ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
ระนอง 3วัน 2คืน กับ 2 พันบาท (ทริปหารเฉลี่ย) จังหวัดระนอง จ.ระนอง
    • โพสต์-1
    Arada •  มีนาคม 01 , 2559

    ระนอง 3วัน 2 คืน ครบเครื่องเรื่องทะเล ภูเขา และน้ำตก

    20 - 22 กพ. 2559 ที่ผ่านมา เป็นวันหยุดยาวที่ควรค่าแก่การออกทริปเที่ยว
    แล้วที่แบบไหนที่จะตอบโจทย์ชาวเดอะแก๊งค์ของเรา
    หลังจากหาข้อมูลกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายเราก็ได้ข้อสรุปของทริปวันหยุดยาวครั้งนี้ว่า เที่ยวกันที่จังหวัดระนองนี้แหละ
    การออกทริปครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้ง  เราออกเดินทางกันด้วยรถส่วนตัว จากกรุงเทพเย็นวันศุกร์มุ่งหน้าสู่จังหวัดระนอง
    เพราะหวังว่าจะได้เห็นทะเลหมอกในตอนเช้า (อ่านไม่ผิดหรอก ระนองก็มีทะเลหมอกเหมือนกัน)

    เรามาถึงจุดชมวิว เขาฝาชี ประมาณตี 4 กว่าๆ ข้างบนนั้นมีศาลาให้พวกเราได้พักพิง ระหว่างรอดูพระอาทิตย์ขึ้น

    พระอาทิตย์ส่องแสงมาแล้ว วันของการท่องเที่ยวก็เริ่มขึ้น

    แม้พระอาทิตย์ขึ้นมาสักพักแล้ว หมอกก็ยังฟุ้ง ไม่มีทีท่าว่าจะจางไปง่ายๆ
    แต่พวกเราก็ทนรอ เพื่อที่จะรอดูทะเลหมอก บนวิวทะเล
     

    แล้วในที่สุดสิ่งที่พวกเรารอ มาหลายชั่วโมง
    ทะเลหมอกจางๆ กับ ทะเล ที่เราอยากเห็น
    ต่างคน ต่างมุม หามุมถ่ายรูปกันอย่างสนุกเพลิดเพลิน

    หลังจากเพลิดเพลินกับจุดชมวิว เขาฝาชี กันอยู่นาน ถึงเวลาที่พวกเราต้องโบกมือลา
    เพื่อไปสถานที่ต่อไป คือ หมู่เกาะกำ พวกเราจะไปดำน้ำ!!!
    ออกเดินทางจากเขาฝาชีไปยังอุทยานแหลมสน อ่าวบางเบน ท่าเรือจะอยู่ตรงอ่าวบางเบน
    ไม่นานนัก เรือก็พามาถึง จุดดำน้ำ

    เพื่อนก็สนุกกับการดำน้ำกันไป เหนื่อยก็ขึ้นมาพักถ่ายรูป หายเหนื่อยก็โดดลงไปเล่นกันต่อ

    หลังจากดำน้ำได้ไม่นาน พี่คนขับเรือก็พามาอีกเกาะ
    อยู่บนเกาะที่นี่สักพัก กินข้าวกลางวันไป ถ่ายรูปไป บ้างก็เล่นน้ำไป
    ก่อนที่จะไปดำน้ำกันอีกจุด และจุดนี้เราก็เห็นพี่เขากำลังก้มเก็บอะไรบางอย่าง หยิบกล้องมา ซูม ซูมอีก ซูมให้เห็นสิ่งที่ถือในมือ

    หอยเม่น!!! จับหอยเม่นด้วยมือป่าว O_o
    เพื่อนก็เล่นน้ำไป เราก็นั่งมองพี่เขาจับหอยไปเพลิน และแล้วก็ได้เวลาที่จะก็กลับเข้าฝั่งแล้ว
    ระหว่างทางกลับ สลบค่ะ!! รู้ตัวกันอีกทีก็มาถึงฝั่งแล้ว

    ไม่รอช้า รีบเก็บของขึ้นรถ เพื่อไปอาบน้ำ ล้างตัวกันที่ อช.แหลมสน
    และที่นี่ก็เป็นที่พักอาศัยของพวกเราในคืนนี้

