สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็หน้าหนาวแล้วซินะครับ หลังจากคราวที่แล้วผมไปเที่ยวภาคอีสานมา 15 วัน อากาศก็เย็นกำลังดี แต่ผมอยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบหนาวๆของไทยดูบ้าง ดูข่าวบอกว่าภาคเหนือของไทยอากาศกำลังหนาว 5 - 10 กว่าองศา บวกกับใกล้จะปีใหม่แล้วด้วย ถ้าไปช่วงปีใหม่คนน่าจะมหาศาลทะลักทะลาน ผมเลยตัดสินใจเก็บของขึ้นเหนือเลยทันที ผมเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์ครับ Honda PCX 150 นี่คือแผนที่ในการท่องเที่ยวแบบคร่าวๆของผมในครั้งนี้ครับ ระยะเวลาทั้งหมด 19 วัน ระยะทาง 3,144 กิโลเมตร งบประมาณ 6,380บาท

วันที่ 1 (14/12/59) บ้านผมอยู่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ครับ เป้าหมายแรกที่ผมจะไปคืออุทยานแห่งชาติขุนสถาน ผมเริ่มออกเดินทางโดยไปทางจังหวัดแพร่ เส้นทางร่มรื่นมากๆ

ขับไปเรื่อยๆไม่รีบไม่ร้อนด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สักบ่ายสามโมงเย็นผมก็ถึงอุทยานแห่งชาติขุนสถานแล้วละครับ ก้นชาเลย

มาถึงผมก็ไปติดต่อกางเต็นท์ ที่นี่ไม่เสียค่าเข้า ส่วนค่ากางเต็นท์แล้วแต่เราจะให้ครับ เสร็จแล้วผมก็กลับมากางเต็นท์ ทำอาหารกินแล้วก็นอนพักผ่อนรอพระอาทิตย์ตกดิน ตอนแรกมีผมคนเดียว พอใกล้ๆจะเย็น ก็มีพี่บิ๊กไบค์มากางเต็นท์นอนข้างๆ

นั่งรอตั้งนานจะดูพระอาทิตย์ตก ลืมไปว่าผมกางเต็นท์อยู่ทิศตะวันออก ซะงั้น!!! ไม่เป็นไร ด้านนี้ก็วิวสวยเหมือนกัน ^^ คืนนั้นหนาวมากกกกก อาบน้ำทีหายใจแทบไม่ทัน สะดุ้งเฮือก!!!ตลอด ดีที่ลมไม่แรง อาบน้ำเสร็จผมรีบเข้าเต็นท์นอนเลย หนาวววววว

ค่าใช้จ่าย

ค่าน้ำมัน (บ้าน)               50        บาท

ค่าน้ำมัน (แพร่)               70        บาท

ค่ากางเต็นท์                   100      บาท

รวม                             220     บาท 

วันที่ 2 (15/12/59) กะตื่นมาเจอพระอาทิตย์ขึ้นงามๆ แต่เอาเข้าจริง ฟ้าครึ้มมาเลยครับ

ดูทรงแล้วฟ้าคงไม่เปิดง่ายๆ ผมเลยเก็บของเพื่อไปยังเป้าหมายต่อไป ทีแรกจะไปภูลังการีสอร์ทที่พะเยาครับ แต่เมื่อคืนได้ยินพี่ๆบิ๊กไบค์คุยกันว่าบ่อกงบ่อเกลือไรเนี่ยแหละ ผมเลยหาว่ามันคืออะไร เป็นอำเภอบ่อเกลือของจังหวัดน่านครับ เป็นแหล่งผลิตเกลือภูเขาของไทย ผมเลยเปลี่ยนแผนทันที พอออกมาจากขุนสถานได้แป๊บเดียว ฟ้าก็เปิดละครับ ทางไปอำเภอบ่อเกลือจากอุทยานแห่งชาติขุนสถาน สวยมากครับ ขับรถเพลินดี 

