หลังจากสบายใจหายห่วงเรื่องที่พักแล้ว คิดถีงเส้นทางการท่องเที่ยวขึ้นมา เอ๊!!! แล้วเราจะไปไหนต่อดี อยากไปเกาะ แต่ไม่รู้จะไปเกาะไหน โชคดีที่มีน้องแจ็คและน้องคิมแนะนำ เกาะหมู เป็นเกาะไม่ไกลจากที่พักนั่งเรือประมาณ 20 นาที ซึ่งเป็นเรือหางยาวของชาวบ้านชาวเล ราคาเหมาเป็นลำ 800 บาท แต่หากคิดเป็นค่าหัว อยู่ที่ 200 บาทต่อหัว งานนี้สองสาวเลยตกปากรับคำไป ก็ใจมันอยู่กลางทะเลอยากไปเกาะจะมานอนเล่นพุงอึดอยู่บนฝั่งทำไมกัน
แต่โปรแกรมไปเกาะหมูก็ต้องเลื่อนเป็นตอนเย็นเพราะได้พูดคุยกะรูมเมท (เพื่อนร่วมห้อง) น้องบอยและน้องกระแตบอกว่ามีคิวจะไปเกาะแสมสาร นั้นไง+++ ตาลุกวาวเป็นประกาย หัวใจเริ่มเต้นถี่ อยากไปอยากไป ตัวเองกลายเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยทำการบ้านและวางแผน ทำให้ไม่มีข้อมูลที่จะไปเกาะแสมสาร ได้ยินแต่ชื่อ แต่ถือเป็นโชคดีที่น้องบอยมีข้อมูลแน่น จึงขอติดสอยห้อยตามไปด้วย แค่เริ่มต้นก็ตกใจเมื่อน้องบอกว่าพี่ต้องไปให้ถึงที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ประมาณตี 5 (อ้าว+++งั้นฉันต้องตื่นตี 4 หรือนี่) เพราะต้องเดินทางมาจองคิวและซื้อตั๋วแบบวันต่อวัน ไม่มีการโทรจองล่วงหน้า ไหนๆ ก็มาแล้วขอคิดสัก 1 วิ ก่อนขอตามน้องไปด้วย โปรดอย่าถามว่าไปทางไหน รู้เฉพาะว่าไปเส้นทางที่จะไประยอง ออกจากเมืองสัตหีบทางเดียวกับไปหาดน้ำหนาว (แล้วหาดน้ำหนาวไปไงอ่ะ 555) ขาไปขับตามน้องบอยไปติดๆ จำเส้นทางไม่ได้เพราะสองข้างทางยังมึดสนิท แต่ระยะทางไม่ไกลจากตัวเมืองสัตหีบประมาณ 10 กว่ากิโล
มาถึงจุดหมายท้องฟ้าเริ่มเห็นแสงสว่างแต่ยังคลุมเครือจอดรถเสร็จเดินไปที่รอจองคิวซื้อบัตร แม่เจ้า!!!!! ผู้คนมาทำอะไรกันค่ะเนี้ยะ
![]()
แป๊ปเดียวก็ได้คิวที่ 285 โดนทหารแซวระวังเมานะครับ งง สิค่ะ คือไร???? จนคู่หูกระซิบ 285 คือยี่ห้อเหล้า เพิ่งจะถึงบางอ้อ แหมมมมม เรามันเป็นสายอ่อนไม่ค่อยรู้จักซะด้วยน้ำแอลกอฮอล์เนี้ยะ 5555
คิว 285 นี้คือคิวซื้อตั๋วขึ้นเรือนะคะอย่าเข้าใจผิด พนักงานขายตั๋วมาทำงานเวลา 08.00 น. ตรง
จนแล้วจนรอดก็ได้คิวขึ้นเรือ เที่ยว 11 โมง เที่ยวแรกของเรือคือ 9.00 น. ออกทุก 1 ชั่วโมง ขาไปจะมีจนถึง 13.00 น. แต่ละเที่ยวอยู่ที่ 100 คน รับบัตรคิวเสร็จประมาณ 7.00 น. แต่ตัวเองได้คิวตั้งแต่ 6.15 น.
