Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
CRF250RALLY พาเที่ยวเมืองเพชร กางเต็นแก่งกระจาน ชมทะเลหมอกงดงามพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน เพชรบุรี จ.เพชรบุรี
    • Posts-1
    Boy •  September 03 , 2018

    ห่างหายไปนานกับการขี่มอไซด์ไปเที่ยวไม่ใช่ว่าเบื่อแต่ปีนี้มีภารกิจหลายอย่างและหลายๆทริปที่ไปมีสมาชิกไปด้วยไม่ได้ขี่สองล้อเลยไปรถยนต์ซะเยอะ มาทริปนี้ ไม่รู้จะไปไหนเลยหาที่ใกล้ๆ เน้นประหยัดกางเต็นท์ชิวๆ คันเดียวไม่ได้ชวนใครมาสองคนพอ เลยได้ทริปสั้นๆ 2 วัน แต่เต็มอิ่มหายอยากครับ

    แผนคร่าวๆ ทริปนี้เดินทางวันที่ 11-13/5/2561

    เช้าวันเสาร์แวะที่แรกเขาวัง อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี -ก๋วยเตี๋ยวเพ็ญพริกเผ็ด-ลอดช่องน้ำตาลข้น โพธิ์การ้อง-สถานีรถไฟสายเพชรบุรี -ถ้ำเขาหลวง-กางเต็นท์นอนที่ริมเขื่อนแก่งกระจาน

    กางดึกตื่นมาถ่ายช้างแต่ตี 3 ลากยาวจนตี5ขี่รถมืดๆไปจอดที่ด่านขอติดรถนักท่องเที่ยวไปดูทะเลหมอก

    ลงมาแวะดูผีเสื้อและข้างแว่น อุโมงค์ต้นไม้ และถ่ายรูปสะพานแขวนและสันเขื่อนแก่งกระจาน


    ออเดิฟรูปแรกก่อนช้างที่แก่งกระจานดุมาก


    รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc และ Gopro hero 4 silver

    แวะดูคลิปก่อนได้จ้า  คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



    เริ่มออกเดินทาง ทริปนี้คันเดียวชิวๆ เส้นทางคุ้นเคยไปบ่อยมาก แต่ไม่ค่อยได้แวะเที่ยวเพชรบุรีเลย ไปแต่ใต้เลยไปทางหัวหินสะหมด หรือหยุดแค่แม่กลองบ้านสาวฟางเอง ทริปนี้เลยขอแวะที่แรกเขาวัง หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี ออกจากบ้านเกือบ 7 โมง บิดมา 110-115 เรื่อยๆ 9โมงก็มาถึง

    หลังจากกจอดรถที่ลานจอดชั้นลอยขึ้นเนินมา ก็พบกับน้องลิงพอสมควร แต่แลดูน่ารักไม่มีพิษภัย

    นั้งนอนดูน่ารัก

    เลยจอดไว้คงไม่มีอะไรเดินมาถึงทางขึ้นข้างบนก็เจออีกเยอะแต่ดูแล้วน่ารักจนคิดว่าลิงที่นี้ทำไมนิสัยดีจัง

    ทางเข้าสวยงาม

    ทางนี้จะเป็นด้านที่ไม่มีรถรางนะครับถ้าขี้เกียจเดินก็ขึ้นรถรางคนละ 40 บาท อีกด้านนึง



    หลังจากจ่ายค่าเข้าได้แล้ว ก็มีคนขี่มอไซด์ตรงดิ่งดูรีบเร่งมาทางเรา แล้วก็หยุดที่เราพูดว่าพี่เจ้าของรถมอไซด์สีดำใช่ไหม รีบมากะผมเลยลิงมันกำลังรื้ออยู่เลย

