2 ล้อ 2 คัน ชวนกันไปสัตหีบ นอนที่พักหลักร้อยมี Rooftop Bar (Panorama Sea view)
สวัสดีค่ะ ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ ที่เราและน้องๆ ชวนกันขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ อยากไปนั่ง chill ริมทะเล โดยมีงบประมาณและเวลาที่กำจัด ทุกอย่างมาลงตัวที่ “สัตหีบ” เมืองที่มีเสน่ห์ มีความ HIP เงียบสงบ แต่มีอะไรซ่อนอยู่เพียบ ทริปนี้ไปกัน 4 คน เดินทางด้วย Suzuki Tempter 400และ Vespa sprint 150 ค่ะ
เราออกจากปทุมธานีประมาณ 06.30 น. ครั้งนี้เป็นการขี่มอเตอร์ไซต์ไปภาคตะวันออกครั้งแรกของเรา เส้นทางที่ไปจึงใช้ Google map ในการนำทางตลอดทั้งเส้นทาง โดยใช้เส้น 3004 จากคลองเจ็ดลำลูกกา นิมิตใหม่ ร่มเกล้า ลาดกระบัง ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิช่วงนี้ทางสวยดีค่ะ ได้เห็นเครื่องบินใกล้ๆ ก่อนออกไปทางบูรพาวิถี 08.51 น. เราเข้าสู่ชลบุรี ช่วงพัทยา Google map พาไปเส้นเลี่ยงเมือง รถน้อยแต่ทางตัดผ่านรถไฟเยอะมาก ไม่มีสัญญาณไฟต้องระมัดระวังตัวเอง
Sattahiptale Boutique Guesthouse & Hostelประมาณ 10.00 น. เรามาถึงสัตหีบ ใครที่นำรถยนต์มาจอดได้ที่วัดหลวงพ่ออี๋ ห่างจากที่พักประมาณ 100 เมตร แต่ถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซค์กับจักรยานจอดหน้าที่พักได้เลย เราขอเข้าไปฝากสัมภาระกันก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลา Check in ที่พักของเราในทริปนี้คือ Sattahiptale boutique guesthouse & hostel ชอบมากค่ะ โดนใจเราที่สุด ห้องพักมีหลายแบบให้เลือก ห้องพักพร้อมระเบียง Sea view มีห้องน้ำในตัวไปจนถึงห้องพักแบบ Shared room, Shared bathroom ราคาห้องพักสบายกระเป๋ามากตั้งแต่ 350 - 1,800 บาท ที่ชอบมากๆ ถึงมากที่สุดคือมี Rooftop bar มองเห็นทะเลและวิวสวยๆ ของสัตหีบได้แบบพาโนรามา
พื้นที่ส่วนกลางด้านล่าง มีที่นั่งเล่นพอสมควร แต่อากาศในโซนที่นั่งด้านล่างร้อนไปหน่อย ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่ ทริปนี้ไม่ได้คิดจะทำรีวิว แต่พอไปเจออะไรที่มันมีต่อใจก็อดจะเอามาบอกต่อไม่ได้
ห้องพัก
เราจองห้องพักมา 2 ห้อง เป็นห้องแอร์สำหรับ 2 คน ราคา 900 บาทต่อคืนห้องน้ำรวม ขนาดพอดีตัว มีพื้นที่แค่สำหรับวางสัมภาระ มีผ้าเช็ดตัวให้ ห้องไม่กว้างแต่มีความชิค มี Detail น่ารักๆ เฉลี่ยคนละ 450 บาทเอง แพงกว่าห้องแบบเตียงรวมนิดหน่อย แต่มีความส่วนตัวมากกว่า ที่นี่ไม่มีบริการอาหารเช้านะคะ ห้องที่จองมาราคาเท่ากัน แต่ไม่เหมือนกัน ไปดูห้องพักกันค่ะ
ห้องพังงา 2
เรานอนห้องนี้ค่ะ เตียงนุ่มมาก แต่ห้องมืดไปหน่อย สำหรับผู้หญิงใช้ชีวิตยากมากในการแต่งหน้ากับหาของไม่ค่อยเจอ ฮ่าๆ ชอบที่มีกล่องดนตรีเล็กๆ หมุนฟังทั้งคืน แอร์ก็เย็นสบาย
