#วันเดียวเที่ยวพิษณุโลก :: เมื่อไปเยือน “เมืองสองแคว” ใน 1 วัน
เดินทางไปเที่ยวชิลล์ๆ ที่เมืองสองแคว “พิษณุโลก” ใน 1 วัน
ทริปนี้ผมจะพาไปเที่ยวกันที่เมือง “สองแคว” หรือที่รู้จักกันในนามเมือง “พิษณุโลก” ครับ ความตั้งใจหลัก คือ อยากไปไหว้ พระพุทธชินราช(วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร) ครับ ประกอบกับมีโปรฯ ของสายการบินที่น่าสนใจ ก็เลยจัดไป.. แบบไม่รอช้าครับ
โปรแกรมการเดินทางของผม เป็นวันเดย์ทริปครับ พูดง่ายๆ ก็.. คือ ไปเช้า เย็นกลับ นั่นแหละครับ ก็จะตระเวณเที่ยว เฉพาะในเขตตัวเมือง ซึ่งเวลาหนึ่งวัน (ประมาณ 10 ชั่วโมง) ก็ดูน่าจะเพียงพอครับ โดยมีแพลนคร่าวๆ ก็คือ ตระเวณไหว้พระ / เที่ยวพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี / และ ก็หาของอร่อยๆ กินครับ
ทริปนี้ผมออกเดินทางไปกับเพื่อนร่วมทริปอีกหนึ่งคน “วันเดย์ทริป” สั้นๆ มีเวลา 10 ชั่วโมง ใน “พิษณุโลก” จะเป็นอย่างไร? ว่าแล้ว…อย่าเสียเวลา ตามมาเที่ยวกันเลยครับ…!!
เส้นทาง ดอนเมือง – พิษณุโลก เป็นเส้นทางที่มักจะออกโปรฯ ถูกๆ มาให้สอยกันเป็นประจำ ผมจองโปรฯ สายการบิน โดยเก็บตกเลือกวันเดือนทางที่เป็นวันธรรมดาครับ เพราะ วันหยุด นั้นโดยสอยไปหมดแล้ว ก็เลย “ลางาน” และเลือกวันธรมดาสักหนึ่งวันครับ ซึ่งสามารถจองได้ง่ายมากๆ โดยไม่ต้องแย่งใครกันเลย อีกทั้ง คิดว่า..การไปวันธรรมดา อาจจะลดความแออัด ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ไปได้ ซึ่งคนจะค่อนข้างเยอะมาก ในช่วงวันหยุดต่างๆ ครับ โดย เลือกไฟล์ทไปเช้าสุด (ประมาณ ประมาณ 7 โมงเช้า) และกลับ เย็นสุด (ประมาณหนึ่งทุ่ม) เดินทางไป-กลับ (เสียเฉพาะค่า ภาษีสนามบิน) = 150 บาท ครับ..!!
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ
CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
เริ่มต้นที่ สนามบินดอนเมือง เตรียมพร้อม ออกเดินทางกันเลย เนื่องจากเดินทางวันธรรมดา ผู้โดยสารเที่ยวบินนี้เลยไม่ค่อยเยอะครับ
ช่วงระยะการบินที่สั้นมากๆ.. ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็เดินทางมาถึง.. “ท่าอากาศยานพิษณุโลก”
เมื่อถึง สนามบินพิษณุโลก แล้วจะมีบริการ รถแท๊กซี่เข้าเมืองครับ ราคา 150 บาท แต่.. เผอิญได้ลองขอติดรถกับญาติที่มารับผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกันเข้าเมืองไปด้วย เขาก็ยินดีให้ไปด้วยกัน ก็เลยสบายมาหน่อย ซึ่งต้อง ขอขอบคุณ คุณลุง ที่ให้ติดรถเข้าเมือง มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ทำให้ผมประหยัดกันไป 150 บาท เลย ระหว่างทาง คุณลุง ก็เล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับ จังหวัดพิษณุโลก ให้ฟังครับ.. และก็รู้สึกแปลกใจ ที่รู้ว่าเราตั้งใจมาเที่ยวที่นี่กันโดยเฉพาะ คุณลุงมาส่งเรา ที่ ห้างสรรพสินค้า TOP LAND ครับ
ตรงข้ามกับ ห้างสรรพสินค้า TOP LAND จะเห็น ร้านอนุสรณ์ทัวร์ ครับ.. เราจะมาเช่ารถ มอ’ไซค์ กันที่นี่ครับ มีให้เช่าทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ ครับ ซึ่งทริปนี้ เราจะใช้วิธี “แว๊นซ์” เที่ยวกันครับ..!! ตัวเมือง “พิษณุโลก” สถานที่เที่ยว แต่ละที่ ไม่ห่างกันมากครับ โดย ช่วงเช้า.. เราตั้งใจจะไปเที่ยววัดต่างๆ กันก่อนครับ และ ช่วงบ่าย.. จะลงไปทางทิศใต้ เพื่อไป “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี” ครับ
เราเช่ารถ จาก.. ร้านอนุสรณ์ทัวร์ ในราคา วันละ 200 บาท/วัน ครับ (เกียร์ธรรมดา) พร้อมหมวกกันน๊อค เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยสามารถขอแผนที่จากทางร้านได้ครับ จะได้ขับขี่ไปไหนได้สะดวกไม่หลงทาง ตอนนี้ไม่ห่วงเรื่องการเดินทางไปไหนมาไหน ในตัวเมืองแล้วครับ หาร 2 คนละ 100 บาท..คุ้มเลย… !!
