ผมเห็นภาพภาพหนึ่งที่มีคนแชร์มาในเฟสบุ๊ก ผมใช้เวลาหลายนาทีในการจ้องมองภาพภาพนั้น ภาพจากจุดชมวิว หอวัดอุณหภูมิภูทับเบิก ผมบอกกับตัวเองว่า ผมต้องได้เห็นสิ่งนั้นด้วยตาตัวเอง!
-
-
- โพสต์-1
Wirayut • มิถุนายน 07, 2559 -
-
-
- โพสต์-2
Wirayut • มิถุนายน 07 , 2559หลังจากหาข้อมูลมาได้ซักระยะ ผมก็ตกลงกับแฟนและลูกชายว่า ปลายเดือนมิถุนานี้เราจะไปล่าทะเลหมอก ที่ภูทับเบิกกัน ผมโทรจองบ้านพักได้ที่ ไร่ภูทะเลหมอก ในราคาคืนละ 1,500 บาทครับ
ครอบครัวเราออกเดินทางเช้ามืดวันที่ 27 มิถุนายน 2558 ออกจากจังหวัดสระบุรี มุ่งหน้าไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีจุดหมายแรกอยู่ที่ ร้าน BIG COFFEE บนเขาค้อครับ![]()
หลังจากใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 4 ชั่วโมงเราก็มาถึงร้าน BIG COFFEE บนเขาค้อแล้วครับ วันนั้นอากาศเย็นสบาย มีสายฝนโปรยปรายครับ![]()
3คน พ่อแม่ลูก เรานั่งทานอาหารเช้าชมวิวไอหมอกจางๆกันอยู่ที่นี่เกือบ1ชั่วโมงครับ พอมีแรงแล้วกองทัพก็พร้อมลุยต่อ เราควบกระบะ150 แรงม้าทะยานขึ้นไปยังร้านกาแฟชื่อดัง PINO LATTE เพื่อไปชมวิว วัดผาซ่อนแก้วจากด้านบนครับ![]()
มาถึง PINO LATTE ประมาณ 10 โมง เช้าวันนั้นโดยรอบๆบริเวณไม่มีหมอกครับ อดเห็นสวรรค์เลย เรายืนชมวิวถ่ายภาพอยู่ตรงนั้นสักพักก็ลงมาที่วัดผาซ่อนแก้วต่อครับ![]()
![]()
เราเดินชมความงดงามกันอยู่พักใหญ่ จนเวลาใกล้เที่ยงแล้วเราจึงลงจากวัดเพื่อทานข้าวเที่ยงกันและเตรียมตัวให้พร้อมกับการขับรถขึ้นภูทับเบิก เมื่อพร้อมแล้วเราก็ขึ้นภูทับเบิกกันตอนบ่ายโมงครับ เราต้องสู้กับหมอกหนาตลอดเส้นทางอันคดเคี้ยวและสูงชัน ประมาณเกือบๆ1ชั่วโมง เราก็มาถึงที่พักของเราแล้วที่ "ไร่ภูทะเลหมอก" ![]()
![]()
![]()
ภาพบรรยากาศโดยรอบของ ไร่ภูทะเลหมอก ครับ ช่วงบ่ายแก่ๆวันนั้นอากาศค่อนข้างแปรปรวนมีหมอกหนาๆฟุ้งๆพัดผ่านตลอดเวลา เราเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยและออกมาเดินเล่นถ่ายภาพกันครับ ![]()
![]()
ตกเย็นขณะที่เรากำลังทานข้าวกับกะหล่ำปลีทอดน้ำปลากันอยู่นั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ทางเจ้าของรีสอร์ทบอกว่าถ้าฝนตกหนักอย่างนี้ รับรองพรุ่งนี้เช้ามีทะเลหมอกแน่นอน เอาหัวเป็นประกันได้ 555 ผมแทบรอไม่ไหวแล้ว รีบกลับเข้าที่พัก อาบน้ำนอน ตั้งนาฬิกาปลุก ตี4 ครึ่งครับ
เช้ามืดวันที่ 28 มิถุนายน 2558 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมรีบตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันทำธุระเสร็จตอนตี 5 พอดี ผมออกเดินไปรอบๆรีสอร์ทบริเวณนั้น ไม่มีใครเลย ผมเดินอยู่คนเดียวดุ่มๆ เดินผ่าน เดอะม้ง ไปชะเง้อดูที่หน้าผาก็ไม่เจอหมอก เดินไปทางไร่ริมผา ก็ไม่มีหมอก ผมนั่งถอดใจอยู่ตรงระเบียงสวรรค์ไร่ริมผาอยู่จน ถึงตี 5 ครึ่ง ผมเห็นอะไรบางอย่าง สายหมอกเริ่มก่อตัวขึ้น ผู้คนเริ่มตื่นขึ้นมาเฝ้ารอชม
![]()
นาทีนั้น เสียงชัตเตอร์แรกของผมก็ดังขึ้น และดังรัวๆไปเรื่อยๆครับ 555 กำลังใจมาเต็มเปี่ยม เรี่ยวแรงกลับมาเต็มร้อย หมู่ทะเลหมอกเริ่มก่อตัวกันหนาขึ้นเรื่อยๆ
![]()