ห้องสมอเรือ
ห้องนี้จะกว้างกว่านิดหน่อยและสว่างกว่า มีหน้าต่าง ถ้าเลือกห้อง Type นี้ เราแนะนำให้ลองจองห้องสมอเรือก่อนค่ะ
ห้องน้ำรวมสะอาดมาก ไม่ได้แบ่งชายหญิง ฝักบัวนุ่มมากอาบน้ำเพลิน แต่อยากให้มีที่แขวนของหรือที่วางของในห้องอาบน้ำเพิ่มเติมจะดีมาก
Rooftop Barอยู่ชั้น 4 ของที่พัก ขึ้นมานั่งเล่นรับลมทะเลตอนกลางวันก็ได้ค่ะ แต่บาร์เปิด 20.00 น. - 23.00 น. ให้บริการเฉพาะแขกที่มาเข้าเท่านั้นและห้ามนำเครื่องดื่มจากภายนอกเข้ามา ใครขัดคำสั่งโดนปรับ 500 บาทจ้า
ให้บริการเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมเพลงเบาๆ เราสั่งเบียร์กระป๋อง (60 บาท) ส่วน Cocktail ให้เจ้าของแนะนำให้ค่ะ อยากได้เครื่องดื่มแบบเปรี้ยวชื่นใจ เลยได้เจ้า "Navy bule" (180 บาท) แก้วนี้มา ตอนกลางคืนบน Rooftop bar บรรยากาศดีมาก จากประสบการณ์ที่เคยไปนั่งเล่นริมทะเลตอนกลางคืนลมไม่ค่อยมี แตกต่างจากที่นี่ ลมพัดตึง! ด้วยความที่สัตหีบไม่ใช่เมืองแสงสี ทำให้เราเห็นแสงไฟจากเรือไดหมึกจากมุมสูง เหมือนดวงดาวในท้องทะเลสวยในแบบที่ไม่เคยเห็น แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย มัวแต่เพลินไปกับบรรยากาศและ Cocktail ในมือ
เจ้าของที่พักทั้งสองคนน่ารักมากค่ะ ให้ข้อมูลดีมากตั้งแต่ติดต่อจองห้องพัก ไปจนถึงข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่พักสะอาด เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความชิค ในส่วนของราคาคุ้มค่ามาก ไม่ค่อยเจอห้องพักสำหรับสองคนที่แชร์ห้องน้ำ ในบางครั้งเราก็ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วยงบที่จำกัด ที่นี่จึงตอบโจทย์มาก ถ้าอยากชมห้องพักแบบอื่นๆ ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์และ Facebook ตาม Link ที่ให้ไว้ด้านล่างเลยค่ะ
Website: https://www.sattahiptale.com/
facebook: Sattahiptale Boutique Guesthouse & Hostel
โทรศัพท์: 090-994-5496
Cafe Ameazon ฐานทัพเรือสัตหีบอยู่ในฐานทัพเรือสัตหีบ ก่อนเข้าไปต้องใช้บัตรประชาชนแลกบัตรเข้าก่อนนะคะ การขี่รถมอเตอร์ไซค์ในค่ายฯ ต้องใส่หมวกกันน๊อคตลอด เป็น Ameazon สาขาที่วิวดีมากอยู่ริมทะเลใน เราไปเดือนพฤษภาคม ช่วงเช้าน้ำขึ้น คนน้อยพอเลือกที่นั่งได้ ถ้ามาตอนใกล้เที่ยงน้ำลดแล้ว คนเต็มร้านเลยค่ะ เครื่องดื่มได้ช้ามากไม่ว่าจะไปช่วงเช้าหรือช่วงเที่ยง ที่นั่งมีทั้งแบบในห้องแอร์และแบบ Open air ใครที่นั่งด้านนอกเครียมแว่นตามาด้วยก็ดี เพราะแสงมันช่างจ้าซะเหลือเกิน! ถึงจะมีหลังคาก็เถอะ เปิดให้บริการ 06.00 - 20.00 น.
