ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากตอนนั้นผมกำลังนั่งดูทีวีช่องการ์ตูนคลับอยู่ที่บ้านแล้วมันฉายวันพีชพอดี ผมก็คิดว่าอากาศตอนนี้มันก็ร้อนแฮะ น่าไปลุยทะเล สักพักผมก็ไปเปิด Pirate of the Caribbean พอถึงภาคที่ 2 ก็เริ่มเก็บของละครับ ดูไปเก็บของไป ตอนนั้นในหัวผมนี่มีแต่คำว่า “ทะเล โจรสลัด แกรนด์ไลน์ เส้นขอบฟ้า มหาสมุทรรอข้าอยู่” ซ้ำไปซ้ำมา ออกแนวเพ้อเจ้อคิดว่าตัวเองเป็นจ้าวแห่งโจรสลัดหรือไม่ก็เดวี่โจนส์ เลยไปบอกพ่อกับแม่ว่าจะไปทะเลนะ แถวระยอง ก็ได้รับอนุญาติให้ไป พ่อบอก "อืม ออกไปผจญภัย ไปดูโลกภายนนอกซะ" ทริปนี้แนวเดิมครับ ไปตายเอาดาบหน้า ไม่มีแบบแผน ที่พงที่พักเดี๋ยวค่อยไปหาเอา พอบอกพ่อกับแม่เสร็จผมก็ไปจองตั๋วรถทัวร์ สวรรคโลก-กรุงเทพฯ 369 บาท ได้รอบวันพรุ้งนี้สี่ทุ่มครับ
นี่คือสัมภาระครับ กะเอาไปแบบเบาๆ ดันหนักเกือบเท่าเดิมซะงั้น ผมลองเอาชั่งน้ำหนักดูกระเป๋าหนัก 10 kg อะไรมันอยู่ในนั้นจริงจังวะ ว่าเอาไปแต่เสื้อผ้าแล้วนะ ไหนจะเต็นท์+ขาตั้งกล้องอีก 6 kg รวมๆก็ 16 kg ปางตายซิครับงานนี้ แต่เอาเถอะ ฝึกความแข็งแรงของร่างกายเสื้อผ้าแล้วนะ ไหนจะเต็นท์+ขาตั้งกล้องอีก 6 kg รวมๆก็ 16 kg ปางตายซิครับงานนี้ แต่เอาเถอะ ฝึกความแข็งแรงของร่างกาย
วันที่หนึ่ง 25/02/58 ตีสี่กว่าๆ ณ หมอชิต ผมได้รถตู้ไประยองในราคา 160 บาท นั่งรอแป๊ปนึงรถก็ออก แต่วันนั้นรถติดมากต้องเดินออกไปขึ้นรถข้างหน้าหมอชิต ของก็โคตรจะหนัก คนขับรถตู้บอกเร็วๆเลยครับ แหม่ นี่ก็สุดชีวิตละครับ เกือบจะโดนรถเมล์สอยไประหว่างทางอีก
นั่งรถตู้มาระยองใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง รถตู้เค้ามาส่งที่ บขส.ระยอง ผมก็ต่อสองแถว (25 บาท) รอบ 8.30 ไปที่ท่าเรือบ้านเพ เห็นรถเก่าๆก็นึกว่าอย่างนี้จะถึงกี่โมงวะเนี่ย ที่ไหนได้ไวอย่างกับชิงกันเซ็ง หลบทุกพื้นที่ที่เป็นที่ราบ ลุยทุกพื้นที่ที่เป็นหลุม น้ำที่กินไปแทบกระฉอกออกมาหมด แต่แป๊ปเดี๋ยวก็ถึงท่าเรือบ้านเพแล้วครับ
พอลงจากสองแถวมา ก็มีลุงคนนึงมาคุยบอกว่าไปเสม็ดไหม ตั๋วหนึ่งร้อย ไป-กลับ ผมก็คิดว่าแถวนี้เค้าบริการถึงใจดีจัง กระชับฉับไหวเลยจัดไป 100 บาทถ้วน
แต่พอถึงเรือแล้วถึงกลับอึ้ง นี่มันเรือขนของชัดๆ มีแต่หมึก ปลา กุ้ง สัปปะรส แตงโมฯ กะลูกเรือไม่กี่คน จะเอาเราไปทิ้งกลางทะเลเปล่าวะ แต่กลัวไรละวัยรุ่น ก็ลงไปซี้!!!