ผมมาถึงบ่อเกลือประมาณเที่ยงก็หาข้าวกินแล้วถามชาวบ้านแถวนั้นว่าที่เค้าผลิตเกลือกันอยู่ไหน แล้วก็ไปชมวิธีการผลิตเกลือครับ ที่นี่เค้าเอาน้ำมาต้มให้ระเหยจนได้เป็นเม็ดเกลือ แปลกดีครับ ผมพึ่งเคยเห็น

บ่อเกลือที่นี่มีสองบ่อครับ

ตอนแรกก็กะจะนอนที่นี่ แต่พอดูเวลา เอ้า!!! บ่ายสองเอง เวลาเหลือแฮะ ไปภูลังกาเลยดีกว่า จัดไปครับ

แต่มันพีคตรงที่ฝนตกตลอดทางเนี่ยแหละครับ ค่อยๆขยืบๆไป มองอะไรแทบไม่เห็น

กว่าจะถึงภูลังการีสอร์ทก็เกือบหกโมงเย็นแล้วครับ กว่าจะกางเต็นท์จัดของเสร็จก็มืดพอดี แล้วผมก็ทำอาหารเย็นกินแล้วก็เตรียมตัวนอน รอลุ้นว่าพรุ่งนี้จะมีหมอกไหม

ค่าใช้จ่าย

ค่าน้ำมัน (น่าน)              110      บาท

ข้าวเหนียวไก่ย่างส้มตำ    60        บาท

น้ำมัน (ปัว)                    90        บาท

น้ำ                                20        บาท

ค่ากางเต็นท์                   120      บาท

รวม                        400     บาท

รวมทั้งหมด (2 วัน)     620     บาท

วันที่ 3 (16/12/59) ตื่นมาฟ้าครึ้มเหมือนเดิม ไม่มีหมอกสักแอะ 555+

ไม่เป็นไร ไปกินข้าวต้มดีกว่า หิวๆ ทางรีสอร์ทเข้าจัดไว้ให้ครับ มีลุงเจ้าของรีสอร์ทมาเล่าประวัติของรีสอร์ทและพื้นที่แถบนี้ให้ฟังด้วย ดูนักท่องเที่ยวสนใจกันดีครับ

เก้าโมงผมก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปยังภูชี้ฟ้า ระหว่างทางผมไปแวะวนอุทยานภูลังกา นึกว่าจะขึ้นไปได้เลย แต่ต้องนั่งรถ 4WD ของท้องที่ขึ้นไป เลยเอาไว้คราวหน้าแล้วกัน

เอ้า!!! เดินทางต่อ หมอกก็อย่างนี้ละครับ ตลอดทาง หนาวดี แต่หนาวแบบชื้นๆอะครับ ออกแนวเหนียวตัว

ระหว่างทางผมแวะอุทยานแห่งชาติน้ำตกภูซางก่อน หิวข้าวพอดี

ประมาณบ่ายสามผมก็ถึงภูชี้ฟ้า กว่าจะถึงอย่างนาน มันมองไม่ค่อยเห็นทางอะครับ เลยต้องค่อยๆขับไป พอถึงปุ๊บผมก็ขึ้นไปบนภูเลย ขาวโพลนเต็มไปหมด จริงๆผมนึกว่าภูชี้ฟ้าเป็นเหมือนดอยอินทนนท์ ขับรถไปถึงที่เลยนะครับ แหม่ เอาเข้าจริงๆต้องเดินขึ้นไปอีก 700 เมตร จากลานจอดรถ เหนื่อพอได้เหมือนกัน

ผมหาที่กางเต็นท์ไม่ห่างจากจุดขึ้นภูมากนัก ค่ากาง 100 บาท

แล้วก็ไปเดินเล่นดูของแถวร้านค้าที่เค้าเปิดกัน หมอกมันก็อย่างเนี้ย ทั้งวัน ตอนก่อนจะออกจากบ้านลืมดูพยากรณ์อากาศ เค้าบอกว่าภาคเหนือของไทยจะมีฝนตกนิดหน่อย นิดหน่อยจริงครับ มันตกแบบฟร็อกกี้อะ ตกแบบเหมือนใครเอาสเปรย์มาฉีดใส่หน้า จะตกทำไมว้าาาาาาาาา 

