อำไพฟาร์ม รีสอร์ท
วันที่ 1 "อำไพฟาร์ม รีสอร์ท"
รีสอร์ทท่ามกลางขุนเขาสามร้อยยอด ^^
เราถึงรีสอร์ทกันตอนบ่ายๆ อากาศร้อนนิดหน่อย แต่วิวระหว่างทางมันดีจริงๆค่ะ
มีภูเขาตอนรับตลอดข้างทาง
ถึงแล้ววว......
เดินเล่นสำรวจรอบๆ
มีส่วนของร้านกาแฟน่ารักๆ
ส่วนของที่พัก
ภายในห้องพัก
ถ้ามองจากในห้องออกไปที่หน้าต่างด้านหลัง......ตื่นเช้ามาแล้วเปิดหน้าต่างเจอภูเขา มันดีจริงๆ ^^
มองไปขวามือก็เป็นสระว่ายน้ำ....ปล.จองห้องที่ติดกับสระว่ายน้ำไว้ ^^
ที่รีสอร์ทนี้เค้ามีฟาร์มเลี้ยงกุ้งขนาดใหญ่....ได้มีโอกาสเเค่ไปเดินเล่นใกล้ๆ เพราะมันกว้างมากๆ
ถ้ามองจากในรีสอร์ทออกไปด้านหน้ารีสอร์ทจะมองเห็น "เขาสามร้อยยอด"
ไปนอนเล่นชิลล์ๆที่สระว่ายน้ำกัน...^^
เงียบสงบ...เหมาะแก่การพักผ่อน หรือมากันเป็นแก๊งค์ก็ปาร์ตี้กันฟินๆ
(ขออภัยสำหรับเท้าที่ดำและบวม ..อิอิ)
สำหรับมื้อเย็นที่นี่มีอาหารอร่อยหลายอย่างค่ะ ...แต่เมนูที่แนะนำคือ.."ชะครามผัดไข่"
อร่อยมากก...ใครมาที่นี่แนะนำเลยค่ะว่าต้องชิม (ห่วงกินจนลืมถ่ายรูป...ได้มาภาพเดียว)
"ขอบอกว่าที่นี่บริการดีมาก ห้องพักก็สะอาด บรรยากาศดี เป็นกันเอง ราคาก็ไม่แพงด้วย ใครสนใจสอบถามข้อมูลทางรีสอร์ทได้เลย หรือมีอะไรเพิ่มเติมถามเราได้นะ ยินดีค่ะ"
คืนนี้นอนพักเก็บแรงก่อน พรุ่งนี้ลุยกันต่อค่ะ
-----------
วันที่ 2 ช่วงเช้า...
วันนี้เราจะไป"อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด" อยู่ห่างจากรีสอร์ทไม่ไกลมาก
ต้น "จันผา" มีเยอะมากที่สามร้อยยอด *จำได้แค่นี้แหละ 55+ ^^
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด.....จำไม่ได้ว่าเสียค่าธรรมเนียมคนละเท่าไหร่ น่าจะประมาณ 40 บาท
ตั้งใจจะไปเดินสะพานไม้ดูป่าชายเลน แต่บังเอิญมาผิดเวลาค่ะ สะพานชำรุดกำลังปิดปรับปรุง เลยได้แต่ยืนมองไกลๆ...
เจ้าหน้าที่บอกว่าที่นี่มี"ค่างแว่น" แต่เค้าจะออกมาให้เห็นเป็นบางครั้ง....
น้องลิงเลยออกมาโชว์ตัวแทน นั่งหน้านิ่งเป็นฮิปเตอร์อยู่ไกลๆ
เจ้าหน้าที่ก็น่ารักค่ะ นี่คุณลุงเป็นคนบรรยายสถานที่ต่างๆให้ฟัง ไหนๆก็มาแล้ว เข้าโหมดสาระความรู้ก็ดี ฮ่าๆ....
เลียงผาก็เป็นฮิปเตอร์ 55+
ตั้งใจจะไป"ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว" แต่ด้วยเวลาที่จำกัดเราเลยเปลี่ยนแผนไปที่ "ด่านสิงขร"แล้วข้ามไปชายแดนพม่าแทนค่ะ.... เดินทางต่อไป.......
ระหว่างทางมีโอกาสแวะไปที่สวนมะพร้าวของรุ่นพี่ ซึ่งพี่เค้าบอกว่า บางต้นอยู่มาเป็น 100 ปีแล้ว...
