![]()
เมื่อฤดูหนาวมาเข้าเยือน บวกกับความต้องการอยากพักและใจอยากเที่ยวจะรออะไรมันต้องหาที่คูลๆ ที่ชิคๆ มีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะๆ มันจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้...เชียงใหม่นี่ล่ะ
#ไฮทไลท์การเดินทาง 4 วัน 3 คืน
Day 1 : พักที่ Touch Star Resort รีสอร์ทใกล้ดอยอินทนนท์
- วัดพระธาตุดอยคำ
- ผาช่อ
- วัดพระธาตุศรีจอมทอง
- ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
- ทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์
- นาขั้นบันไดขุนแปะ
Day 2 : พักที่ Camp Inthanon แคมป์ดอยอินทนนท์
- น้ำตกแม่ยะ
-Smallfarm
-น้ำตกวชิราธาร
-น้ำตกสิริธาร
-นาขันบันไดแม่กลางหลวง
-สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
-จดชมวิวดอยผาตั้ง(ม่อนน้องแกะ)
Day 3 : พักที่ Lanna Dusita Riverside Boutique Resort.
-พระมหาธาตุนภเมธนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิศิริ
-จุดสูงสุดดอยอินทนน์
-เส้นทางธรรมชาติอ่างกา
-Onenimman
Day 4
-เดินทางกลับ(รถทัวร์ที่สถานีขนส่งอาเขต)
![]()
มาที่การเดินทางของเรากันเลย
การเดินทางของผมเริ่มขึ้นช่วงประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ผมเดินทางโดยรถไฟกรุงเทพ-เชียงใหม่ขบวน 109 ผมนั่งชั้น2 พัดลม ราคาจากบ้านผม 290 บาท ขบวนนี้ออกจากกรุงเทพตามเวลาประมาณ 13.45 น.ถึงเชียงใหม่ 04.05 น. ขบวนนี้มีทั้งตู้ปรับอากาศและพัดลม
![]()
พอถึงเชียงใหม่ผมอาบน้ำที่สถานีรถไฟ แล้วก็นั่งรถแดง(ค่ารถไม่ควรเกินคนล่ะ30บาท)ไปเช่ารถที่ร้าน Bikky สถานีขนส่งอาเขตผมเช่ายี้ห้อ Yamaha Grand Filano วันล่ะ 300 บาท เช้า 3 วันรวด ไม่เสียค่ามัดจำแต่เค้าจะยึดบัตรประชนเราไว้ พอเอารถมาคืนก็จะได้บัตรคืน น้ำมันคืนเท่าครั้งแรก เช่ารถเสร็จลุยเลยจริงๆไม่รู้ทางหรอกใช้วิธีเปิดGps เอาเอ้าลุยยยยย (ถ้าใครจะไปอินทนนท์เช่าแนะนำเป็นฮอนด้าคลิ๊กหรือฟีโน่ดีกว่าที่ผมเช่าขึ้นเขาอืดมาก)
![]()
ที่แรกที่แวะ
วัดพระธาตุดอยคำ มาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ต้องแวะวัดนี้ ทริปนี้ก็แวะมาขอพรก่อนเที่ยว อย่างที่รู้กันดี หลวงพ่อทันใจขึ้นชื่อเรื่องการขอพร บนบานด้วยดอกมะลิ เมื่อสมหวังคนก็จะมาแก้บน คนจะเยอะตลอดวัดนี้ (การขอพรให้จุดธุป 3 ดอก แล้วอธิษฐานขอพรเรื่องที่ต้องการ บอกท่านว่าจะมาถวายดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป)
![]()
ผาช่อ
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จากที่อ่านมา เค้าว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นแม่น้ำปิงมาก่อน เกิดการแปรสัณฐาน และเกิดจากการกัดเซาะของลมฝน จึงทำให้เกิดผาหินลักษณะสวยงามแปลกตาแบบนี้
