ไปทุกลักทุเล บนดอยทูเล
ดอยทูเล ถ้าใครบอกคุณว่าเดินสบายมาก ลืมมันไปซะ!
"ม่อนทูเล แปลว่า ทุ่งหญ้าสีทอง"
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ เรามีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวดอยทูเล ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ทริปนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางด้วยกันทั้งหมด 10 คน เนื่องจากคำนวนแล้วว่าคุ้มกว่าและการเดินทางไปยัง อ.ท่าสองยางค่อนข้างไกล เราจึงเลือกเดินทางโดยการเหมารถตู้ เริ่มการเดินทางจากพระรามสองเวลา สองทุ่มครึ่ง ถึงตัวเมืองแม่สอด ประมาณ ตีสี่ เพื่อแวะหาเสบียงเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เตรียมมา (ทีมงานเราเลือกเมนูมื้อเย็นบนเขาไว้เป็นชาบู5555)
" ณ ดินแดนที่มีแต่เราและคุณพระอาทิตย์ที่จะลับขอบฟ้า"ก่อนหน้าซักหนึ่งอาทิตย์ เราโทรจองจำนวนลูกหาบ และรถสำหรับเดินทางจาก อบต. ท่าสองยาง ไปยังจุดเริ่มเดิน ซึ่งรถ1คันจะให้ขึ้นได้ทั้งหมด 10 คนไม่รวมลูกหาบเพราะเค้าอยู่ในหมู่บ้านตรงจุดเริ่มอยู่แล้ว (ค่ารถเหมาไป-กลับ 600บาท) เนื่องจากเป็นทริป 2วัน 1คืน คณะของเราจึงไปดอยทูเลและกลับทางเดิม (ใครมีเวลาสามารถเดินจากดอยทูเลไปม่อนคลุยก็ได้เด้ออ) ค่าลูกหาบอยู่ที่วันละ 300บาท/คน/วัน รับน้ำหนักได้ที่ 25-30กิโล และที่ม่อนทูเลไม่มีเต้นท์ให้เช่าต้องนำไปเองจร้าาา
"จุดเริ่มต้นบันทึกการเดินทาง จากทุ่งนาสู่ยอดดอย""ทุ่งนาแดนนี้ ไม่มีความหมาย เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย...ร้องเพลงรอ"
การเดินทางจะเป็นทางเดินขึ้นเขาสลับลงเขา สลับไปสลับมาพอลูกหลังๆก็คิดในใจเมื่อไหร่จะถึงโว้ยยย สรุปต้องผ่านยอดเขารวมแล้วอยู่ที่ 5 ลูก! ลูกแรกยังเดินสบายๆ คิดในใจกระจอก พอเริ่มเจอลูกสองนี่รู้เรื่อง มันสูงมากค่อนข้างชันควรฟิตร่างกายมาดีๆ หอบรับประทานกันไป
"การเดินทางเพื่อตามหาจุดหมาย""ภูเขาที่สวยงามรอเราอยู่ข้างหน้า แต่ตอนนี้ต้องข้ามสะพานก่อน"
"เดินไป ชมวิวไป ช่วงแรกๆเดินสบาย"
"เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ เอ่ะช่วงชันมีนิดเดียวมั้ง ปลอบใจตัวเอง ยิ้มมม"
"ชื่นชมพี่ลูกหาบ แบกขึ้นมาได้ยังไง ขอนั่งบนตะกร้าได้ไหม?"
