Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
นั่งรถไฟไปเลย 2015 (ภูกระดึง-เชียงคาน) เชียงคาน-ภูกระดึง จ.เลย
    • Posts-1
    Ahmad •  June 23 , 2016

    นั่งรถไฟไปเลย 2015 (ภูกระดึง-เชียงคาน)

    สวัสดีครับ หน้าหนาวปลายปีที่แล้ว ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดเลย เป็นทริปที่กระทันหันมาก นึกจะไปก็ไปเลย วางแผนหาข้อมูลภายในอาทิตย์เดียวก่อนเดินทาง ทริปนี้ไปกับเพื่อนอีกสามคน ตั้งแต่ 25-31 ธันวาคม 2558

    ** เขียนรีวิวเป็นครั้งแรกนะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี่ด้วย **

    _______________________________________________________________________________________

     

    วันที่ 1 (25 ธันวาคม 2558)

    รวมตัวกันที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ เวลา 17.00 น.กับเพื่อนอีก2 คน อีก1คนบ้านอยู่ที่กทม.ไปเจอกันที่นั่น นั่งรถไฟชั้น3 หาดใหญ่-กรุงเทพ  ขบวนรถไฟออกประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ตามระเบียบครับขึ้นรถปุ๊บ หลับปั๊บ ถือว่าเอาแรงสักหน่อย รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว 

    ระหว่างรอรถไฟก็ขอแชะภาพสักหน่อยครับ อิอิ

    _____________________________________________________________________________________

    วันที่สอง (26 ธันวาคม 2558)

    ตื่นกันแต่เช้าเลยครับ หลังจากหลับไปเต็มที่ นั่งชมวิวรถไฟสองข้างทาง ดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า สวยงามไปอีกแบบ เป็นภาพที่ไม่ค่อยชินตานัก

    ประมาณ 10 โมงเช้าก็มาถึงกรุงเทพ ลงก่อนตรงสถานีบางบำหรุ  เอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บที่บ้านเพื่อนที่ กทม.จากนั้นไปซื้อเสบียงเตรียมก่อนขึ้นภู โดยรวมเงินกันคนละ 500 บาท ซื้อของเสร็จเรียบร้อย ก็ไปพักผ่อนเก็บแรง รอขึ้นรถไฟตอนกลางคืนครับ

    เวลา 20.00 น. ขบวนรถไฟกรุงเทพ-หนองคาย ออกเดินทาง (พวกผมนั่งชั้น3 ราคาตั๋ว 227 บาท ซื้อตั๋วตอนอยู่หาดใหญ่ครับ ) 

    _____________________________________________________________________________________

    วันที่สาม (27 ธันวาคม 2558)

    รถไฟมาถึงสถานีขอนแก่นประมาณตี4 ออกมานอกสถานีรถไฟก็มีรถตุ๊กตุ๊กพาพวกเราไปสถานีขนส่งขอนแก่น นั่งรถประจำทางขอนแก่น-เมืองเลย คนละ 50 บาท บอกเขาว่าลงตรงร้านเจ๊กิม ผานกเค้า

    ถึงร้านเจ๊กิม มีอาหารเช้า ห้องน้ำห้องส้วมให้บริการครับ  จะมีรถสองแถวสีแดงเข้าไปอุทยานครับ คนละ30บาท 10คนแชร์กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

    และแล้วเราก็มาถึงกันแล้วครับบ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

    มาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกันก่อนเลยครับ จ่ายค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท พวกผมเอาเตนท์มาเองจ่ายแค่ค่าที่กางเตนท์คนละ 30 บาทต่อคืน หลังจากนั้นก็นำสัมภาระไปให้ลูกหาบครับ ค่าบริการกิโลละ 30 บาท ถือว่าไม่แพงครับ ถ้าคุณได้มาเห็นทางที่เขาแบก เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ก็เตรียมตัวขึ้นภูครับ เฮ้ !!