วิ่งชมเมืองสัตหีบอยากมีฟีลวิ่งสำรวจเมือง ชมทะเล เหล่นาวิก วิ่งไปถ่ายรูปไปแบบชิลๆ อะไรแบบนี้ แล้วก็เผลอท้าทายตัวเองด้วยการวิ่งขึ้นเขาไปเลยจ้า การขึ้นไปจุดชมวิวแหลมปู่เจ้า รถสามารถขึ้นได้ถนนดีเป็นทางขึ้นเขามีโค้ง ข้างบนมีจุดชมวิวสวยมากและศาลกรมหลวงชุมพรฯ จากที่พักไปจุดชมวิว ไป-กลับประมาณ 13km วิ่งๆ เดินๆ ได้อยู่ เราใช้ทางขึ้นใกล้สระน้ำในค่ายทหาร รู้ว่ามีลิงแต่ไม่คิดว่าจะมีเยอะขนาดนี้ ขอใช้คำว่าฝูง! ขวางทางเต็มไปหมด แล้วน้องลิงถือก้อนหินด้วยอ่ะ ดีที่ถือไม้เซลฟีไปด้วย ยืดไม้ให้ยาวสุดแล้วยกค้างไว้เป็นท่าเตรียมพร้อมฟาดตลอด เจอแบบนี้ประมาณ 3 ฝูง หยุดวิ่งไม่ได้ในเส้นทางขึ้น-ลงเขาหมดแรงเลย มีคนบอกมาว่าคนมาวิ่งกันเยอะแยะ แต่ทำไมมีแค่เราที่วิ่งฝ่าฝูงลิงอยู่คนเดียว แบบที่มองไปข้างหน้าข้างหลังไม่เจอใครเลย
เราขึ้นไปถึงแค่จุดชมวิวด้านล่าง เหลืออีกหนึ่งเนินจะถึงด้านบนสุดถอดใจเมื่อเห็นน้องลิงขวางทางขึ้นอยู่อีกหนึ่งฝูง ช่วงนี้เจอคนขึ้นมาวิ่งเยอะแล้ว แต่งงว่าวิ่งมาทางไหนกันทำไมช่วงแรกๆ เราไม่เจอใคร
และก็ได้คำตอบ...ขากลับรู้ว่ามีทางแยกลงไปหาดเตยงาม คนส่วนใหญ่ใช้ทางนี้วิ่งขึ้นมากันค่ะ! ตัดสินใจโทรฯ ให้รถมารับจะมืดแล้ว ได้ประมาณ 8.2 km ลงมาวิ่งเรียบหาดเตยงามช่วงพระอาทิตย์ตกดินพอดี แต่พระอาทิตย์ขี้อายมากๆ แอบอยู่หลังเมฆ คนมาวิ่งเลียบหาดกันเยอะพอสมควร ถนนดี ฟุตปาธดี อากาศโคตรดี มีทะเลสวยๆ ให้ดู ทำไมไม่มาวิ่งตรงนี่ตั้งแต่แรก ไม่น่าห้าว!