ผมปักหลักถ่ายภาพอยู่ตรงนั้น ตรงไร่ริมผา จนฟ้าสาง ได้ยินเสียงชัตเตอร์ของนักท่องเที่ยวรวมกันเป็นพันๆครั้ง
![ที่ตรงนี้ อนันดา เคยมานั่งถ่ายทำรายการเมืองต้องห้ามพลาดด้วยครับ]()
![]()
![]()
![]()
![]()
ในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาสอันแสนวิเศษอยู่นั้น ชาวม้งก็ดำเนินวิถีชีวิตอันปกติและเรียบง่าย ตัดกะหล่ำปลีขึ้นรถไปส่งตลาดสดตอนเช้า ไม่ได้สนใจเลยว่ามีความพิเศษอะไรอยู่เบื้องหน้า เหมือนคนที่มาจากเมืองกรุง ![]()
ผมถ่ายภาพนี้เสร็จ ผมบอกกับตัวเองว่าผมทำสำเร็จแล้วนะ กับการตามล่าทะเลหมอกที่ ภูทับเบิก ผมได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว จริงๆ
จบทริปวันนั้น ผมและครอบครัวขับรถกลับบ้านด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขครับ
-
-
-
- โพสต์-3
Love • มิถุนายน 08 , 2559ชอบรูปสุดท้ายมากเลยครับ เหมือนอยู่บนสวรรค์เลย แล้วกระโดดลงไปนอนบน ก้อนเมฆนุ่มๆ สวยๆๆ
ชอบรูปสุดท้ายมากเลยครับ เหมือนอยู่บนสวรรค์เลย แล้วกระโดดลงไปนอนบน ก้อนเมฆนุ่มๆ สวยๆๆ
-
หลังจากใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 4 ชั่วโมงเราก็มาถึงร้าน BIG COFFEE บนเขาค้อแล้วครับ วันนั้นอากาศเย็นสบาย มีสายฝนโปรยปรายครับ
3คน พ่อแม่ลูก เรานั่งทานอาหารเช้าชมวิวไอหมอกจางๆกันอยู่ที่นี่เกือบ1ชั่วโมงครับ พอมีแรงแล้วกองทัพก็พร้อมลุยต่อ เราควบกระบะ150 แรงม้าทะยานขึ้นไปยังร้านกาแฟชื่อดัง PINO LATTE เพื่อไปชมวิว วัดผาซ่อนแก้วจากด้านบนครับ
มาถึง PINO LATTE ประมาณ 10 โมง เช้าวันนั้นโดยรอบๆบริเวณไม่มีหมอกครับ อดเห็นสวรรค์เลย เรายืนชมวิวถ่ายภาพอยู่ตรงนั้นสักพักก็ลงมาที่วัดผาซ่อนแก้วต่อครับ
เราเดินชมความงดงามกันอยู่พักใหญ่ จนเวลาใกล้เที่ยงแล้วเราจึงลงจากวัดเพื่อทานข้าวเที่ยงกันและเตรียมตัวให้พร้อมกับการขับรถขึ้นภูทับเบิก เมื่อพร้อมแล้วเราก็ขึ้นภูทับเบิกกันตอนบ่ายโมงครับ เราต้องสู้กับหมอกหนาตลอดเส้นทางอันคดเคี้ยวและสูงชัน ประมาณเกือบๆ1ชั่วโมง เราก็มาถึงที่พักของเราแล้วที่ "ไร่ภูทะเลหมอก" 
ภาพบรรยากาศโดยรอบของ ไร่ภูทะเลหมอก ครับ ช่วงบ่ายแก่ๆวันนั้นอากาศค่อนข้างแปรปรวนมีหมอกหนาๆฟุ้งๆพัดผ่านตลอดเวลา เราเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยและออกมาเดินเล่นถ่ายภาพกันครับ 
ตกเย็นขณะที่เรากำลังทานข้าวกับกะหล่ำปลีทอดน้ำปลากันอยู่นั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ทางเจ้าของรีสอร์ทบอกว่าถ้าฝนตกหนักอย่างนี้ รับรองพรุ่งนี้เช้ามีทะเลหมอกแน่นอน เอาหัวเป็นประกันได้ 555 ผมแทบรอไม่ไหวแล้ว รีบกลับเข้าที่พัก อาบน้ำนอน ตั้งนาฬิกาปลุก ตี4 ครึ่งครับ
ในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาสอันแสนวิเศษอยู่นั้น ชาวม้งก็ดำเนินวิถีชีวิตอันปกติและเรียบง่าย ตัดกะหล่ำปลีขึ้นรถไปส่งตลาดสดตอนเช้า ไม่ได้สนใจเลยว่ามีความพิเศษอะไรอยู่เบื้องหน้า เหมือนคนที่มาจากเมืองกรุง 
ผมถ่ายภาพนี้เสร็จ ผมบอกกับตัวเองว่าผมทำสำเร็จแล้วนะ กับการตามล่าทะเลหมอกที่ ภูทับเบิก ผมได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว จริงๆ