    อ้าวเห้ยไม่เหมือนคุยกันไว้นี่หว่า โอ้โห เต็มรถ

    นี้พึ่งจะละสายตาจากรถไปไม่ถึง 5 นาที นี้มันหลอกให้เราตายใจนี่หว่า หลังจากไล่ไปหมดแล้วสรุปว่า โดนสังเวยถุงมือไปข้างนึง และเล็กที่แหลมคมจกเสื้อกันฝนเป็นรูและแผ่นเสื่อที่นั้ง นี้ถ้าไม่ได้ลงมาดูเละแน่นอน

    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจลิง

    จากนั้นก็ย้ายรถลงไปจอดข้างล่างมีอีกลานจอดนึง ลิงน้อยกว่านี้แต่มีร้านค้าฝากป้าดูให้ได้ ค่อยมาอุดหนุนน้ำเย็นๆป้าแก

    เดินขึ้นมาระยะทาง 500 เมตรได้ ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน เรียกเหงื่อยามเช้าได้ดีเลย


    จากป้ายจะเห็นว่ามีจุดให้เดินได้เยอะพอควรไกลพอประมาณ และไม่ได้เตรียมมาด้วยว่ามีให้เดินเยอะเราเลยเลือกแค่ฝั่งขวานี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี หอชัชวาลย์เวียงชัย


    ซูมจากฝั่งพระที่นั้ง ตรงนั้นจะเป็นวัดพระแก้วน้อย เดินไกลพอควร


    ตรงนี้เป็นหอเดี่ยวเราจะเดินไปตอนนี้เดินชม พิพิธภัณฑสถานก่อนแต่ว่าด้านในเขาห้ามถ่ายรูปเลยไม่มีภาพมาให้ชม ด้านในก็จะเป็น สถานที่พระที่นั่งสมัยเก่าแก่ที่คงสภาพไว้ ให้เดินชมได้ประมาณ 15 นาทีก็ครบ




    เดินเข้ามาต่อที่หอชัชวาลย์เวียงชัย


    วิวสวยงามมองเห็นได้รอบๆ 360 องศา





    ถ่ายรูปพอใจแล้วก็ไปต่อครับ



    ดอกไม้ระหว่างทาง

    บรรยากาศรอบๆ



    มาดูน้องลิงต่อ ตอนไม่ก้าวร้าวก็ช่างดูน่ารัก



    หลับสบายอารมณ์เลยนะ

    ลงถึงที่จอดรถรอบนี้ปลอดภัยดีมีป้าค่อยดูแลให้ อิอิ

     

    มาต่อกันที่มื้อเช้าก๋วยเตี๋ยวเพ็ญพริกเผ็ด อยู่ไม่ไกลจากเขาวัง ขี่รถไป 5 นาทีถึง

    กรุณางดเล่นโทรศัพท์ในขณะรับประทานอาหาร ตัวแดงใหญ่บ็ก ชัดเจน เพราะที่นี้คนค่อนข้างเยอะเที่ยงน่าจะแน่น แต่ตอนไปโต๊ะว่างพอดี

    พอก๋วยเตี๋ยวมาก็รีบถ่ายรีบจ้วงกันทันที กลัวเขาจะหาว่ามัวแต่ถ่ายรูปด้วยหรือป่าวนะ 555 ซัดจบใน 10 นาที อร่อยสมกับที่คนแน่นร้านครับมาลองกันได้

    ของคาวจบแล้วตบด้วยของหวาน ตามๆเขามาเห็นเขาว่าอร่อย ลอดช่องน้ำตาลข้น โพธิ์การ้อง ห่างจากเพ็ญพริกเผ็ดไม่ถึง 2 โล

