ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
"ดอยหลวงเชียงดาว" ดอยสูงเสียดฟ้า ที่ไม่ปราณาผู้พิชิต ยอดดอยหลวงเชียงดาว 2225 m.
    • โพสต์-1
    KhingY •  มกราคม 07 , 2561

    "ดอยสูงเสียดฟ้า ที่ไม่ปรารถนาผู้พิชิต"

    ฟังแล้ว โค่ดเท่  

     

    ฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมานาน และแล้ววววว วันนี้ฤกษ์งามยามดีข้าเจ้าและเหล่าสมาชิกอีก 8 ชีวิต จะออกไปแตะขอบฟ้า    หมายเหตุ รีวิวนี้อย่าคาดหวังภาพหรูหราไฮโซ และอาจไม่มีข้อมูลแน่นปึก แต่ก็ถือซะว่า เป็นเพื่อนมานั่งเม้าให้ฟังละกันนะคะ  

    ขอเกริ่นก่อนพอเป็นพิธี   ยอดดอยหลวงเชียงดาว สูง 2,225 เมตร นับเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ในประเทศ รองจากดอยอินทนนท์ และ ดอยผ้าห่มปก แต่ๆๆคุ๊ณณณ ถ้านับเฉพาะเขาที่ต้องใช้ขาเดินขึ้นไป มันจะกลายเป็นเขาที่สูงที่สุดในประเทศนะค๊า

      ถ้ากล่าวแค่เรื่องความสูงจะขึ้นไปเพื่อท้าพิสูจน์ความสตรอง ก็คงจะไม่ใช่เหตุผลมากพอ ที่จะต้องไฝว้ขึ้นไปบนนั้น เพราะทั้งระยะทางที่ไกล สูงก็สูง หนาวก็หนาว น้ำก็ไม่มี ส้วมก็ไม่มี  แต่พอเปิดดูรูปรีวิวของคนอื่นๆปุ๊ปป คุ๊ณณณณ อิชั้นหานี่รีบหาสมาชิกเลยค่ะ มันสวยมากกกก   

    วิธีจะขึ้นไปบนดอยเชียงดาวได้นั้น เราต้องทำการจองกันก่อนขึ้นไปด้วยนะคะ ในปี 2017นี้เปิดให้ขึ้น ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ รอบละ 200 คน โดยโทรไปจองได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โทร. 053 456 623  

    แต่ไอ้เรามันคนขี้เกียจ ไหนจะต้องหารถหาคนนำทางหาลูกหาบทำเรื่องบลาๆๆ เราเลยตัดปัญหาโทรไปจองเป็นทัวร์ท้องถิ่นเอา โดยเราได้เบอร์มาจากพี่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ ใครสนใจเป็นคนขี้เกียจแบบเรา ก็โทรเบอร์นี้โล้ดด

    อบต.ตุ๋ม 0899518823

    เราเลือกแพกเกจแบบ 2 วัน 1 คืน รวมทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มตั้งแต่ไปถึงอำเภอเชียงดาว ในราคา 2,000บาท/คน (ราคารุนแรง แต่ที่ได้มาเกินราคามากก)

    เราออกเดินทางจากกรุงเทพในวันศุกร์ที่ 01.12.17 ด้วยสมบัติทัวร์ ในราคา 759 บาท ล้อหมุน 19.25น. ด้วยความรถติดของวันศุกร์ต้นเดือนก่อนหยุดวันพ่อ รถติดมากกกก ชาวคณะ 1 คนเกือบตกรถจากการไปเริ่มทำงานวันแรก ทำให้ต้องวิ่งแหวกถนนมาเป็นคนสุดท้าย -..- และเมื่อล้อหมุน เราชาวคณะ 9 ชีวิต ก็ยังอยู่รอดหลอดภัย

      รถนั่งสบายมาก เบาะปรับเอนนอนไปทับเพื่อนด้านหลังพร้อมนวดด้วยระบบลมและฝ่าเท้า ผ้าห่มและหมอนพร้อมนอน หลับยาวยันกำแพงเพชร ลุกมากินข้าวต้มเที่ยงคืนกัน ก่อนจะนอนยาวถึงอาเขต (เชียงใหม่) เลทๆนิดหน่อย

