ตอนนี้เราก็ยังอยู่กันที่ จังหวัดนครปฐม ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น แม้หลายคนอาจจะมองว่าจังหวัดใกล้ๆ แบบนี้คงไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ดีดลูกคิดในใจแล้วถ้าจะให้ไปเที่ยวแค่นี้ก็อย่าไปเลยดีกว่าเพราะมันไม่จุใจ ซึ่งเราต้องขอเถียงเลยครับว่าไม่จริง ถ้าคุณมองเช่นนี้เราบอกว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรบางอย่างที่น่าสนใจไปนะครับ ซึ่งเราก็ใจจดใจจ่อพร้อมพาไปพบกับหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันน่าสนใจที่ว่ามาแล้ว โดยจุดที่เรายืนอยู่ตรงนี้คือ “ท่าน้ำของวัดสุวรรณาราม” ขณะกำลังเตรียมตัวลงเรือล่องชม “คลองมหาสวัสดิ์” ที่ทั้งสองฝั่งคลองรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและวิถีของผู้คนที่ยังยึดอาชีพการทำการเกษตรให้คนเมืองได้มาสูดกลิ่นดินกลิ่นน้ำแทนควันรถและมลพิษต่างๆ
-
theTripPacker • กันยายน 26 , 2556
-
theTripPacker • กันยายน 26 , 2556
ในระหว่างที่เราโดยสารเรือและเคลื่อนตัวกันไปบนผิวน้ำของคลองสายนี้ บรรยากาศที่ได้สัมผัสนั้นค่อนข้างเงียบสงบ บ้านเรือนปลูกห่างๆ กันพอประมาณ พร้อมด้วยต้นไม้ที่สร้างความร่มรื่นตลอดทางที่ผ่านพบ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าคลองสายนี้มีอายุกว่า 150 ปีเลยนะครับ ได้ขุดขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ทรงเสด็จทางชลมารค(การเดินทางทางน้ำ)ไปยังจังหวัดนครปฐม เพื่อนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ในงานประจำของทุกปี ซึ่งการขุดคลองสายนี้เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ากับแม่น้ำท่าจีนมีความยาว 28 ก.ม. ซึ่งคุณจะได้ทราบรายละเอียดประวัติความเป็นมารวมถึงเกร็ดความรู้เพิ่มเติมเสริมอรรถรสในการท่องเที่ยวจากลุงอู๋ผู้คุมหางเสือเรือได้อย่างเพลิดเพลิน
หลังจากที่เรือวิ่งมาได้ระยะนึ่งเราก็มาเทียบท่าขึ้นฝั่งเพื่อไปชม “สวนกล้วยไม้ของลุงชุบ คชเวช” โดยสวนแห่งนี้เพาะพันธุ์และจัดจำหน่ายกล้วยไม้ในราคามิตรภาพ อีกทั้งกล้วยไม้ที่สวนนี้ยังสวยเตะตาชาวอาทิตย์อุทัย ถึงขนาดส่งข้ามน้ำข้ามทะเลออกไปขายถึงญี่ปุ่นเลยทีเดียว ลุงชุบยังกระซิบให้ฟังว่าคนญี่ปุ่นจะชอบกล้วยไม้สีอ่อนๆ ส่วนคนไทยนั้นจะชอบดอกที่มีสีสันฉูดฉาด ซึ่งใครมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนก็สามารถหาซื้อกลับไปทดลองปลูกกันได้ ส่วนเราก็ขอเก็บภาพดอกกล้วยไม้สีสดกันก่อนจะลงเรือล่องไปยังจุดต่อไป
-
theTripPacker • กันยายน 26, 2556
-
theTripPacker • กันยายน 26 , 2556
