การเดินทางสู่ตาก...สุดประจิมที่ริมเมย
ก่อนอื่นขอออกตัวเลยค่ะว่า รูปไม่ค่อยงาม และมันเด้งไปเด้งมาเวลาโพส (หรือโพสไม่เป็นก็ไม่ทราบ)
เริ่มนะคะ ^_^ ขับรถเที่ยวคนเดียวก็ดีอย่างงี้แหละ
ก็บอกแล้วว่าการเดินทางมันเป็นเรื่องน่าสนุก ปีก่อนอาร์มมี่ไปสุดเขตแดนตะวันออกของไทยแลนด์ (การเดินทางสู่ตราด...สุดทางบูรพา) ปีนี้อาร์มมี่ไปสุดเขตแดนตะวันตกของไทยแลนด์อีก ทริปนี้ 5-6 มี.ค.58 ออกจากบ่อทรายอินทรีอยุธยา ที่ 7.40 น. ขับเรื่อยไปตามถนน 329 ป่าโมก-สุพรรณบุรี ไปจนถึงสายเอเชีย ที่ 8.00 น. ใช้เวลาเดินทางเรื่อยไป สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ ประมาณ 9.30 น. จากนั้นต่อไปกำแพงเพชร ที่ 10.30 น. แยกขึ้นแม่สอดตอน 11.30 น. เจอด่านตรวจ 4 ด่านค่ะ เป็นระยะๆ เลย พี่ตำรวจด่านแรก สภ.แม่ท้อ ถามว่า จะไปไหนครับ บอกว่าจะไปเที่ยวแม่สอด พี่ตำรวจถามว่า มาจากไหนครับเนี่ย บอกว่าอยุธยายาค่ะ พี่ตำรวจตกใจเล็กน้อย โอ้ว ขับมาไกลนะครับ มาคนเดียวด้วย อ้าว ไรแว๊
ขับไปเรื่อยๆ ก็จะเจอศาลเจ้าพ่อพะวอ ที่เราต้องสักการะ ก็จอดและซื้อเครื่องสักการะ เลยค่ะ รถทุกคันที่ผ่านจุดนี้จะบีบแตรเพื่อเป็นการสักการะท่านกันค่ะ อาร์มมี่แวะทั้งไปและกลับเพื่อเป็นศิริมงคลกับตัวเองนะคะ ^_^ บริเวณรอบๆ ศาลก็จะมีที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปางนาคปรกอยู่ด้วยค่ะ ตามป้ายบอกว่า 82 กม. ถึง แต่ด้วยเส้นทางขึ้นเขาอันหฤหรรย์ ไปจบที่รีสอร์ท เวลา 13.00 น. เอาของเก็บแล้วไปพม่าต่อ รวมระยะทางจากอยุธยา ที่ 162852 ถึงรีสอร์ท ได้ 163300 คือ 448 กม. ว๊าววว ^_^ อ้ะ ไปที่ชายแดน เดินเล่นที่ตลาดริมเมยพักนึง ได้ถั่วพิตาซิโอ กลับมาพร้อมกับต้นหยก 1 ต้น ไปฝากแม่หมีต่อจากนี้ก็ไปพม่ากันดีกว่า นึกว่าจะสวยงามตามท้องเรื่อง แต่เอาจริงๆ ไม่ตกท้องร่องก็บุญโข (เอาไอ้กะปุก ยาริส สุดเลิฟ ไปจอดไว้ที่หน้า ตม.) ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว 30 บาท จอดรถหน้า ตม. ละก็เดินข้ามสะพานไป 400 เมตร ตม.พม่าเก็บอีก 20 บาท ตลาดชายแดนก็คงไม่แตกต่างกันมากมายนัก แต่ที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นมากของพม่าเลย ก็คือ โสร่ง ชายพม่าทุกคน จะนุ่งโสร่ง ไม่เว้นแม้แต่ ตม. เดินแค่ในตลาดแถวนั้นก็อดรนทนไม่ไหว สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว และฝุ่นที่ถนนแถวนั้น รวมไปถึงรถราที่ขวักไขว่และไม่ต้องพูดถึงเรื่องกฎจราจร รีบจ้ำกลับประเทศไทยแทบไม่ทันกลับมาก็แวะไหว้พระวัดไทยวัฒนาราม ศิลปะแบบพม่า มีเจดีย์หลากหลายแบบ มีสิงห์คู่หนึ่งที่ด้านหน้า มีร่มลอยได้
