3 วัน 2 คืน [เขาค้อ-ภูทับโบก]
บันทึกการเดินทางเปิดประสบการณ์เขาค้อ-ภูทับเบิก
26-29 December. 2016
สวัสดีค่าาาาาาาาาาาา จำเราได้มั้ย?......จำไม่ได้! อ่อไม่เป็นไร ปล่อยผ่าน5555 เจอกันอีกแล้วน้ากับทริปนี้ (3 วัน 2 คืน [เขาค้อ - ภูทับโบก]) ทำไมถึงบอกว่าภูทับโบกเดี๋ยวเราจะได้รู้กันในกระทู้นี้แน่นอน
คำแนะนำ : สำหรับท่านที่ยาวขี้เกียจอ่านให้เลื่อนลงไปท้ายทริป จะมีสรุปทริปและงบประมาณ
ติดตามหรือสอบถามข้อมูลเพื่อมเติม IG : nompracharot
ดูภาพเพิ่มเติมได้ใน Page : https://www.facebook.com/wanttotravel01/
หลังจากสอบเสร็จก็รีบมาเก็บกระเป๋าและออกจากหอทันที นี่คืออีกครั้งของการเที่ยวแบบไรแพลนและการเที่ยวที่ไร้แพลนนี้ก็นำมาสู่การพลาดเที่ยวรถ ที่วิ่งจาก นครพนมไปหล่มสัก คือรถนครพนม-เชียงใหม่ นี่คือรอบ 17.00 น. รถรอบสุดท้ายที่เราขึ้น เอาไงเอากัน! ออกจากวิทลัยมาแล้วพวกเราจะไม่หันหลังกลับแน่นอน ขึ้นสิจ๊ะรออัลไรและแล้วรถก็มาจอดให้เราลงที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเลย ที่จริงเรียก บขส.เลยก็ได้นะ 5555 นี่จะพิมพ์ยาวทำไม เอาล่ะมานั่งแบบเซ็งๆ ตอนนี้ห้าทุ่มครึ่งแล้ว คนที่นี่มีเพียงน้อยนิด เพราะมีเพียงคุณลุงสามล้อ ป้าที่นั่งหลับรอเก็บตังค์คนเข้าห้องน้ำ 3 บาท และผู้โดยสารที่ดูท่าจะตกรถเหมือนกันอีก 2 ท่าน 1 ในนั้นคือพี่ชายคนลาวที่เพิ่งลงจากภูทับเบิกเหมือนกัน พวกเราได้เข้าไปคุยกับพี่แกได้ความว่าพี่แกมาเยี่ยมญาติที่ภูทับเบิกแต่พอจะกลับนครหลวงเวียงจันทร์รถหมดก่อนเลยต้องได้รอพรุ่งนี้เช้า หลังจากนั้นก็คุยกันอีกนิดหน่อยก่อนจะขอแยกตัวออกมา
เราตัดสินใจ เดินไปหาโบกรถที่ตลาด ซึ่งอยู่ถัดจาก บขส. พระเจ้า!!!!! นี่มาโบกรถตอนห้าทุ่มครึ่ง เดี๋ยวๆมันเลยจุดที่เรียกว่าห้าทุ่มครึ่งมานานละ นี่จะเที่ยงคืนละ
"นก"จ้า นกตัวใหญ่มาก ถึงได้เดินกลับมามาหาข้าวกิน นี่คือข้าวมื้อแรกของทริปหลังจากมื้อเที่ยงก็ไม่ได้กินข้าวอีกเลยระหว่างทางที่มาแม้กระทั่งข้าวเย็นก็ตามที ส่วนเจ้านี่คือข้าวดึก และ.................กลับมานอน ถามว่านอนไหน? นอนมันที่ตรงนี้แหละจ้า รถคันไหนมารอบเช้าสุดเร็วสุดและไปถึงที่หมายเราขึ้นคั้นนั้น
นอนรอก็แล้ว ยืนรอก็แล้ว เดินรอก็แล้ว ตีลังการอก็ทำ(ไม่ใช่ละ!) ในที่สุดป้าขายตั๋วก็มา รถออก ตีสี่กว่า++ นึกว่าจะไม่มาซะละจากนั้นก็ขึ้นรถย้อนกลับไปชุมแพทางที่ผ่านมาเพื่อจะไปต่อรถ
อ่าาาาาาา รถนี่ยังไม่เข้าจอด บขส.ชุมแพเลยจ้า รถอีกคันก็วิ่งปู๊ดออกมาพอลงจากรถลุงที่นั่นบอกรถที่จะไปหล่มสักวิ่งออกไปเมื่อตะกี๊ ตามไม่ทันแล้วเพราะเขาไม่จอดระหว่างทางลุงบอกวันนี้ออกก่อนเวลา "อ้าวเฮ้ย!!" คือออกก่อนเวลางี้หรอ ได้หรอ? ได้ใช่มั้ย คือคนอะไรจะซวยซ้ำซ้อนขนาดนี๊(เสียงสูง) ตกรถถามว่าเจ็บมั้ย? #ไม่เจ็บตัวแต่เจ็บใจ นี่ก็นั่งรอรอบ 8.30 น.กันต่อไป
สุดท้ายแล้ว ถึงแล้ว จะถึงหล่มสักแล้วแก๊รรรรร อีกอึดใจเดียวเท่าน๊านทนไว้แม่สาวน้อย
day1
ที่นี่...สถานีขนส่งผู้โดยสารหล่มสัก เรายอมรับ she เป็น บขส. ที่สะอาดมากไม่รู้สิ! เราว่าโคตรดูสะอาดตา หลังจากลงรถนี่คือถามดะเลยก็ว่าได้ มีพี่คนรถบอกว่าเดินออกไปจาก บขส. ผ่านป้อมตำรวจไปจะเป็นตลาดไปขอติดรถขึ้นไปข้างบนกับชาวม้งที่มาส่งผักนะ คร้าาาา ไอ้เรากับเพื่อนก็เดินตามที่พี่แกบอกออกมา ในใจนี่ร่ำร้องเหลือเกินว่าเขาจะให้เราขึ้นไปด้วยมั้ยนะ แต่แกรเอ้ยยยเราก็ไม่ใช่คนที่จะซวยอะไรขนาดนั้นโชคดีที่ขอขึ้นรถกระหล่ำแล้วเขาให้ขึ้น พี่ๆเจ้าของรถทั้งสองเป็นคู่รักกันแต่น่าจะเป็นคนไทย และถามพวกเราว่าจะไปลงไหนเพราะพี่แกจะไปเขาค้อ "เขาค้อค่ะ" นี่คือเสียงตอบของพวกเรา เอาวะในเมื่อพี่แกไปเขาค้อเราไปเขาค้อด้วยก็ได้ (นี่ก็ใจง่ายเหลือเเกิน) พี่ๆถามต่อ "จะลงส่วนไหนของเขาค้อ" เอิ่มมม เอาไงต่อ จะลงตรงไหนเนี่ย! คือเขาค้อมีตรงไหนบ้างมีส่วนไหนบ้างยังไม่รู้เลย "พี่ลงตรงไหนพวกหนูลงตรงนั้นค่ะ" จ้าาาาานี่ง่ายไปอีก แล้วพี่ๆก็บอกขึ้นรถ นี่ก็ขอบคุณเป็นการใหญ่
พี่ๆส่งเราลงบริเวณสามแยกที่มีร้านค้าขายของฝาก นี่ก็รีบขอบคุญอีกรอบและเคว้งคว้างทันทีอะไรคือยังไงที่นี่คือที่ไหน กลางเขาและป่าไพรซึ่งมีสาวงามคือเราสามคนเป็นผู้ประกอบฉาก ยืนหันซ้ายหันขวาอยู่นานจะไปไหนก็ไม่ได้เพราะไม่มีรถ ป้าขายของฝากถามจะไปไหน เราบอกว่าาจะไปเขาตะเคียนโง๊ะ ป้าแกบอกอย่าไปเลยมันเปลี่ยวน่ากลัวและไม่ค่อยมีคน แนะนำไปไปรษณีย์เขาค้อดีกว่า อ่าาาา เราก็ตกลงตามนั้น ยืนคุยกันอยู่นาน ด้วยความใจดีของป้าหรือสงสารก็ไม่ทราบได้ แกจึงให้พี่อีกคนเอารถไปส่งเราที่ไปรษณีย์เขาค้อ
มีไอ้ตัวน้อยลูกชายของพี่ที่มาส่งเราติดมาด้วย
อื้อหืมมมมม วิวมันดี
พี่ใจดดีสุดๆ จอดรถแวะให้เราถ่ายรูปด้วย แต่เสียดายบางLocation รอคิวนานไปหน่อยเลยไม่ได้เข้าไปถ่าย
ก่อนพี่แกจะกลับเราช่วยค่าน้ำมันพี่ที่ใจดีขับรถขึ้นมาส่งแล้วแยกไปหาจุดกางเต้นท์ที่คิดว่าปังที่สุด แถวๆริมผา
(จีบได้...กางเต้นท์เป็น) โหยยยย
เอาล่ะ พักเอาแรงแป้บ คิดดูสิว่าตื่นขึ้นมาเจอวิวแบบนี้ทุกวันจะดีขนาดไหน
เดินทางพร้องกับแบกเป้มาเหนื่อยแค่ไหนเราก็จะหลับไม่ได้ ถ้าไม่มีอะไรตกถึงท้อง
กองทัพต้องเดินด้วยท้องเมื่อท้องอิ่มแล้วขาต้องเดิน สถานีต่อไปทุ่งกังหันลม แต่อันนี้ปัญหาคือไกลมากพอสมควรจะไปกันยังไงเมื่อไม่มีรถ และหนีไม่พ้นการโบกอีกเหมือนเคย นี่คันแรกที่โบกไปทุ่งกังหันลม "รถขนท่อจ้าาาาาาาาาาาา" พี่แกเป็นกังวลว่าเราจะนั่งได้มั้ย แบบ!ท่ออุปกรณ์ก่อสร้างนี่เต็มหลังกระบะกันเลยทีเดียว
'แต่พี่ไปไม่ไกลนะ ส่งให้แค่แยกไฟแดงใกล้ๆเพราะจะเลี้ยว' นี่ก็ไม่ได้เป็นเป็นหาสำหรับเราเลยได้แค่ไหนแค่นั้นค่ะ พอพี่จออดลงให้ก็แวะเข้าสวนสตอเบอรี่ของคุณลุงต่อ ซึ่งอยู่ริมถนนติดไฟแดงพอดี