จากท่าเรือวัดสนามเหนือ เราได้นั่งเรือข้ามฝากมาขึ้นยังเกาะเกร็ด บริเวณ “วัดปรมัยยิกาวาส” หรือ “วัดปากอ่าว”บรรยากาศความคึกคักก็มีให้เห็นทันที ร้านรวง และบรรดาพ่อค้าแม่ขายส่งเสียงทักทาย เชิญชวนให้เราไปอุดหนุนกันใหญ่ แต่ก่อนอื่น เราขอไปไหว้พระขอพรในวัดปรมัยยิกาวาสก่อนดีกว่า ตามประสาคนเมืองห่างวัดเห็นวัดอยู่ตรงหน้าทั้งทีก็อย่าได้รอช้า ภายในวัดปรมัยยิกาวาสมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น พระวิหารที่ประดิษฐาน “พระพุทธไสยาสน์” สมัยอยุธยาตอนปลาย ขนาด 9.5 เมตร และที่ด้านหลังของวิหารยังประดิษฐาน “พระนนทมุนินท์” พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรีด้วย รวมถึงพระมหารามัญเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 และเก่าแก่อายุกว่า 300 ปีอย่าง “เจดีย์มุเตา” เจดีย์ทรงมอญแบบเจดีย์มุเตมในเมืองหงสาวดี เจดีย์เอียงที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของเกาะเกร็ด
เมื่อสักการะไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะเดินเที่ยวให้ทั่วชุมชนเอาให้หนำใจกันไปเลย เดินทอดน่องไปในชุมชนเรื่อยๆ เราก็เห็นป้ายเชิญชวนให้ไปชมงานปั้นดินเผาฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าภัชรกิติยาภา เมื่อคราวเสด็จเยือนเกาะเกร็ด ใกล้ๆ กันยังมีพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาชื่อ “กวานอาม่าน” ที่จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาและหม้อน้ำโบราณ ลวดลายการแกะสลักอ่อนช้อยงดงามยิ่งนัก ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะช่างสกุลเกาะเกร็ด ถ้าหากใครสนใจก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ และเนื่องจากชาวมอญมีความถนัดในการปั้นเครื่องปั้นดินเผา จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นเครื่องปั้นดินเผารูปทรงต่างๆ ไปตลอดเส้นทางบนเกาะเกร็ด ทั้งถ้วย ชาม หม้อ คนโทใส่น้ำ แจกัน กระถางต้นไม้ เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องซื้อหาติดไม้ติดมือมาเป็นที่ระลึกด้วยซักชิ้น 2 ชิ้น ถ้าใครอยากเลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมากๆ หรืออยากจะชมขั้นตอนการปั้น ก็สามารถไปแวะชมได้ที่ โรงงานป้าตุ่ม เพราะที่นี่เค้ามีเครื่องปั้นดินเผามากมายหลายทรงจำหน่ายในราคาย่อมเยา