ทัวร์ไร่กาแฟเกษตรอินดี้ @ก้องวัลเลย์

สมุดบันทึกการเดินทาง ครั้งที่1 ณ ก้องวัลเลย์ อ.กระบุรี จ.ระนอง

     ไม่มีแรงบันดาลใจอะไรทั้งสิ้นในทริปนี้ มีเพียงความสงสัยที่ติดอยู่ในใจเพียงอย่างเดียวคือ ก้องวัลเลย์มีดีอะไร???? ทำไมคนไปกันเยอะจัง เท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ!!!

วันที่ 1

      เรากับพี่ๆ เริ่มเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 6 โมงเช้า ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 58 เช่ารถตู้ขับออกไปทางเส้นพระราม2 ล่องใต้ไปเรื่อยๆ จนมาถึงอำเภอกระบุรีประมาณ 16.00 น.

อำเภอกระบุรี จ.ระนอง

 

          ตอนนี้ที่กระบุรีทางบางช่วงขับลำบากสักหน่อย เนื่องจากที่นั้นกำลังซ่อมถนน เราโชคดีที่เช่ารถมากันเอง แต่ถ้าใครไม่สะดวกนำรถยนต์มาเอง สามารถนั่งรถทัวร์มาลงที่จ.ระนองได้ และต่อรถโดยสารมาลงที่ตลาดกระบุรีได้เช่นกัน 

ขนส่งกระบุรี อยู่ติดกับตลาดกระบุรี

 

บ้านพี่ก้องอยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอกระบุรีนัก ถ้าคาดคะเนก็น่าจะประมาณ 5 กิโลเมตรได้

มุ่งหน้าสู่ก้องวัลเลย์ 

ถึงหน้าทางเข้าก้องวัลเลย์แล้วทุกคน ^^

 

          เมื่อมาถึงบ้านพี่ก้องแปลกใจมากนี่หรือก้องวัลเลย์ สวนดูธรรมด๊า ธรรมดามากๆ ในสมองเราคือมันต้องอลังการมากลักษณะคล้ายกับไร่ส้มทางภาคเหนืออะไรแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลยไร่กาแฟของพี่ก้องมีลักษณะเหมือนบ้านสวนมีบ้าน มีต้นกาแฟปลูกอยู่รอบๆ บ้าน สมถะไม่หวือหวาฟู่ฟ่าอยุ่แบบพอกินพอใช้ ขณะที่กำลังทึ่งกับสวนก้องวัลเลย์อยู่นั้น มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาตอนรับพวกเราก็งงใครว่ะ ...สรุปพี่ก้องเอง !!! ดีนะไม่ถามว่าพี่เป็นใคร ไม่งั้นหน้าแตกแน่ๆ 5555++

           พี่ก้องเป็นเจ้าบ้านที่ดีมากๆ ไม่ได้ชมแต่พี่เค้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พี่เค้าเห็นเราถือกล้องถ่ายรูป เค้าถามเราว่า "ชอบถ่ายรูปหรอ ป่ะ!! ผมจะพาไปที่โรงคั่วกาแฟถ่ายรูปให้จุใจเลย" ไอ้เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนัก เค้าชวนก็ไป ....

            ไปถึงโรงคั่วกาแฟ....พี่ก้องเค้าก็นำชามาให้ดื่ม เค้าบอกว่าเป็นชากาแฟ หาที่ไหนไม่ได้มีที่ก้องวัเลย์ที่เดียว...ไหนๆ เค้าก็ให้มาดื่มแล้วก็ลองดื่มซะเลย เชื่อมั้ย! ชาที่เรากำลังดื่มมันประหลาดมากๆ คือ มันมีกลิ่หอมละมุน รสชาติหวานมากๆ นึกว่าน้ำเก๊กฮวย...แต่ไม่ใช่เลยมันคือดอกกาแฟตากแห้ง แล้วนำไปคั่วไฟใส่กับน้ำร้อนโดยไม่ผสมน้ำตาลแม้แต่นิดเดียว "โคตรอร่อย" .....ถ้าใครไปต้องไปลองดื่มให้ได้ !!!!