![]()
ระหว่างรอเรียกคิวซื้อตั๋ว หิวสิค่ะ หาข้าวกินดีกว่า ในนั้นจะมีร้านอาหารขายอยู่หลายร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวของทหารเป็นคนขาย คนเยอะกว่าปริมาณร้าน-ข้าวทำให้ต้องรอข้าวไข่เจียวหมูสับอยู่เกือบชั่วโมง เพราะนักท่องเที่ยวสั่งข้าวกล่องทีละ 6 - 7 กล่อง เนื่องจากบนเกาะไม่มีร้านอาหาร ต้องเตรียมไปเอง
ได้เรียกคิวซื้อตั๋วประมาณ 8.45 น. ตอนนั้นอาการง่วงเริ่มมีให้เห็นเพราะได้รับแอร์เย็นๆ แป๊ปเดียวถึงคิวไม่ช้าเลยค่ะ เพราะถ้าใครเรียกแล้วไม่ปรากฎตัว จะเรียกรอบ 2 หากยังไม่ปรากฎตัวข้ามเลยค่ะ ต้องรอซื้อหลังจากนั้น นี้แหละระเบียบวินัยสุดยอด...
ราคาตั๋วขาไป 150 ขากลับ 150 บาท รวมแล้วคนละ 300 บาท ต้องซื้อแบบไปกลับเพราะเขาไม่ให้ค้างคืนที่เกาะนะค่ะ
![]()
ได้ตั๋วแล้วกว่าจะถึงเวลาขึ้นเรือก็ขอไปสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการนั่งเรือข้ามฝากของคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นนิดนึง อิอิ
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
หลังกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจเสร็จแล้วยังเหลือเวลาอีกบานเบอะ เลยขอเก็บภาพบรรยากาศวิวสวยๆ กันคนละหลายช๊อต แต่ขอโชว์แค่นี้นะค่ะ
![ร่าเริงบันเทิงใจคร้า]()
![]()
ไม่คิดว่านางจะกระโดดได้สูงขนาดนี้ แต่พอลงมาสะพานแทบทรุด 555
![]()
ระหว่างเพลิดเพลินกะบรรยากาศ พี่ๆ นักปั่นก็ผ่านมา เห็นเสื้อสีสดใสเลยขอถ่ายคู่ซะเลย เพิ่มมิตรภาพมาอีกหนึ่ง พี่ๆ ก็น่ารักเห็นเราบ้าถ่ายรูป คงเห็นสักระยะแล้วมันไม่หยุดสักที 555 เลยขอถ่ายรูปคู่คืน เขินสิค่ะงานนี้
![]()
เหงาๆ เหมือนนางจะมาคนเดียว เอ๊ะ!!! ยังไง
![]()
ใกล้ถึงเวลาเรือออก สองสาวรีบเดินไปที่ท่าเรือ เพราะต้องไปรอก่อนขึ้นเรือเวลาประมาณ 20 นาที แต่ที่นี้มีรถพ่วงสามล้อเครื่องแวะรับนักท่องเที่ยวระหว่างทางเพื่อไปขึ้นเรือที่ท่า แนะนำหากคณะไหนมีผู้สูงอายุมาด้วยสามารถเอารถมาจอดใกล้ๆ ท่าเรือ จะได้เดินไม่ไกล ส่วนเรายังมีแรงเดิน ก็เดินชมนกชมไม้ไปท่ามกลางแสงแดด ก็นางเป็นสาวสู้แดดไงค่ะ.....