พอตกกลางคืนหมอกเริ่มหาย เอาแล้วๆ!!! มารอลุ้นกันดีกว่า ว่าพรุ่งนี้ฟ้าจะเปิดบ่

ค่าใช้จ่าย

ค่าน้ำมัน (เชียงคำ)                 100      บาท

ข้าวเหนียวส้มตำ                     40        บาท

ค่ากางเต็นท์                          100      บาท

ไส้กรอก                               30        บาท

รวม                                     270     บาท

รวมทั้งหมด (3 วัน)               890     บาท

วันที่ 4 (17/12/59) ตีห้า เจ้าของที่ที่ผมกางเต็นท์ก็เดินมาปลุกครับ ให้เตรียมไปขึ้นภู ช่วงเช้าการขึ้นภูต้องนั่งรถของท้องถิ่นขึ้นไป 30 บาท

ไม่ต้องลุ้นละครับ เหมียนเดิม ขาวโบ๊ะเลย

ยอดภูชี้ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ยังแทบไม่เห็น

ผมรอจนแปดโมงก็ไม่ทีท่าว่าจะเห็นพระอาทิตย์ เลยลงละครับ แต่กลับมาเจอทะเลหมอกข้างล่างแทน แต่เป็นทะเลหมอกแบบหม่นๆนะ แดดมันไม่ออก

ผมกินข้าวเช้าเสร็จ เก็บของเก็บเต็นท์ ก็ออกเดินทางต่อ ทีแรกว่าจะไปดอยผาตั้ง ขับไปได้สักพัก ไม่ไหว วันนี้หมอกหนักกว่าเก่าอีก แทบไม่เห็นทาง เปลี่ยนแผนเข้าตัวเมืองเชียงรายดีกว่า วันเสาร์พอดี ไปเดินถนนคนเดินเล่น ระหว่างทางไปก็มีตลาดนัด ผมก็ลงไปเดินเล่นซะหน่อยครับ

แล้วก็ออกเดินทางต่อ หมอกนี่มาเต็ม

ผมมาพักโฮสเทลชื่อ Muzi เป็นบ้านตึกแถว หาเกือบไม่เจอ เจ้าของเป็นชาวต่างชาติ น่าจะเป็นคนจีนนะ แต่พูดอังกฤษได้ เป็นกันเองมาก แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้ด้วย 

ผมถึงประมาณบ่ายสอง นอนพักผ่อนชาร์จทั้งแบตกล้อง มือถือแล้วก็แบตตัวเอง พอมืดๆหน่อยก็ออกไปเที่ยวครับ

ถนนคนเดินเชียงรายครับ คนไม่เยอะมาก เดินสบายๆ

อันนี้เป็นร้านกาแฟก่อนไปถนนคนเดินครับ สวย^^

หลังจากนั้นผมก็ไปเชียงรายไนท์บาร์ซ่า บรรยากาศคุ้นๆนะ เหมือนเคยมาตอนเด็กๆ เดินจนเหนื่อย สักสองทุ่มครึ่งผมก็กลับที่พักไปนอนละครับ

ค่าใช้จ่าย

ข้าวต้ม                         30        บาท

ขึ้น-ลง ภูชี้ฟ้า                60        บาท

ค่าเข้าห้องน้ำ                 10        บาท

ข้าวกะเพราหมูสับ           40        บาท

ไก่ย่าง                         20        บาท

ไอติมกล้วยหอม            10        บาท

ค่าที่พัก                       200      บาท

ไก่ทอด+เมี่ยง              40        บาท

รวม                           410     บาท

รวมทั้งหมด (4 วัน)     1,300  บาท

วันที่ 5 (18/12/59) ผมตื่นมา 7 โมงกว่า ก็เก็บของ วันนี้ผมจะไปดอยอ่างขางที่เชียงใหม่ แต่กว่าจะได้ของก็เกือบเก้าโมง ลืมโน่นลืมนี่ สุดท้ายก็ลืมแบตเตอร์รี่กล้องไว้ก้อนนึง T T ดีที่เป็นแค่แบตเทียบ

อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายครับ

ผมเดินทางโดยใช้เส้นทางที่ผ่านดอยแม่สลอง และแวะไร่ชาฉุยฟงก่อนครับ

บรรยากาศเส้นทางระหว่างไปดอยแม่สลอง 

ผ่านไร่ชา 101

ถึงละครับดอยแม่สลอง ผมแวะหน้า 7-11 หาของกินแถวนั้นก่อน หิวมากกกก

รองท้องด้วยขนมจีบซาลาเปา นั่งกินมันหน้า 7-11 แหละครับ แต่ไม่ใช่ของ 7-11 นะ ของร้านข้างๆ 555+

พออิ่มท้อง ผมก็เดินทางต่อ แต่ก็แวะเที่ยวตามป้ายที่เค้าเขี่ยนไว้ครับ ไหนๆก็มาแล้ว ที่แรกเป็นสุสานนายพลต้วน

แวะตลาดที่ขายของพื้นเมือง สมุนไพร อาหาร ฯลฯ

แล้วก็...จำไม่ได้แล้วอะครับ ว่าเค้าเรียกว่าอะไร T T

บ่ายกว่าๆผมก็ออกเดินทางต่อ มุ่งสู่ดอยอ่างขาง หมอกมันก็ฟุ้งเต็มไปหมดตลอดทางแหละครับ หนาวๆเหนียวๆ แต่พอขับไปได้สักพีกนึง ผมรู้สึกทำไมมันร้อนๆวะ แสบตาด้วยเหมือนมีอะไรแยงตา พอเงยหน้าไปดู น้ำตาแทบไหล แสงแดดดดดดด!!! เกือบจะสะกดคำๆนี้ไม่เป็นแล้วนะ จอดรถถ่ายรูป ยืนสังเคราะห์แสงแป๊บ

จนเริ่มร้อนก็เดินทางต่อละครับ แดดมันก็ผลุบๆโผล่ๆมาเรื่อยๆ บ่ายสามกว่าๆผมก็มาถึงดอยอ่างขาง คราวนี้มานอนที่จุดชมวิวขอบด้ง มาถึงก็เดินไปจุดชมวิวก่อนเลยครับ 

โอ้วบร๊ะเจ้า!!! แสงแดดอีกแล้วววว ไม่เจอมาสี่วันติดๆ จะเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว

ขอถ่ายรูปแสงแดดหน่อยครับ ดีใจ ^^

หนำใจแล้วก็มาต้มมาม่ากินครับ หิว

สักพักพระอาทิตย์ก็เริ่มตก แต่มาพร้อมหมอก หมอกอีกแล้วหรอ!!!

ตอนมาถึงว่าหนาวแล้วนะครับ กลางคืนนี่โคตรหนาวเลย อาบน้ำอยู่ต้องคอยเช็คตัวเองว่ายังมีชีวิตอยู่ไหมอะ จะไม่อาบก็ไม่ได้ มันคัน!!! อาบเสร็จเข้าเต็นท์นอนเลย อุ่นสบาย ในรูปนี่หมอนผมครับ เอาเสื้อผ้ามาใส่ถุงแล้วมัดทำเป็นหมอน ผมลืมเอาหมอนเป่าลมมา