กลับไปยังรีสอร์ท นี่ก็เป็นสิ่งที่อาร์มมี่ค้นพบใหม่คือ ชัชนันท์รีสอร์ท เพิ่งเปิดเมื่อ พ.ย.ปีที่แล้วนี่เอง ใหม่ สะอาด ของเจ้าของทำเอง มีทั้งหมดแปดห้อง สไตล์ loft ปูนดิบขัดมันตัดกับประตูสีเขียวมิ้นท์ สวยงามค่ะ ผู้ที่ชื่นชอบสไตล์นี้ ต้องไม่พลาด แม้ทางเข้าจะงงไปนิดนึง แต่อยู่กลางเมืองนะคะ ราคาก็ไม่แพงเลย คืนละ 450 จริงๆ พร้อมอาหารเช้า แต่อาร์มมี่ไม่ได้กินของเค้าอ่า ใครสนใจสามารถเข้าไปที่เพจ (ชัชนันท์ รีสอร์ท) ติดต่อคุณเบียร์ เจ้าของโดยตรงเลยค่ะ
อาบน้ำเย็นใจเสร็จก็ได้เวลากินพอดี ต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่ได้กินข้าวสักคำ ก่อนไปกินปุยฝ้าย S&P ไป 2 ชิ้น เที่ยงกินไวตามิ้ลกล่องนึง ตกเย็น ปอบลง ปอบสิง ตายล่ะ
ไปแวะชิมไฉไลติ่มซำของผู้กองเปี๊ยกแห่งหนุ่มไฉไล by นายร้อยครับผม ซะหน่อย สั่งมา 5 ชั้น ก่อน กินหมดแล้วไม่อิ่ม ก็สั่งเพิ่มอีก 4 ชั้น อ้าว แล้วบักกุ๊ดเต๋ ตัวโปรของร้านล่ะ ยังไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้อาร์มมี่สตั๊นไป 2 วิ ย้ำว่าแค่ 2 วิเท่านั้น ผู้กองมาเสริฟเองค๊าาา >.< "ขอบคุณค่ะ เจ้าของร้านมาเสริฟเองเลยเหรอคะ" "ครับ" ยิ้มๆ สักพักแคชเชียร์เดินมาบอกว่า "พี่ครับ ขาดเหลืออะไร บอกได้เลยนะครับ" "ค่ะๆ ขอบคุณค่ะ" แล้วไงต่อ กินอิ่มแล้วนี่ ไม่มีช่องว่างให้ยัดแล้ว ก็ต้องเชคบิล น้องแคชเชียร์เดินมานับชั้น รีบบอกช่วยน้องว่า 9 ชั้น ค่ะ น้องบอกว่า "ครับพี่ ผู้จัดการบอกว่าให้แถมฟรี 2 ชั้นครับ" "ห๊ะ เค้าเห็นสั่งเยอะรึป่าว" น้องไม่พูดไร คำนวนไปได้ 299 บาท "ค่ะๆ ขอบคุณนะคะ เด๋วเอาไปเขียนรีวิวให้นะ" แล้วก็ต้องจากร้านออกมา ว๊าาา อิ่มจัง อร่อยด้วย ^_^ สรุป ไหนละรูปผู้กอง อ่อ ไม่มีสินะ 555+ ใครสนใจสามารถเข้าไปที่เพจ (ไฉไลติ่มซำ) ได้เลยนะคะ เน้นว่าไปหลังเลิกงาน เจอผู้กองเปี๊ยกแน่นอนค่ะ
ปล.ซึ่งอาร์มมี่รีวิวร้านไว้ต่างหากด้วยนะคะ
แถมรูปเจ้าของร้านหน้าหวานๆ ให้ด้วย เผื่อใครอยากไปเจอตัวจริงนะคะ ^_^ ยืนยันว่า น่ารัก จริงๆ ค่ะ
