ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
[Backpacking to.. KHAO-KUM-PANG] เมื่อฉันแบกเป้เข้าป่าไปหาความสดชื่นที่ เขากำแพง จ.กาญจนบุรี เขากำแพง อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์(ถ้ำธารลอด) จ.กาญจนบุรี
    • โพสต์-1
    Ah •  ตุลาคม 11 , 2559

    [อ]อกไปข้างนอก  ออกไปเที่ยวเขากำแพง จ.กาญจนบุรี

     

    รีวิวต้นฉบับบผมอยู่ที่ Pantip นะครับ จึงอยากนำมาลงเพื่อเเชร์ประสบการณ์ไว้ที่ TheTripPacker ด้วยครับ : http://pantip.com/topic/35688930


    สถานที่ปลายทาง : เขากำแพง อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์(ถ้ำธารลอด) จ.กาญจนบุรี
    ช่วงเวลาในการเดินทาง : 1-2 ตุลาคม 2559
    อุปกรณ์ถ่ายภาพ : Canon Rebel T3i(600D) lens  Kit 18-55 mm และ lens Sony QX : 100
    การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัวไปยัง อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี

              "สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว theTripPacker ทุกๆท่าน เป็นอีกครั้งที่ผมได้ออกเดินท่างท่องเที่ยวและอยากมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางครั้งนี้ครับ" 
              เขากำแพง เขากำแพงยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไปมากนัก แต่สำหรับวงการนักเดินป่าเขากำแพงถือว่ามีชื่ออยู่พอสมควรเลยครับ เขากำแพงอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์(ถ้ำธารลอด) อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ระยะเดินเท้าจากจุดเริ่มเดินประมาณ 8 กิโลเมตร ค่อยๆไต่ระดับไปเรื่อยๆซึ่งจะมีเนินสามก้าวที่จะชันที่สุดมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ยอดเขากำแพงมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,260 เมตร ลักษณะป่าเป็นแบบผสม เป็นป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง  มีเดินตามแนวสันเขาด้วยครับและช่วงท้ายๆ ก่อนถึงแค้มป์ประมาณ 800 เมตร จะมีลักษณะเป็นหุบชื้นๆซึ่งเป็นดงน้องทากด้วยครับพี่เจ้าหน้าที่บอกว่าทากที่นี่มีสองชนิด คือทางปกติกับทากตอง(ตัวสีเขียวใสๆเล็กๆอยู่ตามใบไม้ และมีความสามารถพิเศษคือดีดตัวเองได้ด้วย (O.o)  เกริ่นไปซะยาวเดี๋ยวเราลองมาดูกันครับว่าการเดินทางของผมและเพื่อนๆจะเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการ์ณการท่องเที่ยวไสตล์ผมและสิ่งที่ผมได้พบได้เจอมาครับ เผื่อเป็นแนวทางเล็กๆน้อยๆนะครับ ^^ 


    ขออนุญาตฝากกระทู้ที่ผมเคยรีวิวไว้ด้วยนะครับ 
    + [Train to.. BURIRAM] เมื่อฉันนั่งรถไฟไปบุรีรัมย์.. คนเดียว : http://pantip.com/topic/35522494
    + [Backpacking to.. Khao Chor] เขาช่อ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ขญ.18(เจ็ดคต) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.สระบุรี :http://pantip.com/topic/35550125
    + [Train to.. KIRIWONG] เมื่อฉันนั่งรถไฟไปนอนโฮมสเตย์ ที่หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช : http://pantip.com/topic/35590445
    + [Backpacking to.. TA-KHON-DAM waterfall] เมื่อฉันแบกเป้เข้าป่าไปหาความชุ่มฉ่ำที่น้ำตกตาขนดำ จ.ปราจีนบุรี :http://pantip.com/topic/35615208
    + [Train to.. Phu Soi Dao] เมื่อฉันแบกเป้นั่งรถไฟ ไปภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ : http://pantip.com/topic/35671009


    สามารถเข้าไปชมทริปการเดินทาง พูดคุย และชวนพวกเราเที่ยวได้ตลอดเวลา ได้ที่
    Page : ออกไปข้างนอก https://www.facebook.com/outsidelifes

     

