Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
นอนพักกลางป่าที่ภูเขียว เที่ยวทุ่งกะมัง แล้วพากันไปส่องสัตว์ป่าหายาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง จ.ชัยภูมิ
    • Posts-1
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    นอนพักกลางป่าที่ภูเขียว เที่ยวทุ่งกะมัง แล้วพากันไปส่องสัตว์ป่าหายาก

    เมื่อฤดูฝนมาถึง ทั่วทุกภาคของไทยก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกและสายฝน หันไปทางไหนก็เจอแต่ความชุ่มฉ่ำ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีดูสวยงามราวกับว่าเป็นฤดูแห่งความสุขของมัน และผืนป่าอีกแห่งที่อุดมสมบูรณ์น่าไปพักผ่อนในวันหยุด สถานที่อยากแนะนำ คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง จังหวัดชัยภูมิ ที่นี้ยังมีธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ และสัตว์ป่านานาชนิดรอเราอยู่อีกมากมาย

    • Posts-2
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว  อยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยว 3 อำเภอคือ อำเภอภูเขียว อำเภอคอนสาร และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ มีพื้นที่ประมาณ 1,125,000 ไร่ และเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าอีสานตะวันตก เชื่อมรวมเป็นผืนป่าเดียวกันกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 3 แห่ง และอุทยานแห่งชาติอีก 4 แห่ง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง , เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ , เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง , อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน , อุทยานแห่งชาติภูกระดึง , อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และอุทยานแห่งชาติตาดหมอก 

    เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว เราต้องขับรถเข้ามาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกราว 24 กิโลเมตรเพื่อเข้ามายังที่ทำการ ระหว่างทางเราจะได้พบกับเส้นทางอันร่มรื่นเขียวขจี เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ร่มเงา และสัตว์ป่าหลายชนิด ส่วนมากจะเป็นนก และสัตว์เท้ากีบ กวาง เก้ง งู และเนื้อทรายที่ใช้เส้นทางนี้ร่วมกับเรา ดังนั้นเราควรขับช้า ๆ ค่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศความเป็นธรรมชาติของที่นี่ หรือถ้าอยากฟังเสียงธรรมชาติใกล้ ๆ ลองเปิดหน้าต่างรถดู นอกจากจะได้ยินเสียงที่ไพเราะของผืนป่าที่อุดมสมบูณ์แห่งนี้แล้ว ก็ถือเป็นการเปิดรับลมและอากาศบริสุทธิ์ที่ทำให้เราสดชื่นมากขึ้นอีกด้วย

    • Posts-3
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    เมื่อมาถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ต้องติดต่อเพื่อรับกุญแจบ้านพัก ซึ่งในการเข้าพักต้องโทรมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ จากนั้นทำหนังสือขออนุญาตล่วงหน้า 15–30 วัน โดยราคาบ้านพักแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้โดยให้เป็นค่าบำรุงสถานที่ ส่วนเรื่องของอาหารการกิน ถ้าไม่ได้เตรียมมาเอง ที่นี่มีบริการครัวสวัสดิการโดยต้องแจ้งล่วงหน้าตอนจองห้องพัก ทางแม่ครัวจะเตรียมรายการอาหาร ให้เองตามความเหมาะสม  ส่วนค่าอาหารนั้นคิดเป็นรายมื้อต่อหัว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวมีไฟฟ้าให้ใช้แค่เวลา 18.30 – 21.30 น. ควรเตรียมไฟฉายหรือแบตเตอรี่โทรศัพท์และกล้องมาให้พร้อมด้วย

    • Posts-4
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    ทุ่งกะมัง

    ไฮไลต์ที่สำคัญของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว คงไม่พ้น ทุ่งกะมัง เนื่องจากเป็นที่ราบทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ลักษณะคล้ายแอ่งกะละมังอยู่กลางผืนป่า จึงเป็นที่มาของชื่อ ทุ่งกะละมัง หรือ ทุ่งกะมัง มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร  มีธารน้ำหลายสายไหลผ่าน พื้นที่โดยรอบเป็นป่าดิบเขา บางตอนมีป่าสนขึ้นสลับกับต้นเหียงและต้นก่อ บริเวณกลางทุ่งกะมังเกือบจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเลยนอกจากพันธุ์ไม้ดอกหลายชนิดขึ้นแซมตามกอหญ้าเป็นหย่อม