    ที่นอน ใครใคร่นอนเปลก็นอนเปล ใครใคร่นอนเต้นท์ก็นอนเต้นท์ เลือกเอาตามความพอใจ

    หลังจากอาบน้ำ ล้างตัวก็เรียบร้อย ก็เดินไปดูพระอาทิตย์ตกที่ริมหาดกัน

    แสงอาทิตย์ กับ ต้นสนที่เรียบหลาย

    พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า

    ____________________________________________________________________________
    ค่าใช้จ่ายและเบอร์ติดต่อของทริปนี้จะโพสสุดท้ายนะคะ

    ปอลอ. ส่วนใหญ่เราเน้นเที่ยวหารเฉลี่ย
    ติดตาม และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ท่องเที่ยวกันได้นะคะ
    https://www.facebook.com/arada.p
    • โพสต์-2
    Arada •  มีนาคม 01 , 2559

    เช้าวันที่สอง (20.02.16)
    กว่าจะตื่น ก็สายมากแล้ว
    วันนี้พวกเราคุยกันว่าจะหาขึ้นภูเขาสักลูก และวันนี้ที่นั้นก็มีงานวิ่งขึ้น เขาพ่อตาโชงโดง
    ระหว่างหาซื้อข้าวของสำหรับคืนนี้ ก็สอบถามข้อมูลและเส้นทางจากพ่อค้า แม่ค้าที่ตลาด
    เพื่อขึ้นเขาพ่อตาโชงโดง จากข้อมูลที่ได้ พวกเราก็ออกเดินทางตามเส้นทางที่พ่อค้า แม่ค้าบอก
    แล้วก็มาหยุดที่หน้าวัด ซึ่งตอนนั้นเหมือนจะไม่มีใครอยู่เลย ได้แต่ถอดใจ และกลับรถออกไป
    (ในใจแอบคิดว่า พวกเราคงไม่ได้ขึ้นเขาพ่อตาโชงโดงแน่ๆ พอกับหาแผนสำรอง)
    แต่ระหว่างนั้น..ก็มีรถมอเตอร์โซค์ขี่ลงมาจากเนินลูกรัง พร้อมอถามว่าจะไปไหน
    หลังจากพูดคุยกันสักพัก พี่คนนั้นก็บอกว่าจะอาสาไปส่งที่จุดเริ่มเดินขึ้นเขาพ่อตาโชงโดงเอง
    ได้ยินแบบนั้น ก็รีบขับรถตามพี่เขาขึ้นไปบนทางเนินลูกรัง

    เอาข้าวของที่เตรียมไว้ใส่หลังรถพี่ๆเขา (รูปนี้จากกล้องเพื่อน)
    ลืมบอกไปว่า พี่เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์เป็น จนท. หน่วยพิทักษ์ป่า

    ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับพวกพี่ๆ จนท. สักรูป (รูปนี้จากกล้องเพื่อน)

    ระหว่างทางเต็มเป็นด้วยฝุ่น รถเก๋ง รถกระบะ(ที่ไม่ 4x4) ไม่แนะนำ
    เส้นทางค่อนข้างอันตราย ควรให้คนชำนาญทางเป็นคนทางขึ้นจะดีกว่า
    หลังจากนั่งรถมาสักพัก ก็มาถึงจุดเริ่มเดิน พวกเราก็ร่ำลาพี่ๆ ทุกคน
    พี่คนที่ขับรถมาส่งก็ยังใจดี บอกว่าพรุ่งนี้จะมารับ
    (ขอขอบพระคุณ พี่โสพล และพี่ๆที่หน่วยทุกคน มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)

    จากจุดเริ่มเดิน ก็เจอเนินกันเลย

    เกือบตลอดทางค่อนข้างจะชัน มีทางราบอยู่บ้าง แต่ก็มีเชือกให้จับตลอดทางเหมือนกัน

    เขาพ่อตาโชงโดง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดระนอง
    อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 975 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลทั้งอ่าวไทย และทะเลอันดามัน
    พวกเราใช้เวลาทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ก็มาถึงจุดกางเต้นท์

