[ล้านตะลุยโลก] :: วันเดย์ทริปเกาะแสมสาร
เดือน มิ.ย เข้าหน้าฝนแล้วจะไปเที่ยวไหนดี? แบบเช้า-เย็นกลับได้ ทะเลคงไม่ใช่สิ่งที่ใครจะคิดถึงตอนหน้าฝน แต่สำหรับเกาะแสมสาร ที่เที่ยวยอดนิยมที่คนต้องรีบไปจองแต่เช้ากัน low season แบบนี้แหละ เหมาะสมสุดๆ ! ว่าแล้วก็เช็ค พยากรณ์อากาศแล้วนัดเพื่อนไปกันเลยยยยยย ( แผนสำรองคือถ้าตื่นเช้ามาฝนตก ไม่ต้องออกจากบ้านนอนต่อไปเลย 555 )
เริ่มจากแหกขี้ตาตื่นมาตั้งตาตี 5 เพื่อที่จะมาขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ ตั้งใจว่าจะมาขึ้นรถตู้รอบ 6 โมงเช้าจะได้ไปถึงเช้าที่สุดตั้งใจว่าจะไปจองรอบเรือแรกๆ เพราะเพื่อนที่เคยไปแนะนำว่าให้ไปนอนที่นั้นก่อนคืนนึงจะได้ตื่นมาจองเรือตั้งแต่เช้า แต่ปรากฏไปถึง ไม่มีรอบ 6 โมงจ้า รอบแรก 5.45 ทำให้พลาดโอกาสรถรอบแรกไป ไม่เป็นไร ! รอไปรอบที่ 2 ก็ได้นั้นคือ 6.30 ทำให้มีเวลาทานข้าวเข้าและนั่งเล่นเตรียมตัวรอขึ้นรถ เมื่อถึงเวลาขึ้นรถตอนแรกคิดว่าคนจะเต็มรถปรากฎคนไม่เต็มนะ มีประมาณ 8 คน แถมรถยังออกตรงเวลา 6.30 แบบไม่ได้รอคนเต็มด้วย ถือว่าตรงต่อเวลาดีมากๆ ชอบบ5555 ระหว่างทางมีจอดแวะปั๊มให้เข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสาย แล้วเราก็ถึงที่ กม.1 ตอน 8.40 ไวกว่าที่คิดเพราะเคยอ่านมาว่า 2.30 ชม. พอถึงก็ต่อรถมอไซต์ตรงนั้นได้เลย ไม่อยากรอรถฟ้าเพราะอยากรีบไป ก็เลยเหมาไป 2 คน 160 บาท แล้วเราก็ไปถึงที่แสมสารตอน 9.10 ได้ ราคานี้ รับได้นะเพราะว่าไปไกลมากๆ นั่งจนหัวฟูเลย ที่อุส่าห์ตื่นมาม้วนผมตอนเช้าในที่สุดก็เลยต้องรวบผม 5555
และแล้วพวกเราก็ไปถึงแสมสาร ไปถึงไม่เห็นมีคนรอจองรอบเรือเลย... แหงเนาะ!!! คนอื่นเค้ามาจองแต่เช้าแล้วไง 555 แต่โอเคนะ ถึงเวลานี้ได้เรือรอบ 11 โมง เรือกลับรอบสุดท้าย 16.30 มีเวลาตั้ง 5 ชม. กว่าๆ แหนะ
แต่อย่าลืมนะว่าพวกเราไปตอน low season หน้าฝน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าไปช่วงเดือนอื่นจะได้รอบไหน
มีเวลาอีกตั้งเกือบ 2 ชม. ทำอะไรรอดี... พวกเราเลยไปเดินขึ้นจุดชมวิวกัน ทางขึ้นไปชันอยู่นะเหนื่อยอยู่ แต่ว่าเป็นทางบันไดสบายๆไม่ลำบาก เดินขึ้น-ลง ถ่ายรูปเล่นบนนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชม มุมข้างบนเห็นท่าเรือกับเกาะขามและเกาะแสมสารครบ รวมถึงวิวหมู่บ้านที่มีท่าเรือจอดเยอะๆด้วย สวยและลมแรงดีมากเลย แต่ใครจะขึ้นมาขอเตือนมาให้พกน้ำดื่มขึ้นมาด้วย 555
หลังจากนั้นพวกเราก็ต้องไปทานอาหารรองท้องกันก่อนเดินทาง ไปร้านอาหารตามสั่ง สั่งกระเพรากุ้งปลาหมึกไข่ดาวกับคะน้าหมูกรอบไข่ดาว อร่อยยยละอิ่มมากกกก ในราคา 100 บาทเอง