ค่าใช้จ่าย

ค่าน้ำมัน (เชียงราย)                    100      บาท

น้ำ                                           20        บาท

ข้าวราดแกง                               40        บาท

ขนมจีบซาลาเปา                         60        บาท

น้ำมัน (แม่อาย)                          120      บาท

ค่ากางเต็นท์                               100      บาท

ค่าเข้าห้องน้ำ                             20        บาท

รวม                                        460     บาท

รวมทั้งหมด (5 วัน)                  1,760  บาท     

วันที่ 6 (19/12/59) ผมตื่นมาตี 5 ครึ่ง มันหนาววววว ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน พอหกโมงก็ไปที่จุดชมวิว รอดูพระอาทิตย์ขึ้น

พระอาทิตย์เริ่มขึ้นละครับ คนค่อนข้างเยอะสมควร

เหล่าผู้คนที่มารอชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวขอบด้ง

ทะเลหมอกมาเต็มครับ

อยู่จนเจ็ดโมงผมก็กลับมาจุดกางเต็นท์ละครับ แดดมันเริ่มร้อน

ผมตากเต็มให้แห้งก่อน ระหว่างั้นก็ไปเที่ยวที่อื่นก่อน ที่แรกก็เป็นไร่สตรอเบอร์รี่ครับ

แล้วก็หมู่บ้านนอแล

แล้วก็กลับมาเก็บของเพื่อนจะเดินทางต่อ แต่ก่อนนั้นผมแวะไปโครงการหลวงอ่างขางมา แต่ไม่ได้เข้าไปครับ คนเยอะมากกกกก พึ่งมารู้ทีหลังว่าดอกพญาเสือโคร่งเริ่มจะบานบ้างแล้ว

ก่อนกลับผมแวะกินข้าวแถวจุดกางเต็นท์ตรงฐานปฏิบัติการครับ 

อีขาลงเนี่ยแหละขนาดพักเป็นระยะๆแล้วนะ เบรกไหม้ไปสองรอบ ใจเสียเลย 

เป้าหมายต่อไป “ปายยยยยยยยยยยยย”

ผมไปนอนที่ปายริเวอร์แคมป์ครับ เพราะเคยมานอนทีนึงติดใจ พี่เจ้าของเป็นกันเองดี พี่เค้าแนะนำให้ไปเที่ยวสะพานบุญดู เป็นสะพานพาดผ่านทุ่งนายาวเกือบกิโล แต่ตอนที่ผมไปข้าวเกี่ยวไปหมดละ

บรรยากาศที่ปายริเวอร์แคมป์ครับ 

สักทุ่มกว่าก็ไปหาอะไรกินที่ถนนคนเดิน

ยำอะไรไม่รู้อะ ผมลองซื้อมากิน รสชาติแปลกดี

ตอนกลับมาจากถนนคนเดิน พี่เจ้าของเค้าชวนไปนั่งปิ้งข้าวแคบกิน กินกับน้ำเมี่ยงครับ พี่เค้าบอกว่ามันชื่อข้าวแคบเพราะเสียงเวลาเรากัดมันดัง แคบ!!! 

สักสามทุ่มก็แยกย้ายกันไปนอนแล้วละครับ จุดที่นั่งปิ้งข้าวแคบเมื่อตะกี๊ชื่อ “มุมหลบเมีย” ครับ 555+

ค่าใช้จ่าย

ข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว                       60        บาท

ส้มตำ                                               50        บาท

ค่าน้ำมัน (ไชยปราการ)                        70        บาท

ค่าน้ำมัน (แม่แตง)                              60        บาท

น้ำ                                                  20        บาท

ค่ากางเต็นท์                                     100      บาท

เมี่ยง+ยำ+ไส้กรอก                           60        บาท

ค่าชาร์จแบต                                    20        บาท

รวม                                              440     บาท

รวมทั้งหมด (6 วัน)                        2,200  บาท

วันที่ 7 (20/12/59) ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน พอสักหกโมงผมก็ไปที่จุดชมวิวหยุนไหลครับ เมื่อสองปีที่แล้วมาไม่เจอทะเลหมอก คราวนี้น่าจะเจอ

