ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    JumPoon •  พฤษภาคม 14 , 2559

    เดินทางสู่บ้านคีรีวง

         โชคดีที่ได้รับวันหยุดยาวจากลุงตู่ เลยหาทริปมาเที่ยวไกลบ้านหน่อย คีรีวง จ.นครศรีธรรมราช เตรียมตัวมาเที่ยวที่คีรีวงล่วงหน้ามาก่อน 2 เดือนได้ มากับเพื่อนเที่ยวสายภูเขา (เพื่อนชอบเที่ยวป่า) เป็นเพื่อนสมัยมัธยม คบกันมาเนิ่นนาน ส่วนเราเป็นนักท่องเที่ยวสายศิลปะ วัฒนธรรม คือ ชอบเที่ยววัด สถาปัตยกรรม ชมวิถีชีวิตผู้คน ประมาณนั้น คีรีวงจึงเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับเราสองคน เราเริ่มทริปล่วงหน้าโดยการจองรถไฟเที่ยวไป จองเครื่องบินเที่ยวกลับ จองที่พักโฮมสเตย์ แบบโฮมสเตย์จริงๆ คือ อยู่กับคนคีรีวง ที่ต้องจองก่อน เพราะเป็นทริปวันหยุดยาว ถ้าไปแบบไม่มีแพลน เดี๋ยวจะไม่มีที่นอน หงายเงิบกันกลับบ้าน

    หัวลำโพง

     

         เราเริ่มเดินทางวันที่ 4 พ.ค. ด้วยรถไฟ เรากับเพื่อนไปเจอกันที่หัวลำโพง ขึ้นรถไฟ ชั้น 2 ขบวนที่ 85 กรุงเทพฯ-คลองจันดี เวลารถออก 19.30 แต่ออกรถจริงๆ เกือบๆ สองทุ่ม 555 “เรารักรถไฟไทย” ตู้ที่เราอยู่ ครึ่งตู้เป็นฝรั่ง (ตัวเหม็นมาก เดินผ่านนี่กลิ่นโชยเลย) 

    ตู้นอนแบบยังไม่ได้นอน

     

     

    เป็นตู้นอนจริงๆ แล้ว แอร์เย็นดี ส่วนห้องน้ำ รู้ๆ กันค่ะ เรารักรถไฟไทย

     

    สภาพตอนเช้า หน้าแน่น คิ้วเป๊ะ กันทั้งคู่

       

         ถึงสถานีคลองจันดีเกือบๆ 9 โมงเช้า พอเราลงสถานีเราก็หมุนตัวไปมาอยู่พัก เลยหันไปถามครอบครัวหนึ่งซึ่งนั่งรถไฟมาด้วยกันเรื่องการต่อรถไปคีรีวง บังเอิญครั้งที่ 1 คือ น้องเขาเป็นคนคีรีวง (ชื่อน้องเอ๊กซ์) เลยชวนเรานั่งรถไปด้วย เพราะเดี๋ยวมีญาติมารับ บังเอิญครั้งที่ 2 คือ  แม่น้องเอ๊กซ์รู้จักกับพี่วิว พี่ที่เราจะไปพักโฮมสเตย์ด้วย พอน้องเอ๊กซ์โทรไปบอกแม่เท่านั้นแหล่ะ พี่วิวก็โทรเข้าเครื่องเราบอกว่าให้ลงบ้านน้องเอ๊กซ์เลย เดี๋ยวพี่ไปรับ ทำบุญมาดี เลยไม่ต้องเสียตังส์ค่ารถ รถที่มารับเป็นรถกระบะตอนเดียว เรากับเพื่อน และก็น้องเอ๊กซ์ เลยต้องมานั่งท้ายกระบะ ส่วนคุณแม่คุณลูกนั่งหน้าไป เราไม่ได้นั่งท้ายกระบะมานานแล้ว นั่งไปก็คิดถึงตอนเด็กไป ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงคีรีวง ก่อนไปบ้านน้องเอ๊กซ์ เราผ่านสะพานสุดฮิตของคีรีวงด้วย คนถ่ายรูปเต็มเลย คีรีวงฮิตจริงๆ

     

     

