ภูลังกาดินแดงแห่งสายหมอกและขุนเขา

ในชีวิตของคนเราควรออกเดินทางสักครั้ง  ความสุขของการเดินทางแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน  บางคนรู้สึกมีความสุขเมื่อออกเดินทางไปกับคนที่เรารัก แต่สำหรับเรา การเดินทางแต่ละครั้ง ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง กับประสบการณ์ใหม่ๆ  เรื่องราวมิตรภาพระหว่างการเดินทางก็คงเป็นเรื่องที่น่าจดจำเช่นกัน

   เราเริ่มออกเดินทางไปขึ้นรถตู้บริเวณ ลานจอดรถตรงรถไฟฟ้าหมอชิต ตามคำนัดแนะจากน้องในกลุ่มคนหนึ่ง ให้มาขึ้นรถก่อนเวลาสามทุ่ม  เราเองก็ยอมรับว่า เพิ่งเคยได้เริ่มเดินทางแบบนี้ครั้งแรก โดยคำแนะนำจากพี่ที่ทำงานคนหนึ่งที่เคยมีประสบการณ์การเดิยทางแบบนี้มาก่อน  กลุ่ม Chic chill trip เป็นกลุ่มทริปหารเฉลี่ย ไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์อย่างที่เราเข้าใจ แต่เป็นกลุ่มนักเดินทาง ที่มาร่วมหารค่ารถและค่าที่พักกัน และจุดหมายปลายทางที่ครั้งนี้เราจะไป ภูลังกา

   รถตู้เริ่มออกจากกรุงเทพแวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆ ใช้เวลาประมาณ  7 ชั่วโมงกว่าก็ถึงภูลังกา ระหว่างทางก่อนที่จะถึง     ภูลังกาเราผ่านโค้งกันหลายโค้งที่เดียวกว่าจะถึงที่พักภูลังการีสอร์ท   ที่นี่มีเรื่องเสริมนิดนึงครับหากเพื่อนๆคนไหน  ใช้โทรศัพท์ของค่าย DTAC ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ เพราะที่นี่ค่ายดังกล่าวไม่มีสัญญาณ  ในส่วนของบ้านพักอยู่ที่ราคา 2,700 บาท  วิวคงไม่ต้องบอกนะครับว่า สวยขนาดไหน ลองจินตนาการว่า เราสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงและมองเห็น วิวด้านล่างเกือบ 360 องศา สำหรับเราถือว่า คุ้มนะ เพราะเราหารเฉลี่ยค่าที่พักแล้วก็ตกๆราว คืนละ 900 บาทเอง (บ้านพักนอนกันหลังละ 3 คน)    สำหรับอาหารเช้าทางรีสอร์ทมีอาหารเช้าเสริฟ์ให้เราฟรี แต่สำหรับใครที่อยากสั่งอาหารตามสั่ง ทางรีสอร์ทก็มีให้บริการ ซึ่งเมนูอาหารก็ไม่แพงเลย เริ่มต้นที่ 40 บาทเท่านั้นเอง

   ความจริงแล้วเสน่ห์ของภูลังการีสอร์ทที่นี่ ด้วยความที่ลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ มองเห็นภูเขาหินปูน สลับกับทุ่งนา และต้นไม้น้อยใหญ่ และไฮไลท์ที่ที่ขาดไม่ได้คือ สายหมอกและแสงแดดที่เคลื่อนผ่านบริเวณแอ่งกระทะ ที่เราสามารถมองเห็นได้ จากจุดชุมวิวในรีสอร์ทและบริเวณที่พัก และที่พลาดไม่ได้คือ ไก่ต๊อก เลยไม่แปลกใจว่า ทำไมที่นี่ ภูลังการีสอร์ทถึงมีเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเรา

อยากลองมาสัมผัสสักครั้ง ณ  ภูลังกา

 

ขอบคุณเพื่อนกลุ่ม Chic chill trip 

และที่พักภูลังการีสอร์ท สำรองติดต่อเบอร์โทรศัพท์  086-1910291