จุดที่สองหลังจากเรือที่เรานั่งได้พาลัดเลาะเข้ามายังคลองสายเล็กๆ ที่แยกย่อยออกมาก็จะพบกับ “นาบัว” ซึ่งเป็นแหล่งปลูกและขายส่งดอกบัวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง แล้วที่ผู้คนเรียกกันว่า นาบัว นั้นก็สมกับชื่อเป็นอย่างดี เพราะว่าบึงทั้งบึงนั้นอัดแน่นจนบางช่วงแทบจะมองไม่เห็นผิวน้ำ แต่ต้องบอกไว้อย่างหนึ่งว่าถ้าอยากเห็นดอกบัวชูก้านอวดดอกสีชมพูพร้อมกันทั่วทั้งบึงก็ควรจะมาในช่วงสายๆ แดดก็ยังไม่ค่อยแรง แล้วยังจะได้ลองลงพายเรือกันได้อย่างสนุกๆ อีกด้วย ทว่าก็ยังไม่หมดเพียงแค่เรื่องชมๆ เท่านั้น แต่ยังมีของอร่อยรอให้ได้ชิมกันอีกด้วย ว่าแล้วเราก็ล่องเรือไปยัง “กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรมหาสวัสดิ์” ที่ถือเป็นจุดที่ 3 กันต่อเลยดีกว่า
ซึ่งในจุดนี้กลุ่มแม่บ้านได้รวมตัวกันผลิตสินค้าคุณภาพระดับโอท็อปขึ้นมา โดยเฉพาะข้าวตังธัญพืชที่มีให้เลือกอยู่สองรสคือ หน้างาและหน้าหมูหยอง ซึ่งเมื่อมาถึงเราก็มีโอกาสได้ลองทำข้าวตังชิมเองด้วย เริ่มตั้งแต่นำแผ่นข้าวเกรียบที่ทอดจนเหลืองกรอบทาเคลือบด้วยน้ำจิ้ม ก่อนจะโรยหน้างาคั่ว หรือหน้าหมูหยองได้ตามชอบ จากนั้นขั้นตอนปิดท้ายก็คือแค่หยิบใส่ปาก เรารับรองได้ว่าคงหยุดไม่ได้เพียงแค่ชิ้นหรือสองชิ้น ด้วยความอร่อยแถมยังได้สุขภาพ จนเราคิดว่าถ้าคุณจะจับจ่ายซื้อข้าวตังติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากก็คงถูกใจผู้รับไม่น้อย และไม่ใช่มีแต่ข้าวหน้าตังเท่านั้นยังมีของทานเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่นกัน ทั้งมะม่วงกวน และกล้วยตาก ที่กลุ่มแม่บ้านฯ ผลิตขายกันไม่ทัน ไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่าจะอร่อยแค่ไหน
-
theTripPacker • กันยายน 26, 2556
-
theTripPacker • กันยายน 26 , 2556
ถึงตอนนี้เราไปปิดท้ายกันที่ “สวนผลไม้ของลุงบุญเลิศ” ซึ่งผลไม้ที่ปลูกที่นี่ปราศจากสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น จึงมั่นใจว่าจะได้รับคุณประโยชน์แบบเต็มๆ แล้วก็ไม่ใช่มีเพียงผลไม้ที่ยกมาให้ชิมเท่านั้น ยังมีความสนุกตื่นเต้นอย่างการนั่งรถอีแต๋น ซึ่งบอกได้คำเดียวว่ามันส์สุดๆ โดยลุงบุญเลิศจะรับหน้าที่เป็นโชเฟอร์ขับรถอีแต๋นพาเราเข้าไปชมสวนเรื่อยไปถึงทุ่งนา และความมันส์ก็อยู่ระหว่างทางนั่นเอง ด้วยเทคนิคการบังคับรถตอนเข้าโค้งของลุงนั้นเรียกว่าเหนือชั้น แกจะกระโดดลงวิ่งกับพื้นขณะที่มือทั้งคู่ก็จับแฮนด์ไปด้วย คนที่นั่งข้างหลังก็โก่งตัวลุ้นกันสุดๆ แล้วที่ผ่านมาใครที่บอกว่ารถอีแต๋นวิ่งช้าเป็นเต่าคลานขออย่าไปเชื่อ เพราะรถของลุงคันนี้เครื่องฟิตมากจริงๆ ซึ่งถ้าใครติดใจชอบความสนุกแบบนี้ก็ลองอ้อนลุงกันดูเผื่อแกจะแถมให้มันส์เพิ่มกันอีกรอบ