    • โพสต์-2
    Ah •  ตุลาคม 11 , 2559

    ทริปนี้เราเดินทางกันวันศุกร์เกือบๆสามทุ่ม มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด 7 คนครับ แวะหาอะไรกินกัน แวะปั๊มด้วยระหว่างทาง จนเดินทางมาถึงอุทยานฯเฉลิมรันตนโกสินทร์ ราวๆตีหนึ่งกว่า และหาที่พักผูกเปลนอนเอาแรงกันก่อน.. ช่วงเช้าเราตื่นมาจัดการธุระส่วนตัวกันแต่เช้า และจัดกระเป๋าเพื่อเริ่มเดินทางกัน ฝากท้องและซื้ออาหารสำหรับมื้อเที่ยงไว้กับร้านค้าในบริเวณอุทยานฯ 

    ไ ม่ อ ย า ก ตื่ น เ ล ย ย ย

    พวกเราเริ่มเดินทางกันประมาณเก้าโมงเช้า โดยนั่งรถกระบะที่ติดต่อจองไว้กับอุทยานเพื่อไปจุดเริ่มเดินเท้าระยะทางจากที่ทำการฯราวๆ 2 กิโลเมตรเนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูฝน ต้นไม้เล็กๆก็มีล้มลงมากีดขวางเส้นทางบ้าง ทำให้ระหว่างทางก็ต้องเคลียร์เส้นทางบ้างเป็นครั้งคราว นั่งรถมาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็ถึงจุดเริ่มเดินแล้วครับ วันนี้มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่จะขึ้นไปบนยอดเขากำแพงพร้อมพวกเรา เจ้าหน้าที่จึงขับรถกลับไปรับอีกรอบหนึ่งเพื่อเริ่มเดินพร้อมกันระหว่างนั้นเราก็รอ เจ้าหน้าที่บอกว่ามีลำธารอยู่ใกล้ๆ เราเลยเดินไปนั่งเล่นไปพลางๆเมื่อสมาชิกครบทั้งสองกลุ่มแล้วเราก็เริ่มต้นออกเดินทางกันแล้วครับ
    ทางเดินช่วงแรกจะเป็นเนินไต่ระดับไปเรื่อยๆครับ เป็นป่าโปร่งผสมกับป่าไผ่  เนินแรกนี้จะไปสินสุดที่ยอดเขาโบราณ ช่วงครึ่งทางหลังจะมีลักษณะเป็นการไต่ระดับบนไหล่เขาที่มีระดับความชั้นขึ้นมาอีกหน่อย
    เขาโบราณ เขาโบราณมีการพบซากกำแพงหินเก่าแก่ รวมทั้งหลุมฝังศพมนุษย์ เศษกระดูกมนุษย์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องประดับโบราณ จำพวก ขวานหิน หอก ถ้วย ภาชนะดินเผา มีดสำริด ลูกปัดหินสีโบราณ ฯลฯ
    ก่อนถึงยอดเขาโบราณเล็กน้อยจะพบแนวกำแพงโบราณด้วยครับ
    กำแพงโบราณ ในพื้นที่ยอดเขาโบราณ มีความกว้างเฉลี่ย 1.5 เมตร ยาวประมาณ 200 เมตร และสูงประมาณ 2 เมตร การสร้างกำแพงนี้อาจเพื่อป้องกันอันตรายจากศัตรู สัตว์ป่า ก็เป็นได้   บนเขาโบราณนี้จะมีเห็ดที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้ด้วยครับ ชื่อว่าเห็ดระโงก ซึ่งจะมีเฉพาะช่วงฤดูฝนนี้เท่านั้น พี่เจ้าหน้าที่ก็เก็บไปพอประมาณเพื่อให้เราได้ลองชิมรสชาดกันด้วย ส่วนใหญ่จะเก็บตอนที่ดอกยังไม่บานครับแต่ผมถ่ายไม่ทันเจอแต่ดอกบานๆ ฮ่าๆ  
    • โพสต์-3
    Ah •  ตุลาคม 11 , 2559

