อีกมุมหนึ่งของเขา...ดอยหลวงเชียงดาว ณ สันป่าเกี๊ยะ

 

ทริปนี้จะไปสัมผัสอีกมุมของดอยหลวงเชียงดาว การเดินทางในน่าฝนทำให้ได้สัมผัสทั้งสายหมอกและสายฝน อีกทั้งได้เห็นความเขียวชอุ่มของธรรมชาติ ยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่น โดยเลือกการเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยรถไฟฟรี เหตุที่เลือกเดินทางด้วยรถไฟเพราะอยากลองสัมผัสอีกบรรยากาศหนึ่งที่ยังไม่เคยได้ลองในการเดินทางไปเชียงใหม่ ก็รู้สึกประทับใจนะกับการเดินทางโดยรถไฟ มันได้บรรยากาศที่สวยงามระหว่างเส้นทางที่รถไฟผ่าน และได้เห็นวิถีชีวิตอีกแบบที่เราไม่คุ้นเคย มันดูมีเสน่ห์ดี แต่จะลำบากก็ตอนนอนนี่ล่ะ 

สำหรับรถไฟฟรีไปเชียงใหม่มีเพียง ขบวน 109 ขบวนเดียว เริ่มออกเดินทางจากสถานีหัวลำโพง 13.45 น.ถึงเชียงใหม่ก็ประมาณตี 05.00 น.พอถึงเชียงใหม่ก็หาอาหารเช้ากิน จากนั้นก็นั่งสี่ล้อแดงเข้าเมืองเพื่อไปรับมอไซค์ที่เช่าไว้ 

เริ่มออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ก็ประมาณ 10.20 น.พาหนะในการเดินทางคือมอเตอร์ไซค์ โดยใช้เส้นทาง 107(เชียงใหม่-ฝาง) พอระหว่างหลักกิโลที่ 67-68 จะมีป้ายบอกไปหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน 21 กม. (จะอยู่ก่อนถึงตัวอำเภอเชียงดาว) ก่อนขึ้นดอยก็แวะเติมเสบียงเนื่องจากด้านบนไม่มีอาหารต้องเตรียมไปเอง โดยขับเลยทางขึ้นมาหน่อยฝั่งตรงข้ามจะมีตลาดหลังจากนั้นเดินทางขึ้นดอยถนนเป็นทางลูกรัง ลาดชัน เหมาะสำหรับรถ 4*4 (โดยเฉพาะช่วงน่าฝน) ให้วิ่งตามป้ายหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน พอขับมาเจอหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ให้ขับเลยหน่วยมาประมาณ 600 ม.จะถึงสถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ หมอกฝนบดบังดอยหลวงเชียงดาว

ในส่วนที่พักด้านบนมีบ้านหลังเล็ก 3 หลัง ราคา 1000 บาท ครั้งนี้ไปได้พักหลังใหม่ พักได้หลังล่ะประมาณ 5-6 คน มีอุปกรณ์ครัว เตาแก๊สให้พร้อม แต่ต้องเตรียมอาหารไปเอง ห้องน้ำมีน้ำอุ่นระบบแก๊ส ที่นี่สามารถกางเต็นท์ได้ 

พักหลังนี้ มาถึงก็บ่าย3 กว่าๆ ห้องนอนและห้องครัววันที่ไปไม่มีใครเลย เงียบสงบมากเจอทั้งหมอกทั้งฝน แต่บรรยากาศก็สมกับที่เดินทางขึ้นมาแม้จะไม่ได้เห็นดอยหลวงเชียงดา แบบเต็มๆ แต่บรรยากาศก็ดีมากๆ  บรรยากาศช่วงเย็นๆ

นอกจากจุดชมวิวที่สันป่าเกี๊ยแล้ว ใกล้ๆกันยังมีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม คือที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน (ที่เราขับผ่านมาตอนแรก) แต่วันที่ไปเจอแต่สายหมอกสายฝน จึงไม่ได้ชมพระอาทิตย์ตก แต่ก็ได้ชมวิวช่องเขาและสายฝนที่สวยงาม 

สายฝนพร่ำ

 

กลับมาที่พักก็หวังว่าคืนนี้จะได้เก็บดาว แต่เสียดายฝนตกตลอดคืนยันเช้า 

กว่าจะลงได้เกือบเที่ยง

ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่สามารถชมดอกพญาเสือโคร่งได้ถ้ามาในช่วงที่ออกดอก จะได้บรรยากาศที่สวยงามอีกแบบ

กะจะลงจากที่นี่ตั้งแต่เช้า เพื่อไปพักต่อที่ "บ้านระเบียงดาว" แต่ฝนตกตลอด รอจนถึงเกือบเที่ยงจึงตัดสินใจลง ขาลงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากฝนตกทางลื่น (ล้มไป 2 รอบ) หลังจากลงดอยมาอย่างปลอดภัยรถมอไซค์ยางรั่วไป 1 คันต้องหาที่ปะยาง ก่อนเดินทางไปบ้านระเบียงดาวต่อไป