![]()
การเดินทางเข้าไปยังผาช่อ มีจุดจอดรถ2แห่ง ด้านบนและด้านล่าง ถ้าอยากชมวิวด้านบนให้มาจอดรถที่จุดจอดรถ 1 แต่ถ้าอยากเดินใกล้หน่อยให้ไปจอดที่จุดจอดรถ 3
![]()
สวยงามอลังการ
![]()
ผมว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยนะ สวยงามแปลกตา
![]()
ตรงนี้ก็สวย มีชื่อเรียกด้วยนะแต่จำชื่อไม่ได้ 555
![]()
จุดชมวิวผาช่อ
แดดเปรี้ยงๆยังสวย ถ้าเป็นช่วงเช้าน่าจะสวย
![]()
จากนั้นยิงยาวมาจอมทองเลยครับ มาแวะที่ไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง
![]()
สวยมาก
![]()
![]()
ด้านในสวยงดงามมาก เป็นสีทองเหลืองอร่าม
![]()
ที่พักของเราคืนนี้ Touch Star Resort บ้านทรงAเฟรมหลังนี้เป็นไฮท์ของที่นี่
![]()
ส่วนห้องที่ผมพัก หลังนี้เลย ชื่อ"บ้านเคียงเดือน" เป็นทรงAเฟรมเล็กๆน่ารักๆ
![]()
มาดูในห้องกันบ้าง ผนังห้องจะวาดลวดทายทุกห้องอย่างในห้องผมจะเป็นภาพปลาคาร์ฟ ในห้องก็จะมีทีวี ตู้เย็น มีแอร์ อุปกรณ์อาบน้ำครบ
![]()
บ่อแช่น้ำแร่ธรรมชาติใต้ดิน เราสามารถมานั่งแช่นอนแช่ได้สบายเลย เค้าบอกว่าน้ำแร่ที่นี่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและประสาทสัมผัสต่างๆได้
พักที่นี่จะได้อาบน้ำแร่ด้วย เพราะทุกห้องจะมีน้ำแร่ธรรมชาติที่กลั่นกรองแล้วส่งถึงห้องน้ำทุกห้องในรีสอร์ท
![]()
เก็บของเข้าที่พักเสร็จ
ผมไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ เพื่อที่จะไปดูดอกไฮเดรนเยียร์และนาขั้นบันได ระหว่างทางจะเจอวิวภูเขาสวยๆตลอดทาง ชอบมากทางค่อนข้างลำบากนิดนึง
การเดินทาง : จากแยกดอยอินทนนท์ ขับตรงไปทางวัดพระธาตุศรีจอมทองตรงไปประมาณ 30 km. แล้วไปเลี้ยวขวาตรงปากทางเข้า มีปั้มน้ำมัน ขับตรงไปทางเดียวกับสำนักสงฆ์ถ้ำตอง ตรงไปอีกประมาณ 22 km. ถ้างงเปิดgpsไปได้เลยครับไม่หลงแน่นอน ทางช่วงแรกเป็นลาดยางขับสบายๆ แต่ช่วงๆหลังๆเป็นทางลูกรังสลับกับคอนกรีต และอยู่ในช่วงระหว่างทำทาง ทางชันเป็นบางช่วง รถมอเตอร์ไซด์ไปได้สบายๆ รถยนต์กับรถเก๋งก็ไปได้ครับ แต่รถที่โหลดต่ำๆไม่แนะนำครับ
![]()
ต้องไปจอดรถไว้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ จากนั้นต่อรถกะบะชาวบ้านไปยังทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์ อีกประมาณ 7 km. ไม่สามารถขับรถไปเองได้เพราะทางโหดมากเป็นหลุมและทางแคป เสียค่าใช้จ่าย 500 บาทต่อคัน ไปได้ครั้งล่ะ 8 คน ตกคนล่ะไม่เกิน 70 บาทเอง ถ้าไปน้อยเราจะรอให้ครบ 8 คนก็ได้เพื่อหารกันหรือถ้าไม่รอก็เหมาไปได้เลย ผมว่าจ่ายไปเถอะถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่นั่นด้วย