มีจริงๆด้วย ทะเลหมอก เพรียบเลย

หลังจากนั้นผมก็แวะเที่ยวแถวนั้นต่ออีกสักหน่อยครับ 

แวะซื้อข้าวเช้าที่ 7-11 จัดเต็มครับ มื้อเช้าสำคัญที่สุด ^^

10 โมงเช้าผมเริ่มออกเดินทางเพื่อไปปางอุ๋งครับ

แวะบ้านจ่าโบ่นิดนึง

แล้วก็มาถึงปางอุ๋ง อย่งเหนื่อยอะ ผมแวะไปเรื่อย ถ้ำลอด บ้านจ่าโบ่ จุดชมวิวมีกี่จุดก็แวะ ถึงปุ๊บรีบกางเต็นท์เลยครับ เอามากางให้มันแห้ง ผ้าเช็ดตัวอีก เมื่อเช้าที่ปายหมอกลง ที่รอถึง 10 โมงคือรอแดดครับ แต่ก็ไม่ออก

อากาศหนาวมากกกก อาบน้ำทีสะดุ้ง แต่ก็หลับเป็นตายเลยครับคืนนั้น zzZZ 

ค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าจุดชมวิวหยุนไหล               20        บาท

ข้าว+น้ำ (7-11)                         90        บาท

น้ำมัน (ปาย)                             100      บาท

ข้าวกะเพราหมูสับ                       40        บาท

ค่ากางเต็นท์                              50        บาท

รวม                                        300     บาท

รวมทั้งหมด (7 วัน)                  2,500  บาท

วันที่ 8 (21/12/59) สะลึมสะลือตื่นมาพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นละครับ

แสงสวยงามครับ

สักเก้าโมงผมก็กลับละครับ ไม่ได้แวะไปบ้านรักไทย คราวแล้วมาแวะไปแล้ว คราวนี้เลยไม่ไปดีกว่าเพราะต้องเดินทางไกล วันนี้จะไปดอยอินทนนท์ แต่ก็แวะไปสะพานซูตองเป้ก่อนครับ

ผมใช้เส้นทางอ้อม ไปแม่สะเรียงก่อนแล้วค่อยผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวงแล้วไปดอยอินทนนท์ ก่อนถึงแม่สะเรียงมีบางจุดยังทำทางอยู่บ้างครับ

กว่าจะถึงอินทนนท์ มืดพอดี ก้นแทบพัง กางเต็นท์ทำอาหารกิน อาบน้ำ (อาบน้ำอีกแล้วหรอ หนาววววว) แล้วก็นอนครับ zzZZ

ค่าใช้จ่าย

ค่าน้ำมัน (แม่ฮ่องสอน)                110      บาท

น้ำ                                           20        บาท

ค่าน้ำมัน (ขุนยวม)                      45        บาท

พายแฮมชีส                              20        บาท

ค่าน้ำมัน (จอมทอง)                    80        บาท

ค่าน้ำมัน (แม่สะเรียง)                  70        บาท

ค่ากางเต็นท์                              30        บาท

แหนมย่าง                                 20        บาท

   รวม                                        395      บาท   

รวมทั้งหมด (8 วัน)                  2,859  บาท

วันที่ 9 (22/12/59) ผมตื่นมาตีห้าไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วเตรียมตัวขึ้นยอดดอย โคตรหนาวเลย ขับรถไปตัวแทบแข็ง

จุดชมวิวอะไรสักอย่างเนี่ยแหละครับ เห็นคนมาแถวนี้เยอะเลยลองแวะ ภาพไม่ชัดนะครับ ผมโฟกัสไม่โดน 555+ มันมืด!!!

