ขี่กลับมาตรงแถวแยกข้างบนเป้นโครงการล้างตัวสะหน่อย สอบถามชาวบ้านได้การว่าฝนมันไม่มีเลยนะที่จริง มันพึ่งจะมาตก สองคืนนี้เองที่เรามา ทางมันก็เลยโคตรเละแบบที่เล่าไปนั้นแหละ แหม ฝนตกทีชีวิตเปลี่ยนจริงๆเลยนะ ทางลุยๆแบบนี้ 555
หลังจากหายเหนื่อยแล้ว เป็นเวลา 10โมงกว่า ได้เวลาออกแล้ว ตอนแรกถอดใจว่าเหนื่อยากเช้านี้สงสัยคงไปหาที่กางเต็นง่ายๆดีกว่าเช่นดอยเสมอดาว เลยขี่ลงไปหาไรกินก่อน
วิวระหว่างทางหมู่บ้านมณีพฤกษ์ สวยจับใจ
แต่หลังจากลงมาถึงพื้นราบ กินข้าวแล้ว เวลาเที่ยงกว่าๆ เริ่มหายเหนื่อยเลย ตัดสินใจไปสวนยาหลวงดีกว่าไหนก็ตั้งใจมาแล้ว จนขี่มาถึงหมู่บ้าน ฝนเจ้ากรรม ดันตกฝั่งบนเขาอีก ตายละหว่า มันจะเหมือนเมื่อเช้าไหมนี้ เลยสอบถามชาวบ้านที่เขากำลังจะพานักท่องเที่ยวขึ้นไป เลยตัดสินใจว่าขึ้นไปกระบะจอยกับเขาก็ได้ เพราะไม่รู้ว่ามันจะเละแบบเมื่อเช้าไหม ถ้าเหมือนเมื่อเช้าแย่แน่ ระยะทางดิน 8 กิโล และชันกว่าผาผึ้งพอสมควร ก็เลยต้องยอมด้วยข้อจำกัด รอบนี้มันคันเดียว เผื่อเกิดอะไรขึ้นมันจะไม่คุ้ม ช่วงนนี้ไปคันเดียวต้องเซฟตัวเองมากขึ้นไปใจกล้ามากก็ไม่ปลอดภัย ต้องใจเย็นๆ
ให้ดูรองเท้าเสียหน่อย พาราเดียมซื้อตอนลดราคา 2000กว่าบาท ใช้ใส่ทุกงาน ไปทำงานออฟฟิตก็ใส่กับสแลคได้งานบวชงานแต่งกะยีน หรือใส่เดินป่าก็ดีมีลื่นแค่บางเขาส่วนใหญ่จะผ่านฉลุยไม่เจ็บเท้า เดินมาหลายเขาแล้ว ขับมอไซด์ยิ่งดีลุยน้ำลุยโคลนสบาย เป็นรองเท้าที่ดีมากเลยครับ แนะนำเลยอเนกประสงค์จริงๆใช้มาปีพอดี ใส่ทุกงานยังไม่พัง แต่กาวที่หัวเริ่มปริลุยน้ำบ่อย
เข้าเรื่องกันต่อหลังจากตัดสินใจนั้งรถเขาขึ้นไป เลยขอเขาอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวขึ้นไปกางเต็นชิวๆบ้าง
พูดถึงเส้นทาง ตรงนนี้น่าเสียดายมาก เพราะเขาพึ่งให้รถไถมาไถหน้าดินใหม่จนเกือบถึงยอดแล้วครับ ทางส่วนใหญ่จะเป็นแบบในรูป ถ้าขี่มอไซมาขึ้นง่ายสบายมากแน่นอน แล้วก็ไม่ได้เละแบบผาผึ้งเมื่อเช้า
ช่วงถึง4 โลแรกจนถึงสวนกาแฟ จะเป็นประมาณนี้หมด ฝนหยุดไปแล้วแต่ทางไม่ได้ลื่นอะไร นี้คืออีกข้อที่ว่าไม่น่าทะลึ่งมาคันเดียว เพราะถ้าผมมีเพื่อนมาด้วยอีกคัน ผมกล้าลุยขึ้นแน่นอน ช่วยกันยังไงก็รอดถึงแน่ๆ ทางแบบนี้ แต่ก็นั้นแหละ ไม่เป็นไร ถือว่า พักร่างกายละกันขี่รถมาตั้งแต่เมื่อคืนยังไมไ่ด้นอนเลย นั้งเฉยๆก็ได้
แสงแดดยามบ่าย3 เริ่มอุ่นๆ
หลังจากพ้น 4 โลแรกที่ว่าง่าย มาถึง 4 กิโลหลักจะเลเวลยากขึ้น ดินยังไม่ได้รับประปรับหน้าดินใหม่จะมีความต่างระดับพอสมควร แต่ประเมินแล้วถ้าเป็นมอไซวิบากหรือมอไซเล็ก สามารถไปได้แบบไม่ยากจนเกินไปครับ หาเพื่อนมาด้วยกันสักสองคันขึ้นได้แน่นอนช่วงนี้
ส่วนกระบะก็พันโซ่เผื่อกันหน่อยอันนี้ก็แล้วแต่สถานที่นะครับว่าเขามีการจัดการเรื่องพันโซ่กันอย่างไร
