หน้าร้อนเมืองไทย...ต้องไปทะเล แต่ถ้าโจทย์คือ อยากไปทะเล ที่น้ำใส ๆ หาดทรายขาว ๆ อยากดำน้ำดูปะการัง ส่องบ้านปลาการ์ตูน คนส่วนใหญ่ก็ต้องนึกถึงทะเลอันดามันเป็นอันดับแรกแน่นอน แต่ถ้าบอกว่ามีเวลาแค่วันเดียวก็คงจะเริ่มคิดหนักกันแล้วใช่ไหมครับ และวันนี้เรามีสถานที่แห่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าสามารถตอบได้ตรงโจทย์สุด ๆ นั่นก็คือ "เกาะแสมสาร" อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และถ้าหากใครยังคงสงสัยว่าทะเลชลบุรีจะมีแบบที่เราบอกจริงหรือ? ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ตามมาพิสูจน์กับเราในรีวิวนี้กันเลยครับ
เกาะแสมสาร เป็นเกาะขนาดเล็กที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเกาะทั้งปี ไม่มีวันหยุด ปกติแล้วเกาะแสมสารจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะประมาณ 500 คน / วัน แต่ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนต่อวันให้มากขึ้นซึ่งจะมากน้อยขนาดไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาครับ การจะข้ามไปเกาะแสมสารนั้น ก่อนอื่นเราต้องมาซื้อตั๋วที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย โดยบัตรผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท เด็ก 220 บาท ชาวต่างชาติ 600 บาท (นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องมีคนไทยไปด้วยเท่านั้น) โดยจะเริ่มแจกบัตรคิวตอน 6.00 น. และเรียกตามคิวเพื่อซื้อตั๋วตอน 8.00 น. ซึ่งเรือเที่ยวแรกที่ข้ามไปเกาะแสมสาร คือรอบ 9.00 น. ส่วนเรือรอบสุดท้ายที่ไปยังเกาะแสมสารคือ 13.00 น.
ส่วนตัวผมแนะนำว่าควรมาแต่เช้าเพื่อรับบัตรคิวเป็นลำดับต้น ๆ เพื่อจะได้นั่งเรือรอบแรกตอน 9 โมงเช้า ซึ่งแต่ละรอบจะรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 100 คน ที่แนะนำให้มารอบเช้าเพราะทะเลจะใส แสงกำลังดี เหมาะกับการดำน้ำ และที่สำคัญถ่ายรูปสวยสุด ๆ ไปเลยครับ
พอถึงเวลา 08.45 น. เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้เราไปต่อแถวที่บริเวณ ท่าเรือหมาจอ เพื่อเตรียมขึ้นเรือรอบแรก ระหว่างที่เราเดินไปบนสะพานเพื่อไปขึ้นเรือต้องขอบอกว่าน้ำใสมาก ใสจนสามารถมองเห็นพื้นด้านล่าง และฝูงปลาทะเลที่จับกลุ่มกันอยู่เต็มไปหมด เห็นแบบนี้ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ว่าฝั่งเกาะจะสวยขนาดไหน หลังจากได้ที่นั่ง และสวมเสื้อชูชีพแล้ว ไม่นานเรือก็ออกจากฝั่ง เรานั่งเรือยังไม่ทันเบื่อ ไม่น่าเกิน 20 นาที เราก็มาถึงเกาะแสมสารกันแล้วครับ
ข้อห้าม และข้อปฎิบัติ ที่ควรทราบ
- ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดขึ้นไปบนเกาะ
- ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงไปด้วย
- ห้ามใส่ชุดว่ายน้ำบิกินี่บนเกาะแสมสาร
- บนเกาะมีห้องสำหรับอาบน้ำ แต่งดใช้แชมพู และสบู่
เรือจะเข้าจอดที่ท่าเรือฝั่งหาดเทียน ซึ่งหลังจากที่เรามาถึงเกาะแสมสารแล้ว เจ้าหน้าที่พี่ ๆ ทหารจะพาเราไปยังศาลาฐานการบรรยายสรุปเพื่อฟังประวัติความเป็นมาของเกาะ จุดท่องเที่ยว การเดินทาง กิจกรรม และข้อควรปฎิบัติขณะที่อยู่บนเกาะครับ เกาะแสมสารเป็นเกาะที่ไม่อนุญาตให้พักค้างแรม นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางแบบไป-กลับเท่านั้น และหาดหลัก ๆ ที่สามารถลงเล่นน้ำ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ คือ หาดเทียน และ หาดลูกลม ซึ่งการเดินทางระหว่างสองหาดนี้ จะมีรถที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวตลอดวัน ระยะทางเพียงแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่ารอรถไม่นานเลยครับ
