จะใช้เงินซื้อเข้าได้ยังไง ก็เป็นสวนสาธารณะนี่นา
ท่ามกลางสังคมที่วุ่นวายในเมืองหลวง วันหยุดพักผ่อนแทนที่จะไปเดินห้างแอร์เย็นๆเหมือนคนอื่นเค้า แต่เรากลับยิ่งโหยหาธรรมชาติ คิดว่าในเมืองกรุงจะเอาธรรมชาติที่ไหนมา นอกจากสวนสาธารณะ ประกอบกับเวลาอันน้อยนิดช่วงกลางวันที่จะไปเดินได้ (เพราะตอนเย็นต้องไปธุระต่อ) สวนสาธารณะจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อยู่มาก็นาน
ไปมาหลายสวน แต่ก็ยังไม่ครบเลยนะ สวนไหนดีนะ ชมนกชมไม้ เดินทางสะดวก
คิดเร็ว ไปเร็ว ไปคนเดียวอีกแล้ว เอาน่า เดินชิคๆ
เป้าหมายจึงอยู่ที่นี่ สวนสาธารณะที่บางคนอาจมองข้ามเพราะรู้จักอีกสวนที่อยู่ติดกันมากกว่านั่นก็คือสวนจตุจักร และสวนรถไฟ โอ้ยยยยย นั่นคนเยอะไป ไปบ่อยแล้วด้วย ต้องการความสงบล่ะก็ ที่นี่เลย รับรองได้อะไรมากกว่าที่คิดแน่นอน เพราะก็เพิ่งเคยสำรวจเกือบทั่วขนาดนี้เป็นครั้งแรก และสิ่งที่ได้กลับมากลับน่าประทับใจมาก
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สวนของแม่ของแผ่นดินเรา
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บนถนนกำแพงเพชร 2 อยู่ติดกับสวนจตุจักรและสวนวชิรเบญจทัศ สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ตั้งอยู่ในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์เด็ก
เอาง่ายๆคือถ้ามาไม่ถูก มาเดินจตุจักรได้ก็รู้จักสวนนี้แล้วค่ะ หาง่ายมาก
สถานที่สวย สาระเยอะ แต่คนรีวิวอาจจะให้ข้อมูลไม่ค่อยได้สาระเยอะเท่าไหร่ ต้องมากันเอง เอาตรงๆว่าไปเดินถ่ายรูปเล่น ลงรูปรัวๆ หากข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยนะคะ
ที่นี่ร่มรื่นและดอกไม้เยอะมาก เปรมสุดๆ ดอกไม้สวยๆ ช่างควรคู่กับผู้หญิงอยากสวยอย่างเราเหลือเกิน
จะไปดูทุ่งดอกกระเจียวไกลๆทำไม ที่นี่ก็มีนะ หน้าฝนช่วงนี้กำลังงามเลย
สดชื่นนนนนนนนนนนนนนนนน
ใช้สายตาจดจ้องแต่คอมกับมือถือ เปลี่ยนบรรยากาศมามองสีเขียวบ้าง มันชื่นใจจริงๆ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว
เรารู้สึกดีกว่าสวนรถไฟตรงที่ไม่มีคนเยอะ ดอกไม้เยอะกว่า ไม่มีจักรยานปั่น ไม่วุ่นวาย คนก็มีพอประมาณ ส่วนใหญ่จะเริ่มมาตอนเย็น สะอาด และแลดูเข้มงวดด้วย ก็เป็นสวนของแม่นี่นา เราต้องมาเที่ยวแบบเรียบร้อยนะคะ
มีสายตาจ้องมองเราอยู่รอบสวน แต่รู้สึกปลอดภัยดี
ตากล้องเยอะนะ ส่วนใหญ่มาถ่ายรูปกัน ดอกไม้ก็เยอะ มาถ่ายกับชุดครุย ถ่าย Pre Wed กันตามประสา ตรงไหนมาคนเยอะๆเราก็หลบมาอินดี้ นั่งคนเดียว ..........................แต่เห็นแว๊บๆมามีฝรั่งมาแอบถ่ายรูป
เค้าจะรู้มั้ยเนาะ ว่าเรากำลังตั้งกล้องถ่ายตัวเองอยู่เหมือนกัน 5555555
เลยแอบถ่ายคืนพี่แกมั่ง
นั่งเล่นอยู่ดีๆ ได้ยินเสียงเพลงมาแต่ไกล เพลงเพราะมาก เป็นเพลงบรรเลง เพลงพระราชนิพนธ์ทั้งหมด แต่ละเพลงคุ้นหูจัง ดังมาจากทางไหน เห็นลิบๆ มีน้ำพุดนตรีด้วย น่าจะเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยนะ เดินมาไกลแล้วขี้เกียจเดินกลับไปตรงนั้น คิดว่าเดี๋ยวคงเปิดอีก แต่กลับไปอีกที รอแล้วรอเล่าก็ไม่เปิด