    หลังจากถึงยอดเขาโบราณแล้วเรานั่งพักกันสักครู่ก้เริ่มเดินต่อไปตามสันเขาครับ มองไปตามพื้นบางช่วงก็จะมีมอสขึ้นเขียวแป็นพรมเลยครับ สบายตาดีครับเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ เพื่อไปสู่ลำธารสุดท้ายก่อนไต่ระดับที่สูงขึ้นสู่ยอดเขาครับไม่นานนักก็ถึงลำธาร ดูเวลาก็เที่ยงกว่าๆแล้วพวกเราเลยพักกินข้าวกลางวันที่เตรียมมากันที่นี่เลยครับ
    พี่เจ้าหน้าที่ก็นำเห็ดระโงกที่เก็บมาได้ มาล้างทำความสะอาดเพื่อเตรียมไปประกอบอาหารมื้อเย็นข้างบนครับสีสันจัดจ้านมากครับเจ้าเห็ดระโงก เห็นสีสันอันตรายแบบนี้ แต่รสชาดถือว่าใช้ได้เลยที่เดียว ^^พี่เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้หุงข้าวจากที่นี่ไปเลย เพราะข้างบนไม่มีน้ำแล้วจะได้ไม่ต้องแบกน้ำขึ้นไปอีกและอีกอย่างจะได้ไม่เสียเวลาด้วย โดยพี่เจ้าหน้าที่จะก่อไฟให้กินข้าวเสร็จผมก็แวะมามาถ่ายรูปเล่นไปพลางๆ ถ่ายตัวเองด้วย ฮ่าาาาาาาานั่งเล่นๆไปเรื่อยๆ ก็มีเพื่อนใหม่มาทำความรู้จักกันครับ น่ารักเชียว ^^กินข้าวเสร็จเรียบร้อย พักจนหายเหนื่อยแล้วเราก็ได้เวลาลุยต่อแล้วครับ เดินข้ามลำธารไปแล้วก็เป็นเนินเนิบๆ ช่วงนี้จะเป็นป่าไผ่ครับ ป่าไผ่ยาวๆเลยครับเดินไปเรื่อยๆ ก็เหลือบไปเห็นเจ้าบึ้งตัวน้อยออกมาต้อนรับหน้าบ้าน เลยขอถ่ายภาพมาสักรูปช่วงนีก็จะเดินเพลินๆไปเรื่อยๆเลยครับ ก่อนจะถึงเนินสามก้าว ที่จัดว่าหนักที่สุดของทริปนี้ครับอันนี้เป็นเห็ดโคนครับ ต้นอวบเชียว ถือว่าดวงดีมากๆเพราะเห็ดโคนจัดว่าหายากและมีราคาแพงพอสมควรเลยครับ
    เราเดินต่อไปเรื่อยๆ 

     

       
    • โพสต์-4
    Ah •  ตุลาคม 11 , 2559

    เข้าเขตเนินสามก้าวแล้วครับ ผมคิดเอาเองก่อนจะถึงเนินสามก้าวนี้ว่าเพราะป็นเนินที่ค่อนข้างจะมีความลาดชัน เดินไม่กี่ก้าวคงหมดเเรงเเล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่อุปมาณว่าเดินไปสามก้าวแล้วพักอะไรทำนองนี้มั้งครับไม่ผิดไปจากที่คิดไว้เท่าไรครับ สามก้าวพักจริงๆด้วย แต่ก็พักนานไม่ได้เพราะมีทั้งยุงและแมลงรำคาญต่างๆ มารุมตอมพวกเราซอฟท์เฟลก็เอาเกือบไม่อยู่ ต้องอาศัยฉีดบ่อยๆฉีดบ่อยจนเมาซอฟท์เฟลกันเป็นแถบๆ แทนที่จะได้พักให้หายเหนื่อยพาลหงุดหงิดเพิ่มไปอีก (เหนื่อยแล้วพาล ฮ่าาาาา)

    ผมใช้เวลานานพอสมควรก็มาถึงจุดสิ้นสุดเนินสามก้าวครับ กว่าจะขึ้นมาถึงก็เล่นหืดขึ้นคอกันเลยทีเดียวครับ ต่อไปก็จะเป็นการเดินบนสันเขาเนิบๆเรื่อยๆแล้วครับ

