ทริปพักร้อน : นั่งรถไฟไปบ่อนอก นอนวาฏิกา พากันเที่ยวเขาสามร้อยยอด
มีนาหน้าร้อน พระอาทิตย์ขยันทำงานเหลือเกิน กำลังคิดเพลินๆ ว่าอยากพาใครคนนั้นไปหาที่พักร้อนสักแห่ง ก็พอดีได้รับการติดต่อจากรีสอร์ท วาฏิกา รีโซวิลล่า กุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าชอบรูปถ่ายของผมจังเลย สนใจมาถ่ายภาพ มารีวิว ที่นี่บ้างไหม อุต๊ะ... แบบนี้จะตอบเป็นอย่างอื่นได้ยังไง
เปิดเน็ต เข้าอากู๋ เสิร์ชหาข้อมูลทันใด คำชมเยอะทีเดียว พอจัดคิวว่างตรงกับคนพิเศษก็รีบแจ้งรีสอร์ททันที ได้คำตอบมาว่าสะดวกมากมาย ยินดีต้อนรับอย่างยิ่งค่ะ
ฉีกปฏิทินข้ามมาถึงวันเดินทาง รีสอร์ทโทรศัพท์มาสอบถามว่าผมจะไปอย่างไร ก็ตอบไปแบบไม่อ้อมค้อมว่า “นั่งรถไฟฟรีไปครับ”
-------------------------------------------------------------
(1)
ทริปนี้ความจริงผมตั้งต้นลำพังจาก กทม. แล้วค่อยไปเจอใครคนนั้นที่รีสอร์ท เพราะบังเอิญอยู่ในช่วงเดินทางทั้งคู่ วิธีง่ายๆ จากเมืองกรุงคือขึ้นรถไฟฟรีที่สถานีธนบุรี ขบวน 255 ธนบุรี-หลังสวน เลือกลงที่ใดก็ได้ระหว่าง กุยบุรี หรือบ่อนอก ก่อนถึงตัวเมืองประจวบเล็กน้อย รีสอร์ทจะมีรถมารับเรา
เช็คอินสถานีรถไฟธนบุรี ยื่นบัตรประชาชนรับตั๋วฟรี มีเซอร์ไพรส์ออกตามเวลาเป๊ะ 7.30 น. ปุ๊บล้อเคลื่อนปั๊บ แต่วิ่งไปวิ่งมาสุดท้ายก็สายทีละนิดจนได้ เพราะจอดรอหลีกทางให้รถขบวนด่วนกว่าตามฟอร์ม (ฮา...)
วาฏิกา รีโซวิลล่า เป็นรีสอร์ทพื้นที่ไม่ใหญ่แต่บรรยากาศดีมาก ร่มรื่นสดชื่นต้นไม้เขียวไปหมด คอนเซ็ปต์ที่นี่ค่อนข้างโดดเด่นคือตกแต่งห้องพักสไตล์นานาชาติ และแต่ละห้องจะแต่งไม่เหมือนกัน เป็นที่มาของนิยามเก๋ๆ ว่า สัมผัสความแตกต่างทุกครั้งที่มาเยือน
ห้องพักมี 23 ห้อง สองรูปแบบคือ วิลล่าซึ่งเป็นบ้านหลังเดี่ยวมีสวนหย่อมเล็กๆ ในธีม บาหลี สยาม ยุโรป โบฮีเมียน ญี่ปุ่น จีน อินเดีย กับห้องคลาสสิคที่อยู่ภายในอาคารสามชั้น แต่งธีมนานาชาติเหมือนกัน โดยเป็นการใส่กลิ่นอายเล็กๆ ไม่อลังการเท่ากับแบบวิลล่า
รีสอร์ทอยู่ริมชายหาดบ่อนอก มีพื้นที่ให้พักผ่อน ทำกิจกรรม สระว่ายน้ำขนาดกะทัดรัด ทว่าต้องบอกนิดหน่อยครับว่าหาดบ่อนอกไม่ใช่ทะเลประเภทสวยใส ไปใส่บิกินี่เกลือกลิ้งอาบแดด เพราะเป็นชายหาดบ้านๆ ทรายสีค่อนข้างคล้ำ เสน่ห์ของมันคือเราสามารถพบเห็นวิถีชีวิตผู้คนที่ยังดำรงอยู่กันแบบเรียบง่าย หาปลาหาหอย ไม่เหมือนกับชายหาดท่องเที่ยวโดยปกติ
แขกน้อย บรรยากาศเงียบสงบมาก พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ผมว่าเป็นข้อดีที่สุดของรีสอร์ท นอกจากนี้ที่นี่ยังรับรางวัลคุณภาพเพียบจนบรรยายไม่หมด โล่ห์และใบประกาศติดอยู่เต็มสำนักงานที่ล็อบบี้
เรามีเวลาเหลือเฟือจึงขอดูห้องพักอื่นๆ เสียหน่อย จีน บาหลี สยาม ยุโรป ญี่ปุ่น ทุกห้องเก๋ไก๋จริงๆ โดยส่วนตัวผมชอบวิลล่าจีน กับบาหลี ที่สุด อลังการงานสร้างดีแฮะ
ส่วนห้องคลาสสิค อย่างที่บอกคือจะตกแต่งธีมนานาชาติแบบเล็กๆ ให้พอได้สัมผัสกลิ่นอายบางๆ
(2)
นอนเร็วตื่นเช้า นาฬิกาปลุกหกโมงปุ๊บก็เด้งลุกจากเตียง หยิบขาตั้งเดินไปชายหาดสัมผัสบรรยากาศสบายๆ ยามเช้าริมทะเลบ่อนอกช่างเงียบสงบ ชวนให้รู้สึกว่าชายหาดแบบนี้มีเสน่ห์กว่าหาดท่องเที่ยวเยอะเลย
วันนี้เรามีคิวออกไปเที่ยวข้างนอก วาฏิกา รีโซวิลล่า อยู่ในโซนเงียบสงบ แต่ห่างจากที่เที่ยวต่างๆ ของประจวบไม่ไกล เฉพาะอุทยานแห่งชาติมีตั้งสี่แห่ง เขาสามร้อยยอด กุยบุรี หาดวนกร น้ำตกห้วยยาง ถ้าในตัวเมืองประจวบก็มี เขาช่องกระจก อ่าวมะนาว เขาล้อมหมวก
กรณีไม่ได้ขับรถส่วนตัว รีสอร์ทมีรถตู้พาเที่ยว ค่าบริการแตกต่างกันตามระยะทาง ติดต่อกับรีสอร์ทดูครับ ส่วนผมเมื่อรีสอร์ทถามว่าสนใจเที่ยวไหนหรือเปล่า ผมตอบแบบไม่ต้องคิดว่า “เขาสามร้อยยอด” เพราะไม่ได้ไปหลายปี แถมอยู่ห่างจากออกไปไม่ถึง 20 กิโลเมตร
เขตอุทยานฯ เขาสามร้อยยอดยังมีที่เที่ยวอีกเยอะ ถ้ำแก้วก็อยู่ไม่ไกลถ้ำไทร ถ้ำพระยานครก็เที่ยวได้ในหนึ่งวันจากที่นี่ หรือล่องเรือคลองเขาแดงก็น่าสน แต่นั่นแหละครับหลังจากผ่านจุดชมวิวเขาแดง กับถ้ำไทร เหงื่อก็ย่อมโทรมกาย จึงโดนคำสั่งให้กลับไปนอนตากแอร์ที่วาฏิกา ณ บัดนาว (ฮา...)