![]()
ระหว่างทางไปท่าเรือเหลือบเห็นน้ำใสๆ ตัวปลาว่ายสวนมาอวดความสวยงามกันเป็นคณะ มีหรือที่จะไม่คว้ากล้องมาถ่าย แต่อยากจะบอกว่าของจริงสวยกว่าภาพถ่ายเยอะมาก
![]()
![]()
นางบอกอยากถ่ายรูปกะเรือรบ พอเห็นจอดอยู่ใกล้ๆ กระโดดเข้าหา เลยจัดให้หลายแชะ จนพี่ทหารบอกว่าขึ้นไปถ่ายบนเรือเลย งง สิค่ะ ได้ด้วยหรา!!! เพราะกำลังรอเรือที่มารับผู้โดยสารคล้ายเรือประมงลำใหญ่ แต่พี่ทหารบอกวันนี้คนเยอะเลยเอาเรือมาช่วยส่งที่เกาะ แล้วต้องต่อคิวตรงไหนค่ะ พี่ทหารบอกตรงนี้แหละยืนเป็นหัวแถวเลย รีบสิค่ะ ยืนทำอะไร เป็นหัวแถวดีกว่า 5555
![]()
นางหน้าบานมาก ยิ้มยิ่งกว่าได้รับถ้วยนางงามสวนส้มโอซะอีก 5555
![]()
พอขึ้นไปบนเรือ เตรียมตัวอาบแดดเต็มที่ แต่พี่ทหารบอกข้างล่างลงไปนั่งได้นะ เป็นห้องแแอร์ ได้ยินแค่นั้นรีบกระโจนเลยค่ะ ตอนนี้ไม่อยากได้ผิวสีแทนขาวแล้ว 555
สักพักพี่ทหารรูปหล่อคนเดิมบอก "ใครรู้ตัวว่าสวยมานั่งหน้ากับผม" เรายังฟังไม่ทันจบหันไปหาเเพื่อนคู่หู นางหายไปแล้ว บ๊ะเจ้า!!!! วิ่งโล่ไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เลยรีบวิ่งตาม นางบอกรู้ตัวว่าสวยค่ะ 5555 ใครจะกล้าบ้าบิ่นเท่านาง
![]()
ตื่นเต้นกะครั้งแรกที่ได้นั่งเรือทหาร สอบถาม พี่ทหารสุดหล่อบอกนี้คือเรือปฏิบัติการพิเศษ พ.52 เป็นเรือที่เคยไปช่วยชาวบ้านตอนอุทกภัยใหญ่ ปี 54 ที่อยุธยาเป็นเรือที่มีความเร็ว 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ครั้งนี้เห็นนักท่องเที่ยวมากันเยอะเลยพามาต้อนรับ เลยบอกว่างั้นพี่รอรับหนูกลับด้วยนะ พี่เขาส่ายหน้าบอกมาเองกลับเองเลย ซะงั้น+++ โธ่ไม่เห็นใจนางงามตกขอบเวทีบ้างเลย 5555
![]()
นั่งเรือเพียงอึดใจ (ไม่ได้จับเวลาเพราะมัวแต่คุยกะพี่ทหารอยู่) ก็ถึงเกาะ ผู้คนที่มารอบแรกทั้งนั่ง นอน เล่นน้ำกันเป็นกลุ่ม ๆ แดดไม่แรงมากแต่ก็ทำให้แสบผิวได้เหมือนกัน
![]()
จุด Check in ของเรา
![]()
![]()
![]()
![]()
ข้อห้ามต่างๆ บนเกาะที่นักท่องเที่ยวไม่ควรทำ นี่เป็นด่านแรกที่นักท่องเที่ยวต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ พี่ทหารจะชี้แจงให้ฟังทุกคณะที่มาใหม่ (สงสารเหมือนกันต้องพูดทั้งวัน)
![]()
ที่นี้มีกิจกรรมให้เลือกทำหลายอย่าง ราคาตามป้าย แต่กิจกรรมสุดฮิตคือ ดำน้ำชมปะการัง คิวยาวมากเพราะพี่ทหารต้องคอยจัดคิว อ่ะอ่ะ!!! เห็นขวดน้ำที่กระถางไหม นี่ก็เป็นผลงานหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่ไร้ระเบียบ ซึ่งบนเกาะเขามีถังแยกขยะเปียก ขยะแห้ง และขวดน้ำพลาสติกนะค่ะ