    ประมาณตี5 กว่าๆ วันเสาร์ที่ 02.12.17 เราเหมารถแดง(แต่มันสีเหลือง) จากอาเขตไปยังที่แค้มป์รึที่ทำการ รึที่ไหนซักที่เรียกไม่ถูก ขอเรียกว่าบ้าน อบต.ตุ๋มละกัน ในราคา 1,200บาท ตอนแรกก็คิดว่า โหห แพงจังวะลุง แต่ก็เออๆ ยอมๆ เพราะถ้ารอรถประจำทางนี่ได้วิ่งขึ้นดอยไม่ทันพระอาทิตย์ตกแหงๆ  แต่พอเหนเส้นทางและความไกลแล้วยอมก็ได้ลุงง  ไกล๊ไกลลล เกือบ 80 กิโล ชั่วโมงครึ่ง 

    อากาศยามเช้าตรู่ที่เชียงใหม่ หนาวววว มองเห็นชะตาแห่งความหนาวที่ต้องเจอบนดอยมาร่ำไรเลยทีเดียว ก่อนจะไปถึงบ้าน อบต. ตุ๋ม ลุงพาแวะตลาดเชียงดาวหาข้าวเช้ากินก่อน ถ้าใครจะขึ้นเชียงดาวแบบต้องทำอาหารเอง ก็มาแวะซื้อของสดที่ตลาดเชียงดาวได้จ้า มีครบ ผัก หมู ไก่ ไข่ ข้าว แต่ถ้าต้องทำอาหารเองจริงๆก็มาม่าเหอะ ไม่หนักดี -..-   

    ผู้พ่ายแพ้คนที่1 แต่งตัวท้าทายอากาศเชียงใหม่ตอนตี 5 นั่งรถมาได้ครึ่งชั่วโมงยอมแพ้ปีนไปเอาเสื้อหนาวก่อนป่วย5555  

    7.30 น. ลุงก็พามาส่งที่บ้านอบต โดยสวัสดิภาพ มาถึงเราก็รื้อของล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนชุดกันเลยค่ะ (บางคนเพิ่งเลิกงานเมื่อเย็นก็บึ่งมาขนส่งเลย แต่เอ็งจะใส่ชุดทำงานปีนเขาไม่ด๊ายยย) ที่นี่มีห้องน้ำให้อาบนะคะ ผญ 3 ห้อง ผช 3 ห้อง ไม่ต้องแย่งกัน ห้องน้ำโอเคมาก แต่หนาวขนาดดดดนี้คนอื่นอาบไหวก็อาบไปค่ะ แต่สำหรับเราเพิ่งอาบมาตอนเย็นก่อนมาขนส่ง เพราะงั้นใจเราสะอาด กายก็สะอาดค่ะ555   

    ลากกระเป๋าเข้าบ้าน AF กันจ่ะ   อาบน้ำเสร็จก็มาแยกของกันให้เรียบร้อย อันไหนจะฝากไว้ข้างล่าง(เราจะอยู่เที่ยวเชียงใหม่ต่ออีก 3 วัน ของก็จะเยอะๆหน่อย) อันไหนจะแบกขึ้นไปเอง อันไหนจะให้ลูกหาบแบกไป (ทัวร์ของเราแบกของส่วนตัวให้คนละ 5 กิโล มันดี๊ดีตรงนี้แล)

     

    อิหนู กระเป๋าลากเอาไว้ข้างล่างนะลูกก ถ้าหนูลากขึ้นดอยล้อมันจะหลุดนะลูก  

     

     

    ของที่เราเอาขึ้นไป

    1.เสื้อผ้าที่ใส่เดิน ควรจะเป็นเสื้อผ้าไม่หนา ระบายอากาศได้ดี แขนยาวก็ดีกันแดด กันหญ้าบาด กางเกงควรจะขายาว ผ้ายืดก็ได้ ยีนส์ยืดๆก็ได้ เลกกิ้งก็ได้ เอาที่เดินสะดวก รองเท้า สำคัญสุดๆๆๆๆๆ หาที่ดอกลึกๆมาโล้ด รองเท้าดีชีวิตจะดีตาม ต่อไปเห็นใครเอาคอนเวิร์สมาขึ้นเขาอีกจะตีให้ขาลาย!!

