....ห่างออกไปบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 บ้านโป่ง - ด่านเจดีย์ 3 องค์ ช่วงกม 103 แยกบ้านหินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีที่พักแห่งหนึ่งที่ผมตั้งใจมาเยี่ยมเยือน เพื่อหลบหนีความวุ่นวายและพักผ่อนในช่วงเทศกาล..มาอยู่กับบ้านสวนที่โอบล้อมไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายสไตล์..บ้านสวน ภูผาตาดโฮมสเตย์

จากแยกหินดาดเลี้ยวซ้ายมาประมาณ 500 เมตร จะมีทางเข้าเล็กๆซ้ายมือสู่โฮมสเตย์ เข้ามาจะพบกับซุ้มไผ่ ปกคลุมให้ความร่มรื่น ถัดมาจะเป็นบริเวณบ้าน ที่มีอยู่ 4-5 หลัง ช่วงที่รอแม่บ้านทำความสะอาดห้องพัก และยังไม่มีแขกเข้ามา เลยถือโอกาสเดินสำรวจบ้านหลังต่างๆไปในตัว ซึ่งมาทราบภายหลังจากที่ได้คุยกับ ลุงหมึก เจ้าของภูผาตาดแห่งนี้ถึงสไตล์การออกแบบบ้านแต่ละหลังว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และแนวคิดการมาทำสวนอยู่ที่นี่แล้วน่าสนใจดีทีเดียว มาดูที่ตัวบ้านกันก่อนไล่เรียงไปตั้งแต่บ้านหลังแรกกันก่อน

เรือนพะเน้าพะนอ

เป็นเรือนไม้หลังแรกที่สร้างขึ้นหลังจากที่ลุงหมึกได้เข้ามาซื้อที่ทำสวนบริเวณนีเมื่อปี 45 และได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยมาตลอด สไตล์ของตัวบ้านเป็นแนวบ้านทรงไทย แต่ดูเหมือนเป็นไทยประยุกต์ หน้าจั่วจะเป็นแบบทางเหนือแต่มีนอกชานเหมือนบ้านภาคกลาง บานประตูเหมือนบ้านเก่ายุคกรุงศรี ห้องน้ำเหมือนรีสอร์ทสไตล์บาหลี ของประดับตกแต่งบ้างก็เป็นของเก่าของโบราณ บ้างก็มามาจากหลายส่วนของมุมโลก นอกจากนี้พื้นที่หน้าบ้านยังเป็นลานโล่งๆไว้ทำกิจกรรม camping ได้อีก มีต้นหูกระจงต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา และชิงช้าแนวชาวเขา ไว้เป็นพร็อพเก๋ๆไว้ถ่ายภาพ หรือเล่นดล้ชิงช้าก็ได้

นอกชานกว้างขวาง ไว้นั่งเล่น นอนเล่น ทำกิจกรรม เมื่อก่อนไม่มีหลังคามองเห็นดาวเดือน แต่ตอนหลังทำหลังคาดีกว่าจะได้ไม่เสียพื้นที่ไปโดยไม่จำเป็นเมื่อเข้าหน้าฝน โดยทำหลังคาแบบโปร่งแสง เพื่อไม่ให้บ้านดูมืดเกินไปและยังเป็นการประหยัดไฟฟ้าได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกดูอบอุ่นขึ้นมาอีกด้วย บ้านหลังนี้มี 2 ห้องนอนที่พื้นที่กว้างมากๆ ผมว่าจุคนได้ 20-30 คนเลยหากเอาเตียงนอนออก ฝ้าเพดานก็ปูด้วยสาดดูแปลกตาทีเดียว ห้องน้ำมี 2 ห้องสไตล์รีสอร์ท แบ่งเป็นส่วนเปียกที่ไว้อาบน้ำท่ามกลางหมู่ดาว เพราะไม่มีหลังคา !! ส่วนแห้งจะเป็นโถชักโครก และอ่างล้างหน้า ตกแต่งเหมือนแนวคันทรี ของประดับตกแต่งต่างๆ มีทั้งของเก่าโบราณ และบางชิ้นก็มาจากหลายส่วนของมุมโลกที่ลุงหมึกเก็บสะสมไว้ ใต้ถุนบ้านเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน ทานข้าว ทานกาแฟ มีของตกแต่งหลากหลายที่ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ อย่างโคนต้นตาลที่คว้านข้างในออกซึ่งไม่รู้ว่าเป็นภาชนะใส่ของ หรือเขาไว้ทำอะไร หินที่ร้อยเชือกทำเป็นโมบายแขวน เปลสาน เก้าอี้ทำจากไม้ แม้แต่ต้นเสาที่เป็นปูนยังหาไม้มาห่อหุ้มเพื่อเบรคงานปูนให้ดู soft ลง