สระน้ำคดเคี้ยว รูปตัว ส และ S ผสานกัน จะตั้งอยู่กลางสวน สื่อความหมายการเฉลิมพระเกียรติ ด้วยอักษรแรกของพระนามาภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
มาหาดูในเว็บอีกที เห้ย! มีเปิดกลางคืนด้วย แสงสีสวยเลย แต่ถ้าเปิดจริงจังคงช่วงมีงาน ที่สวนจะมีงานบ่อย(ดูจากเว็บ) เช่นงานสีสันพรรณไม้ หรือค่ายเยาวชน ให้เด็กน้อยมาศึกษาพรรณไม้ นึกภาพน้ำพุไม่ออก เอารูปน้ำพุเล็กที่เราถ่ายมาไปดูก่อน ดูทรงน่าจะประมาณนี้เวลาเปิด แต่เป็นรูปตัว S กับ ส สวยงามตามท้องเรื่อง
รอตามเวลาแล้วทำไมไม่เปิดอ่ะ
แดดงี้เปรี้ยงเลย มาทำไมกลางวันแสกๆ อ้าวก็ตอนเย็นไม่ว่างอ่ะ เวลานี้แหละ แสงเต็มที่แล้ว เดี๋ยวกล้องกากๆเราแสงไม่พอ ตอนเย็นคนเยอะแน่ๆ
ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่อีกอย่างนึงที่เราชอบคือ ผู้พิการทางสายตาก็ชมสวนและสัมผัสถึงจินตนาการได้ว่าสวนนั้นงดงามเพียงใด เป็นพระมหากรรุณาธิคุณ
สวนพระมหากรุณาธิคุณเพื่อผู้พิการทางสายตา สร้างขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาได้มีโอกาสเพลิดเพลินท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมกับการเรียนรู้และสัมผัสพืชพรรณไม้หอมประเภทต่างๆ โดยทำเป็นเส้นทางเดินระยะสั้นๆ ที่สามารถใช้มือสัมผัสป้ายอีกษรเบรลล์ พร้อมฟังเสียงบรรยายถึงพรรณไม้ต่างๆในบริเวณนี้
แต่ตอนเราไปยังไม่มีเปิดเสียงนะ อันนี้ไม่แต่ใจว่าต้องให้เปิดปิดเป็นเวลาหรือเฉพาะตอนผู้พิการทางสายตามา
เยี่ยมชมเฉพาะหรือเปล่า
มีสัตว์น้อยใหญ่ ปั้นนูนๆ ให้ได้สัมผัส น่ารักจัง
เดินๆมาสะดุดตรงต้นนี้ ชื่อก็ไทย ดอกก็สวย (คือชอบดอกไม้สีขาวอยู่แล้ว) แถวยังเป็นเถาเลื้อยอีก
ชอบไปใหญ่ ถ่ายรัวๆ
เดินไปเรื่อยๆ ไม่เหงา ไม่วังเวงเท่าไหร่ จะเจอ จนท.มารดน้ำต้นไม้ เก็บใบไม้ ทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา รู้สึกเหมือนเป็นคุณหนูในบ้านหลังใหญ่ เดินชมสวนอันกว้างขวางบ้านตนเอง
"นายชด เอารถมารับชั้นด้วย" (ปกติคนขับรถต้องชื่อนายชด) 55555 มโนหนักมาก
พลับพลึงหนู น่ารักอีกแล้ว ชอบดอกไม้สีขาว ตอนเด็กๆเคยอ่านหนังสือเจอว่าใบพลับพลึงเอามาย่างไฟ
แล้วพันขา จะแก้ปวดได้ อันนี้นานมาก ไม่แน่ใจ
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ล้อมรอบไปด้วยสวนพฤกษศาสตร์ที่รวบรวมสายพันธุ์ต่าง ๆ ของพรรณไม้หลายชนิด ให้เด็กๆได้ออกมาเดินดูสวนกันจริงๆเถอะค่ะ อ่านแต่หนังสือ ดูรูป มันจะเท่าสัมผัสของจริงได้ยังไง
หลายต้น ผู้ใหญ่อย่างเราก็ยังไม่รู้จักเลย
ต้นยางอินเดีย
ดีใจที่ป้ายยังใช้ชื่อเดิม เพราะรู้สึกชอบชื่อเดิมมากกว่าลีลาวดี
นี่ไง นี่ไง ที่รถติดเยอะๆอ่ะ มาถึงแล้วววววววว อ่านป้ายตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไร แต่พอเงยหน้าดูเท่านั้นแหละ เอ่อ.....คืออะไรจะเศร้าขนาดนั้นน่ะ คือรู้สึกเศร้าจัง แอบหลอนเบาๆด้วย ตอนแรกกะจะเดินเข้าไป เปลี่ยนใจ
ไม่มีกว่า เงียบ ไม่มีคนเลยตรงนี้ เหมือนมีพลังงานบางอย่าง เจนสัมผัสด้าย สัมผัสเข็มมาก
ดีที่หญ้าแฉะนะเลยไม่เข้า(ข้ออ้าง)