                                                                  

    ก่อนขึ้นภูก็ขอเซลฟี่กันสักหน่อย

    แผนที่ภูกระดึงครับ ==                                                                   ทางชันแค่นี้สบายๆครับ                                                          ระหว่างทางอีกสักรูปครับ ==

     

    และแล้วเราก็มาถึงซำแรกกันแล้วครับ "ซำแฮก" หอบแฮ่กๆกันเลยทีเดียว (ซำ หมายถึง ที่น้ำซับ // เป็นที่ราบเป็นจุดพัก ก่อนถึงยอดภูก็จะมีซำอื่นๆ อีกมากมาย มีร้านขาย น้ำ อาหาร ของที่ระลึก ไว้บริการนักท่องเที่ยว)

                                                                    ถ่ายป้ายสักหน่อย เอ้า ชีสสสส

                            อันนี้เป็นจุดชมวิว ตรงซำแฮก ครับ ขนาดตรงนี้ว่าสวยแล้ว บนยอดจะขนาดไหน ==

    ยอมรับว่าเหนื่อยนิดๆ แต่ก็สู้ไม่ถอยครับ เดินทางกันต่อ ผ่านซำบอน ซำกกกอก ซำกอซาง พร่านพรานแปร ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ และ หลังแป(ยอดภู) ใช้เวลาถึงยอดภู เกือบ 4 ชั่วโมง ถือว่าเร็วกว่าที่คิดครับ

     

                                                                    อีกนิดเดียวเท่านั้น ฮึบๆ

    เมื่อมาถึงหลังแป เห็นวิวแล้วรู้สึกหายเหนือยเลยครับ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้พิชิตยอดภูกระดึง มันสุดยอดมากเลยนาย ไม่บ่อยที่จะได้มาทำอะไรแบบนี้ว่าแล้วก็ถ่ายภาพกับป้ายแห่งเกียรติยศกันก่อนครับ

     

     

    จากหลังแป เดินกันต่อครับ เดินไปที่จุดกางเตนท์ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(วังกวาง) ระยะทาง 5 กิโล ระหว่างทางอากาศเย็นสบายครับ มีภูมิประเทศเป็นป่าสน สวยมากครับ 

    เดินไปสักพัก และแล้ว เราก็มาถึงที่ลานกางเตนท์ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ละคร้าบบ เย้ !!

    ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็จะมีให้เช่าเตนท์(ที่จองไว้แล้ว) ถุงนอน บริการชาร์จแบต แผนที่ ข้อมูลการท่องเที่ยวบนยอดภู ฯลฯ

                                                           นี่ไงๆ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว                                                              อีกสักรูปละกัน                                                   มาถึงก็จะเห็นเตนท์เรียงรายอยู่

     

    หลังจากนั้นก็รอรับสัมภาระจากลูกหาบครับ ได้สัมภาระแล้วก็ไปจับจองพื้นที่กางเตนท์ และเก็บสัมภาระกันจนถึงตอนเย็น สำหรับภูกระดึงวันแรก พวกผมไม่พลาดที่จะไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ครับ เดินไปจากวังกวางระยะทาง 2 กิโลกว่าๆ เมื่อไปถึงก็รู้สึกประทับใจมากๆครับ อากาศหนาวๆ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า วิวจากหน้าผา เป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆ คุ้มค่ากับความเหนื่อยครับ 

     

    หลังจากนั้นก็กลับที่พักครับผม ทำกับข้าวหุงหาอาหาร จากเสบียงที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นก็พักผ่อนเตรียมพร้อมเดินป่าในวันรุ่งขึ้นครับ 

    _____________________________________________________________________________________

    • Posts-2
    Ahmad •  June 23 , 2016

    วันที่สี่ ( 28 ธันวาคม 2558)

    เช้าวันใหม่ อากาศหนาวมากกกกก ติดลบเลยก็ว่าได้ หนาวสั่นไปหมดทั้งตัว รับประทานอาหารเช้า เตรียมสัมภาระไปเดินป่าครับ เส้นทางน้ำตก เริ่มจากน้ำตกวังกวาง-น้ำตกเพ็ญพบใหม่-น้ำตกโผนพบ-น้ำตกเพ็ญพบ-น้ำตกถ้ำใหญ่-สระอโนดาต-ผาเหยียบเมฆ-ผาแดง-ผาหล่มสัก ระยะทางไปกลับนี่ 20 กิโล ครับ

    น้ำตกวังกวาง ครับ เนื่องจากไปช่วงหน้าหนาว จึงไม่ค่อยมีน้ำ อิอิ

                                                  เมเปิ้ล ที่น้ำตกเพ็ญพบใหม่ครับ สวยมาก เยอะมาก

    ระหว่างทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่-น้ำตกถ้ำใหญ่ครับ ขอชักภาพสักหน่อย

    เมเปิ้ล สวยมากๆครับ เต็มน้ำตกเลย

                                            

              ที่น้ำตกถ้ำใหญ่ จะมีต้นเมเปิ้ลจำนวนมาก ในช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

     

