++++ เฮ้ยแกร !!! หลีเป๊ะ !!! เด็ดจริง
ฤดูร้อนเดินทางมาถึงแบบจริงๆ จังๆ แล้วสินะ
สีผิวเราถึงได้คล้ำขึ้นขนาดนี้ (อันที่จริงดำมาตั้งแต่เกิด)
ได้ยินมาบ่อยๆ ว่าคนไปทะเล ไม่หนีร้อนก็หนีรัก
คือร้อนปุ๊บ ก็สงสัยว่าจะไปกันทำไมทะเล
ยิ่งไปมันก็ยิ่งร้อน .. แดดเปรี้ยงปร๊างซะขนาดนั้น
เราคนนึงล่ะ ที่ไม่เคยไปทะเลเพราะหนีร้อนหนีรัก หรือหนีอะไรทั้งนั้น
ก็แค่รู้สึกว่า “ฤดูร้อน” มันทำให้ทะเล “โคตรสวย” เลย
และร้อนนี้อยากบอกมากว่า เฮ้ยแก !!! หลีเป๊ะ !!! มันเด็ดจริงนะเว้ย
ไม่มีอะไรมาก หากอยากรู้จัก และทักทาย กันมากขึ้น เชิญที่นี้ค่ะ
https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/
https://www.instagram.com/mylifemytravel/
001 จุดเริ่มต้น ของการเดินทาง
ทริปนี้เกิดขึ้นทั้งจากความตั้งใจ และไม่ตั้งใจ เกือบล่ม แต่ไม่ล่ม
เอาเป็นว่ามันเกิดขึ้นเพราะเพื่อนเราคนหนึ่งไปเที่ยวภูเก็ต คือนางไปหาเราทุกปี
แต่ คือเข้าใจมั๊ยว่าเราอยู่ภูเก็ต …. เที่ยวภูเก็ตอีกแล้วเหรอ
เราจึงหลอกหล่อให้นางนั่งเครื่องลงภูเก็ตตามแผนเดิม
ที่เพิ่มเติมคือนางต้องนั่งต่อยาวไกลไปถึงสตูลพร้อมเรา
การเดินทางเริ่มต้นจากภูเก็ต ไป อ.ละงู จังหวัดสตูล
นุ้ยใช้บริการรถเช่าของ AVIS เหมือนเดิม เพราะการเดินทางไกล ใช้รถใหญ่หน่อย
จะสะดวกและปลอดภัยกว่าเยอะ
แนะนำจองล่วงหน้า…สะดวก และชัวร์กว่าค่ะ เพราะหน้าไฮ รับรองได้ รถหมดจ้า
เลือกรุ่น สอบถามกันได้เลย ผ่านเว็บไซต์ www.avisthailand.com หรือ call center : 02251131-2
002 ทำความรู้จักหลีเป๊ะ
*
เกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะเล็กๆ (แต่เล็กพริกขึ้หนูนะ) ของจังหวัดสตูล
เกาะหลีเป๊ะ เป็นภาษาท้องถิ่นของชาวเล
แปลว่า เกาะที่ราบเรียบคล้ายกระดาษ
เกาะหลีเป๊ะ จะมีหาดหลักๆ อยู่ 3 หาด ได้แก่ ซันเซท ซันไรท์ และพัทยา
แต่ละหาด ตั้งชื่อได้ตรงตัวมากเลย
หาดซันเซท … เป็นหาดที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน ดูวิวพระอาทิตย์ตก
หาดซันไรท์ … เป็นหาดที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยที่สุด และมีที่พักมากมาย
ส่วน หาดพัทยา… ขึ้นชื่อว่าเป็นพัทยา 2 เลยทีเดียว เพราะมีความคึกคัก ครื้นเครง
และมีความหลากหลาย ทั้งทางด้านอาหารการกิน ที่พัก และผู้คน เป็นหาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดเลยทีเดียว
**
การเดินทางไปที่เกาะ
เราจะไปเกาะหลีเป๊ะได้ยังไง ทำยังไงก็ได้ให้ไปถึงท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล
ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ไปยังไง.. เอาที่สะดวกกันค่ะ …เอาตามงบในกระเป๋า
คนที่สะดวกรถบัส ก็นั่งรถบัสไปลงสตูล (อ.ละงู) แล้วนั่งรถสองแถวต่อไปท่าเรือได้เลย
คนที่สะดวกนั่งเครื่องก็นั่งเครื่องไปลงหาดใหญ่ มีคิวรถตู้ในอยู่ตัวเมืองหาดใหญ่ถึงท่าเรือค่ะ แต่สำหรับคนที่ติดต่อทัวร์ไว้
ก็จะมีรถไปรับถึงสนามบินเลย
สำหรับเรา เราขับรถไปจากภูเก็ต ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง หลับ ๆ ตื่น เดี๋ยวก็ถึง
***
ไปถึงท่าเรือต้องทำยังไงบ้าง
ถึงท่าเรือปากบารา แล้วเอาไงต่อ
เรื่องนี้ทุกคนน่าจะเตรียมตัวไปกันพร้อม
ว่าจะไปยังไง ซึ่งมีหลายเจ้าให้บริการเรือสปี๊ทโบ๊ทจากท่าเรือไปยังเกาะ
ราคาจะอยู่ที่ 1000-1200 บาท แต่ถ้าหากยังไม่ได้ติดต่อไว้ล่วงหน้าก็ไม่ต้องกังวล
ทันที่ ที่ลงจากรถจะมีคนเดินพุ่งเข้ามาหาเราเพียบ จนอาจทำให้เราหูหนวก ตาลายได้ ฟังกันแทบไม่ทัน
แต่เพียงแค่เราบอกว่า ติดต่อไว้แล้วค่ะ ทุกคนจะเดินจากเราไปอย่างรวดเร็ว
แต่สำหรับคนที่ใช้บริการบริษัททัวร์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ One Stop service
ซึ่งเตรียมทุกอย่างไว้ให้เราพร้อม ไม่ว่าจะเป็นรถรับส่ง เรือข้ามเกาะ ที่พัก ค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ รวมถึงทัวร์ดำน้ำ
ครั้งนี้เราใช้บริการ ของ บริษัท SealactionSealaction ทำให้ทุกอย่างสะดวกขึ้น
มาเข้าเรื่องกันต่อ เมื่อเราถึงท่าเรือแล้ว
ให้เรารีบเข้าไปติดต่อคอนเฟิร์มบริษัทฯ ก่อนเลย เพราะไปถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อนจ๊ะ
เราจะได้หมายเลข ลำดับการขึ้นเรือ เพราะตอนขึ้นเรือจะเรียกตามลำดับเท่านั้น
ซึ่งอาจจะไม่มีผลอะไรมากมาย แต่สำหรับคนเมาเรือถือเป็นโอกาสดี
จะได้เลือกที่นั่งเหมาะๆ แนะนำด้านหลังกระแทกน้อยสุด
และนี่คือคิวที่เราจะได้ขึ้นเรือ
พร้อมกับรายละเอียดเหล่านี้
นั่นคือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เราจะต้องจ่าย
ค่าธรรมเนีมท่าเรือ 20
ค่าธรรมเนียมอุทยาน 40 (คูปองที่ได้ให้เก็บไว้ให้ดีนะค่ะ เพราะต้องใช้ตลอดทริป ไม่อย่างนั้น อีกวันต้องจ่ายใหม่นะ)
ค่าเรือหางยาวเข้าฝั่ง 100 บาท (ขาละ 50 บาท)
แต่ของเราไปกับทัวร์ ไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้ค่ะเพราะรวมอยู่ในแพคเกจแล้ว
วันที่เราลงเรือจะมีไกด์มารับเราถึงท่าเรือเลย
ลืมไปอีกหนึ่งเรื่อง สำหรับคนที่นำรถส่วนตัวไป มีที่รับฝากรถเพียบ หลายเจ้า
แต่ราคาจะเท่ากันเกือบทุกเจ้าค่ะ คือคืนละ 100 บาท
****
รอบเรือจะมีหลายรอบ แต่วันนี้เราเลือก รอบ 11.00 น.