มีสัตว์เลี้ยงด้วย
เดินดูนั่นนี่ไป ข้างหลังที่เป็นพุ่มไม้นี่ถ้าถ่ายมุมสูงจะสวยมากนะ อยู่ด้านหน้าอาคารประชาสัมพันธ์พอดี
ถามว่ารู้ได้ไงว่าจะสวย คือเห็นในรูปละ
เหมือนกำลังเล่นแรลลี่ มาตามหาสถานที่ตามป้ายกันเหอะ ลานอโศปล่อยกผ่านไป เราเจอมาละ
ซึ่งเราก็ไม่ค่อยรู้ว่าอันไหนเป็นอันไหน แล้วทางไหนมันทางไหนล่ะ ไปไหนไม่ชอบดูแผนที่ก็งี้แหละ
เดินมั่วไปหมด หลงกลับมาที่เดิมก็มี
สวนหิน (รึเปล่านะ)
สวนปาล์ม
ลานชบา
ลานบัว
เหนื่อยก็พัก
อ้าวๆ เดินไปไหนล่ะนั่น
ฉันเป็นเกษตรกร
อ๊ะ! หลงทางมา เจอบ้านคนแล้ว แวะขอน้ำกินดีกว่า #มโนหนักมาก
มีใครอยู่มั้ย???
จำลองมาเป็นหมู่บ้านเลย น่ารักมาก แต่จะมีเชือกกั้นไม่ให้เข้า น่าจะเปิดให้ใช้ตอนมีงานสำคัญ
เลี้ยงสัตว์ด้วย วัว ไก่ แพะ หมู แต่ปลอมนะ ล้มเลยหมูน้อย
มานี่ก็เจอต้นสาละอีกแล้ว
สิ่งที่คิดว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่อีกอย่างหนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นอันนี้นะ อันนี้คิดเองเออเองอีกละ คือเพิ่งมาเดินสำรวจอย่างจริงจัง คือเพิ่งรู้ว่ามีด้วย เซอร์ไพรส์มากอ่ะ ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้กลางเมืองใหญ่ เหมือนหลุดมาอีกโลกนึง
อุโมงค์ต้นไม้!!!!!!
ก็กลัวๆ ไม่กล้าเข้านะ แถวนี้ไม่ค่อยมีคนมาเดินเลย แต่มาละ คงไม่มีอะไรหรอก
มันน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่คิดว่าจะมีอุโมงค์ต้นไม้กลางเมือง พยายามมองออกไปข้างนอก ไม่เห็นอะไรเลย เป็นกิ่งไม้ ต้นไม้ป่าเต็มไปหมด เหมือนเราเดินอยู่ในป่าจริงๆ ได้ยินแต่เสียงน้ำไหล เป็นป่าชื้นเลย
บางทีก็กลัวมีสัตว์หรือแมลงอยู่นะ กล้าๆกลัวๆ เงียบเหมือนไม่ได้อยู่ในกรุงเทพเลย
มีสาระแฝงนะพูดเป็นเล่นไป ไม่ใช่เดินเข้าเดินออกอย่างเดียว น่ารักดีอ่ะ
เธอเป็นกระต่ายจริงรึเปล่า บอกชั้นมานะ!!!!
เดินเท่าไหร่ก็ไม่เห็นทางออก จะถอยกลับดีมั้ยนะ
เห็นแสงแล้ว เราเจอทางออกแล้ววววววว เย้ๆๆๆๆๆๆ มโนว่าตัวเองเป็นอลิซในแดนมหัศจรรย์
เริ่มเดินเยอะ อากาศเริ่มร้อน เข้าไปหลบในห้องแอร์ดีกว่า
อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริต่าง ๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รูปภาพและรายชื่อพรรณไม้ที่น่าสนใจในสวน เฉพาะอาคารเฉลิมพระเกียรติเปิดให้เข้าชมอังคาร-ศุกร์ 9.00-17.00 น. เสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00-18.00 น. ปิดวันจันทร์
แค่ทางเข้าก็ร่มรื่นละ
เมล็ดพืช
แพรวา ผ้าสวย เรารู้อยู่อย่างเดียวว่าแพงมาก เมื่อก่อนสตรีภูไทจะทอไว้คนละผืนเพื่อใช้ในพิธีสำคัญ
แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ เราจึงเห็นแพรวาถูกทออย่างแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้ (รูปเลือนไปหน่อย)
ข้าวสังข์หยด ข้าวพื้นเมือง จ.พัทลุง
เมื่อก่อนตอนเด็กๆเรียกหญ้าลิเภาตลอด โตมาถึงเข้าใจว่าเรียกว่าย่านลิเภา "ผลิตภัณฑ์จากย่านลิเภา"
จิ้ม จิ้ม จิ้ม
บ่ายแก่ๆ อากาศเริ่มร้อน คงได้เวลากลับแล้วสินะ
เดินๆไปจะใกล้ทางออกละ เจอเข้าถึงกับชะงัก!!!
