.:: เปิดฤดูพิชิต "ดอยหลวงเชียงดาว" มหัศจรรยแห่งเขาหินปูน ::.
หลายครั้งมีคนถามเที่ยวทั้งที จะไปลำบากทำไม ทำไมไม่ไปที่ที่สบายๆ ชิลๆ เสียเงินแล้วก็อยากได้สิ่งที่ดีที่สุด จากคำกล่าวนี้ไม่มีถูกและไม่มีผิด แต่บางสิ่งเสียเงินแล้วก็ยังไม่สามารถคว้าไว้ได้ ต้องอาศัยกายและใจ หนึ่งในนั่นก็คือ… ดอยหลวงเชียวดาว แห่งนี้
ทริปนี้เกิดจากผมกับเพื่อนอีกคน อยากไปเดินขึ้นเขา ขึ้นดอย เพราะมีประสบการณ์จากขึ้นภูกระดึงมาบ้าง เลยหาข้อมูลต่างๆ หารีวิว หาสกู๊ปตามเพจต่างๆ… เลยตกลงที่ดอยหลวงเชียงดาว เมื่อได้เป้าหมายแล้วก็ชวนเพื่อนๆเพิ่มอีก จาก 2 คน ก็กลายเป็น 3 4 5 คำตอบสุดท้ายคือ 6 คน แต่ก็มีเพื่อนบางคนไม่ชอบเที่ยวแนวนี้ แต่ก็ยอมไป เหมือนโดนผมหลอกให้มาเหนื่อย 55+ ในทริปเพื่อนๆก็เฮฮากันนะครับ สนุก มีความสุขดี ติดตามการเดินทางของพวกเราได้เลยครับ
ค่าใช้จ่ายต่างๆ (6คน)
- Lionair ไปกลับ กรุงเทพ - เชียงใหม่ 1700 บาท
- ค่าทัวร์ท้องถิ่น(ลุงแกละ) ดอยหลวงเชียงดาว 2 วัน 1 คืน คนละ : 2000 บาท (รวมอาหาร 3 มื้อ, เต้นท์, ถุงนอน)
- ค่ารถจากวัดถ้ำเชียงดาวไปจุดเริ่มเดิน เด่นหญ้าขัด 500 บาทกรุ๊ป หาร 6 คน คนละ : 83 บาท
- ค่าที่พัก Centro CNX(DD Resident) คนละ : 250 บาท
- ค่าเช่ารถท้องถิ่น Bigjump Travel รุ่น Avanza 1200/วัน(3วัน) คนละ : 600 บาท
สรุปรวมแล้วประมาณ 3000 บาท
สิ่งของจำเป็น
- เสื้อกันหนาว
- ไฟฉาย แบบคาดที่หัวก็จะดีมากครับ
- ทิชชู่เปียก
เนื่องจากผมไปกับทัวร์ท้องถิ่นเลยเตรียมแค่ของใช้ส่วนตัวไปเท่านั้นครับ อาหาร ที่นอน ทัวร์จัดการให้ครบหมด เรียกได้ว่าไปแต่ตัวจริงๆ ครับ
วันที่ 1
พวกผมบินไปเชียงใหม่โดยสายการบิน Thai Lionair ตอนเย็นหลังเลิกงานครับ ถึงสนามบินเชียงใหม่ รับกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินมารับรถ ที่ได้เช่าไว้กับ Bigjump Travel เป็นรถ Toyota avanza นั่งสบายดีครับ 6 คน หลังจากนั้นก็ไปเช็คอินที่พัก Centro CNX อยู่แถวบริเวณรอบๆคูเมืองครับ พักผ่อนเอาแรง Zz.. นัดแนะเวลาตื่นตี 5 พรุ่งนี้ เพราะต้องออกจาเชียงใหม่ไปเชียงดาว ระยะทางประมาณ 70กว่า กิโลเมตร
วันที่ 2
จากที่นัดกันออกตี 5 สุดท้ายออก 6 โมงครับ ไม่เคยเป็นไปตามนัดเลย 555+ ก็เช็คเอ้าท์ แล้วมุ่งหน้าอำเภอเชียงดาว
หมอกลง ฟินเลยยย
ถึงแล้วครับวัดถ้ำเชียงดาว
ผมนัดกับทัวร์ลุงแกละ ประมาณ 8 โมงที่ วัดถ้ำเชียงดาว ซึ่งเป็นร้านค้าในวัดถ้ำเชียงดาวครับ
พวกผมเลยกินข้าวเช้าที่ร้านลุงเลยครับ เติมพลังก่อนขึ้นดอยและเตรียมอุปกรณ์ที่จะนำขึ้นไปบนดอยด้วย(ทิชชูเปียก ไฟฉาย เสื้อกันหนาว) โดยคณะลุงแกละรอบนี้มีพวกผม 6 คน มีครูอาจารย์จากโรงเรียนไหนสักแห่งจำไม่ได้ อีก 4 คนและมีคู่หนุ่ม สาว 2 คน ร่วมเดินทางไปพร้อมกับพวกผมด้วยครับ ไม่เหงาเลยทีนี้กินกันอิ่มพร้อมที่จะนอน ฮ่าๆ ไม่ใช่ล่ะ พร้อมเดินทาง ก่อนไปลุงแกละให้อาหารสำหรับมื้อเที่ยงและน้ำขวดพวกผมไว้กินระหว่างทางด้วยครับ ส่วนเส้นทางพวกผมเลือกไปเส้นทาง เด่นหญ้าขัด ระยะทาง 8.5 km เป็นเส้นทางที่เดินง่ายกว่าทางปางวัวครับ โดยจะต้องนั่งรถจากวัดถ้ำเชียงดาวไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ และทางค่อนข้างวิบากบ้าง นั่งหลังกระบะนี้ก้นระบมได้นะครับ พวกผมก็นั่ง 55+
ประมาณ10 โมงก็มาถึง จุดเริ่มเดินเด่นหญ้าขัด ซึ่งตอนนี้ที่นี่ยังมีดอกพญาเสือโคร่งให้ชมอยู่ครับ เป็นอุโมงค์เลยครับ เลยต้องแชะภาพสักหน่อย
ดอกพญาเสือโคร่ง สวยไม่แพ้ซากุระเลย
เห็นป้ายนั่นไหม 8.5 ก.ม. สู้!!!