เรือน พะเพื่อน พะแพง

บ้านหลังนี้เป็นหลังที่ผมเข้าพัก เป็นบ้านแฝด 2 หลังสร้างติดกันมีชานบ้านตรงกลางเชื่อมระหว่างบ้าน 2 หลัง และมีศาลาไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ พอก้าวขึ้นไปบนบ้าน เข้าไปในห้องพบว่าซอยย่อยเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆสำหรับดูทีวีก่อนจะถึงตัวห้องนอน ส่วนห้องนอนวางเตียงใหญ่ได้ถึง 2 เตียง กว้างมากๆ ห้องน้ำสไตล์รีสอร์ท ผนังเป็นอิฐมอญโชว์ลายดิบๆ ฝักบัวซ่อนอยู่ในต้นไม้ พื้นตรงบริเวฯที่อาบน้ำโรยด้วยก้อนกรวด เผื่อไว้นวดเท้าเวลาอาบน้ำ บริเวณชักโครกมีบานหน้าต่างไว้เปิดชมวิวหากนั่งนานไปหน่อย..บ้านหลังนี้เกิดจากมีไม้เหลือ ลุงหมึกอยากสร้างเพิ่มอีกหลังเพื่อขยับขยาย โดยการขายที่บางส่วนออกไปเพื่อเอามาเป็นค่าแรงในการปลูกบ้านหลังนี้

เรือน ออดอ้อน ฉอเลาะ หรือบ้านหนังหมู

หลังจากปลูกบ้านหลังใหญ่มาสองหลังแล้ว ลุงหมึกอยากสร้างหลังเล็กๆบ้างสำหรับคู่รัก แต่ไม้ไม่พอและทุนน้อยก็เลยเอาไม้ที่เหลือมาซอยย่อย มาผ่าเป็นชิ้นๆ (ภาษาช่างเรียกว่าหนังหมู)เลยได้เป็นบ้านหลังเล็กดูอบอุ่นเหมาะกับคู่รักเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีบ้านปีกไม้ หรือ เรือน ออดอ้อนออเซาะ หรือบ้านปีกไม้ เป็นเรือนของลุงหมึกไว้อาศัยอยู่หน้าเรือนพะเน้าพะนอ บางครั้งก็เปิดให้เข้าพักด้วย และ เรือนระริกระรี้ ที่ไม่มีโอกาสได้เข้าชมเพราะแขกเข้ามาพอดี มาดูในส่วนของอาหารกันบ้าง จะมีอาหารเช้า 1 มื้อ กับอาหารเย็น 1 มื้อ รวมอยู่ใน package 800 บาท / คน อาหารเช้าจะเป็นข้าวต้มกระดูกหมู ชากาแฟ อาหารเย็นจัดให้เยอะเลย รสชาติจะไม่จัดจ้านมากนักเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ส่วนมากเป็นพืชผักผลไม้ที่ปลูกอยู่ในสวน ก็เอามาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร แม้แต่ข้าวก็ยังเป็นข้าวไร่ที่ปลูกเองในสวนอีกด้วย มาดูบรรยากาศทั่วไปกันบ้างตอนเช้า อากาศเย็นสบาย มีหมอกบางๆ ลอยอ้อยอิ่ง จนแทบไม่อยากลุกจากเตียงเลย กลางคืนก็แทบไม่ต้องเปิดพัดลม เพราะอากาศเย็นอยู่แล้ว ที่สวนลุงหมึกปลูกผลไม้ไว้หลายอย่าง ทั้งมะเฟือง กล้วย ขนุน แก้วมังกร ส้มโอ มะม่วง ลองกอง มังคุด เงาะ และอีกมากมายบรรยายไม่หมด รวมถึงข้าวหอมดิน คล้ายๆข้าวกล้อง ทุกอย่างล้วนไร้ยาฆ่าแมลง ปลอดสารพิษแน่นอน สมุดเยี่ยมจากแขกที่เข้าพัก มีหลายเชื้อชาติ ทั้งยุโรป เกาหลี ไต้หวัน

ภาพรวมของภูผาตาดโฮมสเตย์แห่งนี้ เป็นที่พักที่ลุงหมึกออกแบบตามจินตนาการจับนู่นนี่นั่นมาผสมผสานปนเปกันจนดูลงตัวและเข้ากันได้ดี ถือว่าเป็นผลงานศิลปะอย่างนึงก็ว่าได้ อีกทั้งรูปแบบบ้านที่ดูอบอุ่นและความเป็นกันเองของลุงหมึก รวมถึงทำเลที่ตั้งที่ตั้งอยู่ ในบรรยากาศความร่มรื่นของสวนผลไม้ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้มาพักผ่อนในบ้านสวนของเราเองยังไงยังงั้น..

ภูผาตาดโฮมสเตย์

ที่ตั้ง : 123/3 ม.5 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เบอร์โทร 087-9226187 ชำนาญ มณีวงค์ (ลุงหมึก)

การเดินทาง : ขับรถไปตามถนนเพชรเกษมหรือถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี นครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึง จ.กาญจนบุรี ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เลยจากน้ำตกไทรโยคขึ้นไป ย้ำอีกที "ทางเข้าเลยกม.ที่ 103 ไป 300 เมตร จะถึง 4 แยกหินดาด หรือแยกผาตาด ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเข้าวัดวังผาตาด (ตรงข้ามทางเข้าน้ำตกผาตาด) ก่อนถึงทองผาภูมิ 25 กิโลเมตร" เข้าไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นป้ายภูผาตาดอยู่ซ้ายมือก็เข้าไปได้เเลย

ราคา : 800 บาทรวมอาหารเช้า+เย็น /คน / คืน

เว็บไซด์ : http://www.phuphatat.com/ 

-ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้เข้ามาชม และ กด like กด share เป็นกำลังใจน่ะครับ 

-แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือพูดคุย สอบถามข้อมูลการเดินทาง ได้ที่ FB : สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว Fanpage : สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว