้องน้ำนิดนึง

หลังจากเข้าที่พัก เก็บของเรียบร้อยก็เดินสำรวจรีสอร์ทกันค่ะ หาดทรายสีน้ำตาลอ่อน เม็ดทรายละเอียด น้ำค่อนข้างใส

มีชิงช้าและเก้าอี้ให้นั่งชมวิวหลายจุด กิจกรรมหลักๆของที่นี่ คือการพักผ่อน อ่านหนังสือ ดำน้ำ เดินขึ้นเขา และถ่ายรูป ตลอดเวลา 3 วัน 2 คืน เราทำแค่นี้จริงๆ

ช่วงเย็นเราตั้งใจจะเดินไปดูพระอาทิตย์ตกด้านบนเขากันค่ะ ทางเดินขึ้นเขาจะอยู่ใกล้บ้านพักหลังที่ 23 เดินขึ้นไปตามทางจะมีสัญลักษณ์บอกตามทางไปแบบนี้ เดินประมาณ 900 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ

วิวด้านบนประมาณนี้

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของที่นี่คือการเรียงหิน งื้อออออออ เห็นเกือบทุกเกาะเลย อ่ะช่วยเรียงด้วย

แสงสวย วิวดี อากาศดี ปังไม่ไหวแล้วทุกคนนนนนนนน

แม้จะโชคไม่ดีที่วันนี้มีเมฆก้อนใหญ่บังเลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตก แต่วิวที่เจอก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มแล้วค่ะ เป็นอีกแลนด์มาร์คที่ไม่อยากให้พลาดนะคะ

อาหารบนเกาะ รสชาดอร่อย ถ้าใครชอบทานรสจัดสามารถสั่งได้ ราคาประมาณนี้ค่ะ

อาหารตามสั่ง ราคา 120 บาท
กับข้าว ราคา 150 บาท
ข้าวเปล่า ราคา 20 บาท
น้ำดื่มขวดใหญ่ ราคา 30 บาท
สมูทตี้ เริ่มต้น 80 บาท
อาหารเมนูพิเศษ เช่น กั้ง ราคา 350 บาท
คอกเทล ขนม และเครื่องดื่มอื่นๆ ราคาตามป้าย มีราคาบอกอย่างชัดเจน

หลังจากทานเสร็จทางรีสอร์ทจะลงบิลแต่ละห้องไว้ก่อนค่อยมาชำระทีเดียวในวัน Check out ค่ะ

ตื่นเช้ามาวันที่ 2 แสงแรกที่กระทบพื้นน้ำทำให้บรรยากาศหน้าชายหาดคือดีมาก เป็นอีกเช้าที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกประทับใจ

วิวสวยๆแบบนี้ทำให้อาหารมือ้เช้าอร่อยขึ้นมาอีก 1 เลเวลเลยค่ะ ^^

หลังมื้ออาหารการเดินเล่นชายหาดคือดีย์

ที่นี่มีมุมพักผ่อนและถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ ทั้งชิงช้า กำแพงมะพร้าว รวมทั้งสนามวอลเล่ย์บอลชายหาดไว้ให้เล่น

สายๆ เราเดินไปเที่ยวที่รีสอร์ทเพื่อนบ้านกันค่ะ

"Good Feeling Resort" จะอยู่ติดกับเกาะหวายพาราไดซ์เลยค่ะ

ที่พักของที่นี่จะมีพัดลมและห้องน้ำในตัวทุกหลัง แบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนด้านหน้ากับโซนด้านหลัง

โซนด้านหน้าที่พักจะมี 2 แบบคือ

Sea view ซึ่งมีอยู่ 3 หลัง ห้องพักราคา 1,200 บาท พักได้ 4 คน
Garden View ราคาหลังละ 500 บาท พักได้ 2 คน ตั้งอยู่บนเขาแบบนี้ ถึงแม้จะเป็น Garden view แต่เดินลงมาไม่กี่ก้าวก้อโดดน้ำได้เลยเช่นกันค่ะ

ข้อดีของโซนแรกนี้คืออยู่ใกล้ห้องอาหารและท่าขึ้นเรือตอนกลับค่ะ

จุดเด่นของหาดตรงโซนด้านหน้า Good Feeling อีกอย่างคือจะมีโขดหินที่มีลักษณะแปลกตา มีความอุดมสมบูรณ์สูง เราจะเจอน้องหอย น้องปู น้องปลา อาศัยอยู่บริเวณนี้มากมายเลยค่ะ

พบคนอยากเป็นชาวประมงแล้ว 1 อัตรา ^^

ส่วนโซนด้านหลัง เหมาะสำหรับสาย hiking หรือวัยรุ่นที่ชอบความสนุกสนาน เพราะบ้านพักอยู่ด้านใน จะต้องเดินเลาะโขดหินเวลาออกมาทานอาหาร แต่ข้อดีแบบดีมากๆคือ มีหาดส่วนตัวแบบ Private สุดๆ เหมาะกับคนที่อยากสวีทกับแฟนแบบส่วนตั๊วส่วนตัว หรือถ้าไม่อยากเดินเราว่าเช่าคายัคแบบเหมารายวันพายไปมาก็น่าสนุกดีนะคะ

หลังจากเดินสำรวจรีสอร์ทเพื่อนบ้านจนพอใจแล้ว เราก็ฝากท้องไว้ที่นี่หนึ่งมื้อ ส้มตำทะเลและยำรวมมิตรที่นี่คือรสชาดดีมาก เราสั่งรสจัด รสชาดได้อย่างใจ ที่สำคัญคือให้เยอะมากกกกกกกกกกกก พี่เจ้าของก็ใจดีมากเช่นกัน