    ประวัติความเป็นมาคร่าว ๆ ของทุ่งกะมังนี้ เกิดจากการทำลายป่าของชาวบ้าน ที่ขึ้นไปบุกรุกป่าธรรมชาติเพื่อปลูกพืชและตั้งหลักแหล่งจนผืนป่าถูกทำลาย สัตว์ป่าถูกล่า โดยเฉพาะกระซู่ ที่เป็นสัตว์ป่าสงวนที่หายากมาก ปัจจุบันกระซู่ได้สูญพันธุ์จากผืนป่าภูเขียวไปแล้ว จึงนำไปสู่การประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงต้องการให้ปล่อยสัตว์ป่าคืนถิ่นในบริเวณนี้ เช่น เก้ง กวาง กระจง และนกต่าง ๆ มีการจัดทำดินโป่งในบริเวณทุ่งกะมังเพื่อให้สัตว์มากินดินโป่ง และเผาแปลงทุ่งหญ้าเพื่อให้เกิดหญ้าระบัด ที่เป็นอาหารของเก้ง กวางในช่วงฤดูแล้ง และบนยอดเนินเหนือบริเวณทุ่งกะมัง ยังมีพระตำหนักที่ประทับอยู่เหนืออ่างน้ำด้วย

    • Posts-5
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    เนื้อทราย

    สิ่งที่น่าสนใจของการมาเที่ยวทุ่งกะมัง คือ การชม เนื้อทราย อย่างใกล้ชิด ซึ่งเนื้อทรายนั้น เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกกวางชนิดหนึ่ง มักหากินช่วงเช้า เย็น และกลางคืน มันมีสายตาที่ดีในความมืด ตาของเนื้อทรายสีดำ และกลมโตใหญ่ จึงได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีดวงตาสวยที่สุด แม่เนื้อทรายจะเลี้ยงลูกอย่างดีจนกระทั่งลูกโต ซึ่งมักพบว่าลูกที่โตแล้วยังติดตามแม่ตลอดเวลา

    เมื่อลูกเนื้อทรายตัวผู้โตขึ้น มันจะเริ่มมีเขางอกออกมา ช่วงปีแรกเนื้อทรายจะมีเขาเล็ก ๆ  เรียกว่า เขาเทียน หลังฤดูผสมพันธุ์ของทุกปีมันจะผลัดเขาออกไป และปีต่อมาจะสร้างเขาใหม่มีกิ่งแขนงออกมาแต่ไม่ใหญ่นัก จนปีที่ 3 มันจะมีเขาที่ใหญ่และแข็งแรง เป็นที่สะดุดตาของตัวเมีย นั่นหมายความว่ามันเป็นเนื้อทรายที่โตเต็มที่แล้ว เนื้อทรายที่โตเต็มที่จะมีเขาที่สวยงามและแหลมคม แต่นั่นมีไว้เพื่อการต่อสู้แย่งชิงตัวเมีย

    ตามธรรมชาติแล้ว ถิ่นที่อยู่เดิมของมันอยู่ตามที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ และทุ่งหญ้าริมทะเลซึ่งมักมีกอหญ้าขึ้นอยู่มาก แต่ทุกวันนี้พื้นที่เหล่านี้ถูกคุกคามจนไม่เหลือพื้นตามธรรมชาติดั้งเดิมสำหรับเนื้อทรายแล้ว จึงทำให้เนื้อทรายสูญพันธุ์ไปช่วงนึง แต่ปัจจุบันมีการพาะขยายพันธุ์ และนำมาปล่อยให้สืบพันธุ์เองตามธรรมชาติแล้ว เราจึงพบเนื้อทรายได้ที่ ห้วยขาแข้ง และ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะที่ภูเขียว เป็นสถานที่ที่มีเนื้อทรายอยู่มากที่สุดในไทย

    การที่เราอยากเข้าไปใกล้ชิดกับสัตว์ป่าใกล้ ๆ นั้น เราควรเข้าไปอย่างระมัดระวัง อย่าทำให้สัตว์ตกใจกลัว หรือเข้าไปกวนการดำรงชีวิตของสัตว์ ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เราแค่เฝ้ามองห่าง ๆ เท่านั้นพอ

    • Posts-6
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    นอกจากทุ่งกะมังที่สวยงามแล้ว ที่ภูเขียวยังมีบ่อนกหรือบ่อน้ำมหัศจรรย์ ที่ผู้ชื่นชอบนกส่วนมากต่างเฝ้าคอยมารอถ่ายภาพความงดงามของนกแต่ละชนิดที่หายาก และใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากที่นี่มีความแตกต่างจากแหล่งดูนกแห่งอื่น ๆ ในภาคอีสาน คือมีแหล่งน้ำขนาดเล็กและใหญ่กระจายอยู่เกือบทุกพื้นที่ ทั้งกลางทุ่งหญ้ากว้าง ตามชายป่า และในป่าลึก จึงสามารถพบนกได้หลากหลายประเภท รวมทั้งนกชนิดที่หายาก อย่างเช่น นกกระสาดำ และนกเฉพาะถิ่นในระดับภูมิภาค ซึ่งมีถิ่นแพร่กระจายพันธุ์อยู่เพียงไม่กี่ประเทศในโลก นั่นคือ ไก่ฟ้าพญาลอ นกโกโรโกโส แต่การจะเข้าไปบ่อน้ำมหัศจรรย์นี้ เราต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อทำการจองก่อน และหากใครยังไม่เคยมา จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเพราะเราต้องเดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าไปก่อนจึงจะเจอบ่อน้ำมหัศจรรย์ 