ตอนแรกลังเลว่าจะสั่งข้าวกล่องไปทานบนเกาะดีไหมเพราะเห็นเค้าบอกว่าบนนั้นไม่มีอาหารขาย แต่ก็ไม่อยากแบกของเยอะ เลยซื้อเป็นข้าวเหนียวหมูไปกินคนละห่อ ตอนซื้อป้าคนขายบอกซื้อไปเยอะๆสิอร่อยนะเด๋วจะติดใจอยากกินอีก 555 แต่โมเม้นนั้นคืออิ่มข้าวกลางวันมากกก ไม่ไหวแล้วจริงๆ แค่นี้พอแล้วค่ะ ฮ่าๆ ( แต่ตอนไปกินบนเกาะ อร่อยจริงๆนะ ) ไหนๆก็พูดเรื่องอาหารบนเกาะแล้ว คือบนเกาะจะมีหาดใหญ่ๆ 2 หาดคือหาดลูกลม กับ หาดเทียน ทั้ง 2 จุดมีขายอาหารกับเครื่องดื่ม แต่อาหารจะมีเป็นมาม่า ข้าวเหนียวหมู(น่าจะรับมาจากป้านี้แหละ) หมูยอ อะไรที่กินง่ายๆใครอยากกินหนักๆคงต้องแบกไปกันเอง เครื่องดื่มจะไม่มีน้ำแข็ง มีเป็น น้ำหวานขวดทั่วๆไป น้ำเปล่า แช่ลังโฟมไว้ พอพวกเราทานอาหารเสร็จก็ใกล้ถึงเวลาขึ้นเรือแล้วว
ที่นี้เค้าบอกให้ไปรอก่อนเรือออก 15 นาที ระหว่างเดินบนท่าเรือมองน้ำคือใสมากกก น้ำสีเขียวหน่อยๆมองเห็นปลา สวยจริงๆนะเห็นแล้วแบบอยากดำน้ำมาก เสียดายตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่เล่นน้ำเลยไม่ได้เตรียมชุดไป แนะนำเลยใครจะไปเอาชุดไปสำรองซะ ! เห็นน้ำใสๆแล้วจะอดใจไม่ไหวจริงๆ พอขึ้นเรือมีเสื้อชูชีพเตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ใช้เวลาข้ามเรือประมาณ 10 นาที
และแล้วพวกเราก็ถึงเกาะแสมสารร ! บอกเลยว่า น้ำใส ทรายขาวมากกกก แดดก็ร้อนมากก 5555
แล้วพวกเราก็เดินไปฟังอบรมจากวิทยากรกัน พี่เค้าก็แนะนำเกี่ยวกับจุดท่องเที่ยวบนเกาะ สิ่งที่ควรปฎิบัติและอันตรายที่จะเกิดขึ้น หลังจากฟังเสร็จก็ถึงเวลาลุยแล้วว
โดยพวกเราวางแผนกิจกรรมไว้ดังนี้
-เดินเล่นหาดเทียนกัน : หาดเทียนหาดแรกที่เรือเทียบท่า เป็นหาดที่ค่อนข้างสงบใครชอบหาดทรายขาวๆ โล่งๆ ต้องหาดนี้แหละ
ปั่นจักรยานชมอุโมงค์ต้นไม้และไปป่าชายเลน : ค่าจักรยานคนละ 10 บาทต่อ 2 ชม. เกินกว่านั้นจะเสียค่าปรับ พี่เค้าบอกว่าเมื่อก่อนอนุญาตให้ปั่นจักรยานจากหาดเทียนไปเที่ยวหาดลูกลมได้ แต่เนื่องจากเส้นทางมีความลาดชันและระหว่างทางมีสวนมีป่า ทำให้นักท่องเที่ยงชอบไปผิดทางหรือจักรยานไถลกันเยอะ ปัจจุบันเลยไม่อนุญาตแล้ว ... ขอบอกไว้ก่อนว่าจักรยานเตี้ยมาก 555 ค่อนข้างเมื่อยเวลาปั่นและเป็นจักรยานที่ไม่มีที่ซ้อน ใครหวังจะมานั่งซ้อนสวีทกันเสียใจด้วยนะจ๊ะ อิอิ :P ระหว่างทางต้นไม้ไม่ได้เยอะเป็นอุโมงค์ขนาดนั้น
แต่ก็เยอะพอที่จะไม่ทำให้ร้อนแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ หาดข้างทางระหว่างที่ปั่นจักรยาน เป็นหาดเหมือนหาดหิน สงบไม่มีคนเลย เป็นความสวยในอีกแบบนึง แวะถ่ายรูปกัน
แล้วปั่นไปข้างหน้าต่อเหมือนเป็นทางตัน ปรากฏมีคนตะโกนเรียก “มาถูกทางแล้วนี้ จุดชมป่าชายเลนนนนน” คือไม่ได้กะจะมาเดินป่าชายเลน แต่พี่เค้าเรียกก็เลยไปซะหน่อยแล้วกัน 555 เป็นทางสะพานไม้ เป็นป่าเล็กๆนะ
หลังจากปั่นจักรยานเสร็จ พวกเราก็กลับหาดเทียนกันเพื่อเตรียมขึ้นรถไปยังหาดลูกลมพี่คนขับเท่ป่าวว 5555