งานวัดหลวงพ่ออี๋โชคดีที่มาช่วงงานประจำปีวัดหลวงพ่ออี๋ เลยได้มาเดินชมบรรยากาศงานวัด ของขาย ของกิน ของใช้เต็มไปหมด เกมส์เสี่ยงโชคและเครื่องเล่นเยอะเลยค่ะ เครื่องเล่นบางอย่างที่งานวัดแถวบ้านเราไม่มีแล้ว ยังสามารถเจอได้ที่นี่อย่าง บ้านผีสิง รถบั๊มเปิดเพลงต์๊ดมาก บรรยากาศน่ายกพวกตีกัน ฮ่าๆ
ปิดท้ายด้วยก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล อยู่ตรงข้ามร้านซูโม่เบเกอรี่สัตหีบ บริเวณนี้เรียกว่าตลาดโต้รุ่งมีร้านอาหารเยอะเลยค่ะ ราคาก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล 50 บาท ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 40 บาท
หาดดงตาลหาดนี้เป็นทางผ่านที่ไม่ได้แวะ หาดนี้มีกิจกรรมเล่นเรือใบด้วย ถ้าสนใจกิจกรรมล่องเรือใบติดต่อที่ Sattahiptale boutique guesthouse & hostel ได้ค่ะ
หาดน้ำใสทางเข้าลึกลับมาก ใช้มือถือเปิด google map ไม่พบเส้นทางต้องเลือกเส้นทางแบบเดินเท้าแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ตามเส้นทางนั้นไป รถยนต์ก็ใช้เส้นทางนี้ได้ค่ะ เสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 15 บาท มอเตอร์ไซค์ขี่เข้าไปจอดข้างในข้างร้านอาหารได้เลย มีโต๊ะและเก้าอี้ให้เช่า เตรียมเสื่อมาเองก็ได้ค่ะ เราไม่ได้เล่นน้ำ เพราะน้ำลดไปไกลมากขี้เกียจเดิน น้ำใสสมชื่อหาด วันอาทิตย์คนเยอะแต่ไม่ล้น มีร่มของต้นไม้ให้นั่งหลบแดดได้เยอะพอสมควร
อาหารราคาไม่แพง มีให้เลือกหลายร้านเมนูคล้ายๆ กัน ต้องซื้อคูปองอาหารก่อน พอสั่งอาหารเสร็จแม่ค้าจะให้ธงมา เดี๋ยวมีคนมาส่งถึงที่นั่งเลยค่ะ ไม่ต้องไปยืนรอ ปริมาณและรสชาติโิอเคเลย เหมาะสมกับราคา ทานเสร็จแล้วช่วยกันเก็บขยะไปทิ้งด้วยนะคะ
ข้าวผัดปูกับกะเพราปลาหมึกกล่องละ 50 บาท ไม่แพงและได้เยอะด้วย
"สัตหีบ" เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน เงียบสงบและรู้สึกปลอดภัย อย่างสถานที่ท่องเที่ยวมีเหล่าทหารคอยดูแลอยู่ เราไม่เสียเวลาในการเดินทางมากนักเพียง 2-3 ชั่วโมงจากบ้าน มีที่เที่ยวเยอะ น้ำทะเลใส ที่พักมีให้เลือกหลายแบบ หลายราคา อาหารก็ไม่แพง เที่ยวสัตหีบด้วยเวลาและงบประมาณที่จำกัดสามารถทำได้ค่ะ โดยทริปนี้ใช้งบประมาณ 1,870 บาทต่อคนหารเฉลี่ยจาก 2 คน (เราไปกัน 4 คนแต่จับคู่หารกันตามมอเตอร์ไซค์) รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่ออกจากบ้าน ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก ค่าอาหารทุกมื้อ ค่าเครื่องดื่มตั้งแต่เช้าวันเสาร์จนถึงเย็นวันอาทิตย์ กินแบบเต็มที่ไม่มีอด แต่ไม่ได้กินร้านหรูๆ นะ
ค่าน้ำมันน้อง Tempter 900 บาท
ค่าที่พัก 900 บาท
ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และอื่นๆ สำหรับ 2 คน 1,940 บาท (หารเฉลี่ยจาก 4 คน)
รวม 3,740 บาท หาร 2 คน เฉลี่ยนคนละ 1,870 บาทจ้าาา
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการแพลนทริปเพื่อเดินทางท่องเที่ยวของเพื่อนๆ นะคะ
อ่านรีวิวอื่นๆ ของเราได้ที่ https://www.thetrippacker.com/th/pangjourney
หรือติดตามได้ทางเพจอีกหนึ่งช่องทางค่ะ