และแล้วเราก้มาถึง ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงหน่อยๆกับระยะทางดิน 8 กิโล
วิวสวยงามกับภูเขาสุดลูกหูลูกตา 360 องศา
ผมเลือกกางบนยอดเลย มีแค่ผมสองคน กับอีกกลุ่มนึง ส่วนกลุ่มที่เหลือบ้างก็นอนบ้านพักที่ไร้กาแฟ หรือกางเต็นที่ศาลาในรูป
หลังจากกางเต็นได้ไม่นาน แสงอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้า
ถ่ายรูปแสงเย็นกันหน่อย
วันนี้อากาศดีเย็นลมนิ่งสงบ คาดว่าตอนเช้านะจะได้เห็นทะเลหมอกเช่นกัน ลุ้นด้วยความหวัง
หลังจากถ่ายแสงเย็นแล้วก็มาทำอาหารเย็นง่ายๆ ต้มยำปลากระป๋อง มื้อนี้ทำกินเอง เตรียมหม้อเตามาหมด ยิ่งเดินทางอุปกรณ์ยิ่งมากขึ้น
กับมื้อค่ำแสนโรแมนติกกับดวงดาวนับล้าน ลมเย็นๆหนาว
ดวงดาวสวยงามแจ่มจรัสมาก แต่เสียดายรอบนนี้มีแค่เลนส์kit 18-55 อันเก่าไม่ใช่ว่าเลนส์รุ่นนี้ไม่ดี แต่เลนส์ของผมมันเก่า เลนส์มัวๆ โฟกัสไม่ค่อยดีด้วยทำให้รูปดาวออกมาชดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่ก็ยังถ่ายได้พอประมาณครับ
ดาวจริงๆสวยงามมาก มีแสงไฟข้างล่างด้วย
รูปนี้ก็เบลอซะงั้น555 คืนนั้นก็หลับกันด้วยความเพลีย ผมนอนน่าน ส่วนฟางนอนพะเยา 555 พึ่งมาสังเกตตอนเช้าเรากางเต็นตรงกึ่งกลางเสาธงพอดีเลย
อรุสวัสดิ์ยามเช้า ประมาณเกือบ 6 โมงก็มีรถกระบะนำพานักท่องเที่ยวจากบ้านพักขึ้นมาเราก็ตื่นมาดูแสงแรกของวันกัน แล้วก็เป็นไปตามคาดทริปนี้โชคดีได้เจอทะเลหมอกทั้งสองวัน
ไปดูภาพกันเลยบรรยากาศยามช้าที่สวนยาหลวง
ว่าด้วยเรื่องเต็นท์ทริปนี้ทริปแรกของเจ้า K2 ทริปนี้ยังไม่เจอฝนเจอแต่น้ำค้างแรงพอสมควร ก็นอนหลับสบายไม่เหมือนจะซึมบางๆ ถ้าเทียบกะเนเจอร์ไฮที่ใช้ทริปก่อนภูสอยดาวกะที่ไปทับเบิกมา สเปคต่างๆเท่ากัน แต่ชอบวัสดุเนเจอไฮ มากกว่า แต่ว่าสีที่ซื้อไม่ค่อยสวย555 K2 จัดโปรเลยไปจัดมาเพิ่มครับ
ดูรูปกันต่อยาวๆไป
กดไปเรื่อยๆไม่รู้จักเหนื่อย 555
สวยงามชื่นใจ ประทับใจมากๆ
พึ่งตื่นหัวมันก็จะเรียบแป้ เหมือนใส่หมวกกันน็อคไปหน่อย อิอิ
ถ่ายจนหนำใจ ก็ได้เวลามื้อเช้าแสนอร่อยของเราหนีไม่พ้นมาม่า คัฟ เพื่อนแท้เวลาออกทริป55 ไม่ได้ประหยัดแต่มันกินง่ายและซดน้ำร้อนๆตอนอยู่บนดอยหนาวๆนี้มันฟินจริงๆนะ มื้อเช้าส่วนใหญ่บนดอยของผมก็จะเป็นมาม่าคัฟนี้แล
ชนมาม่ากันหน่อย
ป้ายแบ่งเขตจังหวัดน่านและพะเยา
มาถึงสวนยาหลวงอย่าลืมกินกาแฟ ตอนเช้ากลุ่มนำเที่ยวชาวบ้านก็จะพานักท่องเที่ยวขึ้นมาและมีทำกาแฟกันสดๆบนยอดเลย กลิ่นหอมยิ่งนักแต่เป็นคนไม่กินกาแฟ แค่ดมๆก็ชื่นใจ 55
ได้เวลาเก็บของลงกลับ
ลงมาที่จุดพระพุทธรูป ด้านล่างตรงนนี้มีห้องน้ำด้วย แต่น่าจะไม่มีน้ำ ลืมบอกบนดอยไม่มีอะไรให้คุ้นเลยใครจะกินจะทำอะไรต้องเตรียมมาเองทุกอย่าง และช่วยกันรักษาความสอาดด้วยนะครับ