![]()
ก่อนเข้าชม เราจะเสียค่าเข้าชมสวนอีกคนล่ะ 30 บาท
![]()
สวยมาก มองไปเป็นสีฟ้าขาวทั่วทั้งแปลง
![]()
ดอกใหญ่สวยมาก เท่าที่เห็นจะเป็นดอกสีฟ้ากับสีขาวเป็นส่วนใหญ่
![]()
เห็นเค้าบอกว่าประมาณ 5 ไร่ มองไปก็แน่นอยู่ ถ่ายรูปสวยเลย
![]()
![]()
ผมว่าโอเคเลย ไม่ต้องไปไกลถึงดาลัด เวียดนามแล้ว เชียงใหม่เราก็มีทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์สวยๆให้เที่ยวชม มองไปโคตรคูล ถ่ายรูปไปอวดเพื่อนได้ฟิวเหมือนอยู่ต่างประเทศ
![]()
สวยเลย ถ้ามีนางแบบไปแจ๋วเลย หรือใครจะพาแฟนไปโคตรเหมาะ
เราสามารถเดินถ่ายรูปให้จุใจเลย เค้าให้เวลากลุ่มล่ะประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ มีทางให้เดินพยายามเดินตามทางที่เค้าให้เดินนะ ไม่งั้นผมว่าคนไปทีหลังจะเละ ช่วยกันๆเราจะได้มีสถานที่สวยๆไว้ให้เราชมนานๆ
![]()
ใกล้ๆยังมีจุดชมวิวภูเขา มีนาขั้นบันได แปลงผักชาวบ้านสวยๆด้วย
![]()
ขากลับพี่คนขับมาแวะนาขั้นบันได้ สวยมาก ช่วงที่ผมไปข้าวกำลังเหลืองเลย ชอบมุมนี้สุด มองไปเป็นขั้นๆโค้งสวยเลย
![]()
จริงๆไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ ประเทศไทยก็มีนาขั้นบรรไดสวยๆหลายที่เลย
![]()
มุมนี้ก็สวย ขนาดแดดช่วงบ่ายๆ ถ้ามาช่วงเย็นแสงคงสวยกว่านี้ จากนั้นผมก็กลับที่พักพรุ่งนี้ลุยต่อ
![]()
เช้าแล้ว ออกมาเดินเล่นสูดอากาศยามเช้า ท้องฟ้าตอนเช้าสวยมาก
ผมเช็คเอ้าท์แต่เช้า ได้เวลาไปลุยกันต่อ
![]()
ผมมาที่นี่ครับ น้ำตกแม่ยะ
![]()
จากจุดจอดรถต้องเดินเข้าไปประมาณ 600 เมตร
บริเวณจุดจอดรถมีอาหารขายสามารถซื้อไปนั่งทานบริเวณน้ำตกได้
![]()
สวยงามสมชื่อ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามอลังการจริงๆ แอบเสียดายตอนไปฝนตกน้ำเลยขุ่น
![]()
แต่บรรยากาศเย็นๆนะ คูลๆเลย
![]()
แล้วผมก็มาแวะที่นี่ small farm โดยเสียค่าเข้าชมคนล่ะ 50 บาท เด็ก 30 บาท โดยบัตรสามารถแลกตะกร้าผักเลี้ยงสัตว์ได้ ด้านในมีร้านอาหาร มีที่พัก มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์
![]()
มีรถม้า นั่งได้ 4 คน ราคา 150 บาทต่อเที่ยว
แล้วก็มีม้าแคระด้วย สามารถขี่ได้รอบล่ะ 20 บาท ราคาม้าใหญ่ก็เท่ากัน
![]()
มีแกะด้วย พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหละกรูเข้ามาหาทันที ยังไม่ทันได้ป้อนเจอแย่งหมดตะกร้า 555
![]()
ลูกหมูน่ารักมาก ตอนเดินเข้าไปตอนแรกเห็นพี่เค้าใล่จับ วิ่งกันหัวซุกหัวซุนเลยทีเดียว เห็นตัวเล็กวิ่งอย่างเร็ว 5555+ นึกแล้วยังขำ แต่มันน่ารักมากยิ่งตอนดูดนม
![]()
จริงๆที่นี่มีที่พักด้วย มุมถ่ายรูปก็เยอะเลย เหมาะกับเด็กๆแต่โตๆแบบเราก็ได้อยู่นะ 555