![]()
จุดนี้สังเกตเห็นไม่ค่่อยมีนักท่องเที่ยวใช้บริการชาร์ตเลย คงเตรียมตัวตุนแบตตอรีมาเต็มพิกัดแล้ว
![]()
![]()
![]()
![]()
นั่งเล่นตรงหาดแสมสารไม่ทันไร ใจก็อยากไปนั่งเรือท้องกระจกชมปลาและปะการังเลยจะไปจองคิวที่หาดลูกลม ซึ่งห่างไปไม่เกิน 3 กิโลเมตร แต่ต้องอกหักเพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำทะเลลดเยอะต้องรอประมาณบ่าย 2 ถึงจะไปได้
เหวออออออ++ เรายังมีโปรแกรมไปเกาะหมูอีกคงไม่ทันเลยสบตาปิ๊งๆ กัน ใจหนึ่งก็อยากรอ แต่อีกใจก็ไม่อยาก เอาไงดี มองทะเลท่ามกลางแดดเปรี้ยงสลับกับมองจำนวนผู้คนที่นั่งรออยู่.... อีกอย่างต้องทำเวลา...ไม่รอดีกว่า เอาไว้รอบหน้ามาใหม่ เลยตกลงกันว่าไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า ว่าแล้วนางก็จัดไปอีกหลายแชะ แชะ แชะ
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกะการถ่ายรูป สองสาวรู้สึกเพลียอาจเป็นเพราะตื่นเช้าและอากาศร้อนอบอ้าวแม้จะมีเมฆครึมๆก็ตาม จึงขอกลับเข้าฝั่งกะกลับไปอาบน้ำนอนตากแอร์เย็นๆ ก่อนไปเกาะหมูตามที่สัญญาไว้กับน้องแจ็ค ขากลับจึงรีบดิ่งไปที่รถขับออกมา แต่.....กลับทางไหนละค่ะก็ขามาดันตามเขามา แล้วตอนนี้ก็แยกกับน้องบอยและน้องกระแตแล้วด้วย เสียดายมัวแต่หนุกหนานกะการถ่ายรูปจึงไม่เจอกันตอนขึ้นเรือ... เอาไงหละ ไปมันตามทางนี้แหละ กูเกิ้ลก็มี แต่ขับออกมาสักระยะเริ่ม เอ๊ะ!!! ทางนี้หรา ไม่คุ้นอ่ะ เอาแล้ว.... งานเข้า... คิดว่าจะหยุดหราไม่มีทาง 5555
ขับต่อไปเห็นรถป้ายทะเบียนกรุงเทพฯ ขอขับตามหละกันเพราะน่าจะหาทางกลับเหมือนกัน ขับไปสักระยะ เฮ๊ย!!! ทางแยก เขาเลี้ยวไปวัดหลวงพ่อดำ เราจะกลับเมืองสัตหีบงั้นขอเลี้ยวอีกทาง...มือหักพวงมาลัยก่อนใจสั่ง ขับต่อไป เฮ๊ย!!!อีกรอบ ข้างหน้าเราคือประตูวัดหลวงพ่อดำ เอ้า+++ไหนไหนก็ไหนไหนแล้วท่านคงอยากให้เราแวะสักการะ ก็แวะเลยละกัน
![]()
ที่นี้ผนังโบสถ์สวยงามมาก ยิ่งเห็นใกล้ๆ ยิ่งงาม แต่ไม่แน่ใจว่าทำมาจากอะไร
![]()
![]()
นางชอบปิดทองหลังพระ อิอิ
![]()
![]()
ขนาดเขตวัดสองสาวยังไม่วายโพสท่า 555 แต่ขอบอกวิวสวยมากแถมมีดอกไม้แดงเหลือง ขาว สลับกันไป
![]()
![]()
ก่อนกลับกลัวหลงทางอีก เลยแวะถามชาวบ้านตลอดทาง แต่ในความเป็นจริงแล้วทางไปไม่ได้ยาก เพียงแต่เป็นเพราะเราสองคนที่คอยเมาท์มอยจนขับเลยทางแยก งง งง กับเส้นทาง มั่วมันไปเรื่อย แต่ก็กลับถูกทุกครั้งนะค่ะ ติดใจความน่ารักของชาวบ้าน บอกทางเหมือนจะขับรถตามมาส่งถึงถนนเส้นหลัก 555