    2.เสื้อผ้ากันหนาว หนาวมากกกก เราเอาลองจอน เสื้อสเวทเตอร์ กับเสื้อกันหนาวกันลมได้

    3.ถุงเท้า 3คู่ (ใส่ไปคู่นึง เตรียมไว้ใส่นอน และใส่กลับ) สรุปใส่ตอนนอนแม่ง 3 คู่เลย ทับๆกันไป

    4.ไฟฉาย (สำคัญมากๆตอนเดินไปดูพระอาทิตย์ ไอ้ไฟฉายมือถือมันไม่เวิร์คนะ มืดมาก แถมระยะทางไกล เปิดไฟฉายมือถือจนมือถือร้อนเครื่องค้างไปแล้วยังเดินไม่ถึงเลยนะ)

    5.กล้องถ่ายรูป

    6.ทิชชู่+ทิชชู่เปียก (เอาขึ้นไปแล้วเอาลงมาทิ้งด้วยยยย มันย่อยยาก อย่าปาไว้แถวนั้นนะ แม่สอนมาดี :P)

    7.ยาดม พัด (ตอนเดินมันร้อน แต่ตอนนอนมันหนาว555)

    8.น้ำเปล่าถือติดตัวตอนเดินคนละ 2ขวดเล็กนะคะ เผื่อไว้กิน (แต่เรากินน้ำเยอะ เอาไป 3 ขวดเลยเย่)

    9.ข้าวเที่ยง 1 ห่อ+ส้ม 2ลูก(ของมันฟรีก็ต้องเอามาเดี๋ยวเสียสิทธิ) 

    หมายเหตุเราไม่ได้เอารองเท้าแตะขึ้นไปนะ ไม่ได้ใช้อะ มันเย็นตรีน -..-

    ตรงที่เราเตรียมของกันเป็นที่กางเต็นท์ วิวดีมากกก ด้านหลังเป็นดอยหลวงเชียงดาว

    อีกแปปเดียวเจอกันนะน้องดาวจ๋าาา พี่มาแล๊วววว

     

    9.00น. เตรียมของกันเสร็จแล้ว ก็ขึ้นกระบะไปที่ทำการเตรียมเดินขึ้นโล้ด

    ทางขึ้นลงไปดอยเชียงดาวมี 2 ทาง เด่นหญ้าขัด(ระยะทาง8.5กิโล)และปางวัว(ระยะทาง6.5 กิโล) เนื่องจากทางเด่นหญ้าขัดชันน้อยกว่าและมีวิวให้ดูเจริญหูเจริญตามากกว่า เราไม่ได้จะมาเดินเอาโล่ เราก็ต้องขึ้นเด่นหญ้าขัดตามกระแสสังคมสิคะ (หมายเหตุแต่ตอนนั่งรถไปเด่นหญ้าขัดไกลกว่าและเส้นทางก็เป็นลูกรังละเกิ๊นน ไอ้ข้าวเช้าที่กินมาย่อยหมดพอดีจ่ะ)

    ทางเล็กๆแคบๆ ลูกรัง นั่งกันหัวแดง อยากจะหัวเราะไอพวกที่อาบน้ำเมื่อกี้ ในที่สุดเราก็กลับมาเท่าเทียมกัน 555

    ระหว่างทางมีร้านขายของน้อยๆอบตตุ๋มก็แวะ ซื้อส้มติดไปให้เราด้วย 3โล เอาไว้กินบนดอย (ไม่ขี้แตกก็ให้มันรู้ไป)

    ส้มอร่อยมากก กินระหว่างทาง กำลังเหนื่อยๆ ฟินนน

     

