สมุยกลางฝน (@ โอโซ่ เฉวง) ถึงฟ้าจะหม่นแต่หัวใจยังคงยิ้มกว้าง
สมุย... เกาะสวาทหาดสวรรค์ของแท้ เพราะเป็นโลเกชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อนั้น ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อยังหนุ่ม พระ-นาง สมบัติ เมทะนี กับ อรัญญา นามวงศ์ ยังใสกริ๊งหล่อเหลาสวยสะพรั่ง มีโอกาสสักครั้งแนะนำต้องหาโอกาสไปเยือนสมุย เพื่อพิสูจน์กับตาตัวเองว่ามันแจ่มจรัสปานใด
จริงๆ ผมเคยตะลุยสมุยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาเรียบร้อย ปักหลักอยู่ยาวเป็นสัปดาห์ ที่เที่ยวบนเกาะแปดสิบเปอร์เซ็นต์พบเห็นมาหมด ยังไม่มีความคิดกลับไปหรอกนะหากไม่ตรงจังหวะมีคิวซึ่งมิตรสหายจัดให้ไปเยี่ยมชมโรงแรมสวยเปิดใหม่ไม่ถึงสองปี “โอเซ่ เฉวง เกาะสมุย” พอดิบพอดี จึงขอควงคู่กับคุณนายไปด้วยแล้วกันเพราะเธอยังไม่เคยเห็นสมุยเหมือนกับผม แต่ช่างบังเอิญอีกเช่นกันที่ระยะเวลาเดินทางดันเป็นช่วงพายุหว่ามก๋อยกพลขึ้นฝั่ง ความฝันเห็นหาดทรายขาวทะเลใสแจ๋วเลยพังพาบไม่เป็นท่า แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหว่ามก๋ออันร้ายกาจก็ไม่อาจพรากรอยยิ้มของเราไปได้หรอกครับ
ปัจจุบันมีเครื่องบินไปสมุยเพียบ ทั้งบินตรงลงที่เกาะ หรือโลว์คอสไปลง สุราษฎร์ธานี กับนครศรีธรรมราช แล้วทรานเฟอร์สต่อรถมาต่อเรือ แต่สำหรับคนแบกเป้งบไม่มากดูท่าว่ารถทัวร์คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แถมง่ายดายพอกัน เพราะบขส. มีรถกรุงเทพ-สมุย วันละหลายเที่ยว ทั้งขึ้นที่หมอชิตและสายใต้ ส่วนสมบัติทัวร์วิ่งวันเว้นวัน ขึ้นที่สายใต้ เมื่อก่อนตอนผมมาสองครั้งแรก บขส. ใช้เรือราชาเฟอร์รี่มาขึ้นเกาะที่ท่าหาดลิปะน้อย ส่วนสมบัติทัวร์ใช้เรือซีทรานเฟอร์รี่ขึ้นเกาะที่หน้าทอน ทว่าเดี๋ยวนี้สองบริษัทใช้ซีทรานเฟอร์รี่ทั้งคู่ เรือเที่ยวแรกฝั่งดอนสัก 6.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น. สมุยเที่ยวแรก 5.00 น. เที่ยวสุดท้าย 18.00 น. ออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง
ตอนนี้มีเว็บไซต์สำหรับการจองตั๋วเรือสู่สมุย การท่องเที่ยวเส้นทางเชื่อมต่อสู่เกาะต่างๆ ทั้งทางอ่าวไทย และอันดามัน รวมถึงไป-กลับ กทม. ใช้ค่อนข้างง่ายสะดวกสบาย ข้อมูลเพียบเลย คลิกได้ที่ >>> https://www.ferrysamui.com/th/bangkok.html