ทว่าตอนนี้ดวงอาทิตย์ก็เริ่มทอแสงอ่อนลงเรื่อยๆ เป็นสัญญาณบอกถึงวันที่กำลังจะสิ้นสุด แต่ความประทับใจซึ่งพานพบมาในวันนี้ดูไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นลงไปง่ายๆ เห็นหรือยังว่ายิ่งใกล้ก็ยิ่งชวนประทับใจได้ไม่รู้ลืมเหมือนกัน
-
theTripPacker • กันยายน 26 , 2556
Note
- ชุมชนคลองมหาสวัสดิ์เคยได้รางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยวปี 2550
- จุดแวะแต่ละจุดอาจมีการสลับลำดับตามความเหมาะสม
- ค่าเช่าเรือ350 บาท/ลำ นั่งได้ 6-7
- การแวะชมยังจุดต่างๆ จะคิดเงินเพิ่มอีกคนละ 70 บาท
-
theTripPacker • กันยายน 26, 2556
- จุดเด่น:
- คลองสายนี้มีเรื่องราวมาความเป็นมาอย่างยาวนานและผู้คนก็ต่างให้การตอนรับเป็นอย่างดี รวมถึงในเรื่องของข้อมูลต่างๆ ในอดีตที่สามารถสอบถามได้แบบเป็นกันเอง
- จุดด้อย:
- ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายอย่างร้านอาหารซึ่งหาทานได้ไม่ง่ายนัก ดังนั้นผู้จะมาเที่ยวชมควรหาอะไรทานรองท้องกันก่อนให้เรียบร้อย และช่วงกลางวันอากาศค่อนข้างร้านควรติดร่มหรือแว่นกันแดดไปด้วย
- ข้อสรุป:
- เรื่องของสภาพแวดล้อมเรียกได้ว่ายังเดิมๆ วิถีของผู้คนที่อยู่ริมคลองคู่กับการทำการเกษตรซึ่งมีชีวิตเรียบง่ายเนิบช้า จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนเมืองที่อยากจะสัมผัสกับบรรยากาศสงบๆ และใกล้กรุงเทพฯ เพียงนิดเดียว
คะแนน -
theTripPacker • กันยายน 26 , 2556
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : คลองมหาสวัสดิ์ ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
GPS : 13.806650, 100.284800
เบอร์ติดต่อ : ล่องเรือ 081-495-9091 ผู้ใหญ่มนูญ
เวลาทำการ : ประมาณ 08.00 น. - ประมาณ 16.00 น.
ค่าธรรมเนียม : ค่าล่องเรือคลองมหาสวัสดิ์ ลำละ 350 บาท และค่าแวะเที่ยวชม 4 จุดกิจกรรม คนละ 70 บาท
ช่วงเวลาแนะนำ : ช่วงสายๆหรือบ่ายแก่ๆจะได้ไม่ร้อนจนเกินไป
ไฮไลท์ : จุดแวะเที่ยวระหว่างล่องเรือทั้ง 4 จุด
กิจกรรม : ล่องเรือชมวิถีของคนสองฝั่งคลอง ชิมขนม ผลไม้ และซื้อของฝาก
-
theTripPacker • กันยายน 26 , 2556
วิธีการเดินทาง
ถ้าเดินทางโดยใช้เส้นทางปิ่นเกล้า-นครชัยศรี จากนั้นให้เข้า ถ.พุทธมณฑลสาย 4 มุ่งหน้าไปทาง ม.มหิดล ศาลายา วิ่งตรงไปจนเจอทางแยกแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.ธรรมสพน์ เรื่อยไปจนผ่าน ถ. ทางหลวงชนบท นฐ. 4006 ไปประมาณ 5 ก.ม. แล้วให้เลี้ยวขวาเข้า ซ.ทรัพย์สมบูรณ์ ซึ่งเป็นซอยเดียวกันกับทางเข้าวัดสุวรรณาราม และสถานที่ติดต่อก็เป็นบ้านไม้หลังแรกซึ่งก็อยู่ริมคลองมหาสวัสดิ์พื้นที่เดียวกับวัด
-
โหลดเพิ่ม