ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
พิชิตยอด ดอยลังกาน้อย-ลังกาหลวง 2031 เมตร ดอยลังกาหลวง (Doi Lung Ka Luang) จ.เชียงใหม่
    • โพสต์-1
    HEAD QUARTER •  มกราคม 07 , 2559

    พิชิตยอด ดอยลังกาน้อย-ลังกาหลวง 2031 เมตร

    "ปิดเทอมนี้ไป ดอยลังกาน้อย-ลังกาหลวง กัน!" คำชักชวนจากเพื่อนของจขกท.
    "ไป!!! " จขกท.ตอบไวดั่งระบบอะติโนมัติ ฮ่าๆๆๆๆ

    แต่เดี่ยวๆ มันคือที่ไหนว่ะ สำหรับคนอื่นอาจจะเคยได้ยินชื่อ หรือเคยไปกันมาแล้ว แต่สำหรับเรานี้เรียกว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นพวกใจง่าย ชวนไปเที่ยวไหนไปหมดดดดดดดด

    (เราเป็นสายเที่ยวทะเล ภูเขานี้ความรู้และประสบการณ์น้อยจริงๆค่ะ)

    หลังจากตอบตกลงว่าไปก็เลยค่อยมารวบรวมหาข้อมูลว่ามันคือที่ไหน อะไรยังไง เพราะตอนแรกรู้แค่ว่า เดินป่า- ตั้งแคมป์ -ภาคเหนือ (เห็นไหมว่ารู้น้อยจริงๆ ฮ่าๆ) เพราะเคยเดินป่าแค่ภูกระดึงเองค่ะ ซึ่งเราก็ได้ทำรีวิวไว้เมื่อปีที่แล้วค่ะ ใครสนใจอ่านตามนี้เลยค่ะ
    ( ตุลานี้ที่ภูกระดึง 2558 )

     เพราะฉะนั้นการรีวิวครั้งนี้ก็ถือเป็นกระทู้ที่สองของเราค่ะ

     

     

    ดอยลังกาน้อย ดอยลังกาหลวง

     เป็นเทือกเขาที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ขุนแจ ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

     ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ 62 กิโลเมตรตามทางหลวงสายเชียงใหม่-เชียงราย

     (ทางหลวงหมายเลข 118) 


    1.ยอดดอยลังกาหลวง มีความสุง 2031 เมตรจากระดับน้ำทะเล  เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศ

    2.ยอดดอยลังกาน้อย มีความสูง 1800 เมตรจากระดับน้ำทะเล  เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 11 ของประเทศ

    3.ยอดดอยผาโง้ม มีความสูง 1700 เมตรจากระดับน้ำทะเล  เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศ

     

    โดยมีอาณาเขต ตลอดสามจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง

    ระยะทางที่เดิน 17 กิโลเมตร (ตามป้าย)

    ประกอบด้วยพื้นที่ราบสลับเนินเขาเตี้ย ๆ ตลอดจนถึงภูเขาสูงชัน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับไปมา

     ทำให้การเดินทางตลอดทริปของเราค่อยข้างโหด แต่เราแบ่งการเดินเป็นสามวัน และตั้งสองแค้มป์ค่ะ

     

    ครั้งนี้เราเลือกจองไปกับทัวร์ เพราะเพื่อนที่ชักชวนเป็นคนจองให้ ระยะเวลา3วัน2คืน (ไม่รวมที่นอนบนรถ) ค่าทริปทั้งหมดราคา 4600 บาทถ้วน
    รวมค่ารถไป-กลับ กทม.
    -ค่าอาหารตลอดทริป
    -ค่าลูกหาบและเจ้าหน้าที่
    -ค่าไกด์
    -ค่าถุงนอนและเต้นท์ (ถ้ามีสามารถนำไปเองได้ค่ะ)
    ส่วนเรื่องทัวร์ไหนอะไรยังไงขอไม่บอกนะค่ะเพราะเราไปกันเองจ่ายเองไม่ได้มาโฆษณาทัวร์ค่ะ แต่ถ้าอยากรู้หลังไมค์มาค่ะ

     

    ถ้าสนใจไปด้วยตัวเอง

    สามารถติดต่อโดยตรงกับเจ้าหน้าที่อุทยานขุนแจ เพื่อทำการจองวันเวลา ไกด์และลูกหาบค่ะ