    10.00น. ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่งเราก็มาถึงจุดที่ทำการ เข้าห้องน้ำบอกลาส้วมกันให้เรียบร้อย แล้วก็ลุยกันโล้ดดด ทริปนี้เรามีสมาชิก 9คน(เป็น 9 คนที่มาด้วยกันได้แบบงงๆ รู้จักกันยังไงไม่รู้ แต่มันสนุกดีนะ) คนนำทาง 1 คน และลูกหาบ 3 คน

     

    8500เมตร คิดซะว่าเดินชมสวนหลังบ้าน...

    คนนำทางของเราชื่อพี่พจน์ (จะพี่รึน้องไม้รู้อ่ะ แต่จะเรียกพี่พจน์) น่าร๊ากกน่าเอ็นดู มีเล่นมุขระหว่างทาง จังหวะได้มากค่ะ

     

    พร้อมแล้วก็ออกเดินทางได้ คัมม๊อนน เบเบ๋ ตามข้าเจ้ามา

     

    ช่วงแรกๆทางเดินก็จะเป็นป่าสนหน่อยๆ ร่มๆเย็นๆ พอเริ่มเดิน เหงื่อก็มา แดดก็ส่อง แต่ก็ต้องถือว่าเป็นทางที่เดินสบายไม่ค่อยชันมาก

    ซักพักก็กลายเป็นหญ้าสูง สูงไปไหน สูงเกิ๊นนน

     

    เดินมาครึ่งชั่วโมง ก็ถึงจุดชมวิวแรก ตากล้องก็เดินไปแช๊ะซักหน่อย

     

    นี่ก็ถ่ายริมผาเกิ๊นนนนนน ร่วงลงไปโบกมือลาอย่างเดียวนะฮะ เจ๊ไม่เก็บ

    ดอยเชียงดาว ประกอบด้วยยอดเขาหลายยอดในแถบนี้ เรียกได้ว่าเดินเข้ามาในดงเขาเลยดีกว่า โดยจะเป็นเขาหินปูนลักษณะคล้ายรูปเกือกม้า (คือเป็นเขาล้อมรอบ) มองไปทางไหนก็จะมียอดเขาล้อมรอบเราอยู่

     

    คงจะไม่น่าแปลกใจ ถ้าจะหันไปทางนั้นแล้วมีหัวทีเร็กซ์โผล่ออกมาจ๊ะเอ๋ 0..0

     

    เห็นยอดสูงๆก็คอยถามพี่พจน์ว่า นั่นใช่มั้ย พี่พจน์ก็ได้แต่ปลอบใจว่า ยังไม่ถึงครึ่งทางเลยจ้าาา อันนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะดอยหลวงน้อย

     

    เดินต่อมาอีกพักนึง เราก็เจอแม่สาวววน้อยยย น้องเทียนนกแก้ววว แต่ช่วงที่เรามาาค่อนข้างหายากหน่อยๆมีไม่กี่ดอก แต่ก็ยังคงน่าร๊าก


     

    เดินมาอีกพักนึงก็ถึงจุดแยก ไปปางวัวและอ่างสลุง(จุดกางเต็นท์) เราก็แวะกินข้าวเที่ยงกันที่นี่ เพราะมันเกือบบ่ายโมงแล้วววข้าวที่ห่อมาเป็นไข่ดาวและกระเพราน้อย พอยาไส้ ล้างปากด้วยส้ม ฟินน

     

    อิ่มแล้วก็เดินกันต่อค่ะ ลุยๆๆ ผ่านดงดอกไม้สีเหลืองๆ ไม่ใช่ทานตะวันใช่มั้ยบอกที

    เพืื่อนเงยหน้ามองยอดเขาแล้วท้อใจ เดินมาตั้งไกลยังไม่เห็นยอดดอยหลวงเชียงดาว

     

     