"ดอยทูเลอยู่ใกล้แค่เอื้อม...เอื้อมไม่ถึงเลยกรู"
ใกล้ๆหมดช่วงลูกที่สองทีมเราก็แวะทานอาหารเที่ยงเติมพลังซักแปบก่อนเดินทางต่อ อาหารมื้อเที่ยงสามารถให้พี่คนขับรถพาไปสั่งได้ตรงร้านใกล้ๆก่อนถึงจุดขึ้นเขา เป็นพวกอาหารตามสั่งง่ายๆเช่นกระเพราหมูไข่ดาว
"เป็นกระเพราเทวดาหรืออย่างไร อร่อยมากก...เปล่าหิวว"
หมดลูกสองจะเจอลำธารเล็กๆ ช่วงที่เราไปน้ำแล้งมากกกก (แนะนำให้ไปช่วงต้นมกราคมจะดีกว่า) เราและทีมงานกรอกน้ำไว้บางส่วน เนื่องจากเตรียมน้ำมาน้อยไม่คิดว่าจะแล้งขนาดนี้ TT
"นี่น่ะหรือคือลำธาร สำราญรัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน ""อย่ามัวแต่งกลอน ดูเพื่อนกรอกน้ำบ้าง"
ที่พีคมากกกกกคือ ลูกที่5 โอโหคุณพระ! ชันไปอีกจร้าเป็นแบบปีนหินขึ้นไปเลยทีเดียว ต้องใช้มือจับก้อนหินช่วยพยุงตัวขึ้นไป ไม่ต้องมองข้างหลังนะครับจุดๆนี้
"จุดหมายคืออะไร เลิกตามหาทันไหม ค่อยโทรคุยกันได้รึเปล่า""ขณะนี้เราอยู่ที่ความชัน 80 องศาเหนือระดับน้ำทะเล"
"ถ้าคุณเห็น พระบรมฉายาลักษณ์ นี้เมื่อไหร่แปลว่าคุณมาถึงแล้ว กำลังใจของปวงชน"
เราเริ่มสตาร์ท ช่วงสิบโมง ขึ้นไปถึงสี่โมง ใช้เวลา 6 ชม. โดยประมาณ หลังจากนั้นก็เริ่มกางเต้นท์ นั่งพักเอาแรงกันไป ก่อนออกเดินทางตามหาน้ำมาทำอาหารเย็น (มีความแบบวันหนึ่งฉันเดินเข้าป่ามากก) ความตามหาน้ำนี่จริงจังไม่ได้เล่นๆ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้โทรมาถามแล้วเค้าบอกว่าด้านบนมีน้ำเยอะ สบาย อ้าวเฮ้ย!ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่าาา รอบแรกไปเดินหากันเองหาไม่เจอ ลำธารข้างที่พักตอนนี้เหลือแค่โขดหิน นี่มันทริปอะไร! น้ำกิน ไม่ มี! หลังจากงุนงงกันไปสักพักพี่ลูกหาบที่พอพูดไทยได้อาสาพาเราไปตามหาแหล่งน้ำเป็นอันว่าเจอจร้าา โอเคร รอดตัวไป โอหล่ะหน้ออ
"กางเต้นท์เก็บข้าวเก็บของ พักขากันสักแปบบบบบบบ""พี่ลูกหาบกรอกน้ำให้ แต่เอะ! นั้นมันกินได้จริงๆเหรอ"
ส่วนห้องน้ำนั้นเค้ามีทำไว้ให้ เป็นสังกะสีกั้น ช่วงมีน้ำน่าจะโอเครเลยเพราะเค้าต่อท่อน้ำมาจากลำธาร แต่ของเรานั้นหล่ะฮะท่านผู้ชม ไม่ มี! 555555 ตอนเย็นเราแวะไป ถ่ายรูปดูพระอาทิตย์ตก วิวสวยมากคุ้มค่ากับที่มาถึง แม้จะเหนื่อยหน่อยอย่างน้อยก็มีเนินทุ่งหญ้าสีทองแห่งม่อนทูเล ตั้งเด่น รอรับนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส และเป็นอีกหนึ่งในความภูมิใจตะโกนร้องก้องหน้าผาให้โลกรู้ว่ากรูมาถึงแล้วโว้ยยยยยย (เล่นใหญ่ม่ะ ความจริงไม่ได้ทำหรอก55555)