มาถึง “พิษณุโลก” เราก็แว๊นซ์ ตรงดิ่งมากินกันก่อนเลยครับ เพราะเรื่อง กิน.. เรื่องใหญ่ครับ 55 มากินกันที่ “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” ที่ว่ากันว่า.. มาเที่ยวพิษณุโลก ต้องมากินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ครับ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา … จะมีมากมายหลายร้าน ตั้งเรียงรายอยู่ริมน้ำน่าน อยู่ใกล้ๆ กับ วัดใหญ่ (วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร)
“ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” หลากหลายร้าน ตั้งเรียงรายริมน้ำน่าน.. เลือกกันไม่ถูกทีเดียว ว่าจะเข้าร้านไหน ผมเลือกมากินที่.. “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาป้ากฐิน” ครับ ที่ว่ากันว่า..เป็น เจ้าตำรับก๋วยเตี๋ยวห้อยขาขนานแท้ เจ้าแรกของเมืองพิษณุโลกครับ เป็นร้านไม้ดูเก่าแก่ แต่คลาสสิค..บรรยากาศแบบกันเอง ขายกันแบบธุรกิจครอบครัวครับ มีทั้งน้ำตก น้ำใส เย็นตาโฟ ราคาธรรมดาชามละ 30 บาท พิเศษ ชามละ 35 บาท
เข้ามาแล้วก็สามารถเลือกนั่งได้ครับ.. ว่าจะ “ห้อยขา” หรือ ไม่ห้อยขา” 55+ เรามากินกันช่วงสายๆ ครับ คนยังดูไม่ค่อยเยอะ แต่ถ้าเป็นช่วงเที่ยงๆ คนคงจะเยอะน่าดูเลยล่ะครับ.. ยังไงผม..ก็ขอเลือก “ห้อยขา” ล่ะกันนะ.. ประเดิมการกิน ด้วยการ.. สั่ง “เล็กน้ำ เนื้อเปื่อย” มา 1 ชาม นั่งกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ในบรรยากาศริมน้ำน่านครับ ลมพัดโชยเย็นสบาย.. ก๋วยเตี๋ยว 30 + ชาเย็น 15 มื้อนี้หมดไปอีก = 45 บาท
หลังจากอิ่มร้านแรกแล้ว ลองเข้ามาดู..อีกร้าน ครับ ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน่าน” เป็นร้านที่ใหญ่ และดูใหม่ดีครับ แต่ก็มีเอกลักษณ์ ในการห้อยขา เหมือนกัน
ตอนแรกกะว่าจะสั่งก๋วยเตี๋ยวกินเบิ้ลอีกสักชาม..แต่ชามแรกที่ร้านป้ากฐิน ก็ยังอิ่มอยู่ ประกอบกับ ของหวานที่นี่ดู น่ากินดี ก็เลยสั่งแต่ของหวานมากินครับ.. “ขนมถ้วย”
อากาศร้อนๆ.. น้ำกะที ลอดช่อง แตงไทย ก็น่ากิน..ก็เลยสั่งมาอีกคนละถ้วยครับ.. อร่อย หวาน มัน.. เช็คบิลจ่ายที่ร้านนี้ไป อีกคนละ 35 บาท.. แถวนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวเยอะมาก
หลังจากอิ่มท้องแล้ว เราก็จะมาไหว้ พระพุทธชินราช กันครับ.. ที่วัดใหญ่ (วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร)
บริเวณนี้จะมีวัดอยู่ติดๆ กัน 3 วัดครับ สามารถ เดิน ไป-มา ได้ ไม่ไกลกันนัก คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร, วัดนางพญา และ วัดราชบูรณะ เราเข้ามาที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัดใหญ่” แม้จะเป็นวันธรรมดา.. แต่ก็มีคนมากมายแวะเวียนเข้ามาไหว้ สักการะ อย่างไม่ขาดสาย..
ภายในวิหารของวัดเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” หรือที่ชาวเมืองพิษณุโลกเรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์..ดูสวยงาม น่าเลื่อมใส
“พระพุทธชินราช” เป็นพระพุทธรูปองค์ประธานของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย..สังเกตได้ว่าคนจะเยอะมากๆ ครับ แม้จะไม่ใช่วันหยุดก็ตาม..
มีโอกาสสักครั้งในชีวิต ต้องมาไหว้ “พระพุทธชินราช”
องค์พระปรางค์ ที่ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางของวัด ปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของวัด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากนี้.. บริเวณรอบๆ วัด ก็จะเห็นร้านของที่ระลึก ร้านบรรดาของฝากเยอะแยะเลยครับ สามารถ ซื้อหา ของติดไม้ ติดมือ กลับไปฝากคนที่บ้านได้เลยครับ..