ทริปนี้ผมเดินทางกับคุณนาย 14-16 ก.ย. ขึ้นรถที่หมอชิต รอบ 19.35 ของวันที่ 13 ก.ย. วิ่งประมาณ 11 ชั่วโมง ถึงท่าเรือซีทราน 6.30 น. รอเรือรอบเจ็ดโมงเช้าอีกสักพัก มีห้องพักผู้โดยสารให้นั่งเรือ แถมเรือเที่ยวนี้ยังเป็นเรือใหม่เอี่ยม
อย่างที่บอกครับว่าช่วงนั้นพายุหว่ามก๋อมาโบกมือหน้าประตูบ้านเราพอดี สภาพอากาศเลยเป็นอย่างที่เห็น ลุ้นดีเหมือนกันว่าฝนจะตกหรือไม่ตกนะ
ใครอยากเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวสมุย ผมแนะนำเช่าตรงท่าเรือหรือแถวหน้าทอน เพราะออกจากโซนนี้โอกาสได้รถเช่าแทบไม่มี เห็นรถจอดเรียงรายแต่เขาปล่อยเฉพาะฝรั่ง ครั้งแรกที่มาผมนั่งวินถามร้านเช่าเกือบสิบร้าน ไม่มีร้านไหนให้เช่าเลย
เอาล่ะพอได้รถก็สตาร์ตเครื่องลุยโลด แผนที่สมุยฝังหัวผมอยู่แล้ว จากหน้าทอนไปเฉวงประมาณ 25 กิโลเมตร ผ่านหาดบางขาม บางปอ แม่น้ำ ทางไปสนามบิน แยกบ่อผุด ขี่เรื่อยๆ สี่สิบนาทีก็ถึง
เปิดตู้เย็นมาโล่งโจ้ง เป็นคอนเซ็ปต์ของที่นี่อีกอย่างครับ คือสบายๆ ให้ลูกค้าซื้อมาเอง จะแบกเบียร์จากเซเว่นมาเป็นถาด น้ำอัดลมสักสองโหลเชิญเลย แต่หากไม่อยากซื้อเองจะใช้บริการชุดมินิบาร์ของโรงแรมก็ติดต่อที่เคาน์เตอร์ EAT2GO บริเวณล็อบบี้ ซึ่งเป็นแนวคิดเอกลักษณ์ของโอโซ่ในรูปแบบ grab and go คือหยิบหาของกินและเครื่องดื่มต่างๆ ได้ง่ายๆ ณ จุดดังกล่าว
อาบน้ำสดชื่นเสร็จค่อยเดินสำรวจโรงแรม ต้องใช้คำว่าสวยโมเดิร์นมาก สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร สวนสีเขียว หน้าหาด ทุกอย่างพร้อมสำหรับการพักผ่อนจริงๆ นอกเหนือจากท้องฟ้าสีขาวหม่นเพราะเจ้าหว่ามก๋อ ที่เหลือคุณนายเธอยิ้มกรุ่มกริ่มชอบใจ แค่นี้ผมแฮปปี้เกินพอ
เพราะฟ้าไม่ใสเลยต้องงดเรื่องของทะเลไว้ก่อน พาคุณนายไปไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สมุยแล้วกัน เริ่มต้นเราขึ้นเขาหัวจุก อยู่ไม่ไกลจากหวดเฉวง บนนั้นมีพระเจดีย์สีทองสวยงาม มีรอยพระพุทธบาทจำลอง แถมยังเป็นจุดชมวิวกว้างไกลอีกต่างหาก
แต่พอขึ้นถึงต้องตกใจว่าเจดีย์หายไปไหนนะ บนเขาหัวจุกกำลังบูรณะใหม่หมด เหมือนกำลังสร้างเจดีย์องค์ใหม่ด้วย ส่วนองค์เก่าย้ายไปไหนผมหาคำตอบไม่ได้จริงๆ เพราะคนงานมีแต่ชาวพม่า คุยกันไม่รู้เรื่อง เลยได้แต่ชมวิวแบบผ่านๆ จากจุดนี้มองเห็นสนามบินสมุยชัดเจน
เย็นวันนี้จบลงแถวหาดละไม เข้าร้านอาหารญี่ปุ่นกินดินเนอร์ตามคำสั่งคุณนาย ก่อนกลับมาสลบเหมือดที่โรงแรม ใจจริงว่าจะแวะพักสักนิดแล้วค่อยไปเดินเล่นถนนเลียบหาดเฉวง แต่อย่างที่บอกว่าเตียงนอนที่นี่ช่างดูดวิญญาณดีเหลือเกิน (ฮา...)