    จัดไปคนละแก้วหวานข้นสดชื่น หน้าระรื่นกันเลยทีเดียว

    อร่อยๆเลย

    จากนั้นไปต่อครับ แดดกำลังร้อนมากประมาณ 11 โมง เราจะไปต่อที่ถ้ำเขาหลวง


    ระหว่างทางเห็นสถานีรถไฟเพชรบุรี ขอจอดถ่ายรูปดูเสียหน่อยย

    ไอหนุ่มเมืองเพชรรรักเธอเหม็ดใจ พูดถึงเพชรบุรีแล้วนึกถึงเพลงนี้ประจำ

    แอคท่ากันตามสดวกรถไฟไม่มี

    มาต่ออีกไม่นานนักก็ถึงถ้ำเขาหลวง ที่นี้ห้ามรถทุกชนิดเข้าเสียค่ารถคนละ 15 บาทครับ ที่จอดเยอะก็ลิงเยอะเช่นเคย แต่แม่ค้าใจดี ให้จอดหน้าร้านแล้วเอาของเก็บในร้านเลย ไม่เสียค่าจอด แค่อุดหนุนน้ำเย็นๆชื่นใจแลกกันกก็พอ

    นั้งรถเข้ามานิดเดียวก็ถึงจุดเดินครับ เดินขึ้นบันได นิดหน่อยก็จะเจอทางลงไปถ้ำข้างล่างแล้ว

    ลงมาถึงก็พบกับความงามของแสงที่ลอดลงมาจากปล่องถ้ำ

    ไปดูรูปรอบๆเลย



    รับพลังงานเรียบร้อย




    หลังจากรับพลังเรียบร้อยก็ไปต่อ
    วิ่งมาต่ออีกชั่วโมงกว่า แวะซื้อวัตกุดิบระหว่างทางนิดหน่อยสำหรับมื้อเย็นวันนี้

    แล้วก็มาถึงจุดกางเต็นท์ริมเขื่อนแก่งกระจาน ครั้งแรกที่เคยเข้ามานอนเลย ตอนนี้ฟ้าใสแดดแรงมากๆระหว่างทางที่เข้ามา ลานกางเต็นท์โล่งดจ้ง มีแค่ 2-3 เต็นท์ตอนนี้

    เลือกทำเลเหมาะใกล้ๆห้องน้ำหน่อย

    ได้ที่แล้วก็จอดข้างจุดที่จะกางเลย ข้างๆจุดกางเต็นท์เป็นสะพานแขวน มี นทท เข้ามาเที่ยวเรื่อยๆ แต่คนนอนมีไม่เยอะเท่าไหร่ตอนนี้

    แต่หลังจากเริ่มกางเต็นท์ได้ไม่นาน อะไรมืดๆทางนั้นนะ มืดครึ้มมาเชียว
    รีบกางเต็นท์ให้เสร็จสัพ

    เมฆดำๆเคลื่อนผ่านแต่ยังไม่ตกขอแอคถ่ายรูปกันก่อน อิอิ


    คนน้อยดีจังโซนนี้ไม่มีใครกางบังหน้าเตนท์เราเลย

    ประหนึ่งเหมือนว่ามีแค่เราเตนท์เดียว ณ ที่นี้555

    นั้งชื่นชมบรรยากาศไปเรื่อยๆเวลาบ่าย 3 โมงกว่าตอนนี้ ลมเย็นๆจากเมฆฝน และแล้วฝนก็ตกลงมา รีบพับเสาร์หลับฝนในเตนท์ K2 ของเรายังทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีรั่วซึมกันฝนได้สบายกระหน่ำลงมาเกือบ ชั่วโมง นอนเล่นพักไปก่อน

    สีโมงกว่าฝนก็หยุด ไปอาบน้ำเตรียมกินมื้อเย็น ห้องน้ำที่นี้ดีมากๆเหมือนอยู่บ้านเลยสอาดสอ้านสุดๆชอบใจมากครับ แถมเจ้าหน้าที่เคร่งคัดเรื่องความสอาดมากให้เปลี่ยนรองแตะของห้องน้ำเข้าไปทุกคน มีคนนึงไม่ได้เปลี่ยนรองเท้า พอออกมา โดน จนท ว่าเลย ว่ารอบหน้าต้องเปลี่ยนด้วยนะครับ แจ่วมากครับ

    อาบน้ำเสร็จ ท้องก็เริ่มหิว กินมื้อเย็นเลยดีกว่า


    สุกี้ชาบูร้อนๆ หมู ไส้กรอก และมาม่า ต้มใส่หม้อเล็กๆพอกินอิ่มสำหรับสองคน อิ่มอร่อย หมูครึ่งโล ต้มกินกันไปเรื่อยๆ