หาดลูกลม : หาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมายไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำ พายเรือคายัค นั่งเรือกระจก หรือจะนอนเล่นบนหาดก็ได้ ค่าใช้จ่ายก็ต่างๆกันไป ไม่เกิน 50 บาทมาถึงจองที่นั่งผ้าใบ นั่งพักผ่อนกัน คือชอบที่นี้ตรงที่ทุกอย่างมันเป็นระบบ เหมือนที่นี้เค้าทำเพิงพักให้นักท่องเที่ยวอยู่รวมๆกันประมาณ 2 เพิง ซึ่งก็พอเพียงนะไม่ได้อึดอัดเกินไป มีชูชีพแขวนและบังคับทุกคนที่เล่นน้ำใส่ มันดูเป็นระเบียบ และทุกคนที่มาไม่ได้มีคนโหวกเหวกเสียงดัง เหมือนทุกคนมาพักผ่อนเหมือนกัน รู้สึกดีมากๆตรงนี้
เดินถ่ายรูปเล่นสักหน่อย อย่างที่บอกว่าลืมไมได้เอาชุดมาเปลี่ยน ก็เลยหากิจกรรมที่ไม่น่าเปียกนั้นก็คือพายเรือคายัค ไม่น่าเปียกคืออะไร? คือแอบสังเกตการณ์คนที่พายว่าโอเคเรือดูปริ่มๆน้ำ แต่ไม่เปียก ถ้าเปียกก็ก้นเปียกนิดหน่อย ได้อยู่! ก็เลยไปจองคิวแล้วรอพี่ทหารเรียก พอเรือว่างพี่ทหารบอกใส่ชูชีพแล้ว เดินไปหยิบเรือ หยิบไม้พายลุยเองได้เลยตอนแรกกะว่าจะไปถ่ายรูปสวยๆบนเรือ เลยเอามือถือ กล้องใส่ถุงพลาสติกไป ปรากฏพอลองจริงเรือยังไม่ทันออกก็คว่ำแล้ว 5555 เลยไปเก็บกล้องก่อน (จะวางกองๆแล้วซ้อนไว้หรือฝากล็อกเกอร์ก็ได้ค่ะ ) แล้วเอาว่ะ !! ไหนๆก็เปียกแล้ว ก็เปียกให้สุด 5555 ล่มแล้วล่มอีก จนในที่สุดก็ออกเรือไปได้ 555 คือมองลำอื่นทำไมเค้าพายได้ ก็เข้าใจ พายไปสักพัก ล่มจ้าคราวนี้ไปล่มกลางทะเล แต่มีชูชีพไม่ต้องห่วงลอยอยู่เหนือน้ำชิวๆ มองไปข้างล่างคือหอยเม่นจำนวนมหาศาล....
เห็นแล้วช็อค นึกถึงคำที่วิทยากรเตือนเลยเค้าบอกว่าระวังหอยเม่นและหิน หินที่นี้แหลมมาก... ถ้าตอนนั้นไม่ตั้งใจฟังตอนเรือล่มอาจจะพยายามแบบเอาเท้าเหยียบพื้นเพื่อที่จะดันตันเองขึ้นเรือ เพราะฉะนั้นตอนพี่วิทยากรพูดตั้งใจฟังกันนะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ หลังจากลอยกลางน้ำชมวิวรอบตัวพร้อมค่อยๆดันเรือขึ้นฝั่งสักพัก ก็มีเรือมาจอดข้างๆ.. พี่ทหารที่ขับเรือตรวจสอบความปลอดภัย+พาคนไปดำน้ำ มารับพวกเรา 555 เค้าคงเห็นเราอนาถมาก 555 พี่เค้ายกเราขึ้นเรือแล้วก็ลากเรือเข้าฝั่ง ส่วนเพื่อนเราอีกคนแสดงความแข็งแกร่งด้วยการว่ายกลับฝั่งเอง โชว์ว่าถึงจะพายเรือคายัคไม่เป็นแต่ผมก็แข็งแรงนะครับ 5555555
ตอนนี้ตัวเปียกมากเลยไปเล่นน้ำต่อซะเลย ฮ่าๆๆ สักพักก็ขึ้นมาอาบน้ำ ห้องอาบน้ำอารมณ์เหมือนห้องอาบน้ำรวมในค่าย ตักอาบตักอาบ แล้วไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำเอาใครเอาผ้าถุงมาก็จะสบายหน่อย (ใครจะเตรียมตัวขนาดนั้นไหม555 )เป็นการอาบน้ำแบบไม่มีผ้าเช็ดตัว ไม่มีสบู่ ใดๆทั้งนั้น ที่นี้ก็ไม่มีขายนะจ๊ะ 555 ซื้อทิชชู่เข้าไป 1 ม้วน ล้างตัวออกมา เพื่อผึ่งให้ตัวเองแห้ง ..