    พักเหนื่อยก็สักนิด ก่อนแยกย้าย จับจองที่นอน แล้วมาช่วยกันทำอาหารมื้อเย็น

    หน้าตาอาหารที่พวกเราช่วยกันทำ

    กินข้าวไป เฮฮากันไป ชมพระจันทร์กันไป
    แล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน

    • โพสต์-3
    Arada •  มีนาคม 01 , 2559

    เช้าวันที่สาม ตื่นสายไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นอีกเคย

    เช้าวันนี้อาการไม่เป็นใจเลย ถ้าวันที่ฟ้าเป็นใจ มันคงสวยน่าดู

    และแล้วก็ถึงเวลาโบกมือลาแล้ว ไว้มีโอกาสจะกลับไปอีกครั้ง
    หลังจากเดินลงมาถึงจุดที่นัด ก็มีพีคนขับรถ คนใหม่มารับ
    พูดคุยสักพักก็ทราบว่า พี่โสพลติดภารกิจที่ตัวเมือง เลยติดต่อให้ผู้ใหญ่บ้านหาคนมารับพวกเรา
    เมื่อมาถึงที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่า รีบเก็บข้าวของใส่รถตัวเอง ร่ำลาพี่ๆ จนท. และผู้ใหญ่บ้าน

    สถานที่สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดของทริปนี้
    อช. น้ำตกหงาว ในวันที่น้ำน้อย นี่ก็เพิ่มจะเดือนกุมภาเองน่ะ น้ำตกแทบไม่มีน้ำแหละ หน้าร้อนคงไม่ต้องพูด
    น้ำตกจะสวยคงต้องรอ หน้าฝนเลย = =
    เดินเล่นที่นี่สักพัก ก็ได้เวลากลับกรุงเทพแล้ว
    แต่ก่อนจะกลับ พวกเราก็แวะ เขาฝาชี อีกสักรอบ
    แวะดูพระอาทิตย์ตก วิวที่นี่ไม่ว่าพระอาทิตย์จะขึ้น หรือจะตก ก็สวย

    แล้วพบกันใหม่ระนอง

    ----------------------------------------------------------------------------------
    ค่าใช้จ่าย (ทริปหารเฉลี่ย โดยรถส่วนตัว)
    > ค่าอาหาร + เครื่องดื่ม = ุ6,499 ฿
    > ค่าเรือดำน้ำ = 2500 ฿
    > ค่าเข้า อุทยานแห่งชาติแหลมสน = 40฿ x 8 คน = 320 ฿ (พี่ๆ เห็นว่ามากันหลายคน เลยไม่คิดเงิน 1 คน)
    > ค่ากางเต้นท์ อช.แหลมสน = 30฿ x 9 คน = 270 ฿
    > ค่าเข้า อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว = 20฿ x 8 คน =160 ฿ (เนื่องจากเพื่อนอีกคนกลับไปก่อน)
     รวม 9749 ฿ / 9 = 1,084 ฿ ต่อ คน (โดยประมาณ)
    > ค่าน้ำมัน สำหรับรถที่เราใช้ = 1,950 ฿ หาร 4 คน = 488 ฿ ต่อคน (เนื่องจากเอารถไป 2 คัน)
     สรุป ค่าใช้จ่ายของทริประนอง 3 วัน 2 คืน = 1,572 ฿ ต่อ คน

    ติดต่อ
    > เรือสำหรับไปดำน้ำที่เกาะกำ : บังใหม่ เบอร์ 08-6271-0373 ราคาเช่าเรือไม่เกิน 10 คนต่อลำ วันละ 2,500฿
    > ขึ้นเขาพ่อตาโชงโดง : ผู้ใหญ่วิทยา เบอร์ 081-797-6949 ค่ารถพาขึ้น 500 ฿, ค่าลูกหาบ คิดเป็นกิโล กิโลละ 40฿
       (พวกเราไม่ได้เสียใช้จ่ายในส่วนนี้ เนื่องจากพี่ จนท. ไปส่งพวกเราขึ้น)