                                  สระอโนดาต เป็นบึงน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สวยดีครับ ประทับใจ  

          อันนี้เป็นระหว่างทางจากสระอโนดาตไปผาเหยียบเมฆ ครับ ทุ่งหญ้าสะวันนา นึกว่าอยู่แอฟริกา ถ้ามีสิงโตมาเดินเล่นนี่ใช่เลย 5555

     

    จากสระอโนดาต เราเดินทางต่อไปยัง ผาเหยียบเมฆ และจะใช้เส้นทางเลียบหน้าผา ต่อไปยัง ผาแดง และชมไฮไลท์ของที่นี่คือพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ผาหล่มสัก ครับผมมม

                                   วิวจากผาเหยียบเมฆครับ รู้สึกเหมือนได้เหยียบเมฆจริงๆ                                                      ตามป้ายเลยครับผม                                    เดินมาถึงประมาณ 4 โมงเย็นครับ ตามธรรมเนียมครับ ถ่ายรูปกับป้ายก่อน ==                                              ถึงแล้ว ผาหล่มสัก นั่นไงๆ มุมมหาชน (คนเยอะมากก)                                        พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้วครับ สวยมากๆๆ                                 เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้า เก็บเอามาใส่ไว้ในใจ ซู้ดด เพลงมา ...                                               อื้อหือเป็นไงล่ะ ภาพที่ฝันไว้แบบนี้เลยย คุ้มค่า ;))

     

    พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว พวกเราก็นั่งถ่ายมิวสิกสักแปป และเก็บภาพความประทับใจด้วยกล้องมือถือและสายตาของเรา ซึ่งผมมามีความคมชัดที่สุดแล้ว ต้องมาเห็นด้วยตาจริงๆ

    หลังจากนั้นก็เดินทางกลับที่พักครับ ใช้เส้นทางเลียบหน้าตา เดินตามกันเป็นกลุ่ม เส้นทางมืดมาก ต้องใช้ไฟฉายส่องทาง มองไปบนฟ้าดาวสวยมากครับ สวยมากจริงๆ ****

    กลับถึงที่พัก ก็ตามระเบียบครับ ทำกับข้าวหุงหาอาหาร กินอิ่มก็พักผ่อน เก็บแรงไว้เดินทางวันพรุ่งนี้ต่อ

    _____________________________________________________________________________________

     

    • Posts-3
    Ahmad •  June 23 , 2016

                     วันที่ห้า (29 ธันวาคม 2558)

    วันนี้ต้องตื่นตอนเช้าตรู่ครับ เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ซึ่งเป็นไฮไลท์อีกแห่งของภูกระดึงเลยทีเดียว ตื่นมาอากาศหนาวมาก ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย มีเจ้าหน้าที่นำทางไป เราเดินตามกันไปเป็นกลุ่มๆ ระยะทาง 2 กิโล จากวังกวาง

     

                                                        และแล้ว วินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง

    ใครหลายคนต่างรอคอยการเริ่มต้นของวันใหม่ ในแต่ละวันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทำมันให้เต็มที่ แล้วคุณจะไม่เสียใจในภายหลัง 

     

    ไม่บ่อยนักที่จะตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น มีหมอกหนาแบบนี้ รู้สึกหลงรักที่นี่มาก

    สายๆหน่อยก็กลับไปยังที่พัก เก็บสัมภาระ เก็บเตนท์ เก็บภาพความประทับใจให้ได้มากที่สุด ก่อนลงจากภู 

    แล้วเราจะไม่มีวันลืมนาย ภูกระดึง

    _____________________________________________________________________________________

    • Posts-4
    Ahmad •  June 23 , 2016

    เชียงคาน

    ลงจากภูกระดึงประมาณบ่ายๆ พวกเราก็นั่งรถสองแถวข้างล่างภู มาลงที่ร้านเจ๊กิม หลังจากนั้นรอรถประจำทางไปลงเมืองเลยคนละ 50 บาท จากเมืองเลยนั่งรถสองแถวเลย-เชียงคานที่ขนส่งเลย คนละ 35 บาท ครับผมม 

    ไปเชียงคานกันโลดดดดด ~~

     

     

    ไปเลยครับ ลุง ฟิ้วววว

     