จากนั้นก็ลงมาที่สวนกาแฟ 4โลตรงจุดบ้านพัก ของนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้นอนบนดอย เรารอกลุ่มที่ขึ้นมาด้วยกันอาบน้ำแต่งตัว เลยเดินดูสวนกาแฟกันหน่อยครับ
สีสันสดใส
ก่อนลงมีข้าวต้มให้กิน ขอถ่ายรูปกับน้องๆ (ถามอายุไปหน่อยจริงๆรุ่นๆเดียวกันแต่ผมหน้าแก่ไปหน่อยเลยเรียกว่าพี่ อิอิ ) ที่ขึ้นมาพร้อมกันหน่อยขออนุญาตเอารูปมาลงแล้ว
ป้ายครึ่งทาง
ถ่ายรูปเล่นเรื่อยๆเก็บบรรยากาศรอบๆคัรบ
เส้นทางที่เรามา
จากนั้นก็ลงถึงพื้นราบอย่างปลอดภัย ได้เวลาเดินทางกลับ ชำระค่าเสียหาย ค่ารถขึ้นลง อันนี้ไม่ได้ถามราคาก่อน สรุปเป็นว่าเขาคิดผมคนละ 800 บาท ผมสองคนก็โดนไป 1600 บาทครับ จะถูกหรือแพงก็แล้วแต่ลองติดต่อสอบถามกันเอานะครับใครจะขึ้น แต่ว่าพี่ที่พาขึ้นดูแลเทคแคร์ดีมากครับเป็นกันเอง สนุกสนานเหมือนมาเที่ยวกับเพื่อนดีครับ
มาต่อกันที่อีกจุดของหมู่บ้านสันเจริญ
น้ำออกรู
ดูดีๆน้ำมันออกมาจากรูจริงๆนะครับ เขาเลยเรียกว่าน้ำออกรู
จากนั้นก็ยิงยาวกลับเข้าเมือง มาหาขนมหวานร้านป้านิ่มกินหน่อย อร่อยติดใจมารอบก่อนรอบนนี้ย้ายร้านยังต้องตามมากินให้ได้ ไอติมบัวลอยอร่อยมาก มีหลายอย่างแต่ชอบอันนี้มากครับ ใครมาเมืองน่านอย่าลืมแวะมาลอง ขนมหวานป้านิ่มด้วยนะครับ
ออกจากน่านประมาณ บ่ายโมงกว่าๆ รอบนนี้ไม่มีจุดหมายอะไรแล้วยิงยาวอย่างเดียว
ถึงแพร่ต้อง แช๊ะ สักภาพ
ปิดท้ายด้วยแสงเย็นระหว่างทางแถวกำแพงเพชรเข้านะครสวรรค์ฟ้าเย็นนี้กสวยไม่แพ้วันก่อน แต่ว่าสายไฟเยอะไปหน่อย
แวะกินข้าวอีกมื้อตรงออกจากเลื่องเมืองนครสวรรค์ ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ประมาณ 5ทุ่มพอดี จบทริปมันส์ๆ สองวันสองคืน กับระยะทาง1700 กว่าโล แต่ว่าเหมือนไมล์จะเพี้ยนที่จริงน่าจะวิ่งไม่ถึงเพราะหมดน้มันไปแค่1600กว่าๆ555 ปกติบิดเท่าเดิมค่าน้ำมันน่าจะแซงกิโลมานิดหน่อย แต่ก็คร่าวๆเท่าเดิม โลละ1บาทกับความเร็วไม่เกิน120
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆทริปนี้
ค่าน้ำมัน
100บาท 3.49ลิตร 230บาท7.97ลิตร 140บาท 4.83ลิตร 100บาท 3.47ลิตร
160บาท 5.58ลิตร 100บาท 3.51ลิตร 150บาท 5.28ลิตร 235บาท 8.304ลิตร
100 บาท 3.34ลิตร 150 5.16ลิตร 220บาท 7.70 ลิตร
ทั้งหมด 1685บาท 58.634ลิตร วิ่งไป 1754โล แต่จริงๆน่าจะแค่1600จากที่กดดูแมบมาตอนวางแผนไมล์มันน่าจะเพี้ยนเพระาเปลี่ยนเสตอเป็น 42 ฟัน
ค่ารถกระบะสวนยาหลวง 1600
มื้อเช้าผาผึ้ง 50
มื้อกลางวัน 100
มื้อกลางวันกลับ 100
ป้านิ่ม 50
มื้อเย็นนครสวรรค์ 100
และจิปาถะอีกเล็กน้อย รวมทั้งหมดทริปนี้หมดคนละประมาณ 1900 บาท
จบไปอีกหนึ่งทริปอย่างมีความสุข ขี่รถกันอย่างเมามันส์ทั้งวันทั้งคืน แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าจะพาไปเชียงใหม่อีกแล้วจ้า