    ลงสถานีคลองจันดี

     

    สถานีคลองจันดี

         

    ครอบครัวน้องเอ๊กซ์ คนคีรีวง คนใจดี

    สภาพตอนนั่งกระบะหลัง 

    • โพสต์-2
    JumPoon •  พฤษภาคม 14 , 2559

    โฮมสเตย์พี่วิว ที่เที่ยวบ้านคีรีวง

         พี่วิวพามานอนที่บ้าน มีห้องนอนมิดชิดให้เรา แต่เรานอนเปิดประตูห้องตลอด 555 พี่วิวให้ดูห้อง ถามว่านอนได้ไหม แหม! นอนได้ค่ะพี่ สักพักพี่วิวกับลูกสะใภ้ก็เตรียมอาหารกลางวันให้เรา อร่อยมาก มาพักโฮมสเตย์ก็เพื่อสิ่งนี้ อาหารใต้ เรากินไปร้องไห้ไป เผ็ดแต่อร่อย ปลาทอดช่วยเราได้ในมื้อนี้ บ้านพี่วิวเป็นบ้านหลังเล็กๆ แต่สะอาด อยู่กับพ่อแม่พี่น้อง ในรั้วเดียวกันจึงมีบ้านอยู่ 3 หลัง อบอุ่นดี เราชอบไปคุยไปพ่อยศ พ่อพี่วิว ขอบอกว่าพ่อกวนมาก 555 เราชอบ พี่วิวให้รถมอเตอร์ไซค์เราไว้ใช้ขี่ไปมาในหมู่บ้านด้วย เราพักเหนื่อยกันสักพัก ก็ออกมอไซค์ไปเที่ยวกัน เราออกไปตามเส้นทางท่องเที่ยวที่เขาฮิตๆ กันที่คีรีวง อากาศที่คีรีวง ร้อน ถึงร้อนมาก ร้อนที่สุด เดินออกจากพัดลมก็เหงื่อซึมรักแร้แล้ว กันแดดที่ดีที่สุดคงเอาไม่อยู่ เราเลยใส่ปลอกแขน สวมหมวก เอาผ้าพันหน้า จบ แดดไม่กล้าเลียแน่ๆ พ่อเห็นสภาพเราก่อนออกจากบ้าน ขำใหญ่ แซวว่ามุสลิม ไม่ก็พูดว่า กลัวทำไมกับแดด เพื่อความงามค่ะพ่อ หน้าหนูแพง แดดขนาดนั้น กระ ฝ้า มากันเพียบแน่

     

    หน้าบ้านโฮมสเตย์พี่วิว

     

     

    ห้องนอนเราเอง

     

     

    พี่วิวกับลูกสะใภ้เตรียมอาหารกลางวันให้เรากิน

     

    อยากไปพักติดต่อได้เลย

     

     

    อาหารกลางวันของเรา กินไปร้องไห้ไป อร่อย แต่เผ็ด

     

    ที่นั่งเล่น เรานอนเกลือกกลิ้งตรงนี้ทุกวัน

     

         เราแว๊นไปหาเครื่องดื่มกินที่ร้านนายทั่ง บริเวณใกล้ๆ สะพาน ร้านตั้งอยู่ริมคลองท่าหา นั่งพักอยู่พักใหญ่ เพราะร้อนมาก น้ำในคลองน้อยมาก แต่ยังพอมี ในคลองมีฝายกั้นน้ำเป็นระยะๆ ความใสของน้ำ เรายกให้ที่ 1 เลย ใสจริง อะไรจริง เรานั่งทำใจกับอากาศอยู่พักใหญ่ก็แว๊นต่อ มอเตอร์ไซค์ที่เราจอดไว้โดนแดดเต็มๆ เรานั่งลงบนเบาะที สะดุ้งเฮือก ก้นแทบสุก

     

    ร้านนายทั่ง


    ร้านนายทั่ง

     

