วันหยุดสุดชิลแบบนี้มีหรือ ที่นักเดินทางอย่างเราจะพลาดการออกไปท่องเที่ยว

โบว์วางแผนการเที่ยวอยู่ในใจ มีสถานที่ ๆ อยากไปอยู่แล้ว

"จังหวัดจันทบุรี" เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะออกไปค้นหาค่ะ

การเดินทางมายังจังหวัดจันทบุรี ขับรถสะดวก ไม่ไกลกรุงเทพฯ

ไม่เกินความสามารถของผู้หญิงที่รักการเดินทางแบบเราเลยค่ะ

ช่วงสาย ๆ ก็เดินทางมาถึงที่พัก “ปากคลองโฮมสเตย์” เป็นเวลาที่นัดกับทางโฮมสเตย์ไว้พอดีค่ะ

ราคาค่าที่พักพร้อมอาหาร 3 มื้อ ที่จัดเต็มด้วยซีฟู้ด ยกมาเสิร์ฟแบบไม่อั้น กุ้งตัวโต ๆ ปูตัวใหญ่บิ๊กเบิ้ม

รวมเครื่องดื่มตลอดวันที่ไปพักในราคาคนละ 1,800 บาท ตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ลดราคาเหลือคนละ 1,600 บาท

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5532-8279

ถ้าอยากจะไปทำกิจกรรมสุดชิล อย่างการนั่งแพเปียกไปดูเหยี่ยวแดง ก็สามารถติดต่อที่โฮมสเตย์ได้เลยค่ะ

เพิ่มเงินอีกคนละ 100 บาท ก็สามารถนั่งแพไปชมเหยี่ยวแดงชิล ๆ

โดยใช้เวลาเวลาจากปากทางล่องไปตาม“คลองใหม่มุย” คือชื่อที่ชาวบ้านใช้เรียกคลองแห่งนี้

เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ เราล่องแพในในบรรยากาศ ร่มรื่น สายน้ำไหลเย็นให้เราได้แช่เท้า

ชมบรรยากาศดี ๆล่องดูวิถีชีวิตริม 2 ฝั่ง

สักพักก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย จุดที่เราจะดูเหยี่ยวแดงค่ะ

เมื่อแพหยุด พี่คนขับแพก็เอามันหมูโยนไปทั่ว ๆ เจ้าเหยี่ยวแดงตัวใหญ่ ก็บินออกมาโฉบเอามันหมูไปกิน

นอกจากเหยี่ยวแดงแล้วยังมีนกชนิดอื่นเป็นฝูงด้วยนะคะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การไปชมเหยี่ยวแดง อยู่ในช่วงเวลาเย็นสักหน่อย

เพราะเหยี่ยวจะออกจากรัง ไปหากินตั้งแต่เช้ามืด และกลับมาอีกทีในช่วง16.00 – 17.30 น.

เห็นภาพฝูงเหยี่ยวที่พร้อมใจกันบินโฉบอาหารวนไปมา ตรงนี้ใครพอมีฝีมือหน่อย

คงเก็บภาพสวย ๆ ได้เยอะเลยค่ะ

หลังจากที่เราดื่มด่ำชมธรรมชาติของฝูงนก และแม่น้ำลำคลองอย่างจุใจแล้ว

ทางโฮมสเตย์ก็มีอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษ นั่นก็คือการนั่งเรือไปเยือน “เกาะกวาง”

เรือค่อย ๆ ออกจากฝั่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะกวาง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

เกาะกวางเป็นเกาะเล็กๆ ที่เงียบ สงบ และมีทัศนีย์ภาพที่สวยงาม หากช่วงที่น้ำลด

เราสามารถขึ้นไปเดินเล่น ถ่ายรูปบนเกาะได้ด้วย

พี่คนขับเรือบอกว่า นอกจากจะเดินเที่ยวชมเกาะกวางแล้ว เราสามารถไปชมถ้ำแบบอื่นก็ได้ด้วย