เช้าวันใหม่กว่าจะกระชากตัวเองให้ลุกจากเตียงอันแสนนุ่มได้ก็ลำบากเหมือนกันนะ
ห้องอาหารหลักที่นี่ชื่อกระชับตรงใจความ EAT เบรกฟาสต์มีตั้งแต่ 6.30 – 11.00 น. โน่นเลย ขอเริ่มต้นที่บรรยากาศน่ารักๆ ด้านใน
อิ่มหนำสำราญแล้วว่าจะเดินเล่นชายหาด ปรากฏว่าฝนตก เลยได้กลับขึ้นไปนอนกลิ้งเกลือกให้สบายอยู่บนเตียงดูดวิญญาณอีกรอบซะงั้น
เกือบสิบเอ็ดโมงโน่นกว่าฝนจะหยุด ตัดสินใจว่าเมื่อทะเลไม่สวยต้องขอเปลี่ยนแนวเที่ยวน้ำตก ที่สมุยมีน้ำตกหลายแห่ง สวยขึ้นชื่อคือน้ำตกหน้าเมือง มีเลขกำกับ 1 กับ 2 ที่จริงเป็นสายเดียวกันแต่แยกดูแล ตั้งอยู่อีกฝั่งของเกาะห่างจากหาดเฉวงราว 20 กิโลเมตร ระหว่างทางมีที่ให้แวะพอสมควร ว่าแล้วจึงจัดการแปลงโฉมคุณนายเป็นเด็กสก๊อยซิ่งกันเลยดีกว่า
ระหว่างทางผ่านจุดชมวิวลาดเกาะ ทางเข้าหาดละไม และก็ถึงหินตาหินยาย จัดการเลี้ยวเข้าไปโดยพลัน ฟ้าจะหม่น ลมจะแรง ทะเลจะไร้สีแค่ไหน เมื่อเที่ยวสมุยต้องแวะมาทักทายกล่าวสวัสดีตาเครงกับยายเรียมสักหน่อย (ตำนานหินตาหินยายไปหาอ่านกันเอาเองนะ)
ของตากับของยายใหญ่ยักษ์และสมจริงขนาดไหน เชิญมโนกันตามสบายครับ
ว่าจะไปเที่ยวน้ำตกไม่ถึงสักทีแฮะ... เอาล่ะตั้งหน้าตั้งตาแว้นต่อดีกว่า แต่ยังมิวายพักนั่งกินข้าวเหนียวส้มตำ น้ำตก ไก่ย่าง เป็นข้าวกลางวันอีกนะ (ฮา...)
เอาน่าสายไปหน่อยแต่สุดท้ายก็ถึงที่ จากลานจอดรถเดินเข้าน้ำตกแค่สองร้อยเมตร สายน้ำไหลลงมาตามผาหินสีน้ำตาลอมส้มสวยแปลกมาก น้ำน้อยไปนิดแต่นักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำไม่ขาด ผมเองหามุมเก็บภาพเพลินๆ
สำหรับน้ำตกหน้าเมือง 2 อยู่ใกล้ๆ น้ำตกที่ 1 แต่เข้าไปลึกกว่านิดหน่อยและต้องเดินไกลกว่าเยอะ เพราะดูแลโดยหน้าเมืองซาฟารี เขาไม่อนุญาตให้นำรถใดๆ เข้าไป ต้องเดินเท้าและขึ้นเขาประมาณหนึ่งกิโลเมตร เหตุผลคือเพื่อขายรถโฟร์วีล รับ-ส่ง ตีนน้ำตกคนละร้อยบาท ผมแนะนำให้เดินครับ เพราะถึงจะนั่งรถไปก็ต้องออกแรงเดินขึ้นน้ำตกอยู่ดี
นี่แหละโฉมหน้าของความพยายาม ไม่อลังการมากนักแต่ชุ่มฉ่ำใช้ได้อยู่นา
ใจจริงอยากเล่นน้ำอยู่เหมือนกัน แต่ตัดสินใจกลับดีกว่าเพราะเดี๋ยวไม่ทันนัดทานดินเนอร์กับทางโรงแรมตอนหกโมงเย็น แถมเมฆดำอึมครึมมากแล้ว ทว่าสายเกินการ ระหว่างทางกลับถึงแค่แถวละไมฝนก็โปรยปราย ไม่ได้เล่นน้ำตกแต่เล่นน้ำฝนกันเปียกปอนเชียว
ดินเนอร์กับทางโรงแรมที่ว่าคือที่นี่ครับ ห้องอาหาร Stacked ตั้งอยู่ด้านหน้าของโอโซ่ บรรยากาศเลิศมาก เป็นหนึ่งในห้องอาหารที่ดีที่สุดและอร่อยที่สุดในย่านเฉวง ได้คะแนนมาสี่ดาวครึ่งเต็มห้าดาวจากคนรีวิวเกือบห้าร้อยทางเว็บไซต์ TripAdvisor ได้มาโดนของดีแบบนี้คุณนายยิ้มปริ่มเชียวล่ะ
กระซิบบอกก่อนนะว่ามื้อนี้ที่ Stacked เราทานกันทั้งหมดสี่คน ผม คุณนาย สต๊าฟฟ์จากโรงแรมอีกสอง เพราะถ้าลำพังแค่ผมกับคุณนาย ไม่มีทางยัดหมดนี่แน่นอน
เริ่มแรกเก๋ไก๋ด้วยค็อกเทล ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นแปลกเท่านี้ แก้วเด่นกว่าใครชื่อว่า Bacon-Stacked Bloody Mary ผสมว็อดก้า กับมะเขือเทศ เมล็ดพริกไทยดำ ข่า มะรุม พริกชี้ฟ้า มีเบคอนโปะหน้าอีกที ประหลาดลิ้นเหมือนกินน้ำผักผลไม้รวมรูปแบบค็อกเทล ไม่ขอฟันธงว่าอร่อยหรือไม่อร่อยแต่ขอให้คำว่าแปลกแท้น้อ
ส่วนที่มีรากผักชีชื่อ Fizz It Up เย็นชื่นใจ ติดขมเล็กน้อย ผสมจิน น้ำมะนาว โซดา ติดกลิ่นผักชีเล็กๆ ส่วนแก้วสีส้มเป็นมะม่วงผสมส้ม Baby Stacked มีเนื้อด้วยนะไม่ได้มาแค่น้ำ และสุดท้ายสีแดง Nicely Stacked น้ำแตงโม น้ำมะนาว ผสมจินกับอบเชย แก้วนี้เปรี้ยวอมฝาด เหมาะกับผู้หญิง
เช็คเอาต์ตอนเที่ยงฝนตกเลยต้องเตร็ดเตร่แถวล็อบบี้ พอฝนซาค่อยขี่มอเตอร์ไซค์ไปเดินเล่นหาของกินที่เซ็นทรัล เฟสติวัล แล้วกลับมาชิลฆ่าเวลาริมชายหาดที่โรงแรมต่อ บ่ายสามครึ่งจึงถึงเวลาโบกมือลาเซย์กู๊ดบาย โอโซ่ เฉวง แบบตาละห้อยอยากอยู่ต่ออีกสองสามคืน พักที่นี่ฟินสบายเหลือเกิน
รถทัวร์ขากลับกำหนดเวลาหน้าตั๋ว 16.31 น. ซึ่งเป็นเวลาออกจากท่ารถ รถจะขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่หน้าทอนห้าโมงเย็น เราขึ้นเรือรอบนั้นด้วยเลย พอใกล้ถึงฝั่งดอนสักค่อยแบกกระเป๋าขึ้นไปนั่งบนรถ เที่ยวสมุยด้วยรถทัวร์ง่ายดายแค่นี้แหละ
โบกมือบ๊ายบายสมุยพร้อมการเผชิญกับปลายหางหว่ามก๋อ แค่หางยังขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยทำไมชลบุรี ระยอง ซึ่งรับไปเต็มๆ ถึงแทบจมน้ำ
----------------------------------------------------------------------------------
อยากคุยเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ
www.facebook.com/alifeatraveller
หรือ
----------------------------------------------------------------------------------