"ทุ่งหญ้าสีทองสมตามชื่อเสียงเรียงนาม""ถ่ายรูปทำเท่ห์ซะหน่อย"
"ดินแดนไทย สวยงามไม่แพ้ใครในโลก สาวไทยก็เช่นกัน อิอิ"
"มีคำกล่าวไว้ว่า ภูเขาสูงแค่ไหนก็เตี้ยกว่าหญ้าอยู่ดี...เด็ดหญ้าทิ้ง"
"แสงสีส้มกำลังมาแล้ว"
"รอถ่ายคุณพระอาทิตย์ตกดิน"
"ไม่ถ่ายและคุณพระอาทิตย์ลีลา เมื่อย นั่งรอดูละกัน"
"จะไปแล้วเหรอ บ๊าบบายนะ ตะวัน"
"ย้อนแสงก็จะดี แต่ย้อนศรต้องระวัง"
มื้อเย็นเราเห็นแบบนี้เป็นชาบูนะจ๊ะ ต้องขอบคุณพี่ๆทีมเชฟที่เตรียมมื้อเย็นมาแน่นมากก อร่อยเว้อออ แถมด้วยเมนูของหวานเป็นมาสเมโล่ปิ้งไฟ แล้วเอามาวางบนช็อกโกแลตที่อยู่บนแครกเกอร์อีกที อะไรซักอย่าง (ตอนนั้นไม่รู้ว่าเค้าทำอะไรเลยเอามาสเมโล่เปล่าๆเข้าปากเลย งุบๆ :3)
ตอนเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอยทูเล ข้างบนมีป้ายให้ถ่ายรูป และวิวสวยงามตามท้องเรื่อง บนยอดตอนขึ้นมาก็เหนื่อยใช่เล่นแต่มาเถอะ ไหนๆก็มาแล้วต้องมาให้ถึงนะขอให้ทุกคนสู้ !
"แชะภาพร่วมกับป้าย แลนด์มาร์ค""วิวนี้ส่งพี่เดินข้ามเขาไปอีกลูก เราจะรอตรงนี้หวังดีคอยเก็บภาพให้ "
หลังจากนั้นเราก็กินข้าวเช้าและเก็บข้าวของเริ่มออกเดินทางตอนสิบโมง ถึงข้างล่างบ่ายสอง ช่วงตอนลงครึ่งทางมีสัญญาณโทรศัพท์ โทรไปสั่งโค้กเย็นๆได้นะ มันดีมากกกก ขาลงไม่ต้องพูดถึง กลายเป็นผู้เฒ่าเต่าถือไม้เท้าในบัดดล เนื่องจากมันชันมาก ต้องย่อๆลงมา บางช่วงก็เอาตูดไถ่ลงมา55555
เมื่อลงมาถึงรถก็จะมารับที่จุดเดิม และไปอาบน้ำที่ อบต.ได้ก่อนขึ้นรถตู้กลับ กทม. โดยสวัสดิภาพ
สรุปค่าใช้จ่ายการเดินทางครั้งนี้
-ค่ารถตู้ 6500 บาท
-ค่าน้ำมัน 4616 บาท
-ค่าลูกหาบ 4 คน +ค่ารถจาก อบต. 3,000 บาท
-ค่าบำรุงสถานที่ 400 บาท
-ค่าของกินมื้อต่างๆ
รวมทั้งหมด 17,054 /10 คน ตกคนละ 1,700บาท
เบอรติดต่อ
อบต.ท่าสองยาง 089-2680116
ทริปนี้สนุกมากเหนื่อยมากกกกก โหดมากสำหรับเรา แต่อยากให้มาลองสัมผัสด้วยตัวเอง คุณอาจจะชอบมันก็ได้ สำหรับเราถ้าชวนมาอีกนี่ขอบาย (บายเพราะจะไปที่อื่นบ้าง )
ขอบคุณเพื่อนๆร่วมทางทั้ง 9คน ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกันบ้างแต่ก็สร้างความทรงจำดีๆ มิตรภาพดีๆให้เราได้เยอะมาก แล้วเจอกันใหม่นะ Bon Boyage
#เกิดอยากจะเที่ยว
#ม่อนทูเล
#จ.ตาก
3 กุมภาพันธ์ 2561
ฝากติดตามผลงานอื่นๆได้ที่ : https://www.facebook.com/koetyarkjatiew/
อย่าลืมตามมาทักทายพูดคุยกันบ้างน้าาา