เพราะเป็นรอบเดียวที่แวะอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และเก่าไข่
แต่ตอนนี้ เวลายังเหลืออีกเพียบ ไปหาอาหารรองท้องกันก่อน
มองไปเห็นร้านนี้อยู่ใกล้ และผู้คนเยอะมาก
เรามักจะตกเป็นเหยื่อการตลาดแบบนี้บ่อย ๆ คนเยอะ ต้องอร่อยแน่ ๆ (หรา)
ร้านนี้มีทั้งข้าวแกงอาหารตามสั่ง รสชาติถือว่าโอเคเลย (หรือว่าเราหิว)
ข้าว 3 จาน โค๊ก 1 ขวด ราคา 175 บาท
003 เหยียบเกาะ
*
อย่าพึ่งรีบค่ะคุณ ต้องนั่งเรืออีกตั้งเกือบสองชั่วโมง กว่าจะไปถึงหลีเป๊ะ
การเตรียมสัมภาระของเรา ง่ายๆ คือเป้ 1 ใบ พร้อมกับกระเป๋ากล้อง
ของเพื่อนนี่สิ กระเป๋าลากยังกะจะเดินแคทวอล์ค
แถมเรายังว่าเพื่อนอีกนะ ไปนะคะ ทะเล หรือฮ่องกง
แต่ก่อนลงเรือเท่านั้น โอ้ว … คือแทบจะไม่มีกระเป๋าเป้เลยค๊าา ล้อลากล้วนๆ
ทีนี้ก็โดนสวนกลับสิ …. ทะเลเขามีสปีทโบ๊ทหย่ะ ไม่ใช่เรือพาย ^^
**
จุดหมายแรกที่สปีทโบ๊ทแวะจอด
คือ .. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา …
ที่นี้เป็นอุทยานทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทยเลยนะ ความรู้ใหม่
ก่อนเข้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอุทยานก่อนนะ
และใบคูปองที่ได้จากจุดนี้ นี่แหละที่เราจะต้องเก็บไว้ให้ดี
เรือจะจอดให้เราสำรวจที่นี้กันแค่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
อย่าค่ะ อย่าช้า …. มิฉะนั้น ยังไม่ทันก้าวขาขึ้น อาจจะต้องก้าวขาลง
เหมือนทัวร์ 6 7 8 ยังไงยังงั้น
ข้อมูลคร่าวๆ ของที่เกาะนี้เท่าที่พอจะจับใจความได้
เมื่อก่อนเกาะนี้เคยเป็นคุกมาก่อน ข้อมูลที่ผ่านเข้ามาบลาๆ
ใครจะมีกะจิตกะใจฟัง ขอถ่ายรูปก่อนได้ม่ะ
แม้จะเป็นเป็นช่วงเวลา 15 นาที
สิ่งที่เรายังได้รับรู้และสัมผัสได้
ที่นี้ สวย หาดขาวจั๊ว น้ำใสกิ๊ก เงียบสงบ และแดดร้อนมาก
นั่งเรือต่อไปอีกสักพักใหญ่ เราก็มาถึงเกาะไข่
เป็นอีกเกาะที่สวยมาก เนื้อทรายละเอียดขาว เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะอาดัง และเกาะราวี
จุดเด่นของเกาะนี้จะอยู่ที่ซุ้มประตูหิน มีชื่อว่า “ซุ้มรักนิรันดร์”
ประตูหินโค้ง…ตะรุเตา สตูล
จุดเพิ่มพูน ตำนาน รักหนุ่มสาว
แดนประเดิมเสริมรักให้ยืนยาว
สองเราก้าวสู่ประตู…รักนิรันดร์
ความรักจะยืนยาว แหม่ มันน่าลองเนอะ
เขาว่ากันว่า หนุ่มสาวที่ลอดผ่านซุ้มประตูหินนี้จะสมหวังในความรัก
แหม่!! มันน่าลองเนอะ แต่วันนี้ดันเป็นช่วงน้ำขึ้น ไม่สามารถลอดผ่านไปได้
สงสัยเราจะไม่ใช่คู่กัน
***
ทัวร์ 6 7 8 ของเราผ่านไปแล้ว
ออกจากเกาะไข่ ไม่นานนัก เราก็มาถึงเกาะหลีเป๊ะ
แต่ คะ แต่
แต่เรายังไม่ได้เหยียบเกาะสักที่ ตอนนี้ต้องเหยีบโป๊ะก่อน มีผู้คนล้านแปด