โรงคั่วเมล็ดกาแฟ

ดอกกาแฟสดๆ จากต้น 

 

ดอกกาแฟตากแห้ง ผ่านการคั่วไฟมาแล้ว

 

" ชาดอกกาแฟ " กลิ่นหอมหวานละมุน ต้องลองดื่มให้ได้

 

 

          จากนั้นพี่ก้องก็สอนทำกาแฟ พี่ก้องเล่าให้ฟังถึงสาเหตุว่าทำไมถึงมาทำกาแฟ...กาแฟแท้จริงแล้วมีต้นทุนการผลิตเท่าไร เล่าให้ฟังถึงกระบวนการปลูก เก็บ ตาก คั่ว บด และชง เล่าให้พวกเราฟังทุกขั้นตอน ถ้าให้เราเล่าเองคงไม่สนุก ต้องเป็นพี่ก้องคนเดียวเท่านั้นถึงจะได้ฟิว ^^

เมล็ดกาแฟสด

 

เมล็ดกาแฟสดเด็ดมาจากต้น 

 

เมล็ดกาแฟที่ตากแห้งได้ที่แล้ว

 

เมล็ดกาแฟสดคั่วไฟ

 

          ไม่ใช่แค่การเล่าที่มาที่ไปของกาแฟ แต่พี่ก้องเค้าใจดีให้พวกเราได้ลองคั่วกาแฟเอง บดกาแฟเอง ชงกาแฟเองด้วยตัวของเราเอง มันสนุกตรงนี้แหละ!! อีกทั้งพี่ก้องยังคั่วเมล็ดกาแฟให้เราดูด้วย เคล็ดลับและจุดเด่นของกาแฟพี่ก้องอยู่ตรงที่ >>> พี่ก้องคั่วกาแฟด้วยมือมีกะทะ และไม้พายที่ทำจากต้นอบเชยต้นไม้ท้องภถิ่นของจังหวัดระนอง เป็นอุปกรณ์สำคัญ อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวก้องวัลเลย์

 

เข้าสู่โรงเรียนสอนคั่วกาแฟอย่างเป็นทางการกับ ก้องวัลเลย์

 

นักเรียนทุกคน ตั้งใจฟังคุณครูก้องกันมาก

 

คั่วกาแฟคดื่มกันเอง 

 

หน้าตานักเรียนเคร่งเครียดกับการคั่วกาแฟมาก

 

กาแฟคั่วจนได้ที่ ก็เข้าสู่กระบวนการทำให้เมล็ดกาแฟเย็น โดยการร่อนเมล็ดกาแฟคั่วในตะแกรงน้อยๆ เหมือนอย่างในรูป

 

บดเมล็ดกาแฟ 

 

อุปกรณ์ชงกาแฟ

 

รอ ...รอ ....แล้วก็รอ ให้กาแฟเดือด 

 

เดือดแล้ว เย้!!!!!! 

 

ดื่มกาแฟกันดีกว่า ^_^

 

พี่ก้องโชว์ลีลาคั่วกาแฟในแบบฉบับก้องวัลเลย์

 

 

           ที่ไร่พี่ก้องไม่ได้มีแค่กาแฟนะ เค้ามีโฮมสเตย์ไว้คอยรองรับลูกค้า รวมถึงร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีเชฟเป็นพี่แอน ภรรยาพี่ก้องเป็นคนลงมือทำกับข้าวเองในทุกๆ เมนู 

เมนูปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา

 

เมนูหมูทอดและน้ำพริกผักต้ม

 

โฮมสเตย์ก้องวัลเลย์ มีทั้งห้องนอนติดแอร์และห้องนอนพัดลม ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยจ้า

 

           ****** สำหรับไร่พี่ก้องมีข้อเสียอยู่นิดนึงคือ สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมี ต้องทำใจหน่อย เพราะบ้านพี่เค้าอยู่บนเขาหาสัญญาณค่อนข้างยากนิดนึง จะมีสัญญาณก็ตรงตลาดกระบุรีเลย แต่ในเรื่องการบริการต่างๆ ให้เต็ม10 (หมดไป 1วันของเรา)

 

