เป้สองใบ บุก ยอดเขาเทวดา

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรีหลายๆ คนคงนึกถึง โอ่งมังกร 

อุ๊ย!..ไม่ใช่ ต้องนึกถึง บึงฉวาก ตลาดสามชุก (ตลาดร้อยปี) อะไรเทือกๆ นั้น 


แต่ใครจะรู้ว่าจังหวัดสุพรรณบุรี ยังมีอุทยานแห่งชาติที่ทุกคนหลงลืม 
หรือบางคนไม่เคยแม้แต่ได้ยินด้วยซ้ำไป 
ที่มีนามว่า "อุทยานแห่งชาติพุเตย" 
และทริปนี้เป้สองใบกับเราสองคนขอส่ง

" ย อ ด เ ข า เ ท ว ด า " อุทยานแห่งชาติพุเตย เข้าประกวดคร้าบบบบบ.....

ติดตามพวกเราสองคนได้ใน http://www.facebook.com/PaeSongBai

ยอดเขาเทวดา อุทยานแห่งชาติพุเตย ตั้งอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี อ.ด่านช้าง ใครคิดว่าแค่กรุงเทพ - สุพรรณบุรีขับรถไปแป๊บเดียวก็ถึง.... หึหึ คุณคิดผิดครับ

การเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เราออกจากกรุงเทพกันประมาณ 11 โมง ถึงจุดกางเต็นท์หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตยที่ 1 ประมาณ 4 โมงเย็น (เนื่องจากเป็นอาทิตย์วันแม่แห่งชาติ รถค่อนข้างติดใช้เวลาเดินทางรวม 5 ชั่วโมง เอิ่มมมม.....)

หลังจากเดินยืดเส้นยืดสายกันเรียบร้อย (ใครคิดจะไปเช็คอินเลิกคิดซะนะครับ เพราะไม่มีสัญญาณเน็ตคลื่นใดเล็ดลอดไปให้ใช้เลยครับ มีก็แต่สัญญาณโทรศัพท์ที่ดูลิบหรี่บริเวณอาคารอุทยานเท่านั้น แต่สัญญาณก็พร้อมจะปลิวไปกับลมเสมอ) ก็เดินไปติดต่อทางเจ้าหน้าที่เพื่อขอเช่าเต็นท์ และสอบถามเส้นทางขึ้นยอดเขาในวันรุ่งขึ้น (อาทิตย์นั้นได้ฟรีค่าธรรมเนียมอุทยาน เสียเฉพาะค่าเช่าเต็นท์และอุปกรณ์เครื่องนอน 250 บาท)

แต่จากการสอบถามพบว่า.... ค่าเช่ารถโฟล์วีลสำหรับขึ้นเขาและเส้นทางเดินป่า ราคา 2,000 บาท และค่าเจ้าหน้าที่สำหรับเดินป่า 600 บาท ซึ่งงงงงงง..... เรา ไป กัน สอง คน

(ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถรวมกลุ่มเพื่อไปรถคันเดียวกันได้ เนื่องจากมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ น้ำตกตะเพินคี่ บ้างอยากเดิน บ้างอยากเล่นน้ำตกอย่างเดียว เคยเกิดปัญหาภายในกลุ่มเลยทำแบบนี้เพื่อตัดปัญหา ฮือออออ)

ด้วยความพยายาม เราสองคนเดินไล่ถามว่ามีกลุ่มไหนจะขึ้นยอดเขาในวันรุ่งขึ้นบ้าง แต่ไม่มีใครขึ้นเลยสักกลุ่ม เนื่องจากเส้นทางลำบาก สงสารรถบ้าง มีเด็กเล็กบ้าง เราสองคนตัดใจครับ คิดซะว่ามาเปลี่ยนที่นอนสัมผัสธรรมชาติ (แต่ว่าในใจนั้นเงียบงัน มีแต่เสียงเพลงที่ว่างเปล่า.......เอา 5 ชั่วโมงของกรุคืนมา)

เอ๊า!! ช่างเหอะ (เพราะแฟนผมวิ่งไปเล่นกะแมวส้มที่น่าจะเป็นเจ้าของอุทยานเรียบร้อยแล้วครับ มันน่ารักมากกกกก) ไม่นานนักก็หิว กินข้าวสิครับ แหม่ อุตส่าห์ซื้อสะเบียง (มาม่า) มาตุน เดินถือกันไปขอน้ำร้อนที่อุทยาน แต่แล้วเหมือนอกหักอีกครั้ง เจ้าหน้าที่เก็บเครื่องทำน้ำร้อนเรียบร้อยละ เอิ่มมมมม..... เอาสิ กรุจะกินอะไรดีละทีนี้

แต่ด้วยไหวพริบของเราก็ขับรถออกไปกินข้าวข้างนอกสิครับ (ไหวพริบตรงไหน) ทีแรกคิดว่าน่าจะต้องขับไปไกล แต่ไม่เลยขับไปสักพักมีร้านอาหารตามสั่ง (ตามันไปสะดุดตรงป้ายเบียร์วุ้นหน้าร้านนี่แหละครับ)

