เมืองเล็กๆอบอุ่น ที่น่าน
จังหวัดน่าน เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ และเป็นจังหวัดที่อยากไปมานานมาก และแล้วก็ได้ไป เป็นเมืองที่ไปเที่ยวคนเดียวได้ ไม่น่ากลัว ในตัวเมืองก็เดินเล่น ปั่นจักรยาน ไม่วุ่นวาย แต่ไปน่านครั้งนี้ เที่ยวในตัวเมืองอย่างเดียว แต่ยังไม่ครบทุกที่ เพราะต้องไปต่อที่เมืองหงสา แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ที่ด่านห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน แต่ในนี้ขอนำภาพและเรื่องราวในตัวเมืองน่านมาให้ลองอ่านกันดูนะคะ
ไปน่าน ไปไง....ไปรถทัวร์สิคะ ประหยัดดี ขึ้นรถบขส.ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) รอบประมาณทุ่มห้าสิบ นอนหลับยาวตื่นเช้ามาถึงน่าน
กินอิ่ม ไปไหนก่อนดี จากที่เคยดูรีวิวมาหลายๆที่มีวัดวัดหนึ่งที่มีพระยืน กับวิวจังหวัดน่าน นั่นคือวัดพระธาตุเขาน้อย ไม่ไกลมากจากบขส. ไปไงค่ะ วินมอไซด์คะ ลุงคนที่ขับไปส่ง แกให้เบอร์ไว้ ถ้าจะกลับให้โทรหาได้เลย ไปกลับก็ 100 บาท. แต่ถ้าไม่อยากนั่งมอไซด์ ถ้าไม่รีบไปไหนมีเวลานานก็เดินชิวๆได้นะ ไกลหน่อย ^^
พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน จุดนี้เห็นเมืองน่านกันทั้งเมือง
พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้น เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชฯ สยามมินทราธิราชบรมนารถพิตร มหาราชเจ้าของไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ (72 พรรษา)ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันล้นเกล้าล้นกระหม่อมจังหวัดน่าน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และความร่วมมือของชาวจังหวัดน่านในการรวบรวมทุนทรัพย์จัดสร้างขึ้นขากลับก็เดินลงคะ เด็กๆเค้ายังเดินลงได้ เราก็ต้องไหวสิ ^___^
กลับจากวัดพระธาตุเขาน้อยด้วยมอไซด์มา บขส. แล้วไปไหนดี ก็รอรถไปที่ด่านห้วยโก๋น เพื่อไปเมืองหาสา และกลับมาที่บขส.อีกครั้ง แล้วก็เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะขึ้นรถกลับ เอาไงต่อ ก็พี่วินอีกแหละค่ะ ไปวัดศรีพันอ้น (ที่จริงเดินไปได้นะ)
วันศรีพันต้น วัดที่โดดเด่นด้วยโบสถ์สีทองเหลืองอร่าม
ภายในวัดมีเรือชื่อว่า เลิศเกียรติศักดิ์ ไม้ตะเคียนที่ยาวมากกกก เป็นเรือที่ไว้ใช้เป็นเรือแข่ง ซึ่งสวยงามและยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวทั้งหมด 17 วา 1 ศอก 19 นิ้ว
จากวัดศรีพันต้น เดินมาเรียบมาทางซ้ายมือ แล้วเลี้ยวขวา เดินไปเรื่อยๆๆๆ เจออีกวัดค่ะ
วัดหัวข่วง เป็นวัดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน พอไหว้พระเสร็จ เดินข้ามฝั่งมาเลยคะ จะเจอพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน เอกลักษณ์ของที่นี่คือต้นลีลาวดีที่เป็นแนวยาว (ช่วงที่ไปเดือนกรกฎาคม ต้นไม้ยังมีใบเขียวๆ แต่ถ้าเป็นอีกช่วงจะไม่มีใบ ก็จะสวยอีกแบบ)
วัดน้อย ที่เล็กที่สุดในโลก อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน มีเรื่องเล่าอยู่ว่าเจ้าเมืองน่าน ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้กรบบังคมทูลถึงจำนวนวัดในเมืองน่านต่อพระเจ้าอยู่หัว แต่ปรากฏว่านับจำนวนเกินไป 1 วัด จึงได้สร้างวัดน้อยแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้ครบตามจำนวนที่กราบทูล
จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ตรงสี่แยก ถ้าหันหลังให้พิพิธภัณฑ์ ด้านหน้าเป็นวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ด้านขวาเป็นข่วงเมืองน่าน เป็นลานข้างวัดภูมินทร์ และฝั่งตรงข้ามเป็นศูนย์บริการการท่องเที่ยว เทศบาลเมืองน่าน
วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
ศูนย์บริการการท่องเที่ยว เทศบาลเมืองน่าน ชาเขียวที่นี่อร่อยนะคะ แถมยังไม่เจอน้องๆที่เค้ามาเที่ยวกัน ก็ทักทาย เม้าท์กันเรื่องเที่ยวกัน ตาม IG กัน และตามมาจนถึงวันนี้ มิตรภาพระหว่างการเดินทาง มันเป็นเสน่ห์ที่หาได้เมื่อเราได้ออกเดินทาง
ข่วงเมืองน่าน เป็นลานข้างวัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์ วัดนี้รูปเยอะหน่อย ^__^
เดินกลับไปยังบขส. เดินเรียบข่วงเมืองน่านมาเรื่อยๆ เจอลานคนเมือง ศูนย์โอท็อป และ7-11 แบบเมืองน่าน
เดินๆๆๆ เดินไปเจอศาลหลักเมือง และวัดมิ่งเมือง
แล้วเราก็เดินๆๆ เดินไปถึงบขส. เกือบ 6 โมงเย็น เราก็รีบล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อแล้วก็รอขึ้นรถกลับเมืองกรุงทำงานต่อ
ไว้กลับไปเที่ยวอีกนะน่าน......