    ตรงโน้นครับยอดเขาที่เราจะไปพักค้างแรมกันคืนนี้ มีหมอกลงเป็นบางช่วง ตรงนั้นคงบรรยากาศคงดีน่าดูเชียว ^^
    ระหว่างพักผมก็ส่องอะไรไปเรื่อยๆ สันเขานี้อากาศจะค่อนข้างชื้นครับ มอสเฟิร์นขึ้นมองเพลินๆดีครับคนนี้พี่เจ้าหน้าที่นำทางครับ ชื่อพี่เอส ถามไปถามมาเป็นคนบ้านเดียวกันซะงั้น เหน่อใส่กันไปเลยครับคนกันเอง ฮ่าๆ
    ปล.ต้องขอบคุณพี่เอสไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับที่เข้าใจสายสโลวไลฟ์แบบผม ถ้าพี่ได้อ่านกระทู้นี้รู้ไว้เลยนะพี่ผมไม่ได้เหนื่อยครับ ไม่เหนื่อย ถ่ายรูปเฉยเฉ้ยยยย ฮ่าาาเดินไต่สันเขาไปเรื่อยๆครับ เส้นทางค่อนข้างรก และมีพวกหญ้าคาด้วย แนะนำให้ใส่ขายาวแขนยาวนะครับ ไม่งั้นขาแขนโดนบาดลายแน่ๆเดินไปเรื่อยๆรู้สึกว่าเนินสูงขึ้นมาหน่อยก็หันหลังกลับไปดู หูวววว วิวสวยใช้ได้เลยตรงช่วงนี้รู้สึกว่าพี่เอสจะเรียกเนิน คชสาร นะครับมีรอยพี่ใหญ่อยู่ด้วยระหว่างทาง เนินนี้จะเป็นเนินสุดท้ายก่อนเข้าหุบข้างหน้า ที่มีน้องทากรอเราอยู่นั่งเอง เสียงวอจากพี่ๆชุดที่นำหน้าไปบอกโดนกันไปหลายคนเหมือนกันครับ เราพักตรงนี้กันแป๊ปนึง อัดเสปรย์กันทากกันเต็มที่ ผมขอนำหน้าเลยครับตอนนี้ ขายาวขอจ้ำให้เต็มที่ก่อนเลย ฮ่าๆ    
    • โพสต์-5
    Ah •  ตุลาคม 11 , 2559

