ครั้งนึงที่...ดอยหลวงเชียงดาว

"เขาที่ฉันหลงรัก...คือเขาที่ทำให้ฉันเหนื่อยแทบน้ำตาไหล"
ก็เขานั่นแหละ..."เขาหินปูน ด อ ย ห ล ว ง เ ชี ย ง ด า ว จ.เชียงใหม่"
 2,225 m. จากระดับน้ำทะเล เขาหินปูนที่สูงที่สุดในไทย

เริ่ม! การแชร์ประสบการณ์กันดีกว่า ><

ก่อนอื่นเราก็หาข้อมูลนิดหน่อยและทำการโทรจองกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว(08-99551417)
ทริปนี้ เราไป 2วัน1คืน (1-2ธ.ค.2015) จองลูกหาบไว้2คน
ดอยหลวงเชียงดาวมีเส้นทางให้เดิน 2 ทางคือ ทางเด่นหญ้าขัด-อ่างสลุง (8.5km.) และ ทางปางวัว-อ่างสลุง (6.5km. แต่ทางนี้จะชันกว่ามาก)
ไหนๆก็ไปแล้ว เดินมันทั้ง2ทางเลยละกัน เราเลือกเดินขึ้นสบายๆชมวิว(หราาาา!!!)ทางเด่นหญ้าขัด แล้วลงทางปางวัว(ทางมันจะลำบากสักแค่ไหนกันเชียว หึหึ)

สิ่งของที่ต้องเตรียมไป :D
-อาหาร3มื้อ (มื้อกลางวันระหว่างทาง/มื้อเย็น/มื้อเช้า)
-น้ำดื่ม(พกติดตัวขวดเล็กไปคนละขวดและเตรียมไปใช้ข้างบนอีก1แพคใหญ่)
-ทิชชู่เปียก (สำคัญจริงๆนะ)
-เต้นท์และถุงนอน
-ถุงเท้า,ถุงมือ,หมวก,เสื้อกันหนาวที่กันลมจะดีมาก (ลมแรงจริ๊งงงง)
-ไฟฉาย(แบบที่ติดหัวจะดีมากเลย ไม่ต้องถือ)
-รองเท้า แนะนำเป็นรองเท้าที่ใส่สบาย พื้นไม่ลื่นนะคะ
-ยารักษาโรคทั่วไป
-ลูกอม หรือเจเล่ไลท์ ก็ได้!!!! (สำหรับเราสำคัญมาก น้ำตาลช่วยชีวิต)

ค่าใช้จ่าย
-รถ4x4 ที่จะไปส่งเราถึงจุดเดินเท้า (ส่งทางเด่นหญ้าขัด1,200 รับทางปางวัว600)=1,800
-ลูกหาบ (450/วัน/คน/20โล) เราจ้างไป2 คน ไป2วัน =1,800
-ค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาท
-ค่ารถเข้าอุทยาน 50 บาท
-ค่ากางเต้นท์ เต้นท์ละ 30 บาท
-ค่ามัดจำขยะ 300 บาท (จะได้คืนตอนลงมา แต่ต้องเอาขยะลงมาให้ครบตามจำนวน)
*บนดอยหลวงจะไม่มีไฟฟ้าและน้ำให้ใช้ 
แล้วห้องน้ำล่ะ? มี...แต่เป็นแค่ผ้าสแลนสีดำกั้นเป็นห้องๆ แล้วขุดดินเป็นหลุมๆ นึกต่อเองนะ...ไม่ขออธิบาย ฮ่าๆ

แล้ววันเดินทางก็มาถึง!!!! 
ตื่นเต้นมากกก เพราะแอบอ่านรีวิวมาเยอะ กลัวไปหมด กลัวหนาวกลัวเดินไม่ไหว แต่ทำไงได้ก็เราอยากไปนิ
แค่เห็นรูป คำบอกเล่า ก็หลงรัก "เขา" เข้าแล้ว ใจง่ายจริงๆเนอะ ><
นี่เป็นวิว ระหว่างทางไป อ.เชียงดาว แค่นี้ก็หนาว...ไม่อยากจะคิดถึงบนยอดดอยเล้ยยยย

มาเริ่ม ทริป " ห ล ง รั ก เ ข า " กันดีกว่า....
เรานัดเพื่อนอีก 3 คน เวลา 5.30 น. เพื่อเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไป อ.เชียงดาว
แวะตลาดซื้ออาหาร เตรียมเสบียง แล้วเราก็มาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เวลา 8.30 น.
เข้าห้องน้ำ ทำเอกสาร และเตรียมตัวให้พร้อม...สำหรับหนทางข้างหน้าของเรา  555

เอาล่ะ!!! คนพร้อม ลูกหาบพร้อม

เราได้พี่ลูกหาบที่จะเริ่มเดินไปกับเรา คือ พี่สมชาย และพี่นายทุน
(เราเรียกเค้าว่าพี่โทนี่ เพราะพี่แกแต่งตัวได้จี๊ดมาก ดูจากภาพคงเดาไม่ยากว่าคนไหนใช่ไหม 555)

แล้วรถ4x4 ของลุงตีก็มาถึง เพื่อรับเราไปจุดเดินเท้า ใช้เวลา 1 ชม.
เราชวนลุงตีคุยกันมาตลอดทาง คุยเรื่องนู้นนี่ ถามข้อมูลเกี่ยวกับดอยหลวงเชียงดาวบ้าง
สักพักลุงตีก็จอดรถ....
ถึงแล้ว!!!!.....ยังงงงง 5555 ถึงแค่จุดเดินเท้าเท่านั้นแหละ
มาลุยกันเลยดีกว่า ><

เริ่มเดินจริงๆล่ะนะ (เวลา10.30)

ตลอดเส้นทาง เราและเพื่อน ก็ชวนกันคุยไป เดินไปอย่างสนุกสนาน หยิบกล้อง มือถือ มาถ่ายรูปเล่นบ้าง
อากาศถือว่ากำลังดีคะ ไม่ร้อน ไม่หนาว แต่เดินนานๆไปก็เล่นเอาเหงื่อออกเหมือนกัน
กำลังตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆรอบตัว ขนาดดอกหญ้าริมทาง ก็ยังสวยงามไปหมด 5555 เว่อร์มากกก
เราเดินบ้าง พักบ้าง ตามกำลังขา 555 ....จนมาถึงครึ่งทาง!!!! 
เราจะเจอ 3แยก เวลา12.00 น. พอดี เป็นทางที่จะมาเจอกับคนที่เดินมาจากเส้นปางวัว และส่วนใหญ่จะพักทานข้าวกลางวันตรงนี้

เราพักทานอาหารกลางวัน ถ่ายรูปนิดหน่อย แล้วก็ออกเดินทางกันต่อ...
เริ่มเข้าสู่ความเงียบ....เพราะทุกคนเหนื่อยยยย และเก็บแรงไว้เดินดีกว่า 555
เราเดินสวนทางกับนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินกลับบ้าง
ต่างก็พูดให้กำลังใจพวกเรา ว่า "สู้ๆนะ อีกไม่ไกล ><" 
แล้วก็มอบไม้เท้าให้ บอกว่าทางข้างหน้าน้องคงต้องใช้มัน O.,O พี่จะสื่ออะไรหรอ???
เริ่มกลัวแล้วสิ 5555...เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน ยุคนี้มันเป็นยุคที่ผู้หญิงต้องสตรอง! ไม่สตรองไม่รอดค่าาา สู้!!
ทางเริ่มชัน...แล้วมันก็ได้ใช้จริงๆด้วย ไม้เท้าคู่ชีพ :-)
เฮือกกกกกกก....เหนื่อยยยยยยย
สังเกตรูปซ้าย ถือยาดมอยู่ 5555 อีกนิดเดียว สู้ค่ะ สู้!!เราต้องไปพบ "เขา" ที่เป็นรักแรกพบให้ได้ 5555
ตลอดการเดินทางครึ่งหลังของเรา มีแต่คำว่า "ใกล้จะถึงรึยัง" นับครั้งไม่ถ้วน