กลับมาถึง #SATTAHIPTALE รีบอาบน้ำสระผมทันที เพราะตัวเหนียวมากกับไอแดดและไอทะเล และอีกโปรแกรมที่จะไปเกาะยังไม่จบ
ประมาณ 5 โมงเย็นแต่งตัวเสร็จก็ลงมารบเร้าน้องแจ็ค กลัวน้องเขาจะไม่พาไป 555 น้องบอกวันนี้มีลูกค้าจะไปเกาะหมูด้วยกัน 11 คน เรือ 2 ลำ แต่ต้องรอไปด้วยกัน แป๊ปนะครับเดี๋ยวผมไปตามให้ นี้แหละบริการทุกระดับประทับใจ
และแล้วสมาชิกลงเรือลำเดียวกันก็มากันพร้อมหน้า เดินตามน้องแจ็คลัดเลาะไปตามทางบ้านของชาวบ้านชาวเล เข้าทางตรอกหมอชูชาติ แต่ขอแนะนำถ้าต้องการไปควรให้น้องแจ็คพาไปจะดีกว่าเพราะหนทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด ไปไม่ถูก งานนี้จะมีหลงตั้งแต่ปากซอยแน่ๆ
![]()
ระหว่างทางไปขึ้นเรือได้เดินชมเมืองไปด้วย มีร่องรอยความเป็นเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนยังสะดุดตา แม้เวลาจะล่วงเลยและมีตึกสถาปัตย์แบบสมัยใหม่เข้ามาแทรก บวกกับนวัตกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่สอดแทรกอย่างลงตัว ยิ่งทำให้เมืองเก่ามีเสน่ห์น่าหลงใหล
![]()
![]()
คณะลูกทัวร์รีบเดินหน้าตั้งตามไกด์จำเป็นของเราไปติดๆ เพราะกลัวหลงทางตามเส้นทางลัดเลาะของบ้านชาวเลที่ดูน่ากลัวในทีแรก แต่ด้วยไมตรีที่ยิ้มต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร ทำให้ความน่ากลัวหมดไปโดยสิ้นเชิง
![]()
โฉมหน้าพี่อ้อยผู้เป็นมัคคุเทศก์จำเป็นที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของชุมชนหมู่บ้านชาวเล และเกาะต่างๆ อีกทั้งยังเป็นไกด์พาคณะลูกทัวร์ไปท่องเกาะหมู
อย่างที่บอกใครสนใจไปล่องเรือชมเกาะหมู ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่เหมาจ่าย 800 บาท ต่อเที่ยว แต่ถ้าคิดรายหัว ตกหัวละ 200 บาท พี่อ้อยบอกถ้าให้ดีต้องมีเวลาสามารถไปเล่นน้ำได้ เพราะเหมือนเป็นเกาะส่วนตัว เพราะไม่ค่อยมีคนจะมีแค่เจ้ากังฟูกะป้าเฝ้าเกาะและนักท่องเที่ยวไม่กี่คนหรืออาจไม่มีเลย รอบๆ เกาะจะมีชาวบ้านตกหมึกจับปลาจับปูกัน สามารถสอบถามราคากันได้
![]()
น้องแจ็คพาสาวๆ มานั่งเรือชมเกาะด้วยตนเอง แต่แค่มาส่งไม่ได้ร่วมไปด้วยเพราะต้องคอยต้อนรับลูกค้ากลุ่มใหม่ที่จะเข้ามา Check in ช่วงนี้เป็นช่วงรับทรัพย์ต้องรีบครับ 5555
![]()
![]()
บรรยากาศระหว่างนั่งเรือ พี่อ้อยจะเป็นคนเล่าเรื่องโน่น นี่ นั่น ตลอดทางไม่ต้องกลัวเหงาในช่วงเวลา 20 นาทีที่นั่งในเรือ พี่อ้อยจะคอยบริการขนม และน้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้ (แล้วแต่ที่จะจัดหาได้) ให้กับลูกทัวร์
![]()