ไม่รอช้า... พี่คนขับเรือพาเรานั่งเรือพายลำเล็กที่พ่วงมากับเรือ

แล้วพายลอดผ่านทางปากถ้ำเข้าไป เป็นอีกมุมมองที่สวย แปลกตาดีค่ะ

เวลาของความสุข ความสนุกสั้นนิดเดียวจริง ๆ

มองฟ้าไกล ๆ ​กลุ่มเมฆเกาะกันหนามาก เหมือนต้องการไล่ให้เรากลับไปพักผ่อน  

มาถึงโฮมสเตย์นั่งพักผ่อนเพลิน ๆ นอกจากกิจกรรมที่ได้ทำในวันนี้ ด้านหน้าของ “ปากคลองโฮมสเตย์”

ยังสามารถพายเรือ และว่ายน้ำเล่นได้อีกด้วย ตอนนี้ได้เวลาอาหารเย็นพอดี

อยากอวดที่สุดก็คงจะเป็นอาหารมื้อเย็นนี้ค่ะ

เหมือนยกทะเลมาเสิร์ฟยังไงอย่างงั้นเลยยยยยย...

ไหนจะกุ้ง ปู ปลา สด ๆ  ตัวใหญ่ม๊ า ก ก ก จิ้มซีฟู้ดรสเผ็ด อร่อยเด็ดทีเดียว

ที่สำคัญกินไม่อั้นจ้า เพราะเค้ารวมอยู่ในค่าที่พักแล้วนั่นเองค่ะ

เช้าวันนี้ เราตั้งใจจะไปตามหาแหล่งความอร่อย อาหารทะเลสด ๆ ที่ได้ลิ้มรสไปเมื่อวาน  

ที่ “หมู่บ้านปากคลองใหญ่” ไปดูวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ใช้ชีวิตกับสายน้ำ

กำลังนั่งแกะ นั่งมัดปูออกจากอวน เพื่อนำไปส่งขาย และส่วนนึงนำมาปรุงอาหาร

ภาพวิถีชีวิตริมคลองแบบนี้ทำให้โบว์อดคิดไม่ได้ว่า…..

บางครั้งชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ก็ไม่ต้องพึ่งพาด้วยของมีค่าอะไรเลย

แค่มีกิน มีอยู่ มีใช้ ในทุกวัน ก็เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้านที่นี่แล้วค่ะ

ความสนุกของวันนี้ยังไม่จบเพียงเท่านี้แน่ ๆ รีบบึ่งรถไปต่อกันนนนน...

“ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต” ถนนเลียบชายหาดทะเลเมืองจันท์ 

และเป็นถนนเส้นที่สวยที่สุดของจังหวัดจันทบุรี จะขึ้นไป แชะ เก็บภาพสวย ๆ 

และเดินเล่นลัดเลาะชาย“หาดคุ้งวิมาน” กันสักหน่อย

ได้ภาพสวย ๆ มาเยอะแยะเลย เสร็จแล้วก็ต้องอัพลงโซเชี่ยลอวดเพื่อน ๆ สักหน่อย

รอบหาดคุ้งวิมานมีร้านรถเข็นขายอาหารหลายร้านให้เราเลือกเยอะแยะเต็มไปหมดเลยค่ะ

แต่ขอแนะนำ “หมึกย่าง” รสเด็ด แซ่บ ๆ ร้านนี้ หมึกสด ๆ ราคาขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า 5555

เอามาย่างเตาถ่านหอม ๆ จิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ดของคุณป้า ใครผ่านไปมาหน้าหาดต้องมาลองนะคะ

อ้อ! ของอร่อยอีกอย่างที่ห้ามพลาดก็คือ “หนังหมึกทอดกรอบ” ถุงละ 20 บาท เค็ม ๆ มัน ๆ เคี้ยวเพลินมาก

“จันทบุรี” ไม่ดีมีดีแค่ทะเลเท่านั้น มาถึงที่นี่ทั้งที เราก็ต้องไปตามหาของอร่อยที่ขึ้นชื่อกินสักหน่อย