แล้วต่อเรือหางยาวเข้าไปยังเกาะ ค่าเรือหางยาวคนละ 50 บาท ต่อเที่ยว
หรือเราจะแจ้งทางรีสอร์ทให้มารอรับก็ได้นะ
ต่อจากนี้เราจะไม่มีข้อมูลใดๆ หรือบรรยายเวิ่นเว้อเพ้อพรรณนา
เพราะรูปภาพจะบรรยาตัวมันเองได้ดีกว่า
ภาพแรกที่เหลือบสายตาไปมอง โอ้ว แม่เจ้า น้ำใสกว่าภูเก็ตอีกเว้ย
หาดทรายก็ขาว งานนี้ภูเก็ตตายสนิท ตายไปจากความทรงจำชั่วขณะ
หาดนี้ชื่อว่า หาดพัทยา ซึ่งแน่นอนว่าเราพักที่หาดนี้นี่แหละ
หาดพัทยา จะเป็นหาดที่มีความหลากหลาย และคึกคักที่สุดในบรรดา 3 เกาะ
แล้วเราจะไปอยู่ในที่ ที่เงียบสงบทำไม
เพราะที่นี้คือทะเล ต้องมาฮาเฮ กับผองเพื่อน
หูยยยยยยยยย …. มันจะสวยอะไรขนาดนี้
ทำไมน้ำมันถึงใสได้ขนาดนั้น
ขอเวลาฉันออกของไปเก็บสัก 10 นาที เด๋วฉันจะมาเล่นน้ำเป็นเพื่อนแกร ไอ้หมาน้อย
คือทะเลสวยทำให้เราโลกสวย วันนี้กลายเป็นหญิงสาวผู้รักสัตว์ขึ้นมาทันใด
อันที่จริงเห็นมันวิ่งเล่นแล้วอิจฉา
****
ที่พัก
บนเกาะหลีเป๊ะ มีที่พักตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนหลักหมื่น
ให้เลือกมากมาย ตามสไตล์ ตามงบ ตามใจชอบ จะอาทิตย์ขึ้น
จะอาทิตย์ตก จะคึกคัก จะหาดสวย ได้หมด เลือกเอาเลยตามที่เป็นคุณ
แต่วันนี้เราพักที่นี้…ไม่ได้มีสิทธิ์เลือกมากหรอก
เอาแค่แบบสบายหน่อย หาดพัทยา ราคาไม่สูงนัก วิวโอเค ราคาไม่แพง (โจทย์เยอะจัง)
ก็เลยได้ที่นี้
ได้ครบตามโจทย์แต่ราคาก็ยังแอบสูงนิดนึง
ภาพโดยรวมของห้องพักประมาณนี้ เป็นห้อง Deluxe seaview
อยู่เกือบสุดหาดพัทยาเลยทีเดียว
เดินไปถนนคนเดินไกลพอควร แต่ถือเป็นข้อดี (ผู้หญิงคิดบวก)
คือเราจะได้ได้สำรวจตลอดทั้งหาด เห็นหมดทุกรีสอร์ท เห็นหมดว่าชาวบ้านเขาทำไรกันบ้าง หึหึ
วันแรกผ่านไปเหนื่อยพอสมควร เพราะเราต้องออกจากภูเก็ตแต่เช้าตรู่ ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง
เพื่อมาให้ทันเรือรอบ 11.00 น. นั่งเรือต่อมาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
โอ้ววววว หลีแป๊ะเธอไกลไปนะ ….. แต่วันแรก เราก็เริ่มรักเธอแล้วสิ สวยซะขนาดนี้
และช่วงเวลาที่เหลือของวันแรก หมดไปกับการนอน
004 ท่องทะเล
*
การเดินทางของวันที่สอง เริ่มต้นขึ้น
เรานัดกับไกด์ไว้ตอน 9.00 น. นี่คือข้อดีอีกหนึ่งข้อที่ปลื้มหลีเป๊ะมาก
เพราะเราไม่ต้องตื่นเช้าสำหรับการการไปออกดำน้ำ เพราะไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลอีกแล้ว
เพียงแค่ตื่น กินข้าว แล้วเดินลงเรือได้เลย
วันนี้เราไปท่องทะเลกับเรือหางยาว ที่มีเพียงพวกเรา ไกด์ และพี่คนขับเรือ
นี่คือโฉมหน้าไกด์สุดหล่อของเรา แกชื่อบังมีน แกดูเฮฟวี่มาก