         จุดแรกที่ไปเป็นบ้านประวัติศาสตร์ เป็นบ้านที่เหลือจากอุทกอภัยที่เกิดขึ้นที่คีรีวง เป็นบ้านไม้เก่าๆ มีข้าวของกองอยู่ตามตรงบันได้ทางขึ้น เรายืนดูอยู่สักพัก ดูไปก็ได้แต่นึกในใจว่าถ้ามันเป็นบ้านประวัติศาสตร์ของคนคีรีวง ก็น่าจะทำให้ดูแล้วย้อนระลึกถึงห้วงเวลาอันเลวร้าย แล้วชาวคีรีวงก็ผ่านพ้นมันมาได้ เสียดายจริงๆ

    บ้านประวัติศาสตร์

     

         เราแว๊นมอไซค์เลียบคลองท่าหามาเรื่อยๆ แวะกลุ่มบ้านสมุนไพรคีรีวง ที่นี่มีสินค้าในหมู่บ้านจำหน่าย ที่ขึ้นชื่อสุดก็คงเป็นสบู่มังคุด ตรงกันข้ามบ้านสมุนไพรมีทุเรียนกวนย่างห่อกาบหมากของแม่ปูจำหน่าย เดินไปอุดหนุนกันได้ เราเดินทางต่อ ไปหนานหินท่าหา ทางไปกำลังต่อเติมซ่อมแซมเลยขี่มอไซค์ลำบากหน่อย ที่สำคัญวันนี้ (5 พ.ค.) เป็นวันหยุด คนเพียบเลย น้ำก็น้อย คนก็เยอะ แต่น้ำที่คลองท่าหาก็ยังใสอยู่ เราเดินชมอยู่สักพัก เอาเท้าไปจุ่มสักหน่อยก็ขอกลับ เพราะคนเยอะเหลือเกิน ตามซอกหินมีขยะ เอิ่มมมมม ไปดีกว่า คีรีวงโตไว ข้างทางเราเห็นรีสอร์ทใหม่ๆ เปิดเป็นระยะๆ เราชอบความเจริญ แต่มันจะดีถ้ามันมาเมื่อเราพร้อม หรือเราสามารถรับผิดชอบหรือจัดการกับมันได้

    หนานหินท่าหา

     

     

    น้ำใสมาก ที่หนานหินท่าหา

     

     

    คนเพียบเลย

     

         ขากลับเราแวะบ้านแม่เล็ก แม่เล็กทำทุเรียนกวนย่างห่อกาบหมาก อุดหนุนแม่เล็กสักหน่อย เรามันพวกทุเรียนเลิฟเว่อร์ ทุเรียนกวนย่างอร่อยมาก ทุเรียนมีกลิ่นหอมของกาบหมากที่ใช้ห่อ เนื้อทุเรียนก็แห้งไม่แฉะ แม่เล็กโชว์เตาย่างทุเรียนให้เราชมด้วย

     

    แม่เล็ก

     

     

    วิธีการย่างทุเรียนกวน

     

     

    ทุเรียนกวนย่างห่อกาบหมาก

     

          ร่ำลาแม่เล็กเราก็แวะกลุ่มมัดย้อมต่อ ที่นี่นอกจากมีผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อมก็ยังมีผ้าบาติกด้วย เราไปชมวิธีการมัดย้อม พร้อมกับลงมือช่วยดึงเอาไม้ หนังยางออกจากผ้า ตอนดึงก็สนุกดี คอยลุ้นว่าลายจะออกมายังไง 

     

    การลงสีผ้าบาติก เป็นสีธรรมชาติ

     

     

    เขียนเทียนผ้าบาติกก่อนลงสี
     

     

    ผ้ามัดย้อมที่ผ่านการซักแล้ว

     

     

    วิธีการมัดย้อม

     

     

    เตาย้อมผ้า

    • โพสต์-3
    JumPoon •  พฤษภาคม 14 , 2559

    น้ำตกวังไม้ปัก สะพานคีรีวง

     

     