"อุทยานสับปะรด"
ที่นี่เป็นไร่สับปะรดหอมสุวรรณค่ะ แนะนำให้ลองน้ำสับปะรดค่ะ อร่อยชื่นใจ
ในมือนั่นไม่ใช่ลูกชิ้นนะ แต่มันคือสับปะรดกวนน้ำผึ้ง อร่อยอีกแล้วว...
เริ่มหิวข้าวแล้วจะกินอะไรดี พี่เค้าเลยจัดที่เด็ดๆในย่านนี้มาให้
"ร้านผู้ใหญฉอ้อน"
อ้าวเห้ย!!..นี่เรามาเที่ยวทะเลนี่น่าาา 5555 +...ทำไมกลายเป็นอาหารป่า
บรรยากาศที่ร้านเค้าก็ดีนะจ๊ะ
"ช่วงบ่าย"
ด่านสิงขรและชายแดนพม่า
**ใครจะมาที่นี่อย่าลืมเอกสารสำคัญ บัตรประชาชน เอกสารของรถยนต์สำคัญมากๆค่ะ
หลังจากผ่านมา4-5 ด่านตรวจ จะได้เข้าเขตพม่าแล้ว...
"บ้านมูดอง ประเทศพม่า"
เริ่มเห็นบ้านเมืองและผู้คน (ปล.ภาพนี้มือสั่นนิดหน่อย)
ชีวิตความเป็นอยู่...ซึ่งทุกๆบ้านจะมีมอเตอร์ไซค์ขับวนกันไป
ร้านขายของชำร้านนี้ผู้คนคึกคัก เน้นเหล้าเบียร์และบุหรี่
เจ๊เจ้าของร้าน มีความไฮแฟชั่นนน.....น่ารักกก..^^
ไปถึงที่นี่ช่วงเที่ยงๆเกือบบ่าย สงสัยว่าทำไมนักเรียนเลิกเรียนแล้ว แต่จริงๆไม่ใช่ พี่เค้าบอกว่าที่นี่ตอนเที่ยงจะให้เด็กกลับบ้านมากินข้าว แล้วก็เดินกลับโรงเรียนตอนบ่ายๆ....เป็นความโชคดีที่ได้เก็บภาพน้องๆมาให้ชม :)
น้องรู้ว่าพวกเราเป็นนคนไทย ทักทายด้วยการไหว้^^
ทรงผมนี้...เจมส์จิก็สู้ไม่ได้ เพื่อนข้างหลังถึงกับมองบน 555+
ไปดูบรรยากาศในวัดมูดองกันค่ะ.....
พระที่วัดมูดอง
ถ้ามีโอกาสได้มาอีกครั้งคุยกันไว้ว่าจะไปเมืองมะริดกัน แต่สำหรับครั้งนี้ได้มาเห็นวิถีชีวิตและผู้คนที่นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยจ้าาา :)
ขากลับแวะจุดชมวิว"ช่องแคบด่านสิงขร"ถ่ายรูปกันหน่อยย...
"จุดแคบสุดประจวบคีรีขันธ์" มองไปทางฝั่งไทย
ศาลลระหว่างสองประเทศ ด้านซ้ายพม่า ด้านขวาไทย
ของฝั่งไทยตกแต่งด้วยรูปปั้นช้าง
กลับไทยกันค่ะ
-------
"อ่าวมะนาว-เขาล้อมหมวก"
เดินเล่นชายหาดอ่าวมะนาว....
เขาล้อมหมวก
ไปดูค่างแว่นที่เขาล้อมหมวก
เจอแล้ว!......"ค่างแว่นถิ่นใต้"
ใส่แว่นนี่สายตาสั้นหรือยาวคะ?!....เดี๋ยวๆ...^^
น้องเค้าไม่ค่อยซนเลยค่ะ....วิ่งไปชกของกินมาจากมือ555+ ดูหลักฐานคาปาก
ถึงเวลากลับแล้ว บ๊ายบายน้องแว่น......
"ประจวบฯวันเดียวเที่ยวไม่หมดจริงๆค่ะ ยังมีอีกหลายที่ที่อยากไป ไว้โอกาสหน้าจะมาเยือนอีกครั้งนะคะ"
ก่อนกลับแวะชมความยิ่งใหญ่ของ "อุทยานราชภักดิ์"อ.หัวหิน
เจอกันใหม่ทริปหน้าภาคเหนือค่ะ
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยค่ะ
---------------------