เมื่อกลับมาจากทานข้าวตบด้วยเบียร์วุ้นล้างปากเรียบร้อย เราก็พบว่าจุดที่เรากางเต็นท์นั้นมีอีกคู่มากางใกล้ๆ ตาก็เหลือบไปเห็นรถเค้า ซึ่งเป็นรถกระบะถึงแม้ไม่โฟล์วีลแต่มันสามารถพาพวกเราขึ้นได้อย่างแน่นอน และด้วยความมนุษสัมพันธ์ดี เราจึงทำความรู้จักและได้ขอติดรถขึ้นยอดเขาในวันรุ่งขึ้นด้วย ซึ่งพี่ทั้งสองไม่มีปัญหาใดๆ กลับดีใจที่มีผู้ร่วมเดินทาง (ร่วมหลง) ไปด้วยกัน ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

เราสี่คนตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อเตรียมตัวขึ้นยอดเขา (ตอนแรกคิดว่าน่าจะมีรถเจ้าหน้าที่ไปด้วย จะได้ขับตามๆ กันไป แต่ไม่มีเลยครับ) ก่อนออกรถก็ร่ำลากับเต็นท์ข้างๆ “เจอกันข้างบนนะครับ” เหตุการณ์กำลังจะเกิดขึ้นครับ.....

เมื่อวานเราได้สอบถามเส้นทางเจ้าหน้าที่มาคร่าวๆ แล้ว ซึ่งขับออกจากอุทยานไปสักพักจะพบทางลูกรังไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตยที่ 3

เราสี่คนขับฝ่าความมืดตอนตีสี่ออกมาจากอุทยาน ขับมาไม่นานเห็นป้ายหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตยที่ 3 อีก 15 กม. เราขับตรงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ขับไปครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ถึง ยังเป็นถนนปกติ ไม่มีลูกรังหรือถนนห่วยแต่ประการใด (คิดในใจเจ้าหน้าที่โกหกให้เช่ารถแน่ๆ หึหึ) ขับไปขับมา อะอ่ะ อ่าวววว “ยินดีต้อนรับเข้าสู่จังหวัด อุทัยธานี” ผิดทางสิคร้าบบบบบบ GPS ไม่มี สัญญาณโทรศัพท์ไม่มี

เอาแล้วไงทีนี้ กลับรถ ส่องป้ายตามทางไปเรื่อยๆ สุดท้ายขับมาจุดเดิมร่วม 20 กม. ไอตรงที่เราเห็นป้ายหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตยที่ 3 อีก 15 กม. มันมีลูกศรเลี้ยวซ้ายด้านหน้าด้วยว่ะ (ไม่ได้มอง ตรงเฉ๊ยยยย) หลังจากกลับเข้ามาเส้นทางที่ถูก ไม่นานทั้งสีคนก็ร็อคครับ (คือหัวจะสั่นไปตามหลุมตามบ่อ รัวๆ ประมาณ 10 กม. ได้)

ไอที่ตื่นเช้าตีสี่ ที่ร่ำลากะคณะอื่น ไอที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น คือไร..... ระหว่างทางพระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยครับ - -“ (แต่วันนั้นฟ้าไม่เปิด เลยบอกกับตัวเองว่าเออดีละไม่งั้นคงเสียดายมากกว่านี้)

สุดท้ายเดินขึ้นพร้อมกันหมดจ้า (พร้อมคำถากถางว่า อ่าว นี่นึกว่าเดินกลับลงมาแล้ว 55555)

เส้นทางเดินขึ้นยอดเขาเป็นเส้นทางดินสูงชัน โดยเป็นทางเดินเล็กๆ และลื่น (ถ้าฝนตก) ระหว่างมีเชือกให้จับไปถึงด้านบน ระยะทางประมาณ 800 (แม้ว) เมตร

เดินขึ้นมาจุดแรกที่พบมีพระเจดีย์สำหรับสักการะบูชา เดินเข้ามาด้านในเป็นจุดชมวิวยอดเขาเทวดา

ซึ่งเป็นจุดสูงสุดแผ่นดินสุพรรณบุรี (ในบางช่วงจะพบทะเลหมอก สลับกับยอดเทือกเขาน้อยใหญ่) สวยงามครับ  มีแคร่สำหรับนั่งพักพอให้เหงื่อแห้ง ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสมาชิกใหม่ ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบๆตัว ความสุขที่หาไม่ได้ในป่าคอนกรีต มิตรภาพดีๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง นี่เราต้องกลับแล้วจริงๆหรอ

ขอบคุณพี่เหมียว พี่โอ๊ต ถ้าไม่ได้เจอ เราสองคนคงตัดใจไม่ขึ้นยอดเขา (คุยกันถูกคอขนาดทริปหน้าจะชวนกันออกเที่ยว 55555)

ทริปหน้าเจอกันใหม่นะครับ

อุทยานแห่งชาติพุเตย ตั้งอยู่ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี โทร. 0-3544-6237

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี โทร. 0-3553-6030, 0-3553-5789