         ทางที่มากลุ่มผ้ามัดย้อมมีป้ายบอกทางไปน้ำตกวังไม้ปัก ต้องแวะ จะไปดูว่าคนเยอะไหม ทางไปน้ำตกเลยบ้านที่เราพักไป เป็นทางขึ้นเขา ลงเขา เป็นช่วงๆ ถ้าปั่นจักรยานมาคงต้องเหนื่อยหน่อย มาถึงที่นี่ ไม่ค่อยมีคน ที่สำคัญค่อนข้างสะอาด ขยะไม่ค่อยมีให้เห็น เราเดินขึ้นไปเล่นแอ่งบนสุด พ่อยศให้ข้อมูลว่าที่เรียกว่าวังไม้ปัก เพราะเวลาน้ำไหลลงมาแล้วมีไม้ไหลตามน้ำมาด้วย พอมาถึงตรงที่ชัน ไม้จะปักหัวลง เลยเรียกว่าวังไม้ปัก เราเล่นน้ำที่นี่อยู่นานพอสมควร คลายร้อนลงไปได้มาก

    หนุ่มๆ โดดน้ำโชว์ป้าๆ

     

    สนุกกันใหญ่ ป้าได้แต่กรี๊ด ใจไม้กล้าพอ

    ถ่ายรูปหนุ่มๆ โดน้ำ แอ่งตรงที่โดดน้ำค่อนข้างลึก เลยโดดได้ค่ะ

    นักท่องเที่ยวจากพังงามาเที่ยวคีรีวง

    ชุดว่ายน้ำแบบไทยๆ น่าเอ็นดูเชียว

    บริการเสริม มีกระป๋องทดสอบความซื่อสัตย์ให้ลองใจด้วย

    อาหารปลา สิบบาทจ้า เป็นลูกค้าและแม่ค้าไปในตัว

    น้ำตกวังไม้ปัก


    ปลาเยอะมากจริงๆ

     

         กลับจากน้ำตกเราก็มาอาบน้ำอาบท่า แล้วออกไปหาซื้อขนมตรงแถวสะพาน แล้วก็ถ่ายรูปบริเวณนั้น ต้องถ่ายซ่ะหน่อย เดี๋ยวจะมาไม่ถึงคีรีวง คนเต็มเช่นเคย ต้องคอยหาจังหวะไปถ่าย สนุกดี

     

    สะพานคีรีวง

    ร้านค้า ได้อารมณ์เก่าๆ ดีมาก

    สะพานคลองปง

     

         เก็บภาพเสร็จแล้วเราก็แล้วกลับบ้านมารอกินข้าวเย็น โอ๊ยยยย อร่อยอีกแล้ว ผักลวกราดน้ำกะทิ น้ำพริก แกงเหลือง ปลาทอด อากาศที่ร้อนๆ เริ่มคลายตัวลง พอตะวันตก อากาศก็เย็นสบาย มีลมพัด ไม่ร้อนเลย คืนแรกที่เรานอน ไฟดับอยู่ 2 รอบ แต่ละรอบก็นานเลยกว่าไฟจะมา สอบถามพี่วิว พี่วิวบอกว่า ใช้ไฟเกิน รีสอร์ทคนเต็ม เปิดแอร์กันหมด ไฟเลยไม่พอ ส่วนคืนที่ 2 ก็ดับเหมือนกัน แต่ดับครั้งเดียว แล้วก็ใช้เวลาไม่นานไฟก็มา คีรีวงโตเร็วมากจริงๆ

     

    อาหารเย็น

    หนุ่มคีรีวงชอบเลี้ยงนกกรงหัวจุก ตอนเย็นก็เอานกเข้าบ้าน นอนด้วยกันไปเลย 

    • โพสต์-4
    JumPoon •  พฤษภาคม 14 , 2559

    วันที่ 2 ตลาดนัดวันศุกร์ วัดคีรีวง

         เราตื่นเช้ามาก็เจอพ่อแล้ว พ่อทำโน่นนี่ ก๊อกๆ แก๊กๆ งานพ่อตอนนี้ก็คือทำไม้ย่างไก่ แต่เราเห็นพ่อเลี้ยงไก่ ทำสวนตรงหลังบ้าน มีเลี้ยงนกให้หลานด้วย  ขยันจริงๆ

     

    กิจกรรมยามเช้าของหนุ่มคีรีวง

     

     

    พ่อยศทำงานทั้งวัน พ่อบอกว่าแก่แล้ว กลัวไม่มีประโยชน์ ต้องหาอะไรทำ

     

     

    ยาเส้น ของคู่กายพ่อ เราลองมวนยาแล้ว ไม่สำเร็จ เฮ้อ!