ก่อนจะเริ่มเดินเป็นธรรมเนียมที่ต้องถ่ายกับป้ายบอกทาง 8.5 กิโลเมตร
พวกผมเริ่มเดินจริงๆ ประมาณ 10.30 ครับ
ช่วงแรกๆ ทางเดินสบายจริงๆ
ก็พอมีเนินบ้างเล็กน้อย
เดินไปถ่ายรูปไปเรื่อย อากาศแรกๆก็เย็นสบาย
ระหว่างทางก็พักบ้าง ถ่ายรูปบ้าง(ทางเด่นหญ้าขัดจะมีวิวให้ชมและถ่ายรูปได้มากกว่าทางปางวัวครับ) เพื่อนผมบางคนไม่ได้เตรียมร่างกายมาเลย ไม่ได้ออกกำลังกาย ก็เหนื่อยง่าย ผมออกกำลังกายมาบ้างรู้สึกว่าไม่ค่อยเหนื่อย เดินได้เรื่อยๆ
ประมาณเที่ยงก็มาถึง สามแยก คือจุดที่จะมาบรรจบกันระหว่างเด่นหญ้าขัดกับปางวัว จุดนี้จะพักกินข้าวกันก่อน มื้อเที่ยงนี้มี ข้าวเหนียวหมูทอด ไส้อั่ว ที่ได้จากลุงแกละเมื่อเช้า
กินเสร็จ พักเหนื่อยสักพัก สามแยกนี้เป็นจุดพักของทุกๆกรุ๊ปครับ ได้เห็นกรุ๊ปอื่นๆ บางกรุ๊ปก็วัยรุ่น บางกรุ๊ปก็วัยทำงาน รุ่นพ่อ รุ่นแม่ หลากหลายดีครับ ถ้ามีแรงมาได้ มาเถอะครับ ^ ^
เริ่มเดินทางต่อ ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงหัวเปะ จากใส่เสื้อกันหนาวแต่แรก ก็เริ่มถอดมามัดไว้ที่เอว
ระหว่างเดินก็ได้กำลังใจจากคนที่เดินสวนลงมาบอกว่าจะถึงแล้วครับ ใกล้แล้วครับ ฟังแล้วก็รู้สึกดีเดินต่อ เดินต่อๆ เดินสักพักไหนว่ะ ใกล้แล้วๆ หลอกกันนี่หว่า!!! 55+
จากสามแยกถ้าเดินมาได้ประมาณครึ่งทาง ลองหันหลังไปดูจะเห็นกับวิวนี้ครับ สวยงามมากๆ แต่ช่วงระหว่างนี้จะไม่มีต้นไม้สูงๆครับ แดดส่องตลอด
บางช่วงต้องปีนสักหน่อย
ประมาณบ่าย 3 ครึ่งก็ถึงแคมป์ลุงแกละ ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้มากับทัวร์ลุงแกละ มากับทัวร์อื่นหรือมากันเองต้องเดินต่อไปอีกหน่อยครับจะเป็นลานกางเต้นท์ของนักท่องเที่ยว เรียกว่า อ่างสลุง ซึ่งคู่หนุ่มสาวที่มากับคณะเดียวกับผม มาถึงก่อนผมนานมาก ฟิตจริงๆครับ ส่วนพวกครูอาจารย์ มาถึงหลังพวกผมครับ 55+ ที่แคมป์ลุงแกละจะมีคนของลุงแกละเตรียมเต้นท์ เตรียมอาหารให้พวกเรากินมื้เย็นครับ
อากาศที่แคมป์เย็นมาก นอนพัก หลับเป็นตายเลยครับเพื่อนผม รอเวลา 4 โมงครึ่ง ขึ้นสู่ยอดดอยหลวงเชียงดาว ชมพระอาทิตย์
ได้เวลามุ่งสู่ยอดสูงสุด ต้องเตรียมไฟฉายไปด้วยนะครับใช้ตอนเดินกลับเพราะพระอาทิตย์ตกแล้ว ระหว่างทางเดินขึ้นต้องระวังด้วยนะครับเพราะเป็นหินซะส่วนใหญ่ ถ้าพลาดอาจจะเกิดแผลได้
นั่นอ่างสลุงที่ตั้งแคมป์พวกเรา
เหนื่อยก็หยุดให้คนอื่นแซงก่อน 55+