ใกล้ๆ กันเป็นท่าเทียบเรือรบ เสียดายพี่อ้อยบอกเรือรบจักรีนฤเบศรไปราชการ จึงไม่ได้มาอวดโฉมให้เห็น
![]()
นั้นไงเกาะหมูของเรา ^_^ ใกล้แล้ว
![]()
![]()
คณะลูกทัวร์เราลั้ลลาตลอด แบ่งขนม แบ่งน้ำกันทั้งๆที่ไม่ได้รู้จัก แต่ไหนๆโชคชะต่าพามาเจอกันแล้ว 2 นาทีก็ถือว่าสนิทกันแล้วนะ
![]()
ที่เกาะหมูสามารถพักค้างคืนได้ แต่ต้องนำเต้นท์ไปเอง บนเกาะจะมีน้ำ มีไฟบริการแต่หากใช้ไฟเลยเวลา 4 ทุ่มจะคิดค่าไฟคนละ 100 บาท จุดกางเต้นท์มี 2 จุด หากไม่มีคลื่นลมก็สามารถกางตรงแหลมที่ยื่นออกมาได้ แต่หากมีคลื่นลมหรือฝนจะมีจุดกางเต้นท์ด้านในเกาะ
![]()
ถึงแล้ว เกาะหมู พี่อ้อยบอกตอนนี้น้ำทะเลขึ้นมาก เลยสามารถจอดเรือใกล้ฝั่งไม่ต้องเดินไกล อยากจะบอกว่า รู้ไว้ซะว่ามากะใคร อุตส่าห์ไปไหว้พระขอพรมาแล้ว งานนี้มีเล่นของค่ะ 5555
![]()
![]()
![]()
จุดแรกที่พี่อ้อยแนะนำคือ อุโมงค์ต้นไม้เห็นแล้วอยากขอเข้าไปสิง เห้ย!!! เข้าไปแชะสักท่า
![]()
![]()
วิวสวย ๆ จนอดใจไม่ไหว พี่ช่วยคู่น้อง น้องช่วยคู่พี่หนุกหนานกันใหญ่
![]()
![]()
ฮู้หู!!!! หอยใหญ่มาก
![]()
หนุกหนานกันได้แป๊ปเดียวพระอาทิตย์เริ่มตกขอบฟ้า พี่อ้อยจึงให้พวกเรากลับก่อนที่จะมึดค่ำ วิวยามย่ำค่ำก็งามไปอีกแบบ เสียดายมารอบนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเจ้าถิ่น คือเจ้ากังฟู หมาพันธุโกลเด้นตัวใหญ่หน้าตาน่ารักขี้เล่น ตอนที่ไปถึงเกาะเจ้ากังฟูไปนั่งเรือเล่นอยู่กลางทะเลซะนี่
![]()
![]()
หลังกลับจากเกาะหมู สาวๆ ต่างที่มากันคนละทิศคนละทาง เจอกันคุยกันไม่ถึงชั่วโมง เมาท์มอยยิ่งกว่ารู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล อาจเป็นเพราะคอเดียวกัน คือหลงใหลการท่องเที่ยว จึงคุยกันรู้เรื่อง ทริปนี้จึงได้มวลมิตรเพิ่มขึ้นอีกกลายเป็นหนึ่งความทรงจำที่ดี ต่างคนต่างสัญญาว่าเราจะหาโอกาสมาเที่ยวกันเป็นแก็งค์แบบนี้อีก
![]()
คืนนี้เป็นคีนสุดท้ายที่จะพักที่นี้ จึงมีปาร์ตี้เล็กๆ เกิดขึ้นจากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนที่คุ้นเคย โดยได้รับการสนับสนุนจากน้องแจ็ค น้องคิมและน้องตั้มที่คอยอยู่บริการ เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ถามไถ่กันถึงโปรแกรมวันพรุ่งนี้ที่ต่างคนต่างแยกย้าย แต่เมื่อรู้จักกันแล้วก็จะยิ่งสานความสัมพันธ์กันมากขึ้น ใครเมาใครรั่วเก็บไว้ในความทรงจำนะจ๊ะ 555
![]()
การเดินทางยังไม่สิ้นสุดสำหรับเมืองสัตหีบ แต่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น แล้วจะกลับมาเยือนอีกหลายๆ ครั้งนะสัตหีบ ฉันเริ่มหลงรักเธอแล้วสิ ^_^