ทริปนี้ฟรีค่ะ เน้น “ฟรี” ค่ะ คุณเพื่อนคนกรุงชวนบ้านนอกศรีราชาไปอยุธยา ไปสิคะ ยังไม่รู้กำหนดการอะไรเลย พอได้ยินอยุธยาเท่านั้นแหล่ะ โอ๊ยอยากไป มาอยุธยาครั้งที่เท่าไหร่ นับนิ้วไม่ถูกกันเลยทีเดียว มาบ่อยมากๆ เป็นจังหวัดโปรด ที่ชอบมาพักผ่อนนอนดูน้ำ เริ่มทริปกันเลย บ้านนอกออกจากศรีราชารถตู้เที่ยวแรกเลย ตีสี่ครึ่ง ถึงอนุสาวรีย์ประมาณหกโมงครึ่ง เจอคุณเพื่อนที่นั่น นั่ง BTS ลงสถานีสะพานตากสิน นั่งมอเตอร์ไซค์ไปท่าน้ำเอเชียทีค ขึ้นเรือที่นั่นค่ะ พอลงเรือก็มีอาหารว่างมาเสริฟ กิจกรรมบนเรือมีไกด์บอกข้อมูลสถานที่สำคัญ มีร้องเพลง ส่วนอาหารกลางวันกินกันบนเรือค่ะ มีดูดวงแถมด้วย พ่อหมอบอกว่าเป็นคนเดินทางบ่อย ถ้าได้เดินทางจะเจริญ ย่ะฮู้ จัดไปตามนั้นค่ะ  

เรือพาเที่ยว

วิวระหว่างริมแม่น้ำ วัดอรุณฯ กำลังซ่อมแซมค่ะ

สะพานพระราม 8

เรือขนทราย

เห็นแล้วเมาเลย โรงงานใหญ่ดีนะคะ

     เรือจอดที่วัดช่องลม จ.นนทบุรี ต่อด้วยรถบัสโดยสารไปวัดตูม ไกด์ให้ข้อมูลว่า วัดตูมมีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่อง ปางมารวิชัย เรียกกันทั่วไปว่าหลวงพ่อสุข หลวงพ่อสุขมีพระเศียรเปิดได้ ภายในพระเศียรมีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลา เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่ารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ 

ขึ้นเรือมาต่อรถที่วัดช่องลม

วัดตูม

หลวงพ่อสุข

     ต่อจากวัดตูมก็มาวัดไชยวัฒนาราม วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง พระองค์สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดา ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากๆ มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เป็นวัดโปรดของบ้านนอกศรีราชาเลยค่ะ มาอยุธยาทุกครั้งต้องมาวัดไชยฯ มาดูพระอาทิตย์ตกดินที่นั่น สวยสุดๆ แล้ว

วัดไชยวัฒนาราม

วัดไชยวัฒนาราม

     จากนั้นก็มาไหว้พระนอนวัดโลกยสุธา เป็นพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดของอยุธยา มีความยาว 42 เมตร สูง 8 เมตร สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย จากนั้นเราก็เข้าที่พักกัน 

     เรานอนกันที่โรงแรมศาลา ด้านหน้าโรงแรมดูธรรมดามากๆ พอเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ คุณพระ ที่นี่มันไม่ใช่แค่โรงแรม แต่มันคืองานศิลปะที่เราเข้าไปอยู่ได้ มีการเล่นระดับ มีจุดนำสายตา มีการจัดวางองค์ประกอบที่ลงตัว เราได้นอนห้องพักหมายเลข 8 โอ้วววว วิวจากห้องนอนฟินมากตามภาพเลยค่ะ

ทางเดินอีกมุม อีกเวลา เส้นสายงดงาม

ตามนั้น

     เจ้าภาพจัดอาหารและเครื่องดื่มให้เราได้อย่างน่ารัก อาหารที่เสริฟจัดวางได้อย่างน่าดู รสชาติอาจไม่จัดจ้านตามแบบคนไทยกินมากนัก แต่ก็จัดว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว ขอนอกเรื่องนิดหน่อยเรื่องอาหารตามโรงแรมโดยส่วนใหญ่จะจัดรสชาติให้ทุกชาติพันธุ์กินได้ อาหารที่อร่อยที่สุดในโรงแรมโดยส่วนใหญ่คือเบอเกอรี่ ดังนั้นความคาดหวังเรื่องอาหารเวลาบ้านนอกคนนี้ได้มีโอกาสพักในโรงแรมหรูๆ จึงไม่ได้มากมายนัก แต่ที่โรงแรมศาลาจัดว่ามีรสชาติเกินมาตรฐานที่เราคิดไว้ อีกที่หนึ่งที่ขอกล่าวชมคือที่เซนทาราชานทะเล จ.ตราด อาหารอร่อยรสชาติไทยดั้งเดิมมากๆ และที่ไม่ลืมอีกที่ คือ เลอเมอริเดียน จ.เชียงราย อาหารเช้าอร่อยที่สุดค่ะ ออกทะเลไปเยอะแล้วกลับมาที่ศาลากันต่อ ที่พักที่ศาลาสะอาด สงบ สวยงามเหมือนงานศิลป์ พนักงานของศาลาบริการดีขาดแต่รอยยิ้มที่ดูจะน้อยไปหน่อยสำหรับที่พักระดับนี้ แต่เราคนชลบุรีเราชินแล้ว คนชลบุรีหน้าดุเป็นธรรมชาติ แต่จริงๆ แล้วใจดี 