ลองแวะไปกันดูครับ ค่าเข้าไม่แพงเลย
![]()
น้ำตกวชิราธาร สวยมาก
แค่เดินเข้าไปใกล้ๆละอองน้ำก็กระเด็นใส่หน้า เตรียมขาตั้งกล้องไปอย่างดี สรุปไม่ได้ตั้งหรอก ละออกน้ำเปียกชุ่มเลยหน้าเลนส์555 รีบถ่ายรูปนึงแล้วเช็ด จริงๆโทรศัพท์ถ่ายง่ายสุดนะผมว่า
![]()
![]()
สวยจริงๆนะ มองไปมองมาเหมือนน้ำตกขนาดใหญ่ในต่างประเทศเทศเลย เสียงน้ำกระทบพื้นบวกกับละอองที่กระเด็น บอกเลยเปียก 5555 ล้อเล่นอย่างฟินอ่ะ
![]()
ชอบมาก เป็นน้ำตกที่ชอบมากที่นึงตั้งแต่เคยไปน้ำตกมาเลย
![]()
ต่อมาแวะที่น้ำตกสิริธาร น้ำตกใหญ่เหมือนกันแต่ไม่สามารถลงไปถ่ายรูปข้างล่างได้ แต่จะมีจุดชมวิวให้ถ่ายรูป
![]()
สวยนะ ถ้าลงไปข้างล่างได้นะแจ่ม
![]()
นาขั้นบันไดแม่กลางหลวง เห็นคนจอดถ่ายเยอะเลยจอดมั่ง อิอิ
![]()
สวยดีนะ นาขั้นบันไดท่ามกลางหุบเขา
![]()
ใกล้ๆมีที่พักด้วยนะ
![]()
คืนที่2
ผมพักที่นี่เลยแคมอินทนนท์
ที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง เป็นเต็นท์กระโจม วิวภูเขา มองเห็นน้ำตกสิริภูมิจากหน้าเต็นท์ บรรยากาศคูลๆเหมาะกับการพักผ่อน ยามเช้าบรรยากาศสดชื่นมีหมอกบางๆ กลางคืนจะมองเห็นไฟจากโรงดอกไม้สวยมาก มีหมูกะทะส่งถึงหน้าเต็นท์ ในเต็นท์มีปลั๊กไฟให้ มีผ้าเช็ดตัว ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น ห้องที่ผมพักคืนล่ะ 1000 บาท เต็นท์มี 3 แบบ มีเต็นท์vip , supervip แล้วก็ thegang สำหรับกลุ่มเพื่อนๆและครอบครัว
![]()
![]()
เต็นท์ vip มีทั้งโซน A และ โซน B อยู่ใกล้ๆกัน วิวไม่ต่างกันมาก โซนAวิวดีกว่านิดหน่อย แต่โซนBเป็นส่วนตัวกว่า(ความรู้สึกส่วนตัวนะ) ภายในเต็นท์มีปลั๊กไฟ มีผ้าเช็ดตัว มีลานเล็กๆหน้าเต็นท์ ห้องน้ำแยกมีเครื่องทำน้ำอุ่น
![]()
![]()
บรรยากาศรอบๆที่พัก
![]()
![]()
เต็นท์ supver vip มีห้องน้ำในตัว มีทีวี มีลานหน้าเต็นท์ วิวดี เป็นส่วนตัว
![]()
เต็นท์ the gang สำหรับ 4 คน เหมาะกับกลุ่มเพื่อนๆและครอบครัว เพิ่มได้ 1 คน มีห้องน้ำในตัว
![]()
ภายในเต็นท์จะประมาณนี้
![]()
จากที่พักประมาณ 1 km. มีสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ด้านในมีพันธุ์ไม้นานาชนิด เยอะมาก
![]()
![]()
จุดถ่ายรูปมุมสวยๆเพียบเลย
![]()
ดอกไม้สวยๆทั้งนั้น กล้องสักตัวไปกับแฟนโคตรดี
![]()
มุมถ่ายรูปชิคๆ เท่ๆก็มีเยอะเลย
![]()
ดอกไม้สวยๆมีทุกสี เยอะมากเลย
![]()
อยู่ท่ามกลางหุบเขาเลย มีแอ่งน้ำเล็กๆมีหงษ์สีดำด้วยคู่นึง
![]()
สวนดอกโป๊ยเซียน สวยมาก มองไปเป็สีอทชมพูเลย
![]()
![]()
สวนกุหลาบก็มี จะแบ่งเป็นโซนๆเลย โซนไม้ดอกไม้ประดับ ดอกไม้อะไรไม่รู้เยอะแยะจำชื่อไม่ได้ 555+ มีแต่สวยๆ
![]()
ขนาดผมเป็นผู้ชายยังชอบเลย เสียดายไม่มีนางแบบไปด้วย