เมื่อฟังบรรยายเสร็จเราก็นั่งรถเพื่อไปหาดลูกลมกันก่อนเลย เพราะแหล่งรวมกิจกรรมทางน้ำที่เราชื่นชอบก็ล้วนอยู่ที่หาดนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมดำน้ำตื้น พายคายัค นั่งเรือท้องกระจกชมปะการัง ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ สามารถไปลงทะเบียนล่วงหน้า และชำระเงินเพิ่มเติมในส่วนของกิจกรรมที่เราสนใจได้ ซึ่งแต่ละกิจกรรมเจ้าหน้าที่จะจัดเป็นรอบ ๆ และเรียกตามลำดับคิวที่ลงทะเบียนไว้ หากยังไม่ถึงคิวก็เดินเล่น ถ่ายรูปทะเลสวย ๆ กันไปพลาง ๆ ไปก่อนนะครับ บนเกาะมีร้านค้าสวัสดิการไว้บริการนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอาหาร และเครื่องดื่มให้เลือกมากมายนัก แนะนำว่านำเสบียงมาเองด้วยส่วนหนึ่งจะดีกว่าครับ แต่ก็อย่าลืมเก็บขยะของตัวเองแล้วนำกลับไปทิ้งบนฝั่งด้วยนะ
สำหรับใครที่ชื่นชอบการดำน้ำ ต้องบอกว่าท้องทะเลที่เกาะแสมสารสวยงามและสมบูรณ์มาก เรานึกไม่ถึงเลยว่าทะเลสัตหีบจะสวยงามขนาดนี้ ที่นี่เต็มไปด้วยปะการังหลากหลายชนิด ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ รวมถึงปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์
หากใครไม่สันทัดเรื่องการดำน้ำ หรือไม่อยากเปียก แต่ก็ไม่อยากพลาดชมความสวยงามของปะการังของที่นี่ เราแนะนำให้นั่งเรือท้องกระจกครับ เจ้าหน้าที่จะพาเราชมปะการังในจุดต่าง ๆ พร้อมบรรยายอย่างสนุกสนาน กิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เสร็จจากดำน้ำ ดูปะการังแล้ว ใครยังไม่รีบกลับ หรือแรงยังไม่หมด ก็เช่าเรือคายัคพายดูทิวทัศน์ และความสวยงามรอบเกาะได้ ต้องยอมรับว่าทะเลที่นี่สวยจริง ๆ ยิ่งวันที่เรามาฟ้าเป็นใจ แดดก็ดีพลอยทำให้น้ำทะเลยิ่งใสเข้าไปอีก เราเดินเล่นถ่ายรูปกันซักพักใหญ่ ก็เตรียมตัวไปรอรถเพื่อกลับไปยังฝั่งหาดเทียน
ที่หาดเทียนถึงแม้จะไม่ได้มีกิจกรรมทางน้ำคึกคักเท่ากับฝั่งหาดลูกลม แต่ก็เหมาะกับการนักพักผ่อนชิล ๆ รับลมทะเลสบาย ๆ และที่ผมถือว่าเป็นไฮไลต์อีกอย่างของหาดเทียนคือ เจ้ากะปอมตัวน้อย ที่วิ่งไปมานับร้อยตัว แต่ไม่ต้องกลัวนะครับเค้าไม่ทำร้ายเราแต่ค่อนข้างกลัวเราด้วยซ้ำ บางตัวก็หัวผลุ่บ ๆ โผล่ ๆ ขึ้นมาจากรู ดูแล้วก็เพลินดีเหมือนกัน
เรือขากลับเที่ยวแรกคือ 10.30 น. โดยเรือจะออกทุก ๆ ชั่วโมง หากใครไม่มีแพลนไปที่อื่นต่อก็อยู่บนเกาะกันยาว ๆ ได้จนถึงเรือรอบสุดท้ายคือ 16.30 น. และหากกลับมาถึงฝั่งไม่เกิน 17.00 น. สามารถนำตั๋วไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ ซึ่งส่วนของพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงเกี่ยวกับด้านธรณีวิทยา ตัวอาคารมีทั้งหมด 5 อาคารด้วยกัน ซึ่งจะเรียงรายอยู่บนเนินเขา โดยเราสามารถเดินตามเส้นทางเพื่อไปยังจุดต่าง ๆ ได้ โดยจุดสุดท้ายจะอยู่ด้านบนสุดซึ่งเป็นจุดชมวิวท้องทะเลสัตหีบที่สวยงามมากจุดหนึ่ง ตรงนี้จะใช้เวลารวม ๆ แล้วประมาณ 30-40 นาที และได้เหงื่อพอสมควร แนะนำให้เผื่อเวลาขาลงด้วยเพื่อจะได้ไม่มืดจนเกินไปนะครับ
*ขอขอบคุณ น้องถุงทอง เจ้าตูบสี่ขา ที่นำทางพาเราไปจนถึงจุดชมวิว และพาเรากลับมาด้านล่างแบบไม่หลง ใครเจอน้องก็ฝากทักทายกันด้วยนะครับ
เมื่อเพื่อน ๆ อ่านรีวิวมาจนถึงตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างครับ ผมหวังว่า "เกาะแสมสาร" คงจะเข้าไปอยู่ในลิสต์ของปลายทางในฝันของใครหลาย ๆ คนแล้วก็ได้ ส่วนตัวผมเองตอนนี้ เกาะแสมสาร และท้องทะเลสัตหีบเรียกว่าได้ใจผมไปเต็ม ๆ นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติของที่นี่แล้ว ด้วยระยะทางก็ทำให้คนที่มีเวลาไม่มาก หรือมีวันหยุดน้อยก็มีโอกาสไปสัมผัสได้ไม่ยาก ลองดูไหม? สุดสัปดาห์นี้...ลองไป "แสมสาร" กันดูนะครับ