แล้วก็ขึ้นไปแถวกิ่วแม่ปาน จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

วันนี้คนมาเยอะมาก แต่ปรากฏว่าฟ้าปิด 555+ ปิดสนิทเลย

มีแง้มนิดนึง

ตอนแรกกะจะไปกิ่วแม่ปาน แต่เห็นคนแล้วไปยอดดอยเลยดีกว่า แถวรอคิวยาวถึงถนนเลย 

แล้วก็กลับไปจุดชมวิวที่แวะตอนแรก ผมไม่ค่อยเข้าใจทำไมถึงมีนักท่องเที่ยงบางคนทิ้งขยะมั่วสั่วไปหมด น้ำหนักมันเบากว่าตอนเอามานะ น่าจะหิ้วกลับไปได้สบายๆ หรือลืม ก็ไม่น่าจะลืมได้ขนาดนี้ เห็นแล้วก็เพลีย  

เก็บขยะเสร็จ หงุดหงิด กลับไปเก็บของลงดอยเลย แต่ไปเจอภาพนี้ทำให้ยิ้มออกได้ครับ ^^

เป้าหมายต่อไป ดอยปุย ก่อนถึงดอยปุยผมก็แวะพระธาตุดอยสุเทพก่อนครับ

ถึงละครับ ดอยปุย เงียบดีจัง ผมชอบที่นี่ที่สุดเลย คนน้อยดี

เดี๋ยวนี้มีที่ให้ชาร์จแบตด้วยครับ ค่าบริการก็แล้วแต่เราจะให้

วิวที่เห็นได้จากดอยปุยคือตัวเมืองเชียงใหม่ คอนทราสกันดีจัง

มุมเดิมแต่เป็นช่วงค่ำๆครับ คืนนี้นอนสบายสุดเลย เงียบสุดๆ

ค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์           70        บาท

ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง                             80        บาท

ค่าน้ำมัน (จอมทอง)                                 85        บาท

น้ำ                                                        20        บาท

ข้าวแกงปักษ์ใต้                                      40        บาท

ค่ากางเต็นท์                                           30        บาท

รวม                                                    325     บาท

รวมทั้งหมด (9 วัน)                              3,220  บาท

วันที่ 10 (23/12/59) ผมตื่นมาเกือบหกโมง ก็ไปรอตรงจุดชมวิวจุดเดิมครับ ดูพระอาทิตย์ขึ้น

แล้วก็มาทำอาหารเช้ากิน หิวโพดดดดด!!!

พอเก็บของเสร็จผมไปก็เลยไปขุนช่างเคี่ยนเผื่อฟลุ้คดอกพญาเสือโคร่งบาน แต่ก็บ่มี ต้นยังเกรียนอยู่เลย

แล้วก็เลยไปหมู่บ้านม้ง

บ้านม้งดอยปุย

จริงๆวันนี้ผมกะไปนอนในเมืองเชียงใหม่สักคืนสองคืน รอไปเที่ยวถนนคนเดิน แต่ลงมาเจอรถติดผมเลยเปลี่ยนแผนไปอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังแทน

มาถึงก็กางเต็นท์ ตากผ้าตากผ่อนก่อนเลยครับ

ห้องน้ำที่นี่สะอาดมาก

นอนเล่นพักผ่อนซะหน่อย

และแล้วพระอาทิตย์ก็ตก ผมนอนจุดกางเต็นท์โซน B ครับ ตกแล้วววววว

ตกแล้วววววว

พอพระอาทิตย์ตกแค่นั้นแหละครับ ความหนาวมาเยือนทันที จนเจ้าหน้าที่ต้องมาประกาศเตือนเรื่องอาบน้ำว่าระวังช็อค

ค่าใช้จ่าย

ค่าชาร์จแบต                              40        บาท

ค่าเข้าสวนดอกไม้ดอยปุย             10        บาท

น้ำ                                           20        บาท

ค่าน้ำมัน (แม่มาลัย)                    90        บาท

กะเพราหมูกรอบไข่ดาว                40        บาท

ค่าเข้าอุทยาน+กางเต็นท์              100      บาท

รวม                                        300     บาท

รวมทั้งหมด (10 วัน)                3,520  บาท