![]()
โซนป่าๆก็มีนะ 555
![]()
ดอกอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ 555 สวยดี
![]()
จริงๆถ่ายรูปไว้เยอะมาก อยากโพสทุกรูปแต่เกรงกว่ารีวิวจะยาวไป 555
![]()
มาต่อกันที่จุดชมวิวดอยผาตั้งหรือที่เรียกกันว่า ม่อนน้องแกะ แต่เอ๊ะแกะหายไปไหน ตอนแรกก็สงสัยนี่ตูมาผิดที่เปล่าวะ
![]()
พอมองได้านในอ๋อ เค้าต้อนแกะเข้าที่พักเรียบร้อย โถ่ตั้งใจจะมาหาน้องแกะซะหน่อย อดทักทายเพื่อนๆเลย 5555(ผมไปช่วงประมาณ4-5โมงเย็นยังไงถ้าใครจะไปควรไปก่อนเวลานี้เด้อ เดี๋ยวอาจจะเจอแบบผมหรือว่าตอนไปฝนตกด้วยเค้าอาจจะตอนแกะเข้าที่พักเร็วก็ไม่รู้นะ)
![]()
วิวสวยอยู่นะ เสียดายเมฆบังไปหน่อย
![]()
กลับมาที่พักด้วยความหิวโหย ค่ำพอดี หมูกะทะจะเยียวยาทุกสิ่ง อากาศเย็นๆมันต้องหมูกะทะนี่แหละฟิน
แต่............เดี๋ยวก่อน โชคร้ายไฟดับครับพี่น้องครับ ผมเลยได้แต่นั่งกินหมูกะทะภายใต้เสียงและไฟโทรศัพท์ พอกินแหมไปมาพอดีมัน่าป่ะล่ะ 5555
![]()
![]()
บรรยากาศช่วงเช้ามืด อากาศเย็นๆฟินมาก ฝนก็ตก55
![]()
บรรยากาศยามเช้าโครตคูลเลยเอ้ย จะไม่คูลยังไงเล่าฝนตกแม่มทั้งคืนยันเช้าก็ไม่ยอดหยุด เออแต่สวยจริงๆ คือวันไปเซ็งมาก ฝนไม่ยอมหยุด 9 โมงก็แล้ว เลยฝากกระเป๋าที่พักลุยฝนแม่มเลย
![]()
แล้วผมก็ลุยฝน มาที่นี่เลย พระมหาธาตุนภเมธนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิศิริ เป็นพระมหาธาตุคู่พระบารมี ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินี
![]()
ฝนก็ตกเลยเก็บกล้องไว้ใต้เบาะรถใช้โทรศัพท์
![]()
ที่นี่สวยมาก มุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ ขนาดใช้โทรศัพท์ถ่ายยังสวย
![]()
มีสวนดอกไม้ มุมถ่ายรูปเยอะมาก มีจุดชมวิวด้วยนะ
![]()
เสียดายหมอกฟุ้งไปหน่อย ถ้าฟ้าเปิดสวยมากแน่ๆ
![]()
แล้วเราก็ฝ่าดงฝนจนสำเร็จ ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดดอยอินทนนท์จนได้ คนเรียงคิวถ่ายรูปกันเพียบเลย กว่าจะถ่ายรูปได้ยากมาก 5555
![]()
เดินเลยจากป้ายจุดสูงสุดแดนสยามมาก็จะเจอกับสถูปบรรจุอัฐิของเจ้าอินทวิชยานนท์ ผู้ครองนครเชียงใหม่สมัยก่อน
![]()
วันที่ผมไปอุณฆภูมิช่วงหกโมงเช้า 9 องศา แต่ตอนผมขึ้นไปประมาณ 10 โมงเช้า อุณหภูมิ 12 องศาแต่รู้สึกว่ายังไม่หนาวเท่าไรนะ
![]()
ใกล้ๆกันมีเส้นทางเดินธรรมชาติอ่างกา
อีกที่นึงที่ไม่ควรพลาดกิ่วแม่ปาน ตอนผมไปปิดเสียดายมาก แต่ตอนนี้เปิดแล้วนะครับ
เปิดวันที่ 1 พฤศจิกายนของทุกปี
![]()
มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ
![]()
เดินเข้าไปด้านในจะรู้สึกถึงความชุ่มชื้นและความเขียวชอุ่ม บรรยากาศคูลของแท้
![]()