     

     

    พ่อเอาไม้ย่างไก่มาตากแดด

     

         ส่วนเราล้างหน้าแปรงฟัน รอคุณเพื่อนเตรียมตัวไปตลาดนัด เพราะวันนี้วันศุกร์ ที่คีรีวงจะมีตลาดนัดวันจันทร์กับวันศุกร์ ของกินที่ตลาดนัดถูกมาก ไก่ทอดชิ้นละ 10 บาท หมี่ผัดห่อละ 10 บาท เรากับเพื่อนซื้อของไปใส่บาตรที่วัด กับซื้อของกินเองกันที่ตลาด กินจนพุงจะแตก รวมแล้วหมดไปไม่ถึง 200 บาท ตอนใกล้จะกลับบ้านเราแวะศูนย์กลางจำหน่ายผลิตภัณฑ์บ้านคีรีวง ซึ่งอยู่บริเวณหน้าวัดคีรีวง  เราได้ยาดมมา 1 อัน หอมดี

    ตลาดนัดวันศุกร์

    อาหารเช้า

    บรรยากาศตลาดคีรีวง

    ตลาดคีรีวง

    น้ำในคลอง ใสมาก

    คลองท่าหา กับเท้าอ้วนๆ

     

         กลับจากตลาดก็อาบน้ำอาบท่า พักผ่อน รอกินข้าวกลางวัน อร่อยเหมือนเดิม เราไปไหว้พระที่วัดคีรีวง แล้วก็หาเครื่องดื่มเย็นๆ กินที่ร้านชาพะยอม เราเดินไปเข้าห้องน้ำที่ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านคีรีวง อยู่ตรงข้ามกับร้านนายทั่ง (อีกร้าน)  เจอแม่วิน กับพี่เอี้ยง (แม่กับพี่สาวพี่วิว) เลยแซวๆ ว่า เอาเงินมาฝากกี่ล้าน แม่กำแบงค์พันไว้ แบมือให้เราดู แล้วก็ยิ้มอายๆ เคยอ่านเจอมาว่า กลุ่มออมทรัพย์ของคีรีวงแข็งแรงมากๆ เราถามปันผลรายปีจากแม่ แม่บอกว่าร้อยละ 7-8 จัดว่าค่อนข้างสูงเลย แต่คนข้างนอกเป็นสมาชิกไม่ได้ เราเลยบอกแม่ว่า ต้องหาแฟนเป็นคนคีรีวงแล้วล่ะ จะได้เอาเงินมาฝากที่นี่ได้ ดอกเบี้ยดี๊ดี


    อาหารกลางวัน

    ต้นครอบจักรวาล

     

    ใบครอบจักรวาล ขมมาก ขมยันลำไส้ใหญ่

    ชุดกันแดด

    วัดคีรีวง

    วัดคีรีวง

     

    ชาอร่อย ราคาถูก แก้วละ 25 บาท

     

    กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ สมาชิกหนาแน่น

     

    แม่วิน แฟนพ่อยศ สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ เอาเงินมาฝาก

     

    ร้านนายทั่ง (อีกร้าน)

    • โพสต์-5
    JumPoon •  พฤษภาคม 14 , 2559

    เล่นน้ำตก ไปสวนผลไม้ บนเขาหลวง

         ช่วงบ่ายพ่อกับน้องเฟิร์นเห็นเราเบื่อๆ เลยชวนไปขนำ (อ่านว่า ขะ-หนำ) ขนำ คือ กระท่อม หรือที่ปลูกอาศัยชั่วคราว ในไร่ ในสวน ในนา แต่ขนำของพ่อ เป็นขนำจริงจัง คือไม่ชั่วคราว อยู่ได้สบายเลย การไปขนำ เราไปเองไม่ได้ เพราะต้องใช้ทักษะการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก ทางเป็นทางขึ้นเขาแม้จะเป็นทางลาดปูนอย่างดี แต่ก็เป็นทางที่เล็กและแคบ ที่สำคัญชันมากๆ ถึงมากที่สุด พ่อบอกว่าเกาะดีดี รถที่เรานั่งไปกะพ่อ เป็นรถเก่าๆ แต่แรงดีมาก พ่อแว๊นมอไซค์ได้คล่องแคล่ว ชำนาญทางมาก  คือ เราไม่กล้าแว๊น