    เมื่อมาถึงเชียงคานจะมีรถสกายแล็ปมารับเราที่ขนส่ง

    เชียงคาน เป็นเมืองเล็กๆริมแม่น้ำโขงที่น่าอยู่มากๆ เพื่อนผมบอกว่ามันอยากมาสร้างบ้านที่นี่ มีความวินเทจ ตั้แต่ตึกรามบ้านช่อง วิถีชีวิตผู้คน แม้แต่ เซเว่น โลตัส หรือธนาคาร ที่นี่ก็มีความวินเทจ ด้วยเช่นกัน นับเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางหลายคนให้ความสนใจในแต่ละปี

     

     

    พวกเราตั้งใจจะมาหาที่พักที่นี่แบบ walk-in แต่ก็นั่นแหละฮะช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ที่พักถูกจองเต็มหมด ลุงที่ขับรถสกายแล็ปจึงพาพวกเราไปที่ ตชด.ซึ่งที่นั่นมีลานกางเตนท์ เมื่อไปถึงที่นั่นมีห้องพักว่าง 1 ห้องพอดี ห้องพักในราคาคืนละ 300 บาท โคตรคุ้มค่า

                                                      ลานกางเตนท์ ภายใน ตชด.ครับ คนเยอะมาก เขาดูแลดีมาก

     

    เมื่อเก็บของสัมภาระแล้ว ได้เวลาตะลุยราตรี ถนนคนเดินเชียงคาน ยามค่ำคืน

                                                        บรรยากาศหนาวๆ ที่เชียงคาน ในยามค่ำคืน

                                               ชักภาพสักหน่อยครับ มีความวินเทจ

                                                                   ดนตรีมีความคลาสสิค

                                                          ชอบชื่อร้านนี้มาก 5555

    __________________________________________________________________________________

    วันที่หก(30 ธันวาคม 2558)

     

                                                         ตื่นเช้ามาสูดอากาศริมแม่น้ำโขง

                                        เติมพลังกันหน่อย ที่ร้านบังต๋อง ข้าวมันไก่ ข้างๆ วัดพระธาตุ

     

    หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปเที่ยว ถ่ายรูป ซื้อของที่ระลึก ในเมืองเชียงคานกันต่อ ขอบอกว่าของที่ระลึกมีเยอะแยะมากมาย มีของแฮนเมดน่าสนใจเต็มไปหมดเลย

    ตอนเที่ยงก็ติดต่อรถสกายแล็ปไปเที่ยวแก่งคุดคู้ ภูทอก กันต่อ ครับผมมมม ยาวไปๆ

     แก่งคุดคู้ ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร  หากใครมาเที่ยวเชียงคาน มักจะไม่พลาดที่ จะ เดินทางไปยลโฉม ความสวยงามของแก่งคุดคู้ ก่งขนาดใหญ่ แห่งหนึ่งของไทย ที่เกิดจากการทอดตัวของ แนวหินลงในแม่น้ำโขง 

    ภูทอก เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเชียงคาน ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นอย่างมาก แต่พวกผมไปตอนเที่ยงก็สวยไปอีกแบบครับ เห็นทิวทัศน์ของเมืองเชียงคาน แม่น้ำโขง แก่งคุดคู้ และฝั่งประเทศลาวอย่างชัดเจน

     

    กลับจากภูทอก ตอนเย็นๆ  หมดเวลาสนุกแล้วสิๆ ได้เวลากลับบ้านกันแล้ว ด้วยความเหนื่อยล้ารอบนี้ขอนั่งรถบัสกลับกทม.ครับ

    _____________________________________________________________________________________

     

     วันที่เจ็ด (31 ธันวาคม 2558)

    ถึง กทม.ตอนเช้าตรู่ ซื้อตั๋วรถไฟชั้น 3 กลับหาดใหญ่ ตอนบ่ายสาม ราคา 230 บาท ระหว่างรอรถไฟก็ไปนั่งรถเมล์เที่ยวเมืองกันพลางๆฮะ บ่าย3ปุ๊บ รถออกปั๊บ เรียกได้ว่าเป็นการนั่งรถไฟข้ามปีกันเลยทีเดียว ถึงหาดใหญ่ตอน 11 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น จบทริปอย่างเป็นทางการ

    _____________________________________________________________________________________

    สำหรับ ไปกันเลย trip ถือว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่อย่างมาก ได้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกัน  เป็นทริปที่เหนื่อยสุด หนาวสุด และสนุกไม่แพ้ทริปไหนๆ ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกคน และต้องขอโทษถ้าทำอะไรผิดไป ถ้าคิดถึงทริปก็ให้เปิดดูกระทู้นี้ เจอกันใหม่ ทริปหน้า...

     

    -----------------------------------------------------------------------