วันที่ 2 

วันนี้หมอกลงหนามาก...ปกคลุมไปทั่วเมือง

เช้าตรู่แบบนี้กินซาลาเปาทอดฝีมือคุณแม่พี่ก้องรองท้องก่อนออกเที่ยวสักหน่อย ซึ่งบริเวรร้านอาหารมีธารน้ำเล็กๆไหลผ่าน สามารถลงมาเล่นน้ำได้ค่ะ

 

เที่ยวตลาดกระบุรีกันเถอะ

           พี่ก้องพาพวกเราไปเที่ยวตลาดกระบุรี เช้าๆ แบบนี้ของกินลึ้มเลย!! หวานปากล่ะ....มีทั้งของคาว ของหวาน เลือกกันให้หน่ำใจไปเลย ยามเช้าที่กระบุรีมีหมอกหนามากจนสายหมอกตกลงมาเป็นละอองเม็ดเล็กๆ และอากาศค่อนข้างเย็น...พวกเราเดินช็อปปิ้ง ซื้อของเต็มไม้เต็มมือไปหมด...

เช้านี้หมอกหนามาก!!!

ปลาท่องโก๋ยามเช้าก็เข้ากันดี

 

ขนมจีนก็อร่อยใช่หยอก

          ซื้อของกินเสร็จพี่ก้องแกก็พาขึ้นรถยนต์คู่ใจของพี่ก้อง พาพวกเราไปที่แม่น้ำกระบุรี แม่น้ำกระบุรีเป็นแม่น้ำที่ขั้นกลางระหว่างจังหวัดระนองและประเทศพม่า ที่ท่าเรือมีชาวไทยกับชาวพม่านั่งเรือข้ามไปมาตลอด บางคนมาซื้อของ บางคนมาขายของ  

 

 

ปลาสดๆ จากพม่าข้ามมาขายกันถึงระนอง หาซื้อกันได้บริเวณแม่น้ำกระบุรี จะมีมาขายในช่วงเช้าค่ะ

          พวกเรานั่งชมบรรยายกาศยยามเช้าของกระบุรีตามภาษานักท่องเที่ยว...แต่พี่ก้องเค้ามาที่นี่พร้อมกับเพื่อนคู่ใจคือ อุปกรณ์ทำกาแฟชนิดพกพา พี่ก้องนั่งบดกาแฟ ชงกาแฟ แล้วก็แจกกาแฟให้คนระแวกนั้นดื่มด้วยกัน อินดี้เสียงจริงตัวจริงเลย อิสระ เป็นตัวของตัวเองสุดๆ

กาแฟก้องวัลเลย์ ดื่มได้ทุกที่^^

 

เซลฟี่กันก่อนเดินทางกลับไปยังก้องวัลเลย์

          เรากับเพื่อนๆ ก็นั่งสัมผัสวิถีชีวิตยามเช้าของชาวบ้านกระบุรี พร้อมทั้งถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ไม่นานนักพวกเราก็เดินทางกลับไร่ก้องวัลเลย์ มาถึงก็มีรายการมาขอถ่ายไร่พี่ก้อง พี่ก้องเลยต้องแยกตัวเพื่อไปทำภารกิจของพี่เค้า เป็นเรื่องน่าโชคดีที่รายการมาถ่ายทำพวกเราก็พลอยได้ความรู้เรื่องกาแฟไปด้วย

          ***เรื่องราวของกาแฟเป็นอะไรที่สลับซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก เราไม่กล้าเขียนกลัวข้อมูลผิดพลาด หากผู้อ่านสนใจเรื่องกาแฟสามารถติดต่อไปที่ก้องวัเลย์ได้เลย พี่เค้ายินดีให้ข้อมูลกับทุกคนมากๆ ใครสนใจเรื่องกาแฟติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ :035-123-456,087-268-1285 

ตอนบ่ายของวันที่ 2

          พี่ก้องพาไปที่หมู่บ้านอิ่วเมี่ยน เป็นชนเผ่าที่อพยพมาอยู่จ.ระนอง ทั้งนี้ชาวอิ่วเมี่ยนเป็นศิษย์รุ่นแรกที่พี่ก้องสอนปลูกกาแฟตลอดจนขายกาแฟ ทุกวันนี้คุณลุงมีอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี ด้วยธุรกิจการทำกาแฟเล็กๆ ในครัวเรือน