    ทางขึ้นเขา


    พ่อแว๊นได้สุดยอด

     

    ทางขึ้นไปสวนผลไม้

     

         เรานั่งไปกับพ่อ เราเกาะไหล่พ่อเป็นปลิงตัวอ้วนๆ อยู่ข้างหลังเลย ไปถึงขนำด้วยความหวาดเสียว แต่สนุก ไปถึงพ่อก็เม้าท์กับญาติที่อยู่ขนำ ส่วนเรากับเพื่อน และน้องเฟิร์น ที่เป็นคนขับพาเพื่อนเรามาขนำด้วยก็พาเดินขึ้นไปบนเขาต่อ ดูวิว ดูต้นไม้ รองเท้าแตะที่เราใส่ไปต้องถอด เพราะทางขึ้นที่ชัน ใส่รองเท้าไปลื่นพรืดแน่ๆ ถอดรองเท้าเดินเลย บนเขาอากาศเย็นสบาย แม้ช่วงที่เราไปจะเป็นช่วงบ่ายก็ตาม น้ำบนเขายังน้อย เพราะฝนยังไม่ตก แต่ยังมีแอ่งพอให้เล่น เราลงเล่นเลย มีจุดสไลด์เดอร์ด้วย เสร็จเรา มันมาก กรี๊ดลั่นป่าเลย เราอยู่ที่นี่พักใหญ่ๆ ก็ลงเขามา พ่อกับน้องเฟิร์น พาแวะสถานปฏิบัติธรรม เพื่อให้เราไหว้พระ

    ห้องครัวบนเขา

    พ่อยศ

    ขนำ

    ขนำ

    พ่อและญาติ

    น้องเฟิร์น เจ้าถิ่นนำเที่ยวเขา

    เดินขึ้นเขาทางชันมาก ต้องถอดรองเท้าแตะเดิน

    มันคือทุเรียน เมื่อไหร่จะโต

    ทางสุดชัน แต่มอเตอร์ไซค์ไปถึงนะคะ

    วิวบนเขา อากาศสดชื่นมากๆ 

    เล่นน้ำเย็นสบาย

    สไลเดอร์ธรรมชาติ กรี๊ดลั่นป่า


    สนุกมาก

    สนุกจริงๆ เล่นหลายรอบมาก

    ครั้งหน้าจะมานอนกินผลไม้บนเขานี้ให้ได้

     

     

    พ่อยศ เด็กแว๊น

     

    มอเตอร์ไซค์คู่ใจ เราลองขี่ไปตลาดแล้ว เครื่องแรงมาก

     

     

    แวะไหว้พระก่อนลงจากเขา

    สาธุเจ้าค่ะ แล้วจะกลับมาไหว้อีกครั้ง

     

         กลับถึงบ้าน อาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวไปงานบวชที่อยู่อีกอำเภอ เราตามพ่อ และญาติๆ ไปด้วย ไปหาของกินที่งานบวช 555 สนุกดี ได้เห็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ของจริง หมดทริปสำหรับวันนี้ พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวกลับ

     

     

    บ้านงาน

    วิธีการหุงข้าว

    บรรยากาศงานบวช

     

    ห้องครัวใหญ่

     

     

     

    • โพสต์-6
    JumPoon •  พฤษภาคม 14 , 2559

    ร่ำลาบ้านคีรีวง

         ช่วงเช้า เราออกมาตลาด มาหากาแฟกิน ซึ่งมีร้านน้อยมาก เมื่อเทียบกับเมื่อวาน เสร็จแล้วกลับบ้าน อาบน้ำเก็บของ ร่ำลาพ่อ แม่ เครือญาติพี่วิว เรากับเพื่อนแอบให้เงินพ่อไปทำบุญด้วย พ่องี้ยิ้มแก้มปริ ก่อนกลับพ่อบอกว่าคราวหน้าถ้าจะมาให้มาเดือนสิงหา กันยา เพราะช่วงนั้นผลไม้บนเขาออกลูก พ่อกับพี่เอี้ยง (พี่สาวพี่วิว) จะพาไปนอนขนำบนเขา เรามาแน่ ไม่พลาด มาคราวหน้าจะไม่ไปไหน จะสิงตัวกินทุเรียน กินมังคุด อยู่บนเขาแน่นอน