    ระหว่างพักยกเก็บภาพหลังฝนตกฉ่ำๆ

    ตกกลางคืนมีสมาชิกเข้ามาเรื่อยๆทีละเต็นสองเต็น แต่รวมๆแล้วววันนี้โล่งมาก ไม่ถึง 50 เปอร์เซน์ของลานกางเตนท์ ส่วนค่ากางเตนท์จะเสียคนละ30บาท และค่าเข้าอีกคนละ 100 แต่บัตรค่าเข้าใช้ตอนเช้าที่ไปพะเนินทุ่งได้ด้วย อันนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อยครับ
    • Posts-2
    Boy •  September 03 , 2018

    ทริปนี้ดูวันเวลาทางช้างเผือกไว้แล้วตั้งใจว่าจะถ่ายตอนเที่ยวขึ้นตอนช้างยังไม่ตั้งมาก ตั้งปลุกไว้เที่ยงคืน ออกมาดู ฟ้ายังปิดเมฆเพียบ อ่ะ ตี 1 ออกมาดูใหม่ ยังเหมือนเดิม ขออีกรอบ ตี3 ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอาแล้ว

    และแล้วโชคก็เข้าข้างตี 3 ออกมาฟ้าใสไร้เมฆ ดาวชัดเจนสวยงามมาก เห็นช้างชัดเจนด้วยตาเปล่าไม่ต้องเล็งหาทิศให้วุ่นวาย

    จากนั้นก็บรรเลงมุมนั้นมุมนี้ถ่ายไปเรื่อย

    ชอบใบนี้มากแต่ที่จริงถ่ายแนวนอน แต่ว่ามันมีไฟที่ลานกางเต็นเยอะไปหน่อยโคมไฟตลอดทั้งลานถ่ายมาแล้วสว่างมาก เลยแคบตัดตรงนั้นออกไปช้างเลยไม่เต็ม

    ขยับไปขยับมาเตนท์คนอื่นเขาทั้งนั้น ขอบคุณเตนท์นักท่องเที่ยวคนอื่นทำให้ภาพดูมีเรื่องราวมากขึ้น หลังจากกดไปหลายใบอยู่เจอพี่เต็นท์ข้างๆ ออกมาถ่ายดาวเหมือนกัน เลยถ่ายยาวเลย

    จบใบสุดท้ายตี 4 กว่า พอเดี่ยวแบตจะหมดไม่พอตอนเช้า

    อีกฝั่งลานกางเตนท์เหมือนกัน พูดถึงเจ้าหน้าที่ที่นี้จัดการดีเด็ดขาดดีครับ เมื่อกลางคืนมีเสียงเพลงน่าจะจากลานฝั่งนู้นดังมา น่าจะใครสักคนแจ้งเจ้าหน้าที่ ได้ยินแกวอคุยกะ จนท ตรงเตนท์เราพอดีว่าให้ดูหน่อยเสียงเพลงดัง ไม่นานนัก เสียงก็เงียบ


    หลังจากถ่ายดาวถึงตี 4 กว่า ลืมบอกว่าถ้าจะไปดูทะเลหมอกพะเนินทุ่งนั้นมอเตอร์ไซด์หมดสิทธิ์ต้องไปจอดรถที่ด่านสามยอดไปได้แค่นั้นตรงจุดกางเตนท์บ้านกร่างก็เข้าไปไม่ได้ เมื่อวานก็ถาม พี่ จนท ว่าถ้ามีใครจะเหมารถให้ขอเราไปไปช่วยหารด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเหมารถเจ้าหน้าที่ครับ

    เช้านี้เลยตัดสินใจไปลุยหน้างานไปขอโบกรถหน้าด่านเอาเลยละกัน หลังจากถ่ายดาวเสร็จก็ดีดไม่นอนละล้างหน้าแรงฟัน ตี5 ขี่รถฝ่าความมืดและหนาวเหน็บมาถึงด่านสามยอด