    อิเด็กบ้าพลังคนนี้อะเลิทมาตั้งแต่ต้นทาง พลังเยอะเกิ๊นนน นี่มันถึงดอยสามพี่น้องแล้วววว ไม่ผิดแน่ๆ นับตอๆได้ 3 อันถ้วน! ถือว่าเกินครึ่งทาง

     

    หันไปอีกด้านมีดอยพีระมิด ใช่แน่ๆ สามเหลี่ยมขนาดนี้ อันนั้นแน่ๆ คิดว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ! หลังจากนั้นพี่พจน์ก็หันมาบอกว่า อ๋อ อ้อมหลังลูกนี่ไปก่อนน่ะ ลานกางเต็นท์ -..- เชรดโด้ ไหนคุณพี่บอกให้อ้อม ทำไมพี่ลูกหาบตัดตรงงงงล่ะค๊าาา รึตรงฐานเขาลูกนั้นจะมีลิฟท์!

     

     

     

     

    • โพสต์-2
    KhingY •  มกราคม 07 , 2561

    ในที่สุดเราก็มาถึง

    15.30น เราใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ลากสังขารมาถึงอ่างสลุง 

     

    พี่ๆลูกหาบมาถึงก่อน (แหงสิพี่แกตัดตรงขึ้นลิฟท์ที่เขาลูกเมื่อกี้) เค้าเลือกที่กางเต็นท์ใต้ต้นไม้ (ครึ้มมมมาากกขุ่นพี่ น้องอยากนอนเห็นฟ้าใสๆ ขุ่นพี่เลยแจ้งกลับมาว่านอนมองฟ้าใสๆ กลางคืนหัวเปียกแน่ น้ำค้างแรงมาก /กราบขอบคุณค่ะที่เตือน)

    กางใต้ร่มไม้หนาๆเลยค่ะขุ่นพี่ น้องกลัวนอนหัวเปียกกกน้ำ

    บรรยากาศตอนนี้ที่ร้อนๆจากการเดินไกลมานั้นนน  แค่นั่งพักแป๊ปเดียว หนาววววเลยจ่ะ รีบมุดเต็นท์ไปเอาลองจอนใส่อีกชั้น

    หลังจากกางเต็นท์เก็บของกันเรียบร้อยประมาณ 4 โมง ก็เตรียมตัวขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาว ระยะทางเกือบๆ 1 กิโล ทางชันมากกกกกกกกกกกกกก แดดส่องร้อนนมากกกก ลองจอนที่ใส่ไว้ ทำให้จะเป็นลมหนักมากกกก นี่มันพลาดในพลาด โง่ในโง่ เข้าใจว่าเดินไม่ไกลT^T

    ดูยอดดอยบนนั้นสิคะคุ๊ณณณ  สูงโค่ดๆในระยะทางไม่ถึง 1 กิโล ชันนชิบบ ตรงดิ่งมือไต่กันเลยทีเดียว (ไหนลิฟท์คะขุ่นพี่ /ชะเง้อหา)

     

    ช่วยป้าขึ้นไปด้วยยย! /เพื่อนไม่ได้กล่าว

     

    ไต่มาได้ครึ่งทาง แอ๊บถ่ายรูปก่อน OMGวิวสวยมากกก (ที่จริงคือเหนื่อยจะเป็นลมมม ลองจอนร้อนมากก) เงยหน้าขึ้นไปดู ยังไม่ถึงอีกหรอฟระ!! เหนื่อยกว่าไอ 8500เมตร ข้างล่างนั่นแล้วนะเฟร้ยยย

     

    กลั้นใจแปปนึง ในที่สุด ชั้นก็มาถึง จุดสูงสุดแล้วโว๊ยยยย

    น้ำตาจะไหล จะนั่งนิ่งๆตรงนี้ ใครอย่ามายุ่ง เหนื่อยหนักมากก T^T

     

     

    เจ้าเด็กน้อยคนนี้ก็ส่องแต่ดอกไม้ต้นไม้ตลอดทาง หิวหราา

    พระอาทิตย์กำลังตก สีสวยมากกกกกกกก ละมุน คุ้มค่ากับน้ำตาที่เล็ด

     