    พี่วิว

     

     ได้เวลากลับแล้ว พี่วิวกับลูกสะใภ้มาส่งเราที่ท่ารถสองแถวตรงสะพานบ้านคีรีวง เราขึ้นรถสองแถวไปลง อ.เมือง 

     



    กลับคันนี้


    บ๊ายบายคีรีวง

     

    แล้วเจอกันใหม่คราวหน้าจ้า บ้านคีรีวง

    เด็กท้ายรถ

    • โพสต์-7
    JumPoon •  พฤษภาคม 14 , 2559

    เมืองคอน

         ถึงเมืองคอนแล้ววันนี้เราตั้งใจไปไหว้พระธาตุ คุณเพื่อนเรามีญาติที่นี่ เป็นคุณน้า ซึ่งมาเป็นเขยเมืองคอน มารับที่ท่ารถ พาเราไปกินร้านสุดฮิต ร้านโกปี๊ มากินบักกุดเต๋ อร๊อย อร่อย แบบอิ่มจังตังส์อยู่ครบ

    รถมาจอดแถวนี้ 

    ระหว่างรอคุณน้า กินขนมเล่นๆ เม็ดมะม่วง หวานๆ มันๆ อร่อยดี ราคาแผ่นละ 10 บาท

     

    กินบักกุดเต๋ ร้านโกปี๊ 

     

         อิ่มท้องแล้ว คุณน้าก็พามาไหว้พระที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ มาถึงเมืองคอน ต้องมาไหว้เป็นสิริมงคลกับตัวเอง ทั้งไหว้พระธาตุ พระที่สำคัญต่างๆ ในวัด รวมถึง ท้าวจตุคาม และ ท้าวรามเทพ เทพผู้รักษาพระบรมธาตุด้วย จากนั้นคุณน้าและเพื่อนพาไปสวนที่อยู่นอกเมืองไปนิดหน่อย ไปพักผ่อนขนำน้อยๆ ของคุณน้า  ได้เวลาคุณน้าก็พาไปกินข้าวก่อนกลับ พามาร้านอย่างดี มีแกงเหลืองปลากะพง ปูนึ่ง ต้มยำกุ้ง ยำวุ้นเส้น คนเมืองคอนใจดี เลี้ยงอีกแล้ว อิ่มจังตังส์อยู่ครบอีกครั้ง กินเสร็จคุณน้าก็พามาส่งที่สนามบิน คนเมืองคอนใจดี๊ ใจดี

    วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

    ท้าวจตุคาม และ ท้าวรามเทพ

    พระแอด

    อิ่มอร่อย มีเจ้าภาพเลี้ยงด้วย

    คุณน้าใจดีเลี้ยงข้าวหลาน

     

    เช็คอิน กลับบ้าน

    คุณน้ามาส่งที่สนามบิน

    กลับกับนกลำนี้

     

         ถ้าถามว่าบ้านคีรีวงมีอะไร เราคงบอกว่า มีป่า มีน้ำ มีน้ำตก และที่เขาว่าอากาศดี เราก็ว่าดี แต่เราเชื่อว่าที่ไหนมีป่า มีน้ำ ที่นั่นก็อากาศดีแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้บ้านคีรีวงแตกต่างและทำให้เราประทับใจอยากกลับไปเยือนอีกครั้ง คือ การต้อนรับด้วยความจริงใจของคนคีรีวง น้ำใจไมตรีที่ยื่นให้ เรานอนที่โฮมสเตย์พี่วิวเหมือนมานอนที่บ้านญาติ ทั้งตัวพี่วิวเองก็ดูแลเราดี ที่สำคัญบ้านพี่วิวที่รายล้อมไปด้วยเครือญาติ ซึ่งก็ดูแลเราดีด้วยเช่นกัน แล้วพบกันใหม่คราวหน้า บ้านคีรีวง คนน่ารัก