    ระยะทางกว่า 800 เมตร ผมนี่จ้ำอย่างเดียวเลย ฮ่าๆ ในที่สุดหลังจากที่เดินมากว่า 5 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วครับจุดสูงสุดของเขากำแพง 1,260 เมตร มุมกว้างๆครับ ฝนก็ตั้งเค้าซะน่ากลัวเชียว เราต้องเดินลงเนินไปอีกนิดจึงจะถึงจุดตั้งแค้มป์ครับ เดินยังไม่ถึงแคมป์ดี ฝนก็เทลงมาแล้วครับ ผมต้องรีบจัดแจงกางฟลายชีทของตัวเองก่อนเดี๋ยวจะเปียกไปมากกว่านี้ ฝนตั้งเค้าอีกแล้ว เมฆหมอกไม่แคล้วครอบคลุมครึ้มไป รีบเดินต่อไปมั้ยยยย ฮ่าๆกางฟลายชีท รวมทั้งกางเปลกันเรียบร้อย ฝนก็ซาฟ้าก็เปิดแล้วครับผมเลยหยิบกล้องไปถ่ายภาพด้านหน้าตรงจุดชมวิว ดูท่าว่าฝนคงเคลื่อนตัวไปแล้วครับ มองเห็นตกอยู่ไกลๆถ่ายภาพไปสักพัก ตรงหน้าก็มีฝนกระจายเป็นหย่อมๆ มีสายรุ้งปรากฎให้เห็นด้วยครับ สวยมากเลยพอฝนหยุดฟ้าก็กลับมาใสอย่างที่เห็นครับ เมฆเยอะหน่อยเเต่ก็ถือว่าสวยไปอีกแบบครับถ่ายรูปจนได้ที่แล้ว ก็ถึงเวลาทำกับข้าวแล้วครับ ผมก็ไม่ชำนาญด้านนี้เท่าไร เลยช่วยจัดการผักเล็กๆน้อยๆเดินวนเวียนระหว่างครัวกับจุดชมวิว ถ่ายภาพไปเรื่อยๆครับ
    พอฝนหยุดจริงๆแล้ว แสงอาทิตย์ก้สาดมาให้เห็นครับ บริเวณนี้จะไม่เห็นพระอาทิตย์ตกนะครับ ถ้าจะดูต้องย้อนกลับไปดูตรงแถวๆเนินคชสาร ก่อนถึงดงน้องทากน่ะครับ ผมเลยไปไปดีกว่า ไม่ได้กลัวนะครับ ไม่กลั๊ววววววววไอหมอกน่าจะเกิดจากจากโดนความร้อนจากดวงอาทิตย์ครับ นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งครับ ทำอาหารง่ายๆกินกัน ปิ้งเนื้อหอมเชียวววว เดินผ่านเฉยๆครับไม่ได้มีเจตนาอะไรจริงๆ ฮ่าๆนั่งดูวิวไปสักพักเพื่อนก้เรียกกินข้าวแล้วครับ กับข้าวในป่า ไม่ธรรมดานะครับ กินดีกว่าตอนอยู่กรุงเทพฯอีก ฮ่าๆนั่งไปสักพักเริ่มสำรวจตัวเองแล้วครับ เพราะหลังจากกางเปลเสร็จผมก็เปลี่ยนเป็นใส่กางเกงขาสัน ถ่ายรูปเพลินๆจนลืมไปเลยว่าบริเวณนี้ก็มีทากเหมือนกัน นี่ไงครับเจอเจ้าน้องทากแล้วครับอยู่ตรงซอกนิ้วเท้า เอาจริงๆผมไม่ได้กลัวนะครับมันแค่แบบแหยงๆ ตอนเห็นหัวมันส่ายไปมาๆจะหาที่ดูดเลือก ขามาพี่เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าโดนกัดอย่าดึงมันออกทันที  ให้ทำยังไงก็ได้ให้มันคลายเขี้ยวออกเองเพราะถ้าเขี้ยวฝังอยู่จะทำให้เกิดแผลได้ ผมมองเห็นมะนาวเลยลองบีบใส่เลย ได้ผลครับน้องทากคลายเขี้ยวออกแต่ก็ยังจะหาที่กัดต่อ ผมละแหยงจริงๆ แต่ก็หาไม้มาเขี่ยออกไปจนได้ เลือดสาดกันไปครับ  ไม่กลัวครับ ไม่กลัว (- -*)พวกเรากินข้าวกันไปคุยกันไปทำความรู้จักกับสมาชิกใหม่ๆเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ สักพักฝนก็ปรอยๆมาอีกครั้งแบบเบาๆ เราเลยตั้งวงนิทานก่อนนอนคุยกันไปเรื่อยๆ จิบอะไรคลายหนาวไปพลางๆ สักประมาณสี่ห้าทุ่มก็เข้านอนกัน อากาศค่อนข้างหนาวเย็นเลยครับ อาจเป็นเพราะว่าเป็นไหล่เขาด้วยลมจึงพัดมาตลอดเลยแต่ยังไงพวกเราก็หลับกันไปอย่างง่ายดาย ^^

     

     
    • โพสต์-6
    Ah •  ตุลาคม 11 , 2559

    เช้านี้พี่ที่นอนเปลข้างๆปลุกผมขึ้นมาราวๆเกือบหกโมง พวกเราจึงปลุกพี่เอส สมาชิกวงนิทานเมื่อคืนขอให้พาไปยังจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น เดินไปราวๆสัก 500 เมตรได้ พอมาถึงก็มีแสงทไวไลท์ แล้วครับ รอๆกันไปเรื่อยๆครับ ใกล้แล้วๆ
    ไม่นานนักใข่แดงก็โผล่ขึ้นมาเหนือเส้นขอบฟ้าแล้วครับ ^^แดดอุ่นๆ ^^  พวกเราใช้เวลาอยู่บริเวณนี้พอสมควรครับ อาบแดดอุ่นๆหนำใจแล้วจึงเดินกลับไปยังแคมป์ฝั่งนี้ก็ไม่น้อยหน้าครับมีทะเลหมอกให้เห็นอยู่ไกลๆเหมือนกัน ยังไงดูรูปกันไปยาวๆเลยนะครับ 

    " แ ส ง แ ล ะ เ ง า  "

    "ชีวิตของข้า เพื่อป่าของไทย"