แต่ก็จะได้คำตอบจากพพี่สมชายและโทนี่ว่า "ไม่ไกลละคับ อีกนิดเดียว" พร้อมกับรอยยิ้ม แอร้ยยยย~
หนูไม่เชื่อ!!!! อีกนิดมากี่ครั้งแล้ว ฮือออออ "เ ข า ทำให้ฉันเหนื่อย แทบอยากล้มตัวลงไปกลิ้งกับพื้น"
เวลานี้ ถึงเราจะบ่นแค่ไหน แต่เท้าก็ยังต้องเดินต่อไป.....

แล้วในที่สุดเราก็มาถึง อ่างสลุง จุดกางเต้นท์ ของพวกเรา เวลา 14.35น.
ใช้เวลาไปทั้งหมด 4ชม.ถือว่าเดินเร็วพอสมควร
พี่สมชายและพี่โทนี่ที่เดินนำมาก่อน ได้จัดการกางเต้นท์ ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณจริงๆค่ะ น้ำตาจะไหล
พวกเรากางเสื่อ แล้วล้มตัวลงนอน พักผ่อน เติมพลัง

เวลา 16.00 น. ไปดูพระอาทิตย์ตกที่จุดยอดดอยหลวงเชียงดาวกันเถอะ
ทางขึ้นไปจุดยอด ชัน และส่วนใหญ่จะเป็นหิน
ขอแนะนำ ให้เก็บทุกอย่างลงกระเป๋า แล้วใช้มือจับหินเถอะ!!! (อย่าลืมพกไฟฉายไปด้วยนะคะ เผื่อตอนลง)
ฮึบๆเมื่อไหร่จะถึง...จริงๆถ้าเทียบกับระยะทางที่เดินมาตอนเช้ามันไม่ไกลเลย แต่มันชันและเหนื่อยมาก
แต่เราก็ไม่ท้อหรอกกกก อย่าหลอกให้ฉันทิ้ง "เขา" ซะให้ยากเลย 5555 เอ้า!!! จับหินแน่นๆนะ ไม่งั้นตกไปมีหวังเละแน่ >~<
เราใช้เวลาเดินไม่สิ ปีนขึ้นยอดดอยหลวงประมาณ 50 นาที
เห็นธงชาติด้านบนนั้นไหมมม ทุกโค้นนนนนนนน
ถึงจุดนี้ มดคำสิเว้าจิมๆค่าาาาา
อยากตะโกนดังๆว่าถึงแล้วโว้ยยยยยยยยย 55555

มาถึงตรงนี้...เริ่มหลงรัก"เขา(หินปูน)ลูกนี้" กันบ้างรึยัง :-)
ถ้ายัง มาดูวิว ที่เขาลูกนี้ทำให้ เราได้เห็นกันดีกว่า
ข้างบนอากาศหนาว เพราะมีลมแรง แต่ก็ถือว่า คุ้ม สุดๆ
พระอาทิตย์ใกล้ตก ช่างภาพทั้งหลายก็จับจองพื้นที่กันแล้ว >< 