    อุทยานแห่งชาติขุนแจ   ต.แม่เจดีย์ใหม่  อ. เวียงป่าเป้า  จ. เชียงราย   57260

    โทรศัพท์ 0 5316 3364, 08 4366 5213, 08 44892173   โทรสาร 0 5316 3364

      อีเมล khunchae_np@hotmail.com

     

     

    สิ่งที่ต้องเตรียมไปนอกเหนือจากสิ่งที่ทัวร์เตรียมให้


    -เป้เดินทาง อันนี้แนะนำแบบที่มีสายรัดเอว รัดหน้าอกนะค่ะ

     เพราะมันช่วยถ่ายน้ำหนักเราไม่ให้เจ็บไหล่เจ็บหลังเวลาเดินค่ะ 
    - เสื้อผ้า + เสื้อกันหนาว ตามความจำเป็นนะค่ะ เวลาเดินตอนกลางวันค่อนข้างร้อน

     แต่เพื่อกันการขีดข่วนของกิ่งไม้แขนยาวช่วยได้เยอะค่ะ

    -รองเท้า แบบที่มีดอกยางเยอะๆค่ะ เพื่อการยึดเกาะเพราะทางเดินขึ้นลงค่อนข้างลื่นค่ะ

    -ถุงมือ ใช้สำหรับเกาะไปตามทางเดิน หิน และต้นไม้ค่ะ

    -ไม้เท้าเดินป่า จะหาซื้อไปหรือหากิงไม้แถวนั้นก็พอช่วยได้เช่นกันค่ะ
    - *ขวดน้ำแบบที่มีตัวกรอง เพราะเนื่องจากเราต้องดื่มน้ำจากลำธาร ถ้าใครกังวลเรื่องความสะอาด

     เตรียมไปก็ดีค่ะ แต่สำหรับเรา เราดื่มสดไม่กรองอะไรทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆๆๆ
    - ไฟฉาย จำเป็นมากกกกกก เอาไว้ส่องเวลาเดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและ พระอาทิตย์ตก

     และเอาไว้ไปทำธุระในป่าด้วยค่ะ 
    - ทิทิชชู่ ชชู่เปียก เราจะไม่ได้อาบน้ำตลอดการเดินทาง ทิชชู่เปียกเอาไว้ทำความสะอาดตัวค่า

     และเวลาทำธุระส่วนตัวในป่า
    - ยาประจำตัว ยาคลายกล้ามเนื้อ ยานวด ยากันยุง
    - อาหาร (ในกรณีไปเองไม่ได้ซื้อทัวร์ ต้องจัดเตรียมไปเองค่ะ)
    - อุปกรณ์การทำอาหาร (ในกรณีไปเองไม่ได้ซื้อทัวร์ ต้องจัดเตรียมไปเองค่ะ)
    - เต้นท์ และ ถุงนอน

     

    *ชี้เป้า
    เป้ - เราซื้อ THE NORTH FACE ขนาด 65ลิตรมาจาก Outlet ค่ะ

     ได้ในราคาที่สวยงามมาก จาก 8000 กว่า เหลือแค่ 4000กว่าเองค่ะ -50% off

    -เป้  Deuter  ใน Central Super sport

    -รองเท้าเดินป่าจีนแดง ร้าน TKT  


    อุปกรณ์ต่างๆ

     - ร้าน Decathlon ใน โลตัสบางสาขา

     

     

    เริ่ม!


    วันที่24 ธันวาคม 2558
    เรานัดรวมตัวขึ้นรถกันที่ BTS สนามเป้าค่ะ เมื่อเช็คของเช็คผู้ร่วมทริปกันแล้ว เราก็ออกเดินทางด้วยรถตู้2คันค่ะ

     (ผู้ร่วมทริปทั้งหมดมี17คน กลุ่มเรามี7คนค่ะ และก็คนอื่นอีก10) เราออกจากกรุงเทพก็ประมาณ 20.30น. ค่ะ

     

    25 ธันวาคม 2558 - Merry X'Mas!!!!!

    05.30 น. ถึงตัวเมือง เชียงใหม่ แวะซื้อของสดที่ตลาดเพื่อเตรียมเสบียงขึ้นไปบนเขาค่ะ

    07.00 น . - กว่าจะถึง อช.ขุนแจ ก็ช่วงเช้า ประมาณ 7 โมงกว่า แวะทำธุระ จัดของและทานอาหารเช้าจน 8 โมงกว่า ก็เริ่มเตรียมตัวเดินทางค่ะ รอบนี้เราเริ่มเดินจาก สถานีเรดาร์ (นั่งรถกระบะ2คันมาจาก อช.ขุนแจ) ทุกอย่างพร้อมแล้ว
    เริ่มเดินกัน!!!

     

     

     

    จากอุทยานแห่งชาติขุนแจ - สถานีเรดาร์

     

     

     มองกลับมาเห็นสถานีเรดาร์

     

    เริ่มเดินแรกๆยัง ซ่าอยู่ พอเดินไปซักพักเริ่มเหนื่อย ถึงเหนื่อยมากกกกกกก ช่วงแรกเราจะเดินผ่านดอยสันยาวค่ะ และเนื่องจากพื้นที่มีความชันและเป็นสันขอบอยู่เยอะ เพราะฉะนั้นต้องระวังกันมากๆนะค่ะ แต่ถึงเหนื่อยขนาดไหน เราก็ได้วิว ระหว่างทางช่วยปลอบใจไปได้เยอะค่ะ

    ตั้งแต่เริ่มเดิน พูดกันตลอดทางว่าอากาศดีเนอะ เย็นๆไม่ร้อน เดินสบาย แต่พอเดินกันไปสักพัก ฝนตกเลยค่ะ อันนี้เหนือความคาดหมายมากๆ ฮ่าๆ แต่ดีที่เตรียมตัวมาทั้งผ้าคลุมกระเป๋าแล้วก็เสื้อกันฝน แต่เนื่องจากฝนลง ทำให้ระหว่างทางมีหมอกลง ขอบอกว่าสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก

     

     

     

    12.00 น. - เดินกันไปสักพักฝนก็โปรยลงมาตลอดทาง จนถึงเวลาเที่ยง เราแวะพักทานข้าวเที่ยงที่เตรียมมา และแวะทำธุระ

    หลังจากทานอาหารเสร็จแเล้วก็เดินทางกันต่อ ระยะทางหลังจากนี้จะมีความชันมาขึ้นเรื่อยๆเพราะเรากำลังจะเดินไปยัง ผาโง้ม ที่มีความสูงอยู่ที่ 1,700 เมตรค่ะ

     

     

    เขาตรงกลางภาพคือผาโง้มค่ะ

     

     เรียกว่าทางโหดมากกกกกกก ทางขึ้นผาโง้มชันมากค่ะ ในใจที่ร้องไห้ตลอดเวลา (นี้ตูมาทำอะไรที่นี้ ฮือออออออออ) แต่ยิ่งทางยากลำบากแค่ไหน พอเวลาไปถึงมันภูมิใจมากๆ และสิ่งที่ได้ตอบแทนมา นั้นก็คือ วิวบนยอดนี้ค่ะ

     

     

     

    ชื่นชมกับความงานและแวะพักเหนื่อยสักพัก เราก็ต้องเดินทางกันต่อค่ะ เพราะวันนี้เราจะไปตั้งแค้มป์ที่ ลังกาหลวงค่ะ

     

     

     

    เดินมาสักพักแล้วมองกลับไปยังผาโง้ม โอ้โห้วววววววววว เดินกันมาได้ยังไงว่ะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 

     

     

    ระหว่างทางนั้น มีดอกไม้ให้เราชื่นชมอยู่ตลอดทางเลยค่ะ แม้ว่าช่วงที่เราไปดอกไม้อาจจะร่วงโรยไปบ้าง แต่เรียกว่าก็ยังพอมีให้ถ่ายรูปค่ะ 

     

     

     

     

    เราค่อนข้างแวะถ่ายรูปกันเยอะ ทำให้เดินช้ากว่าคนอื่น จึงอยู่เป็นท้ายๆกลุ่ม (จริงๆ เหนื่อย แวะพักเพราะเหนื่อย ฮ่าๆๆๆๆ)

     

     

    17.00 น. ในที่สุดเราก็ถึงลานกางเต้นท์ลังกาหลวง เนื่องจากเรามาถึงกันค่อนข้างช้า ทำให้พลาดพระอาทิตย์ตกในวันแรกไป เมื่อกางเต้นท์กันเสร็จ เราก็ออกมาทำ และทานอาหารเย็นกันค่ะ ทานเสร็จอัดยาคลายกล้ามเนื้อแล้วไปนอน !!! เพราะพรุ่งนี้พระอาทิตย์ขึ้นรอเราอยู่ค่ะ

     

    26 ธันวาคม 2558 
    4.30 น. – “เมิงๆตื่นได้แล้ว...” ดั่งเสียงนรกดังมาจากเพื่อนเต้นท์ข้างๆ โอยยยยยยยย ขอนอนต่อได้ไหม แต่ไม่ได้ค่ะ!! เราต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เอ้า!!! ตื่นก็ตื่นว่ะ...
    5.00 น. - หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน เราก็ออกเดินทาง โดยมีพี่เจ้าหน้าที่ “พี่จะแล” นำทางเราไปค่ะ เรียกว่าความรู้สึกตอนเดินขึ้นไปยังดอยลังกาหลวงเช้านี้เหนื่อยมาก หายใจแทบไม่ทัน เหมือนโดนลากจากเตียงมาออกกำลังกายตอนเช้า โอยๆๆๆ แต่ยังก็ต้องเดิน เดินค่ะเดิน เดินต่อไปค่ะ 
    เมื่อขึ้นมาแอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะลักษณะของดอยลังกาหลวงไม่เหมาะต่อการดูพระอาทิตย์ขึ้นเพราะว่ามีต้นไม้สูงบังอยู่ทางทิศตะวันออก ทำให้บังตอนพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้เราได้เห็นเพียงแสงที่เหลือบออกมา แต่วิวตอนเช้าบนดอยก็สวยมากๆนะค่ะ

     

    หลังจากกลับมาทานข้าวเช้าที่แค้มป์ เราก็เก็บเต้นท์เพื่อเดินทางต่อไปยังดอยลังกาน้อยค่ะ

    09.30 น. - ออกเดินทางกันค่ะ วันนี้พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าระยะทางไม่ยากมาก น้อยและง่ายกว่าเมื่อวาน เพราะเมื่อวานเราเดินกันไปประมาณ 8 กิโลเมตร ส่วนวันนี้เราต้องเดินประมาณ 6 กิโลเมตรค่ะ

    ทางไปดอยลังกาน้อยไม่ถือว่าชันมาก แต่มีต้นไม้ และหญ้าขึ้นสูงตลอดทาง แนะนำให้ระวังโดนเกี่ยว โดนบาดด้วยนะค่ะ เพราะเราโดนมาแล้ว แขนเละเลย ทั้งแมลงกัด ทั้งหญ้าบาด ทั้งล้ม โอยยยยยย ฮ่าๆๆๆๆ

     

     

     

     

    ระหว่างทางเราก็แวะพักทานข้าวเที่ยงตามร่มไม้ พอหายเหนื่อยเราก็เดินทางกันต่อ ทางเดินบริเวณนี้เป็นทางไหลเขา ไม่มีที่ยึดเกาะ ระวังกันด้วยนะค่ะ (แนะนำให้ใช้ไม้เท้า)

     

     

     

    เดินมา 5 กิโลเมตรกว่าๆ ก็มาพบจุดตั้งแค้มป์แรกที่มีน้ำตก เราแวะพัก ล้างเนื้อล้างตัวและ เติมน้ำกินบริเวณนี้ค่ะ

     

     

    15.00 น. เดินต่อขึ้นเนินมาอีกประมาณ 20 นาที ก็เจอจุดที่เราจะตั้งแค้มป์กัน บริเวณนี้จะใกล้กับยอดดอยลังกาน้อย เป็นลานโล้ง แต่มีต้นไม้บังลมค่ะ เมื่อเราตั้งเต้นท์กันเสร็จก็พักผ่อนกันรอเวลาเดินไปดูพระอาทิตย์ตกค่ะ

    17.00 น. เราออกเดินไปที่ยอดลังกาน้อยเพื่อดูพระอาทิตย์ตกค่ะ ทางช่วงนี้ก็จะเป็นลักษณะของสันเขา ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

     

     

    บนนี้มีเจดีย์ให้สักการะ และมีที่โล่งให้เรานั่งชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสบายเลยค่ะ พี่เจ้าหน้าที่ก็ชี้ทางลงของพรุ่งนี้ให้เราดู เรียกว่าชัน และคดเคี้ยวมาก บอกตรงๆว่าเห็นทางแล้วใจแป่วเลยค่ะ ฮ

    • โพสต์-2
    HEAD QUARTER •  มกราคม 08, 2559
    • โพสต์-3
    HEAD QUARTER •  มกราคม 08, 2559
    • จุดเด่น:
    • จุดด้อย:
    • ข้อสรุป:
    คะแนน