-------------------------------------------------------------
(3)
วันนี้เราเปลี่ยนที่ที่นอนกันเล็กน้อย จาก วาฏิกา รีโซวิลล่า ไปยัง วาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค อยู่ห่างกันกิโลเมตรเดียว ถ้ามีรถส่วนตัวจะขับไปเองหรือให้รีสอร์ทไปส่งก็ได้ ถ้าเก๋กว่านั้นก็เอาจักรยานซึ่งรีสอร์ทมีไว้ให้ปั่นไป
จะพูดว่าทั้ง รีโซวิลล่า และ แอนเวนเจอร์ รีทรีทติค เป็นรีสอร์ทเดียวกันก็ได้อยู่ คือสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ไปมาหาสู่ได้ตลอด ที่แตกต่างคือ รีโซวิลล่าติดชายหาด เน้นการพักผ่อนสงบเงียบ ขณะที่ แอนเวนเจอร์ รีทรีคติค อยู่คนละฝั่งถนน ไม่ติดทะเล มีกิจกรรมผจญภัย ห้องพักสดใสแฟนตาซี
แฟนตาซีตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้า และพื้นที่โดยรอบ บอกว่าเป็นรีสอร์ทธีมสวนสนุกก็พอไหวนะ
ห้องพักทั้งหมด 41 ห้อง แบบแฟนตาซี ยังคงเอกลักษณ์ของวาฏิกาคือตกแต่งไม่ซ้ำกัน ถึงแม้บางห้องจะมีธีมเหมือนกันก็จัดวางคนละแบบ แบ่งเป็นสองโซนคือบ้านลอยฟ้า กับที่อาคารฟิเรนเซ่ ห้องเก๋มากจนอยากถ่ายรูปเก็บไว้ทุกห้อง
ห้องธีมรถไฟ ยานอวกาศ ตอไม้ ซีทรู ผ้าใบ ท่อไปป์ ยุคซิกซ์ตี้ โรงงาน และอีกเพียบสาธยายไม่หมด ขอลงภาพความแตกต่างรวมๆ ให้ชมครับว่าน่ารักขนาดไหน
สำหรับใครอยากพักผ่อนริมทะเล ฝั่งตรงข้ามคือพื้นที่ซึ่งรีสอร์ทจัดเป็นตลาดนัดสุดสัปดาห์ ให้ชาวบ้านนำสินค้า OTOP และของกินมาขาย ตกเย็นจะมีลานเบียร์ ดนตรีสด บังเอิญช่วงที่ผมไปเขากำลังรีโนเวต คงต้องรอโอกาสหน้า
ดินเนอร์มือเย็นเราทานกันที่ร้านเก๋ๆ ด้านหน้ารีสอร์ทชื่อ วีคาเฟ่ (Ve Kafe’) มีทั้งอาหาร ขนมหวาน เครื่องดื่ม ใครไม่ได้เข้าพักก็สามารถมาใช้บริการได้นะ ถือเป็นร้านพิซซ่าเพียงแห่งเดียวในโซนบ่อนอก
-------------------------------------------------------------
(4)
กินอร่อย หลับสนิท พักสบาย ตื่นมาสดชื่นเหลือเกิน เหมือนเดิมครับคือในวันที่แขกเข้าพักน้อย รีสอร์ทจะไม่จัดไลน์บุฟเฟ่ต์ แต่อาหารมาเต็ม เบิ้ลได้ สั่งเพิ่มตามสบาย
เมนูสปามีให้เลือกเพียบทั้งเพื่อความงามของสาวๆ ผ่อนคลาย ดูแลสุขภาพ อบสมุนไพร เราสองคนเลือกนวดน้ำมันอโรมา ที่นี่มีความพิเศษคือหมอจะนวดกดเส้นไล่เส้นให้เราด้วย ผสานนวดแผนไทยกับอโรมาไว้ด้วยกัน
ที่ผมชอบมากคือหมอนวดของวาฏิกามีความรู้และเชี่ยวชาญ ผ่านการเรียนทางด้านนี้มาอย่างถูกวิธี จากการนวดสามารถบอกได้ว่าเราผิดปกติตรงไหน หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีอย่างไร ไม่บ่อยนักที่จะได้นวดกับหมอเก่งจริงๆ แบบนี้
เราละเมียดละไมทานช้าๆ เหมือนไม่อยากให้หมด เพราะถ้าอาหารหมดก็คือได้เวลากลับ ทว่านั่นแหละครับ นาฬิกาต้องเดินไปข้างหน้า ในที่สุดก็จบลงกับการพักผ่อนแบบดีมากๆ ที่ วาฏิกา รีโซวิลล่า และ วาฏิกา รีทรีทติค แอดเวนเตอร์ ประจวบคีรีขันธ์
ที่เล่ามานี่ก็ไม่ใช่เพราะว่าไปพักมาฟรี แต่เพราะว่าที่นี่เขาดีจริงๆ คราวหน้าถ้าต้องจ่ายตังค์ก็ยอมครับ คนข้างๆ เขาเซ็นคำสั่งอนุมัติมาแล้วล่ะ (ฮา...)
----------------------------------------------------
ใครอยากคุยกับผมเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ
www.facebook.com/alifeatraveller
----------------------------------------------------