    หันไปฝั่งตรงข้ามพระอาทิย์ตก  อู๊ววว ความท้องฟ้าเรนโบว์ ตัลล๊าคค สองชะนีน้อยพยายามมองหากวางผา พี่ลูกหาบบอกว่ายืนอยู่หน้าผาฝั่งนู้นนนนนนนนนน

    ไหนฟระกวางผา! ใครเจอวงกลมกลับมาให้ทีค่ะ -..-

    พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เทเลทับบี้โบกมือลาาา

    รีบลงกันดีกว่า ทางน่ากลัว

     

    ลากันไปในค่ำคืนนี้กับเมนูอลังการสุดเท่าที่จะหาได้ในป่า

     

    พรุ่งนี้เจอกันตี 4 รีบตื่นเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วลมใต้จ้าา

     

    • โพสต์-3
    KhingY •  มกราคม 08 , 2561

    วันสุดท้ายบนดอยเชียงดาว

    เราตื่นกันตั้งแต่ตี 4 ตามเวลานัดหมาย แปรงฟันเช็ดหน้า เพื่อเตรียมตัวเดินไปยอดกิ่วลมใต้ (ไกลมากกก ประมาณ 1 กิโลนิดๆ) อากาศหนาวกว่าตอนหัวค่ำอีกจ้าาาา

    ทางเดินช่วงแรก เป็นหญ้าสูงค่อนข้างรก เราก็แหวกๆตามทางกันไป ใครมัวแต่เดินก้มหน้าดูพื้นก็หัวโหม่กิ่งไม้ ใครมั่วแต่เดินหลบกิ่งไม้ ก็สะดุดรากไม้แทน จ่ะ!!

    ผ่านระยะทางราบประมาณ ครึ่งกิโล ก็จะเจอทางขึ้นยอดไปอี๊กก ค่อนข้างชัน หลายๆช่วงต้องเอามือเกาะเพื่อไต่ขึ้นไป

    เหนื่อยยมากกก  ช่วงเกือบถึงยอด เริ่มเห็นท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสีมาไกลๆ

     

    อย่าเพิ่งงงมาาาา เจ้าพระอาทิตย์!! รอข้าก่อนนน

     

    ใช้เวลาเดินประมาณเกือบก็มาถึงยอดดอย ท้องฟ้าก็ค่อยๆเปลี่ยนสีไป สวยมากกก ในความคิดคือ สีมันเหมือนกับbackground ใน powerpoint ตอนเด็กๆที่เวลามีสี sunset sunrise ให้เลือก ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจนะว่าท้องฟ้ามันจะสีแสล๋นแป๋นแบบนั้นได้ไง ลืมตาตื่นมามันก็เป็นฟ้า ไม่ก็ขาว พอมาเห็นด้วยตาตัวเอง อู๊วววว แจ๋มแจ้งเลยจ่ะ

    เหล่าตากล้องทั้งหลายก็ ตั้งกล้องเตรียมกันไป เรามันสายเอื่อยเฉื่อย ก็เอ้อระเหยลอยชายไปทั่วๆ

     

    แล้วแสงเช้าก็ค่อยๆโผล่ ดูด้วยตามันช่างเหมือนกันว่า ละมุนแมนนนน  ทะเลหมอกวันนี้ไม่ค่อยแน่นเท่าไร ไม่เป็นไรเรายังโชคดีที่ท้องฟ้าเปิด ยอดดอยกิ่วลมใต้ หนาววมากกกก  พี่ลูกหาบเอากาแฟขึ้นมาให้ด้วย เลิศ แต่อิหนูคนนี้กอดน้ำร้อนซะจนหายร้อนเลยจ่ะ

     

    และแล้ววว เจ้าพระอาทิตย์ก็ยิ้มแฉ่งงง พอโผล่ขึ้นมา ความแพดเดิลป๊อปเรนโบว์ของน้องฟ้าหายไปหมด 

     

    หันไปดูอีกฝั่งไกลๆ นู้นนนนน เห็นเต็นท์เรามั้ย ไกลลิบๆ

    หลังจากพระอาทิตย์ขึ้น เหล่าเด็กน้อยในทีมที่กำลังพร้อมใจกันปวด... ก็รีบวิ่งกลับเต็นท์ (อิหนู เค้าให้ขึ้นมาถ่ายรูปนี่เอ็งพร้อมใจกันมาถ่ายท้อง!!!)