    ทริคเล็ก ๆ สำหรับผู้ที่อยากเดินป่า ผมขอแนะนำว่าเราต้องเป็นคนช่างสังเกต ตาต้องดูรอบ ๆ ทิศทาง หูต้องคอยฟังเสียงสิ่งรอบตัว เราจะสังเกตว่าตรงจุดที่เราอยู่มีสัตว์ป่าอยู่หรือไม่นั้น ให้เราสังเกตได้จากรอยเท้า มูลสัตว์ หรือแม้กระทั่งซีกไม้ที่หัก เพราะสัตว์ป่าแต่ละชนิดจะมีวิธีการดำรงชีวิตที่แตกต่างกันไป ถ้าเรามีข้อมูลของสัตว์ไว้บ้าง เวลาเราเดินป่าจะทำให้เราสนุกและตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

    • Posts-7
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    ก่อนเดินทางกลับ เราจะผ่านจุดชมวิวปางม่วง ที่งดงาม เห็นทิวทัศน์ของป่าอันเขียวขจี ตั้งอยู่ก่อนเข้าด่านเก็บเงินของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้ ในบางวันที่ฝนตกหรือมีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมากพอ เรา่จะได้เห็นทะเลหมอกที่งดงาม มีทิวทัศน์ที่เห็นด้านหน้าประกอบไปด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่กว้างไกลสุดสายตา มองเห็นภูเขาสูงยอดตัดที่สูงกว่าลูกอื่นๆ นั้นคือ ภูกระดึง นั่นเอง

    การที่เราเข้าไปในป่า ต้องระลึกไว้เสมอว่าเป็นการรุกเข้าไปในพื้นที่ของสัตว์ป่า อันเป็นถิ่นอาศัยปกติและแหล่งหาอาหารของสัตว์เหล่านั้น เราเข้าไปได้ แต่ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ 
    เหมือนคำคมที่ว่า "เราจะไม่ทึ้งอะไรไว้ นอกจากรอยเท้า เราจะไม่เก็บอะไรไป นอกจากภาพถ่าย" 

    • Posts-8
    theTripPacker •  August 29, 2016

    Editor's Comment

    • Strong point:
    • เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง มีการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง และที่เด่นที่สุด คือเนื้อทรายที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วในอดีตเป็นต้น โดยปล่อยให้สัตว์อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ สามารถสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง และได้มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
    • Weak point:
    • เนื่องจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวมีไฟฟ้าให้ใช้แค่เวลา 18.30 – 21.30 เท่านั้น และไม่มีร้านอาหารหรือสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอ จึงไม่เหมาะหากใครที่ต้องการความสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีสัญญาณโทรศัพท์แค่เฉพาะบางจุดด้วย
    • Conclusion:
    • เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวยังถือว่าเป็นแหล่งเป็น "แหล่งศึกษาธรรมชาติ" เช่น ดูนก ดูผีเสื้อ หรือเดินป่า ชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม มีทั้งที่ราบทุ่งกว้างใหญ่ สายน้ำลำธาร รวมถึงจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาพักผ่อนในวันหยุด พาเด็ก ๆ มาเรียนรู้การเดินป่าแบบง่าย และชมสัตว์ป่าหายาก
    Score
    • Posts-9
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ศูนย์พิทักษ์ป่าภูเขียวที่ 2 (ปางม่วง)
    ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ

    GPS :16.557721 , 101.57135000

    เบอร์ติดต่อ : 0 2561 4292-3 ต่อ 711

    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00 - 16.00 น.

    ค่าธรรมเนียม : ชาวไทย เด็ก 10 บาท, ผู้ใหญ่ 20 บาท  ชาวต่างชาติ 200 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ควรไปเที่ยวในช่วงฤดูฝนหรือหนาว เพราะธรรมชาติจะสวยงามต้นไม้เขียวขจี

    ไฮไลต์ : ชมทุ่งกว้างใหญ่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ได้ใกล้ชิคกับธรรมชาติแปลกใหม่และสัตว์ป่าหายากที่เคยสูญพันธุ์ในอดีต

    กิจกรรม : ชมธรรมชาติ ,ดูสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อทราย นก ผีเสื้อ ,พักผ่อนหย่อนใจ

    • Posts-10
    theTripPacker •  August 29 , 2016

    วิธีการเดินทาง

    จากอำเภอภูเขียว ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกหนองสองห้อง ไปตามทางหลวงหมายเลข 2055 มุ่งหน้าตามป้าย บอกทาง ไปเขื่อนจุฬาภรณ์ จะพบเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอยู่ทางซ้าย ประมาณกิโลเมตรที่ 24-25 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่แลกบัตรที่ด่านตรวจ พร้อมทั้งเสียค่าธรรมเนียมการเข้าและต้องวิ่งรถเข้ามาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกราว 24 กิโลเมตร เพื่อมายังที่ทำการเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง)

  1. View more