โอ้โห...พี่โทนี่ ของเรา เกาหลีจริงๆ
ขอแอบ ลงภาพตัวเองหน่อยโน๊ะ เบื่อถ่ายวิวแล้ว 555
ลืมบอกไป บนยอดมีสัญญาณมือถือนะ คนมีคู่ก็รายงานแฟนกันไปค่ะ
ลมแรง หนาวจนมือชา หน้าชา ไปหมดแล้วววววว~
เป็นช่วงเวลาที่สวยมากกกกจริงๆ
วันนี้ฟ้าปิด เราคงจะไม่เห็นดาวแล้วมั้ง เดินลงไปรอดาวที่เต้นท์ละกันเนอะ...
ขาขึ้นว่าลำบากแล้ว...ขาลงไม่ต้องพูดถึง แทบจะเอาก้นถูกับดินลงมาเลยละ
พอถึงเต้นท์พวกเราก็กินข้าวเติมพลัง เปลี่ยนชุด ออกมานั่งดูดาวสักพัก 
แล้วก็เข้านอน (2ทุ่ม) เด็กอนามัยมากกกก ป่าว! มันเหนื่อยต่างหากล่ะ 5555
พรุ่งนี้พี่สมชายนัดพวกเรา ตี4.30 เพื่อจะพาเราไปดูแสงแรกที่สันกิ่วลม

ตื่นก่อนเวลา กินขนมปังรองท้องไปก่อน แล้วก็ออกเดินไปสันกิ่วลม (4.00 น.)
พี่สมชายแนะนำให้เอาไม้ขึ้นไปด้วยเพราะขาลงมันจะลื่น โอเคค่าาา เตรียมพร้อมร่างกาย ลุย!!!
แล้วเราก็มาถึงสันกิ่วลม ใช้เวลาไปประมาณ 50 นาที 
ไม่อ้อมค้อม ขอบอกว่าเหนื่อยยยยจริงไม่แพ้เมื่อวานเลย 555+
ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย....บนนี้เห็นวิวเมืองด้วย :)
หมอกหนามาก...ไม่เห็นพระอาทิตย์แล้วล่ะ ถ่ายวิวไม่ได้ ถ่ายคนแทนแล้วกัน

7.00น. หิวข้าวแล้ว ลงไปกินข้าว เตรียมตัวกลับบ้านกัน
รูปนี้เพื่อนถ่ายตอนกำลังลื่นพอดีเลย 555 ถ้าไม่มีไม้เท้าคงแย่กว่านี้

กินข้าวเสร็จ ก็ถึงเวลากลับแล้ว (09.00น.)ขากลับเราจะเดินเส้นทางปางวัว ทางที่เค้าบอกกันว่าโหด และชันมาก
พร้อมแล้วก็ลุยต่อ!!
ทางปางวัว ทั้งชัน ทั้งโหดหิน...ก็หินจริงๆนั่นแหละ
แถมความลื่นเข้าไปอีก เกร็งทรีนนนนไปตามๆกัน เหมือนนิ้วจะทะลุรองเท้าออกมาได้
[img]http://f.ptcdn.info/992/037/000/nysz59e5jtTMucnwGt5-o.jpg[/img]
[img]http://f.ptcdn.info/992/037/000/nyt0hnjo5NSq3ZldNxA-o.jpg[/img]
ในที่สุดเราก็กลับมาถึงพื้นแผ่นดินโดยสวัสดิภาพ เวลา 12:50 น. :-)

สรุป:: ของทริปนี้ คือดีงาม
อาจจะเหนื่อย ฮิมต๋าย (แทบตายภาษาเหนือ) งอแง บ่น แต่คุ้มสุดๆ
ใครที่ไม่เคยมา ลองหาโอกาสมาสักครั้งเถอะ
แล้ว"เขา(หินปูน ดอยหลวง) จะไม่ทำให้คุณผิดหวังจริงๆ"

สุดท้าย อยากขอบคุณ
" เ พื่ อ น ร่ ว ม ท า ง ที่ ไ ป ด้ ว ย กั น น ะ "
แล้วก็รูปสวยๆจากเม็ดฝ้าย เทพ ปาม :)
และก็ขอบคุณใจตัวเองที่ไม่ยอมแพ้ มันทำให้รู้ว่าถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรแล้วมันไม่ยากเลย
และผลลัพธ์ที่ได้มันเกินคุ้มจริงๆ

ติดตามทริปอื่นๆได้ใน https://www.facebook.com/piin.liin    IG: piinliin

อ้อ ลืมขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านจนจบนะคะ :-)