 

คนลุงชาวอิ่วเมี่ยนคนนี้แหละศิษย์คนแรกของพี่ก้อง

              ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ รอบๆ หมู่บ้านมีแต่ต้นกาแฟและเมล็ดกาแฟ เรามาที่นี่กันทำไม? คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัย...เราเดินทางมาที่นี่นอกจากมาทำความรู้จักลูกศิษย์พี่ก้องแล้ว เราก็มานั่งดื่มแฟชิวๆ กันที่อิ่วเมี่ยน    เนี่ยล่ะ เงียบ สงบ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ เด็กที่นี่ก็น่ารัก สาวน้อย 2 คนในรูปเราไม่รู้หรอกว่าชื่ออะไร แต่เราเรียกเด็กสาวทั้ง 2 ว่า ญาญ่ากับคิมเบอร์รี่ เรียกชื่อนี้ที่ไรเจ้า 2 คนก็เขินกันทุกที ^___^

คิมเบอร์รี่กับญาญ่า ^^

เซลฟี่กับ 2 สาวสักหน่อย 

 

ญาญ่าพาไปเก็บเมล็ดกาแฟ

 

เมล็ดกาแฟสดของชาวอิ่วเมี่ยน

 

นี่มันอาณาจักรกาแฟชัดๆ

 

ญาญ่ากับคิมเบอร์รี่ช่วยคุณลุงตากกาแฟ

 

            พวกเราอยู่ที่นี้กันได้สัก 2-3 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับไร่พี่ก้องวัลเลย์ ขับรถมาผ่านทับหลี ต้องแวะสักหน่อย ของดีเรื่องชื่อเค้าล่ะ "ซาลาเปาทับหลี" อยู่ห่างจากบ้านพี่ก้องประมาณ 40 กิโลเมตร ซาลาเปาลูกไม่ใหญ่ แต่ไส้เยอะ มีทั้งหมด 4 ไส้ คือ ไส้หมู ไส้สังขหยา ไส้ถั่ว และไส้ครีม ใครผ่านไปลองแวะชิมดูรสชาติใช้ได้อยู่ แป้งนุ่มมากๆ แต่ไส้ซาลาเปาสำหรับเรา เราว่ารสชาติอ่อนไปนิด รสชาติแบบนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบรสจัดจ้าน อารมณ์ว่า ไม่ชอบหวานจัด ไม่ชอบเค็มจัดอะไรประมาณนี้  ซื้อเสร็จก็ยิงยาวสู่ไร่พี่ก้องถึงก็มืดพอดี เราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

ซาลาเปาทับหลี มีจำหน่ายกันตลอดเส้นทาง ถูกใจร้านไหนจอดซื้อได้เลย

 

หมดไปอีก 1 วัน

เมื่อถึงรุ่งเช้าของวันใหม่เราทุกคนก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อมบอกลาพี่ก้อง

Goog Bye ก้องวัลเลย์

 

 

สำหรับความรู้สึกเกี่ยวกับก้องวัลเลย์...

          เราว่าที่นี้เหมือนโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ที่นักเรียนอย่างเราต้องเดินมาเรียนรู้ด้วยต้นเอง ไม่มีตำรา มีแต่ใจและความใฝ่รู้ที่อยากจะศึกษา เข้าใจเรื่องกาแฟอย่างถ่องแท้ การเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ไม่สูญเปล่าเลย เพราะคุณจะได้รู้จักวงการกาแฟอย่างลึกซึ้ง เข้าใจกระบวนการของกาแฟที่แท้จริง ตลอดจนการสร้างอาชีพให้กับตนเองได้เมื่อคุณเดินออกจากก้องวัลเลย์ไป และหนึ่งประโยคที่ติดปากพี่ก้องและมันยังติดหูผู้ไปเยือนอย่างเราด้วยกับประโยคที่ว่า "ทำอะไร...ต้องมีConcept" แล้วทุกอย่างจะง่าย กับที่นี่ ก้องวัลเลย์