อาหารเช้า

ห้องอาหารด้านใน จัดประชุมกรุ๊ปเล็กๆ ได้

     บ้านนอกศรีราชานอนที่นี่ 1 คืน ตอนเที่ยงวันรุ่งขึ้นก็กลับแล้ว ขอพูดเรื่องที่นอนที่ศาลาหน่อย บอกเลยว่าเตียงนอน หมอนนอน ดูดวิญาณเรามาก ไม่อยากจะลุกเลย  

     เราแยกตัวออกมาจากคณะขออนุญาตเที่ยวอยุธยาต่อ มาพักที่เดิม “อโยธยา ริเวอร์ไซด์ เฮาส์” ครั้งที่เท่าไหร่ไม่ได้นับ เพราะมาบ่อยมาก พักจนจะเป็นญาติกับเจ้าของแล้ว มาที่นี่ที่เดิมที่พักใจให้กับคนใจร้าวๆ เป็นบางเวลา ฮิ้วๆ เป็นที่พักริมแม่น้ำอยุธยา มีแบบห้องพัดลมและห้องแอร์ แน่นอน เรามาคนเดียวนอนห้องพัดลมบนบ้านไม้ ไม่ได้ร้อนอะไร กลางคืนแค่เปิดพัดลมก็หนาวแล้ว 

คุณพี่เจ้าของที่พัก

ที่พักด้านที่ติดกับแม่น้ำค่ะ แขกส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

ที่พักบนเรือ มีแอร์ด้วย แต่เราไม่พัก เราพักบนบก

ตามนั้นค่ะ

ใต้ถุนบ้าน

ใต้ถุนบ้าน

ใต้ถุนบ้านอีกมุม

ลานบนบ้าน

คุณลุงคุณป้ากับการต้อนรับที่น่ารัก

ที่นอนเราคืนนี้

     เราปั่นจักรยานไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้านคลองสระบัว แล้วก็ปั่นไปกินกาแฟที่ร้าน WIWA นั่งพักให้แดดมาร่มสักหน่อย นั่งนานมาก ก็ร่มมานิดหน่อย ร้อนมากจริงๆ ตอนเย็นเราไปดูพระอาทิตย์ที่วัดไชยวัฒนาราม เสียค่าเข้า 10 บาท แต่วิวพระอาทิตย์ตกที่วัดไชยฯ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ได้เวลากลับที่พัก ซื้ออาหารเย็นไปกิน แล้วก็เข้านอน

หาก๋วยเตี๋ยวกิน 

ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือคลองสระบัว

มาร้าน WIWA เจอเจ้าถิ่นก่อนเลย

ภานในร้าน WIWA

อีกมุมของร้าน

วิวข้างทางที่อยุธยา

มาชมพระอาทิตย์ตกที่วัดไชยฯ

     ตื่นมาตอนสายๆ อาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวกลับบ้าน คุณพี่ปรัชญาเจ้าของที่พักก็เรียกรถตุ๊กตุ๊กกบไปส่งที่สถานีรถไฟกลับกรุงเทพฯ เราลงที่สถานีรถไฟดอนเมือง ข้ามฝั่งไปขึ้นรถเมล์สายพิเศษตรงสนามบินดอนเมือง ค่ารถ 30 บาท ไปลงเซ็นทรัลขอหาอะไรใส่ท้องหน่อย แล้วต่อ MRT ไปเจอคุณเพื่อนไฮโซสุดหล่อที่สถานีลาดพร้าวอาคารจอดรถจอดแล้วจรชั้นสอง โลโซบ้านนอกขอติดรถคุณเพื่อนกลับศรีราชาด้วยความปลอดภัย จบทริป แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าค่ะ อาจจะนานหน่อย เพราะงานปลายปีนี้เต็มไปหมด แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่จะไปเที่ยวอีกค่ะ

นั่งรถตุ๊กตุ๊กกบไปสถานีรถไฟ

ถึงแล้วสถานีรถไฟอยุธยา

ที่นั่งสุดคลาสสิค

รถไฟฟรีเพื่อประชาชน

ธงเขียวไปได้แล้ว

รถเมล์สายพิเศษหน้าสนามบินดอนเมือง