แต่จะให้ไปหมดทุกที่คงไม่ไหว งั้นเราไปสถานที่ ที่รวบรวมทุกอย่าง

เรียกได้ว่ากินครบ จบในที่เดียว อย่าง “ตลาดทุบหม้อบ้านบางกะจะ” ดีกว่าค่ะ

“ตลาดทุบหม้อ” มีลักษณะเป็นตลาดย้อนยุค ซึ่งตกแต่งสถานที่ให้มีบรรยากาศแบบตลาดโบราณ

อิงกับประวัติศาสตร์ที่ว่า…ที่นี่เคยเป็นสถานที่พักแรมของกองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

เมื่อครั้งที่จะยกทัพเข้าตีเมืองจันทบุรี ปัจจุบันเป็นตลาดเล็ก ๆ

ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีอาชีพ และกระจายรายได้

อาหารท้องถิ่น อาหารแปลก ๆ หลากหลายเยอะแยะเต็มไปหมด

ขอเริ่มที่ “ก๋วยเตี๋ยวผัดยายลั้ง” เป็นก๋วยเตี๋ยวผัดน้ำกุ้งที่คิดค้นสูตรโดยยายลั้งนั่นเองค่ะ

รสชาติเหมือนก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่หอมกลิ่นกุ้งอ่อน ๆ หวานเปรี้ยวนำ

ติดกลิ่นเตาถ่านหน่อย ๆ เส้นเหนียวนุ่ม กินร้อน ๆ เผลอแปปเดียวหมดจานเลยค่ะ

ต่อด้วย “ขนมตึ๋งหนืด” อาหารว่างไทยแบบท้องถิ่นจันท์ ตัวแป้งจะเหนียวนุ่มหนึบ

ตามชื่อตึ๋งหนืดเลยหล่ะ กินไปกินมาคล้ายหอยทอดแต่ต่างกันที่ใส่กุ้งสับ

ตลาดทุบหม้อ ยังมีอาหารและขนมพื้นบ้านอีกหลายอย่าง เรียกว่า มาวันเดียวก็ยังกินไม่ครบทุกเมนู

พ่อค้าแม่ค้าก็น่ารัก ใจดี แต่งกายและใช้คำพูดคำจาแบบโบราณ ฟังแล้วไพเราะมาก

ที่สำคัญตลาดแห่งนี้ ช่วยกันรณรงค์การใช้วัสดุจากธรรมชาติ

ใช้จานชามช้อนที่เป็นสังกะสี นำมาล้าง เวียนใช้ซ้ำ ลดการใช้พลาสติกดีกด้วยค่ะ 

ตลาดทุบหม้อ ตั้งอยู่ในวัดพลับ

เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น.

ส่งท้ายวันหยุดสุดชิลของโบว์ด้วย คาเฟ่สุดน่ารัก ที่ร้าน “MILILIN”

ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองจันทบุรีใกล้ ๆ นี่แหละค่ะ ร้านสวย วิวดี ติดแม่น้ำ อาหารอร่อย ตกแต่งร้านได้ฮิป ชิค สุด ๆ

นี่…อย่าง “มูสลอดช่อง” จานนี้ มีความเข้ากันของขนมไทยที่ถูกนำมาประยุกต์ได้อร่อยลงตัว

ไม่เสียใจจริง ๆ ที่โบว์เลือกการเดินทางมาที่ “จันทบุรี”

หลายสิ่งได้เติมเต็มความสุขของโบว์อย่างเต็มที่ ได้มองเห็นจันทบุรีนอกเหนือไปจากเดิม

จันทบุรี ในภาพจำของโบว์ ไม่ได้มีแค่ทะเล และอาหารทะเลอีกแล้ว

ต่อไปนี้ จะมีภาพของที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ วิถีชุมชนที่น่ารัก

และความสุขในวันนี้ จะเข้ามาแทนที่จนเต็มหัวใจ “สุขทุกวันที่จันทบุรี”

ชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค ตอน  เสน่ห์เมืองจันท์ จ.จันทบุรี

ได้ที่นี่ค่ะ https://youtu.be/ak6UtbYw3NI

ติดตามชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค

ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 15.30 – 16.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส