ที่จะไปไม่ได้ไป แต่ที่ใหม่ไฉไลกว่าเดิม
ทริปนี้ตั้งใจจะไปขึ้นดอยหลวงเชียงดาวกัน แต่เพื่อนโทรไปจองแล้วพบกับคำว่า "เต็ม" ก็ดับความฝันของเราและเพื่อนแล้ว(ล้อเล่น) เราก็เลยต้องหาที่ใหม่กัน
ทีนี้เราเลยหาที่ที่คิดว่าไม่ค่อยมีคนไปแล้วเราก็ไปและใกล้เชียงใหม่เพราะจองตั๋วเครื่องบินอะไรไปแล้ว และเราเซิร์ทกูเกิลก็พบกับภาพที่สวยงาม+กับระยะทางจากเชียงใหม่ไปไม่ไกลนัก ด้วยความเหนื่อยล่าในการหาที่ไปทุกคนจึงเลือกที่นี่ซะงั้น และที่นั้นคือผาแดงหลวง ซึ่งอยุ่ในจังหวัดลำพูน
เราเดินทางจากกรุงเทพฯไปลงเชียงใหม่วันพฤหัสตอนเย็นพอเครื่องลงก็ต่อรถเข้าที่พัก 260 บาท ต่อคัน ซึ่งเราจองที่พักใกล้สนามบินเดินทางประมาณ 3 กม. ก็ถึงที่พัก
ตื่นเช้ามาร้านที่ติดต่อเช่ารถเอาไว้ก็โทรมาให้ไปรับรถตามที่นัดกันไว้ โดยเรานัดรับรถกันที่ที่พัก เพราะสะดวกสุด ซึ่งรถที่เราเช่าไว้ก็ราคาวันละ 1500 บาท 3 วัน 4500 บาท มัดจำ 3000 บาท ได้รถก็ออกตัวเดินทางสู่จังหวัดลำพูนกันเลยจร้า
เดินทางมาก็ใกล้เที่ยง เจ้าหน้าที่ที่อุทยานก็โทรมาพอดีบอกว่าให้แวะตลาดลี้
จอดรถก็ลงไปซื้อของขึ้นไปกินตามที่พี่เจ้าหน้าที่บอก
หลังจากนั้นก็เดินทางตรงไปยังอุทยานแห่งชาติแม่ปิงโดยเสียค่าเข้าคนละ 20บาท และค่ารถอีก 30 บาท
เจ้าหน้าที่บอกว่ามีน้ำตกแก่งก้ออยู่สามารถขับรถไปเที่ยวชมน้ำตกก่อนได้ เราก็เลยต้องขับรถไปยังน้ำตกแก่งก้อ
หูยยยย น้ำเย็นๆ
ชมน้ำตกเสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปยังทุ่งกิ๊กจุดนัดพบคนนำทางที่ทางเจ้าหน้าที่ที่นั้นติดต่อเอาไว้ให้พร้อมรถโฟวิล 1 คันในราคา 3800 บาท แต่ด้วยความใจดีของพี่เจ้าหน้าที่เค้าก็ลดให้เหลือ 3600 บาท
หลังจากขนสัมพาระขึ้นกระบะเสร็จแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางสู่จุดกลางเต้นท์ในป่า
จากสภาพเส้นทางก็ไม่รู้สึกเสียดายค่ารถอีกเลย เพราะทางตามทางมีหินบ้างหลุมบ้าง และทางน้ำไหล
พอถึงจุดกลางเต้นท์ก็เย็นพอดี "เฮ้ย!!!! นิเราเหมาป่ากันเลยหรอ" ขึ้นไปมีแต่กรุ๊ปเราและเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ไม่กี่คน เอาของลงเสร็จพวกเราก็จัดการกางเต้นท์และเริ่มก่อกองไฟเตรียมทำของกินกัน
แต่อุปกรณ์ไม่คบก็เลยต้องไปขอยืมหม้อ ชามฯ ของเจ้าหน้าที่ พี่เขาก็ใจดีให้ยืม
และพี่เค้าบอกว่ามีจุดชมวิวใกล้ๆ ด้วย เดินไปแค่ 200 เมตรก็ถึง พวกเราเลยออก ๆ ไปชมวิวกัน
ฟ้าเริ่มมืดก็รีบทำอาหารมื้อเย็น
หลังจากเสร็จแล้วก็เริ่มกินกันเลย
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นมีเพื่อนคนหนึ่งหายไปในขณะที่เพื่อนทุกคนกำลังล้อมวงอยู่ที่อาหารแสนอร่อย เพื่อนอีกคนจึงออกตามหา จนเดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องออกตามหากันยกใหญ่แต่เพื่อนที่กำลังสนใจอาหารก็ยังคงสนใจในอาหารต่อไป จนเพื่อนที่ไปออกตามหากลับมาแล้วบอกว่า มันเข้าห้องน้ำ ดูหนังอยู่55555555
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เดินเขามาหาพร้อมถือกระบอกข้าวหลามเอามาให้พวกเรา ใจดีจุง ^v^
เมื่ออิ่มแล้วก็ชมดาวตกซักพักแล้วเข้านอน
พอนาฬิกาปลุกดังขึ้นหัวก็เด้งตาม ทุกคนตื่นตี 4 ล้างหน้าแปรงฟัน ตี 5 เจ้าหน้าที่ก็พาออกเดินทางต่อไปยังจุดชมวิวผาแดงหลวงด้วยรถโฟวิล
และเดินต่อประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงจุดชมวิวทันดูพระอาทิตย์
แล้วก็รอ......
ขึ้นแล้ว กว่าจะมาก็ 6.30 น.หลังจากชมวิวยามเช้าพร้อมความประทับใจเสร็จ เราก็ลงมาที่จุดกางเต็นแล้วทำอาหารเช้ากินกัน
มื้อเช้าเป็นไข่ปิ้งและมาม่า เป็นการทำอาหารที่ระทึกใจที่สุดไปกับไข่ปิ้งที่ระเบิดกันตูมตาม จนต้องลุ้นว่าจะเหลือกินซักกี่ฟอง
อิ่มกับมื้อเช้าแล้วเราก็ลงมือเก็บข้าวของและออกเดินทางลงจากจุดกางเต้นท์ในเวลา10.30 น. ตามที่พี่เจ้าที่หน้านัดไว้
เจ้าหน้าที่ก็พานั่งกระบะกลับไปยังทุ้งกิ๊ก และให้เราแวะอาบน้ำที่นั้นเลย
เมื่อถึงรถเราก็ออกเดินทางไปต่อกันที่ม่อนเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ พอถึงก็จัดแจงติดต่อไปยังที่พักที่จองไว้
หลังจากนั้นก็เก็บสัมภาระแล้วออกไปเดินเล่นรอบๆ บริเวณที่พัก
เดินเล่นเสร็จก็เริ่มหิวจึงชวนกันไปหาอะไรกิน พี่เค้าบอกว่ามีจุดชมทะเลหมอกของเขาเองจะพาไป แต่ต้องนั่งโฟวิลไปคนละ 50 บาท ออกเดินทาง 6.20 น.หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเราก็นอนเพื่อเตรียมตัวไปชมทะเลหมอกยามเช้ากัน
เมื่อถึงเวลานัดทุกคนก็มารอเพื่อขึ้นรถไปยังจุดชมวิว
อากาศดี วิวงาม ไม่อยากรีบกลับเลย
หลังจากลงมาจากจุดชมวิวก็ลองท้องด้วยข้าวต้ม
แล้วไปต่อกันที่ไร่สตอเบอรี่หน้าที่พัก ซึ่งเพื่อนแอบได้ยินพี่เขาคุยกับนักท่องเที่ยวคนหนึ่งว่าเก็บได้
เอิ่ม.....เก็บเยอะไปไหม
แล้วแวะสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิจต์ ที่เป็นทางผ่านพอดี เสีย ค่าเข้าคนละคนละ 50 บาท
เดินถ่ายรูป ชมสวนกันสวยๆ
หลังจากนั้นเพื่อนคนหนึ่งก็อยากเป็นฮิปสเตอร์อยากจิบกาแฟบนดอย พวกเราก็เลยต้องหาร้านกาแฟให้แต่จะไปดอยช้างก็ไกลเกินไป เลยได้แวะพักจิบกาแฟแบบฮิปสเตอร์กันที่ร้านหลงป่า (บอกเลยถ้าไม่สังเกตมีขับเลย555+)
อุ้ยเราใช้ดีแทคพอดี
เดินทางเข้าตัวเมืองก็บ่าย 3 โมงพอดีเลยแวะกินอาหารเมืองเหนือกันให้อิ่มท้องก่อนเดินทางต่อไปยังที่พัก
เก็บของที่ห้องพักเสร็จแล้วก็เดินทางไปปิดทริปกันที่ถนนคนเดิน
ติดตามทริปต่อๆไปของเราได้ใน www.facebook.com/ชีวิตติดเที่ยว-497676080603358/