ถึงยอดดอยแล้วครับ มันสุดยอดจริงๆ มองไปทางไหนก็สวยไปหมด คนเยอะด้วย ต่อแถวกันถ่ายรูปกับป้ายโดยมีดอยสามพี่น้องเป็นฉากหลัง
คนต่อแถวถ่ายกับป้ายก็เยอะ
ธงชาติไม่ได้เตรียมมาเองนะครับ เหมือนมีให้เป็นพร็อพอยู่แล้ว 55+
เริ่มมืดพวกผมก็เดินกลับไปแคมป์ ซึ่งตอนลงต้องระวังเป็นพิเศษเพราะมืดด้วย รู้สึกว่าตอนลงนี่ยากกว่าขึ้นอีก ฮ่าๆ แต่ก็กลับมาถึงแคมป์จนได้
กลับมาถึงมื้อเย็นก็พร้อมเสิร์ฟ(ต้มยำ ไข่เจียว ผัดผักและอีกอย่างจำไม่ได้) หิวกันมากแต่ละคน ไข่เจียวพวกผมซัดไปหลายจานมาก แต่เฉลี่ยแล้วก็คนละ 2 ฟอง 55+
หลังจากกินเสร็จก็นั่งคุย นั่งเล่นกันสักพัก แต่ทนความหนาวไม่ไหวต่างคนก็กลับเข้าเต้นท์กันหมด ผมเลยเอากล้องออกมาถ่ายดาว คือตั้งใจจะมาถ่ายเลยครับ แต่….. ถ่ายได้รูปเดียวเลย แบตหมด กำ!!! ไม่มีแบตสำรองมาด้วย
สุดท้ายเลยนอนดูดาวก็ได้ว่ะ (ทริปชายล้วนนอนดูดาว 555+)
ประมาณ 5 ทุ่ม 9 องศา
วันที่ 3
ต้องตื่นตี 4 ครึ่ง เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วลม หนาวมากๆตอนนั่นประมาณ 5 องศา ก็เดินตามๆกันไปเนอะ
ถึงกิ่วลมยังมืดอยู่เลย ผู้คนเริ่มจับจองพื้นที่ตั้งกล้อง เต็มไปหมด สำหรับทัวร์ลุงแกละมีโอวัลติน กาแฟ น้ำร้อนบริการตรงกิ่วลม คนนำทางถือขึ้นมาให้ครับ
รอจนพระอาทิตย์ขึ้นได้เก็บภาพกันเล็กน้อย(ภาพตอนนี้ถ่ายจาก Gopro และ iphone ครับ ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่)
พอแดดเริ่มออกก็เดินลงกลับแคมป์ กลับถึงอาหารเช้าก็พร้อมเสิร์ฟครับ เป็นอีกมื้อที่กินกันไม่ยั้ง กับข้าวหลายอย่างครับ แต่จำได้อย่างเดียวคือไข่เจียว 55+
ประมาณ 8 โมงกว่า เก็บของเดินลงครับ และถ่ายรูปกับลุงแกละเป็นที่ระลึกสักหน่อย
มีคนเดินสวนขึ้นมา พวกผมก็แกล้งบ้างครับ บอกไปว่า ใกล้แล้วครับอีกนิดเดียว 555+ ได้เวลาเอาคืน
พอถึงสามแยกพวกผมเลือกกลับทาง ปางวัวครับ ซึ่งจะชันกว่า ตัดสินใจถูกแล้วครับที่ไม่ขึ้นทางนี้ ชันและลื่นด้วย
เดินลงทำเวลาได้ดี พอถึงข้างล่างก็มีโค้กให้คนละกระป๋อง สดชื่นนน
ถ้าใครขึ้นทางปางวัวก็จะเจอกับป้ายนี้ 6.5 กิโลเมตร
จากนั้นก็เดินทางกลับเข้าเมืองเชียงใหม่ ไปฟื้นฟูสภาพร่างกาย ถ้ามีโอกาสคิดอยากจะกลับมาเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาวนี้อีก แล้วพบกัน เชียงดาว
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและสนุกไปกับการเดินทางของพวกเราครับ ฝากไลค์ฝากแชร์ฝากแคร์กันด้วยนะครับ
ติดตามเรื่องราวของผมได้ที่ เพจ "เที่ยวออกเดิน" by Fun_O