ตอนนี้กลับมานั่งพักได้มีเวลาพิจารณาตัวเอง ดำขึ้นมากก ในเวลาแค่ประมาณ 4 ชม. ผ่านไป ดำแบบดำ T_T ขนาดพอกกันแดดทุก 2 ชม นะ... เลยเห็นประโยชน์ของเรือรอบ 9 โมงเพิ่มมาอีกข้อคือ แดดจะไม่แรงมาก ไม่ใช่แดดกลางวันแบบนี้.. ก็ว่าอยู่ ว่าทำไมตอนมาถึงหาดถึงคนโล่งๆดูสบายตา 5555 ก็มันเที่ยงไงงงง ใครเค้าจะลงไปปปเล่า โถ่ แล้วก็ถึงเวลาอาหาร ควักหมูที่พกมากินอย่างเอร็ดอร่อยและไม่อิ่มเลยไปซื้อมาม่ามาทานเพิ่มอีกถ้วย แฮ่ สบายย เตรียมตัวขึ้นรถกลับไปหาดเทียน เพื่อข้ามเรือกลับรอบ 16.00
ตอนมาถึงหาดเทียนคนเยอะขึ้นจากเมื่อเที่ยงที่นิดนึง แต่ก็โอเคนะคนไม่ได้เยอะมาก เราว่านี้คือข้อดีของการจำกัดนักท่องเที่ยววันละ 500 คนและไม่มีที่พักบนเกาะ คือคนไม่พลุกพล่าน ทรัพยากรพอเพียงเหมาะสม ที่สำคัญถ่ายรูปมุมต่างๆได้โดยไม่ติดคน 5555 แล้วเราก็ขึ้นเรือกลับกัน ตามกำหนดมันคือรอบ 16.00 ใช่ม้า แต่ออกจริงๆก็เกือบ 16.20 แหละ เราว่าเค้าคงรอให้คนมาเยอะๆ รอบสุดท้ายจะได้เก็บตกพอเพียงสำหรับทุกคน ก็ดีเหมือนกันนะ รอบหลังจะได้ไม่อึดอัดมากและแล้วเรือก็ข้ามฟากมาถึงท่า ความจริงเราว่ามุมนี้ถ่ายรูปสวยอยู่ แต่ด้วยสภาพตัวเปียกๆ และความเหนอะหนะของเรา จึงลาก่อนนน 555 แต่ยังดีที่ฝั่งมีกางเกงขาสั้นขายก็เลยเปลี่ยนใส่กางเกงลายดอก สุด aloha แทนยีนขาสั้นเปียกๆของเรา ฮ่าๆ อ่อใช่พอเรือมาจอดมีรถ 2 แถว รออยู่แล้ว ไม่ต้องออกไปโบกที่ไหนเลย แต่เราเสียเวลาเปลี่ยนกางเกงอยู่เลยให้เพื่อนไปถ่วงเวลาพี่เค้าไว้ให้ 555 ตอนแรกคิดว่าคนจะเต็มรถปรากฏมีแค่ 5-6 คนเอง คนส่วนมากเค้าขับรถมาเองกัน ก็ดีเหมือนกันนะเราเลยสบายไม่ต้องเบียดกับใคร นั่งรถสองแถวลมเย็นๆไปที่ท่ารถตู้ ตอนนี้เสื้อเริ่มแห้งแล้ว (เย้ ) ขากลับเลือกเจ้ารถตู้ดีๆ มีไปหลายที่ แนะนำให้นั่งของเมืองท่า เพราะไปจอดอนุสาวรีย์เลยเป็นเจ้าเดียวกับขามา แล้วก็ขึ้นรถหลับยาวๆไปถึงอนุสาวรีย์อย่างปลอดภัย 555
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่ารถตู้ ไปกลับ 140x2 280 บาท
ค่ามอเตอร์ไซต์ 80 บาท
ค่ารถสองแถว 30 บาท
ค่าเรือข้ามฟาก 300 บาท
เครื่องดื่ม 150 บาท
ค่าจักรยาน 10 บาท
ค่ากางเกงaloha 99 บาท(เศร้าแท้)
รวม 949 บาท ถ้าไม่นับค่า กางเกงก็ 850 บาท สวยๆ 5555