สันหลังมังกร เป็นสันหาดทรายคล้ายทะเลแหวกกลางทะเล แต่มีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่แนวหาดที่เห็นนั้นไม่ใช่ทราย...แต่เป็นเปลือกหอยนับล้านล้านตัวที่ถูกคลื่นซัดมาทับถมกันเป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมเป็นทางยาวระหว่าง เกาะหัวมัน กับ เกาะสาม
ในช่วงที่น้ำลด เราจะเห็นน้ำแยกออกจากกันทั้งสองฝั่ง พอเหมาะพอเจาะกับที่แสงแดดที่สาดส่องลงมาตรงกลาง มองเห็นเป็นเกร็ดที่แวววาว เหมือนมังกรกำลังเลื้อยตามแนวโค้งแหวกว่ายเล่นน้ำในทะเล ตามตำนาน “เขาเล่าว่า” ใครที่ได้ไปยืนบนสันเกล็ดมังกรนี้ จะได้รับพลังบริสุทธิ์จากฮวงจุ้ยแห่งท้องทะเล ที่จะช่วยเติมเต็มพลังกายพลังใจให้เข้มแข็ง ซึ่งเราได้ลองไปยืนรับพลังมาตามที่เขาเล่าว่าแล้ว รู้สึกว่าร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลย แต่ถึงว่านะครับ... บรรยากาศสวยงามขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องรู้สึกไม่ต่างจากเราแน่นอน
ความพิเศษของสันหลังมังกรอยู่ที่สันทรายที่เต็มไปด้วยเปลือกหอยนี่แหละครับ เมื่อเดินทอดน่องไปตามสันทราย ก็เหมือนเดินอยู่บนสันหลังมังกรที่แวววาวจากแสงแดดที่ส่องลงมากระทบ อาจรู้สึกเจ็บเท้าสักหน่อยแนะนำพกรองเท้าลงมาด้วย เพราะบางจุดเปลือกหอยมีความแหลมคมอาจได้แผลกลับบ้านไปโดยไม่รู้ตัว แต่ต้องยอมรับเลยว่าบรรยากาศรอบ ๆ ทำเอาเราลืมความลำบาก หรือแทบจะลืมความรู้สึกระหว่างเดินไปเลยทีเดียว
น้ำทะเลบริเวณสันหลังมังกร จะไม่ได้มีสีฟ้าสดใสหรือเขียวมรกตแบบทะเลอันดามันที่เราเคยเห็น ด้วยความที่เป็นทะเลช่วงก่อนจะเข้าแนวป่าชายเลน สีของน้ำเลยจะถูกผสมกันทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด
เนื่องจากเวลาน้ำขึ้น-ลง ในแต่ละวันจะไม่เท่ากัน แนะนำให้หาข้อมูลไว้ล่วงหน้า หรือจะสอบถามจากชาวประมงที่นั่นก็ได้ครับ โดยช่วงที่เราไปเป็นเวลาประมาณ 8 โมงเช้า เดินเล่นได้ไม่นานน้ำก็เริ่มขึ้นแล้ว