ตามหาความสุขติดดิน ที่...บ้านไร่ชายเขาฟาร์มสเตย์
บางครั้ง...ความสุข ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหรูหรา แต่อยู่ที่ว่าเราจะหาความสุขจากสิ่งที่มีอยู่ได้อย่างไร ได้ยินคำเปรยนี้แล้วทำให้เรานึกขึ้นมาว่า ทุกวันนี้ที่ทำอยู่เรามีความสุขจริงเหรอ คิดไปคิดมาเลยอยากออกเดินทางไปตามหาความสุขที่แท้จริงดู เราเลยเลือกเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราช เมืองสองธรรม แหล่งธรรมะ ที่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม และธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ จุดหมายปลายทางของการค้นพบความสุขในทริปนี้ คือ บ้านไร่ชายเขาฟาร์มสเตย์ ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ ฟาร์มสเตย์แห่งแรก และแห่งเดียวในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่นี่ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของฟาร์มสเตย์แห่งนี้ถึงแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์ที่มีความสำนึกรักในบ้านเกิด จึงกลับมา และผลักดันชุมชนแห่งนี้ให้เป็นที่พักผ่อนเชิงเกษตรแห่งใหม่ของจังหวัด บ้านพักของที่นี่จึงจะเป็นสไตล์ลอฟท์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อยู่ท่ามกลางหุบเขา ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสดชื่น
บ้านไร่ชายเขาฟาร์มสเตย์ ปัจจุบันมีบ้านพักเพียง 2 หลังเท่านั้น แต่ละหลังจะพักได้ 2-3 คน แน่นอนว่าเราจะได้รับทั้งความเป็นตัวส่วนตัว และได้บรรยากาศที่เงียบสงบสุด ๆ บ้านทั้ง 2 หลังนี้มีชื่อเรียกตามต้นไม้ที่ปลูกอยู่บริเวณรอบ ๆบ้าน อย่างบ้านหลังที่เราพักมีชื่อว่า เรือนดอกแก้ว ตั้งชื่อตามต้นแก้วที่ขึ้นอยู่ริมบ้านส่งกลิ่นหอมละมุน หน้าบ้านจะมีระเบียงยื่นไปเหนือบ่อเลี้ยงปลา สามารถนั่งห้อยขาเพลิน ๆ ได้ นั่งสักพักก็จะมีน้องปลาว่ายมาส่งยิ้มให้เราด้วย และหากเราเดินออกไปสำรวจรอบ ๆ บ้านเราก็จะเจอสวนปาล์มภูเขา ต้นไม้เก่าแก่ สวนผลไม้ สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน รวมถึงทุ่งนาที่สวยงามในช่วงฤดูฝนด้วย เมื่อเรามาถึงจะมี welcome drink เป็นน้ำอัญชัน หอมหวานเย็นชื่นใจไว้คอยบริการ หลังจากเช็คอินเก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็ถึงเวลาลองเป็นชาวสวนชาวไร่ ขี่จักรยานไปเก็บผักสวนครัว ผักพื้นบ้านต่าง ๆ มาทำอาหารกันแล้ว มื้อนี้เราจะได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ส่วนใครกังวลว่าจะทำอาหารไม่เป็น ไม่ต้องห่วงที่นี่มีคุณแม่ใจดีคอยช่วยทำทุกเมนู เมนูในวันนี้มีแกงส้มปลาช่อน ต้มกะทิหน่อไม้อ่อนใส่กุ้ง (สำหรับหน่อไม้ก็ไปฟันกันมาจากต้นสด ๆ เลย) และสุดท้ายก็เป็นข้าวยำภาคใต้ที่รสชาติจัดจ้านถึงใจมากครับ
ขั้นตอนการทำอาหารแต่ละเมนู คุณแม่จะสอนเราอย่างละเอียดตั้งแต่เลือกผัก ว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะอร่อยพอดี ไม่แก่ไปไม่ดิบไป เลือกผักแล้วก็จะสอนขูดกะทิ แกะปลาย่าง หั่นผัก ตำน้ำพริก จนถึงการจัดจานพร้อมเสิร์ฟเลย แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าได้ลงมือทำอะไรเองแทบทุกอย่าง ทั้งมีความสุขและภูมิใจ หลังจากมื้อเย็นเราก็นั่งคุยกับพี่เจ้าของและคุณแม่จนเริ่มง่วง เลยขอตัวกลับไปอาบน้ำแร่จากตาน้ำร้อยปีที่บ้านพักก่อน น้ำแร่นี้มาจากบ่อน้ำผุดบ่อน้ำผุด ตาน้ำกว่าร้อยปีที่ไม่เคยเหือดแห้ง สามารถใช้ได้ทั้งอุปโภคและบริโภค นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือมีดอกไม้ป่า “เอื้องหมายนา” ซึ่งถือได้ว่าเป็น “ราชินีดอกไม้ป่าแห่งบ้านไร่ชายเขา” หาพบยากในปัจจุบัน ส่วนสิ่งที่ทำให้ประทับในที่นี่ก็คงเป็นพี่เจ้าของ และคนในชุมชนที่มีความเป็นกันเอง พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณี และพักผ่อนอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ สุดท้ายก่อนกลับเรามีโอกาสได้แวะไปชมบ้านพักอีกหลัง เรือนไผ่สีสุก บ้านหลังนี้ การตกแต่งสไตล์ลอฟท์เหมือน ๆ กัน แต่จะมีเรือให้พายหน้าบ้านด้วย แปลกจังอยู่ที่นี่แล้วสบายใจจนไม่อยากกลับเข้าเมืองไปเจอความวุ่นวายเลย ใครอยากหนีกรุงมาตามหาความสุขที่แท้จริงแบบเรา ลองแวะมาที่บ้านไร่ชายเขา จังหวัดนครศรีธรรมราชได้เลยนะครับ