มีเส้นทางให้เดินสองข้างทางก็จะมีพันธุ์ไม้ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพืชที่ชอบความชื้น
![]()
สายเขียวไม่ควรพลาด เอ้ยคนที่ชอบธรรมชาติเขียวๆไม่ควรพลาดนะบอกเลย
![]()
ตอนไปฝนตกตลอด กล้องนี่ชุ่มฉ่ำ ต้องรีบเดินเลยไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมาก
![]()
ชอบอยู่ต้นนึง เนี่ยในรูป มันขึ้นอยู่กับพื้น มองไปอย่างสวย
![]()
พวกมอสอะไรพวกนี้จะเกาะตามต้นไม้ตามพื้นเยอะมาก
จากอินทนนท์ผมตั้งใจจะไปสวนดอกเก็กฮวยที่บ้านอมลอง อ.สะเมิงที่ระยะไปอย่างไกล555 แต่อยากไป
ไปจนเกือบจะถึงแล้วแต่ฝนตกหนักมากสู้ฝนไม่ไหวเลยย้อนกลับไปตัวเมือง สรุปขับรถไปเสียเที่ยว
![]()
ที่พักคืนที่ 3 ผมพักที่ Lanna Dusita Riverside Boutique Resort รีสอร์ทติดริมแม่น้ำปิง
![]()
มีบ่อน้ำอยู่หน้าที่พัก มีเรือให้พายเล่น
![]()
ที่พักที่นี่จะเป็นสไตล์ล้านนา เข้ากับบรรยากาศทางเหนือๆ บรรยากาศโดยรวมโอเคเลย
![]()
![]()
ห้องนอนกว้างมีอ่างอาบน้ำ มีระเบียงชมวิว มีชุดเหนือให้ยืมใส่ มีจักรยานให้ยืมขี่ด้วยนะ
![]()
![]()
มีสระว่ายน้ำติมริมแม่น้ำ
![]()
แม่น้ำปิง หลังรีสอร์ท บริเวรรับประทานอาหารตอนเช้าติดริมน้ำเลย
![]()
ช่วงหัวค่ำผมวาร์ปมาที่นี่ one nimman ตั้งอยู่แถวถนนนิมมานเหมินท์ กลางเมืองเชียงใหม่เลย ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ไม่ควรพลาด
![]()
สไตล์การตกแต่งเหมือนอยู่ต่างประเทศ มุมถ่ายรูปเท่ๆ เก๋ๆ ชิคๆเพียบ จะมีช่วงเวลาฉายหนังสั้นเป็นการ์ตูน ฉายตรงหอนาฬิกา
![]()
ฟิลเหมือนอยู่ต่างประเทศ
![]()
![]()
ด้านในมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และอีกมากมายรวมอยู่ที่นี่ จากวันนิมมานผมแวะไปเดินกาดหน้าม.แล้วก็กลับที่พักนอน
![]()
Day 4 วัยสุดท้ายผมเช็คเอ้าท์แต่เช้า เอารถมาคืนที่ร้านBikky สถานีขนส่งอาเขต จากนั้นก็นั่งรถทัวร์กลับ รอบประมาณ 9 โมงเช้า รถทัวร์มีหลายเจ้ามีรถออกเกือบตลอด แต่ถ้าจะกลับรถไฟ จะมี 6.30 น. 8.50 น.5.30 น. 17.00 น. 18.00น.ประมาณนี้
ทริปนี้อุปสรรคหลักๆเลยคือฝน หลายที่ที่ตั้งใจจะไปพลาดไปเยอะเลย
![]()
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ผมมองว่าเป็นจังหวัดที่ยังไงก็น่าเที่ยวยังน่าค้นหาเสมอ เที่ยวยังไงก็ไม่ครบสักที ที่ผมไปก็เป็นเพียงส่วนนึงของเชียงใหม่ ยังไงหนาวนี้ใครกำลังวางแพลนไปเชียงใหม่ก็ลองดูรีวิวนี้ไว้เป็นแนวทางได้นะครับ เชียงใหม่ 4 วัน 3 คืนนั่งรถไฟ เช่ามอเตอร์ไซด์เที่ยว...เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ
ใครที่ชื่นชอบการเดินทางของเราเข้าไปติดตามพูดคุยกันได้น๊า
https://www.facebook.com/Yhaktiewkortiew/^^