     

    ทางลงจากยอดดอย พอฟ้าสว่างเท่านั้นแหล่ะ โอ๊ววแม่เจ้าาา เราไต่กันขึ้นมายังไงงง

    แล้วน้องสาวชั้นก็ดริฟแหกโค้งไปเป็นคนที่ 4 ของจุดนี้!!! หลังจากที่นางเพิ่งเอ่ยปาก ว่าหนูไม่ลื่นซ้ำหรอก!!! ข่ะ ท่าเอ็งชนะเลิศ

     

    ระหว่างทางลงมีดอกไม้แปลกๆเยอะ

    ดอกฟ้องหินเหลือง ดอกชมพูพิมพ์ใจ ดอก Alumirite มีชื่อภาษาไทยว่า ดอก อะไรมิรู้ววว ผ่าม!!

     

    ขากลับ เราลงมาเวลาประมาณ 9 โมงครึ่ง เราลงกันทางปางวัว ช่วงแรกเราทำเวลากันได้ดีมากกก มาถึงจุดแยกเด่นหญ้าขัด-ปางวัว ภายในเวลาประมาณ ไม่ถึง 2 ชั่วโมง

    ไอสองคนนี้ จะวิ่งนำเพื่อ! ค่อยๆเดินก้ได้ แก่แล้ว เหนื่อยโว๊ยย!

     

    ค่อยๆย่องๆลงไป ไขข้อไม่ค่อยดี :p

     

    พอถึงทางแยกปางวัว ก็เจอของจริง ทางเป็นโคลน ชันแบบนีี้ ลื่นไปตลอดทางง ไม่มีปัญญาคว้ากล้องอีกเลย :')

    เห็นคอนเวิร์สแล้วอยากหากระดานวางให้นั่งแล้วลากให้ไหลลงไป ดูจะง่ายกว่า ลื่นทุก 5ก้าวเลยจ้าาา น้ำตาเล็ดกันปายยย 

    ถึงพื้นพอดี เกือบบ่าย2 

     

    สรุปค่าใช้จ่าย (เราไปเที่ยวต่ออีก 3 วัน2คืน)

    ค่ารถทัวร์กทม. 759 บาท

    ค่ารถแดงมาเชียงดาว 1200/9 = 134 บาท

    ค่าขึ้นดอยทั้งหมด 2000 บาท

    ค่ารถไปบ้านระเบียงดาว 500/9 = 56 บาท

    ค่าที่พักบ้านระเบียงดาว 500 บาท

    ค่ารถแดงกลับไปเชียงใหม่+ม่อนแจ่ม+ไปส่งที่โรงแรม 2500/9 =278 บาท

    ค่าที่พักในตัวเมือง 214 บาท

    ค่าเครื่องบินขากลับ = 1500 บาท (แพงมากกก จองล่วงหน้าเกือบครึ่งปี แต่ติดที่มันเป็นวันพ่อ)

    ค่ากินและค่ารถอื่นๆ 500-1000 บาท

    รวมทั้งสิ้น ทริปเชียงใหม่เชียงดาว 4 วัน 4 คืน(บนรถ1คืน) 6000-6500

    แต่ถ้ามาขึ้นดอยอย่างเดียว ก็จะประมาณ 45xx บาท เด้อออ

    * ถ้าแพลนทริปดีๆมาช่วงที่ไม่ใช่หยุดยาว น่าจะอยู่ที่ไม่ถึง 4000 บาท

     

    ลากันไปด้วย จุดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาววววววว ในวันฟ้าเปิดดด ฮูเร่

    ดอยหลวงเชียงดาว เราคิดถึงเธอ <3