ว๋ายยยยยยย น่าร๊ากกกกกกกกก กอไก่ล้านล้านตัว ไฮไลท์ของที่นี่สินะ (ไฮไลท์อีกแล้ว) ความจริงพอจะรู้มาเนิ่นๆแล้วว่าจะมีคลับของคนรักเจ้าตัวนี้มาที่สวนนี้ทุกๆเสาร์ อาทิตย์ จะมากันช่วงบ่ายๆ ยั๊วะเยี๊ยะเต็มไปหมด
เป้าหมายของเราเลยแหละ
แพรี่ด็อก หรือกระรอกดิน อ๋ายยยยยย อ้วนตุ้ยเลยลูก อยากจิ้มพุงจริงๆเลย ถ่ายรูปรัวๆ นั่งคุยกับเจ้าของซะนาน ถุงเงินกับถุงทองนี่อ้วนจริงๆเลยนะเธอ
อยากเลี้ยงมานาน แต่ไม่มีโอกาสเลี้ยงซักที
โถๆๆ หนูเข้าไปอยู่ในนั้นแล้วเย็นใช่มั้ยลูก
ไม่เอาอย่าแย่งกานนนนนน อย่าทะเลาะกันสิคะลูก
ก็ของถุงเงินนะ ถุงทองไปเล่นนู่นเลยไป
นี่แถวนี้เค้าห้ามขุดนะลูก
เบื่อพวกมนุษย์จริงๆเลย เอะอะก็ห้าม
เพลียแดดมาทั้งวันยังเดินไม่ทั่วเลย เป็นร้อยๆไร่ เดินอย่างเดียว บอกเลยไม่ทั่วจริงๆ เอาไว้ว่างๆจะมาใหม่ ไม่มีจักรยานให้เช่าเหมือนสวนรถไฟ แต่เราชอบนะ ก็เดินกันอย่างเดียวดีแล้ว ร่มรื่นดี มีจักรยานมันวุ่นวาย
จักรยานมีให้เจ้าหน้าที่ปั่นสำรวจรอบสวนก็พอ
โดยเฉพาะดอกไม้นาๆชนิดย่อมเปลี่ยนตามฤดูกาล รับรองว่าจะมาเที่ยวเล่นอีกแน่นอน มาดูดอกไม้แต่ละฤดูกันนะ
อ่อ....ช่วงเย็นๆถ้าคนเริ่มเยอะแล้ว ถ้าไม่เปิดเพลงพระราชนิพนธ์จากน้ำพุ ในสวนจะเปิดเพลงแนวลูกกรุง
คลอเบาๆด้วย ผ่อนคลายมาก
อ่อ...ที่สำคัญ อย่าลืมมาเล่นกับพวกเราด้วยน้าาาาาาาา มาทุกเสาร์ อาทิตย์เลย
แต่พวกเรากัดนะ กลัวเค้ารึเปล่า แง่มๆ 55555
ไม่เข้าใจพวกมนุษย์เล้ยยยยยยย เอาเชือกมารัดทำไม ติดคอติดพุงไปหมด ไม่หนีไปไหนหรอก
เค้าขุดดินอยู่แถวนี้แหละ
ไปละ วันหลังมาใหม่
อ่อ อ่อ เดี๋ยวๆ นี่กระทู้เก่า กับการผจญภัยคนเดียวของเรา
http://pantip.com/topic/33908302 ไปคนเดียว รูปเดี่ยวเป็นร้อย >>นั่งรถไฟเที่ยว งบไม่ถึง 500 บาท
http://pantip.com/topic/34015333 แบกเป้ :)ไปหลงเสน่ห์เมืองเก่า ปั่นจักรยานคนเดียว เที่ยวอยุธยา
http://pantip.com/topic/34102646 ข้ามน้ำจากเมืองกรุง มาคุ้งบางกะเจ้าคนเดียว
http://pantip.com/topic/34131104 สี่ชั่วโมงกับเงินร้อยเดียว เดินเดี่ยว เที่ยวย่านกุฎีจีน
ใครชอบเที่ยวคนเดียว เข้าไปคุยกันได้ที่เพจ "จะเที่ยวคนเดียว Lady Journey" นะคะ
ไปจริงแล้วววววววววว