    เจอเจ้าหน้าที่ขอให้พี่เขาช่วยโบกรถให้หน่อยพี่ๆเขาใจดี


    ตอนแรกที่กางเต็นท์ไม่ค่อยมีคนคิดในใจจะมีคนมาดูทะเลหมอกไหมนะ แต่ผิดคาดรถกระบะมาเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่เต็มคันหมดแล้วเป็นรถเหมาน่าจะมาจากทั่วรีสอทร์รอบๆแก่งกระจานเยอะมากๆครับ


    แล้วในที่สุดเราก็เจอรถที่ว่างเป็นรถของ นทท ทั่วไปด้วยครับ ขอบคุณครอบครัวพี่นาวาร่าสีดำด้วยครับให้เราสองคนติดรถขึ้นมา ที่จริงถ้ามาหลายคนควรเหมารถไปเลยนะครับ ราคาประมาณ 1500 บาท คุ้มมากครับราคานี้เพราะเข้าไปอีกลึกมากเป็นชั่วโมงทางไม่ดีด้วย



    ช่วงแรกหลังจากด่านสามยอดไปจนถึงแคมป์บ้านกร่างเป็นทางราดยางปกติครับแต่ก็สงสัยทำไมไม่ให้มอไซด์เข้ามาแต่ก็เอาตามกฏที่เขาวางไว้นั้นแหละครับ ที่บ้านกร่างคนก็เยอะเช่นกันเพียบกว่าที่ผมกางอีก

    หลังจากบ้านกร่างเข้าไปอีก15 โลตอนนี้เป็นทางแนววิบากแล้วรถเก๋งหมดสิทธิ์กระบะกับรถพวก SUV ขับ 4 ที่ไปได้

    เพราะมีข้ามน้ำ 3 รอบ และมีช่ววงที่ชันๆอยู่หลายเนิน


    แล้วก็เจอรถติด แถสยาวว ไปดูก็เจอเป็นรถ นทท ขึ้นไม่ไหว แต่น่าจะเป็นเพราะขับขึ้นทางชันไม่ชำนาญมากกว่า เพราะเจอรถกระบะเช่าขับสองไม่ยกสูงคนเต็มรถยังขึ้นไหว คันนั้นเลยจอดแอบข้างทางติดรถคันอื่นไป รถติดนิดหน่อย

    ขับมาจนถึงจุดชมวิวรถเยอะจุง สงสัยจะไม่มีทะเลหมอกฟ้าเปิดปกติแดดออก

    แต่ผิดคาด คนที่ว่าแน่นๆ ทะเลหมอกก็แน่นสวยไม่แพ้กัน

    ไปดูรูปหมอกยาวๆเลยดีกว่า

    หมอกอาจจะดูไกลหน่อยแต่ของจริงไม่ไกลครับมองชัดเจนอลังการ เราจะดึงเข้ามาให้ดูใกล้ๆ 70-300 ทำงาน





    หมอกแซมเขาชอบๆ





    ถูกใจจริงๆ

    ถ่ายอยู่นานครับแล้วก็ไปต่อจุดชมวิวที่สองเลยอีกเกือบครึ่งชั่วโมง


    ตอนนี้หมอกเริ่มหนาปิดคลุม


    มาจนถึงจุดที่สองมองไม่เห็นอะไรครับตอนนี้ปิดหมดเลย ที่พะเนินทุ่งนี้แล้วแต่วันครับสอบถามมาว่าบางวันจุดสองก็จะสวยกว่าแต่ถ้าบางวันแบบวันนี้จุดแรกก็จะสวยกว่าเพราะหมอกไม่ได้ปิดแบบจุดสองตอนนี้

    ขอถ่ายรูปรวมกับครอบครัวพี่นาวาร่าหน่อยครอบครัวพี่เขาน่ารักมาก และใจดีมากครับถามไถ่ตลอดทางเหมือนเป็นญาติกันเลยอีกหนึ่งมิตรภาพดีๆครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม


    วิ่งกลับกันครับจะได้เวลาลงแล้วที่นี้ให้ขึ้นลงเป็นเวลาเพราะทางแคปและชันสวนกันลำบากครับ เวลาขาขึ้นช่วงเช้าจะเป็นช่วง ตี 5.30ถึง 7.30 โมง และเวลาลง 9-10โมง


    อีกจุดระหว่างทางกลับไปจุดแรก


    ขาลงเจอ คนส่องสัตว์เยอะมากๆ เลนส์ยาวๆ มากันเพียบ และระหว่างทางตลอดทางจะได้ยินเสียงสัวต์ต่างๆเยอะมาก ทำให้ที่นี้เป็นสถานที่ส่องสัวต์ใกล้กรุงก็ว่าได้ ที่นี้อุดมสมบูรณ์มากครับ


    อันนี้รถคนที่มาถ่ายรูปส่องสัวนต์กันเยอะมาก

    • Posts-3
    Boy •  September 03 , 2018

    ลงมาจนเกือบถึงบ้านกร่างก็จะพบกับฝูงผีเสื้อมากมายเราไปดูรูปกันเลย



    สวยงาม




    ลงมาจนถึงแคมป์บ้านกร่างแถวที่จุดกางเต็นท์ผีเสื้อก็เยอะเช่นกัน ที่ห้องน้ำมีเต็มเลย

    ดูผีเสื้อกันต่อ


    ไม่เพียงเท้านั้นยังมีฝูงข้างแว่นอีกเพียบ เกาะอยู่บนต้นไม้


    บอกได้เลยว่าเข้ามาในโซนบ้านกร่างนี้มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจได้ตลอดครับ


    ขาออกเจออุโมงค์ต้นไม้ตลอดทางหลายอุโมงอยู่นะครับอันนี้นั้งข้างหลังถ่ายไม่ค่อยทัน

    เหมือนพี่นาวาร่ารู้ใจเราอีกแล้วเขาจอดถ่ายรูปพอดีเราเลยได้ถ่ายด้วย
    พ้นอุโมงค์ออกมาก็ถึงด่านสามยอดละครับ ขอบคุณพี่นาวาร่าแล้วก็แยกย้ายกันครับ

    ถ่ายรูปหน้าด่านหน่อย ขากลับก็แวะกินข้าวระหว่างทางมาที่กางตเ็นยังไม่ได้เก็บเต็นท์เลย

    มาถึงก็อาบน้ำแล้วเก็บเตนท์เตรียมกลับคืนนี้ต้องไปทำงานกะ 2 ทุ่มอีก

    ก่อนกลับถ่ายสะพานแขวนตรงจุดกางเตนท์นั้นแหละ

    วิวจากแถวสะพานแขวน


    บ๊ายบายอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

    ก่อนกลับแวะถ่ายที่สันเขื่อนอีกหน่อย


    สายแบกแดดแผดเผา

    พอใจแล้วก็ไปต่อ



    ระหว่างทางกลับเจอวิวสวยขออีกหน่อย


    กลับถึงบ้านดอนเมือง4โมงกว่าๆ ได้นอนพักสักงีบแล้วตื่นไปทำงานต่อ เป็นการชาร์ทแบตได้ดีทีเดียวเติมไฟให้การทำงานอีกครั้ง


    สรุปค่าใช้จ่าย

    น้ำมัน 540

    อาหารบิ้กซี280

    เขาคีรี 40

    เตี่ยวเพ็ญพริกเผ็ด 110

    ลอดช่อง 40

    ถ้ำเขาหลวงค่ารถ 30

    น้ำเขาหลวง 25

    น้ำแข็งน้ำดื่มของใน7-11 190

    ค่ากางเต็น 260

    ค่าข้าวเช้า 110 
    รวมๆแล้วตกคนละ 800 กว่าบาท คุ้มมากๆกับทริปแระหยัดๆแบบนี้

    แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าสำหรับวันนี้สวัสดีครับ