เอ๊า ไปนอนพักผ่อนดีกว่า ห้องสวยสะอาด อุปกรณ์ครบครันขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เปิดไฟนอนทั้งคืนค๊าาา เช้ามาก็ไปไหว้หลวงพ่อทันใจ เส้นทางไปแม่ระมาดประมาณ 10 กม. ก็ถึงทางเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน วัดอยู่ภายในหมู่บ้านค่ะ ชื่อวัดไทยสามัคคี (รัตนมุงเมือง) เข้าไปตอนเช้าเลย วัดเงียบมากๆ มีคำขวัญเมืองฉอดติดที่หน้าวัด มีปู่เจ้าสมิงพราย มีพระพิฆเนศ มีเทพสมปรารถนา ห้องน้ำก็สะอาดมากๆ แต่มีเจ๊เฝ้าหน้าห้องน้ำน่ากลัวมากๆ -_- ตกใจหมดเลย สามารถขอพรหลวงพ่อได้ 1 ข้อ ค่ะ
ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์โฮงหลวงที่เก็บสิ่งของเก่าสมัยโบราณไว้อีกด้วย อาร์มมี่เดินเข้าไปก็สัมผัสได้ทันที ว่ามีเจ้าของทุกชิ้น แรงมากด้วย มิน่าละ ถึงต้องมาเก็บในวัด ของแต่ละชิ้นสมบูรณ์มากค่ะ สวยดี ใครที่ชอบของเก่าก็สามารถไปหาชมกันได้นะคะ บรรยากาศภายใน ก็น่ากลัวเลยแหละค่ะ ไปคนเดียวด้วย เช้าด้วย ไม่มีใครเลย หลอนพอประมาณ มีกล้องโบราณเจ๋งสุด มีป้ายเขียนไว้ว่า ห้ามเล่น ^_^ เขาห้ามก็อย่าไปเล่นนะคะ ขับรถกลับละ ผ่านด่านห้วยหินฝน สภ.พะวอ ห้วยยะอุ และ สภ.แม่ท้อ ตามลำดับ แวะจุดชมวิว ถ่ายรูปได้สวยทีเดียว ขนาดใกล้จะเที่ยงแล้วนะ ยังมีหมอก พร้อมกับสโลแกนที่ต้องชะงัก "ไม่เที่ยวแวะเยี่ยวก็ยังดี" 555+ ชอบ เรื่อยลงมาเป็นตลาดดอยมูเซอ ก็แวะซื้อสตรอเบอร์รี่ถุงใหญ่ 100 บาท เอง เจ๋งอ้ะ!! ลงมาจนถึงทางแยกเดิม เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าตัวเมืองตาก ข้ามแม่น้ำปิง กลั้นใจขอพรด้วยนะ จนสุดทางเลย เกือบตาย อีรถคันข้างหน้ามันขับช้า 555+ ผ่านหน้าศาลากลางจังหวัดตาก ใหญ่โตอลังการมากค่ะ ขับเรื่อยไปจนถึง ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กลางเมืองตาก อยู่ในบริเวณเดียวกับหอสมุดประชาชนค่ะ รอบๆ ก็มีเครื่องสักการะท่านเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นช้าง ม้า หรือไก่ นอกจากนี้ยังมีสวน 12 นักษัตรด้วยนะคะ ตรงกันข้ามมีร้านกาแฟน่านั่งอยู่ร้านนึง แต่ขี้เกียจวิ่งข้ามถนนไป เอาเป็นว่าไว้แวะอเมซอนแทนแล้วกัน เอ๊า สรุปราคากันหน่อย ค่าน้ำมันไปกลับ 2,000 บาท จ้า ค่าห้อง 450 บาทจ้า ค่าทำบัตรผ่าน 30 บาทจ้า ตม.พม่่าเก็บ 20 บาท จ้า รวมทริปนี้ 2,500 บาท ไม่นับของกินและของฝาก ^_^ จบปิ๊ง หวังว่า ถ้าพรทันใจ อาร์มมี่จะได้ไปเยือนเมืองฉอดอีกสักครา
ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะค๊า (ขี้เกียจแต่งรูปมากค๊าาา เลยไม่แต่งซะเลยค๊าาา)
Photo & Story by armmyvenus