    ถ่ายรูปหนำใจแล้วเราก็มากินข้าวเช้าและทยอยเก็บของกันครับ ผมเก็บของเสร็จก็ถ่ายรูปบริเวณเเคมป์ไปพลางๆก่อนกลับเพื่อก็ขอถ่ายรูปกับแมลงปอสักสองตัว ฮ่าๆ
    กลับแล้วนะฮะคนพร้อม สัมภาระพร้อม เก็บขยะเรียบร้อยเราก็ทยอยกลับกันแล้วครับ ขากลับนี้พวกเราเลือกใช้เส้นทางเดิม แต่อีกกลุ่มหนึ่งเลือกกลับอีกเส้นทางหนึ่งซึ่งชันกว่า แต่ระยะทางใกล้กว่า เส้นทางดังกล่าวจะไปโผล่แถวๆน้ำตกสไลเดอร์ครับรูปหมู่ในดงน้องทากซักรูป ไม่รู้ว่าสมาชิกไปเอาความกล้านี้มาจากไหนกัน ฮ่าๆพวกเราเดินลัดเลาะในดงน้องทากไปเรื่อยๆ
    เพื่อนล้มอย่าข้าม ถ่ายรูปเก็บไว้ครับ ฮ่าๆ ล้มในดงทากเล้ยยย หลุดจากดงน้องทากมาก็เดินเรื่อยๆแล้วครับ ชมวิวข้างทาง ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ

    " ถ้ อ ย ที ถ้ อ ย อ า ศั ย "

    ผมเดินมาชุดท้ายๆ ก่อนจะลงเนินสามก้าวเห็นพี่เจ้าหน้าที่อยู่บนต้นไม่ก็ตกใจเล็กๆ นึกว่าหนีอะไร ความจริงคือพี่เขาขึ้นไปเก็บลูกมักเม่าครับ นี่ครับลูกมักเม่า มีรสชาดเปรี้ยว ถ้าแดงออกม่วงกว่านี้จะหวานอมเปรี้ยวสรรพคุณดีทีเดียวหลังจากนั้นพวกเราก็ลงเนินกันไปยาวๆครับแวะดูน้องบึ้งน้อยตัวเดิม วันนี้ตื่นเช้าเชียว สงสัยออกมาอาบแดดยามเช้า ^^พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆครับ จนถึงด้านล่าง ขากลับนี่เดินไกลกว่าเดิมหน่อยเพราะอุทยานเอารถค่อนข้างเก่ามารับ กำลังรถไม่พอทำให้ข้ามลำธารไม่ได้ T^T

     

     
    • โพสต์-7
    Ah •  ตุลาคม 11 , 2559

    …จบแล้วครับรีวิวการเดินทางครั้งนี้ของผม เป็นยังไงกันบ้างครับ ผมว่าเขากำแพงนี้ผืนป่ายังมีความสมบูรณ์อยู่นะครับ ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ถ้ามีเวลาและโอกาสลองแวะไปหาความสดชื่นแบบผมดูนะครับ ^^

    การติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขึ้นเขากำแพง : 
     034-5470220(ที่ทำการอุทยานฯ) 
    -  081-6666141 (คุณสุรชัย หัวหน้าอุทยาน) 
    -  081-7905275 พี่โจ จนท.อุทยาน ติดต่อเรื่องการเดินและลูกหาบ
    - ค่าเจ้าหน้าที่และลูกหาบ 800 บาท/คน/วัน
    - ค่าเหมารถไป-กลับ จุดเริ่มเดินเท้า 800 บาท

    สรุปค่าใช้จ่าย
    + ทริปนี้หารเฉลี่ยแล้วตกคนละ 1200 บาทครับ(รวมทุกอย่าง ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ค่าเหมารถไปส่งจากจุดเริ่มเดินเท้า) 
    หมายเหตุ : ค่าอาหาร ขนม มื้ออื่นๆไม่ไม่ได้นำมารวมไว้นะครับแล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนว่ากินแบบไหน


    ......สุดท้ายแล้วครับขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตามอ่าน และเยี่ยมชมกระทู้รีวิว  [Backpacking to.. KHAO-KUM-PANG] เมื่อฉันแบกเป้เข้าป่าไปหาความสดชื่นที่เขากำแพง จ.กาญจนบุรี เจอกันใหม่ทริปหน้าะครับผม ^^

     

    อ อ ก ไ ป ข้ า ง น อ ก