โชคดีที่ไม่เป็นอย่างที่คิด ถึงเกาะเสม็ดจุดหมายปลายทางอย่างราบรื่น พอมาถึงท่าเรือหน้าด่าน ผมก็เริ่มเดินหาที่กางเต็นท์ก่อนเลยครับ เดินไปเรื่อยๆ เริ่มเหนื่อย เหงือแตก ไปแวะพักที่ป้อมตำรวจถามหาจุดกางเต็นท์ คุณตำรวจบอกเดินไปอีกนิดน้อง หาดทรายแก้วลองไปถามดู ตอนนั้น 1 เมตรอย่างกับ 1 กิโลเมตร ซ่าไม่เข้าเรื่องอยากเดินไม่เช่ามอไซค์
ถึงละครับหาดทรายแก้ว พอเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ ถึงกับช็อค เจ้าหน้าที่บอกว่า “เค้ารื้อจุดกางเต้นท์ละครับ กำลังปรับปรุงพื้นที่ มีที่เดียวอ่าวลูกโยน แถวท่าเรือที่น้องเดินเลยมา” หืออออออออออออ โคตรไกลลลลล แทบจะหมดแรง แต่กัดฟันเดินกลับไปซิครับ
และแล้วผมก็มาถึงอ่าวลูกโยน ถ้าเดินมาจากท่าเรือหน้าด่าน แค่เลี้ยวซ้ายขึ้นเนินมานิดหนึ่งก็ถึงละครับ พอเห็นป้ายก็เดินเข้าไปจนสุด จุดกางเต็นท์จะอยู่ติดชายหาดเลยครับ
ค่าธรรมเนียมคืนละ 50 บาทครับ เจ้าหน้าที่ให้ผมไปกางเต็นท์ก่อนแล้วค่อยมาจ่าย ที่พักหรูสุดๆ ติดชายหาดเลย กางวันลมเย็นดีครับ มีร่มไม้ มีชิงช้าด้วย กางเต็นท์เสร็จผมก็ไปจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วก็ไปเก็บภาพบรรยากาศแถวนั้น
ถ่ายจนร้อนก็กลับมานอนพักข้างเต็นท์ มีเก้าอี้ให้นอนเล่นรับลมทะเลสบายๆ
ผมเผลอหลับไปตื่นมาก็เย็นๆละครับ ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยน แต่อ่าวลูกโยนอยู่ทิศตะวันออกครับ เลยไม่เห็นอาทิตย์ตก
ถ่ายรูปเสร็จก็เตรียมตัวไปหาดทรายแก้วไปเดินเล่นๆ ดูแสงสียามค่ำคืน ผมเดินไปครับ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร กลางคืนไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไร ไม่มีแดด ไม่ร้อนสบายๆ ในรูปนี้เป็นบรรยากาศถนนที่เดินไปครับ มีร้านค้ามากมาย ร้านอาหาร ร้านขายเสือผ้า บาร์ฯ ทางไม่เปลี่ยว
พอมาถึงหาดทรายแก้วก็นึกในใจ ไมมันสวยจังวะ ที่ๆเราอยู่นี่กันดารไปเลย ตอนแรกก็คิดว่ากางเต็นท์อ่าวลูกโยนสบายดี เป็นส่วนตัว จะได้ซึมซับธรรมชาติ มาเจอหาดทรายแก้วปุ๊บหลงแสงสีเลยทันที แทบไม่อยากกลับ
แล้วก็มาถึงเป้าหมายจริงๆ ที่หาดทรายแก้ว “โชว์ควงกระบองไฟ”
ผมใช้เลนส์คิต 18-55 ครับ ต้องเดินซูมเท้าเข้าไปอย่างเดียว หน้าแทบไหม้
โชว์ควงกระบองไฟที่หาดทรายแก้วหาไม่ยากครับ กลิ่นน้ำมันก๊าซนี่คลุ้งไปทั้งหาด ผมก็เดินตามกลิ่นมาแหละครับ
แล้วก็ถึงการแสดงสุดท้าย ซูมเท้าอีกละครับ กลัวก็กลัวแต่อยากได้ภาพด้วย
พอการแสดงจบก็จะมีการให้ทิปกัน ผมให้ไป 20 บาท แล้วก็ไปเดินเล่นต่อ (ไม่อยากกลับ หลงแสงสี) เดินไปเรื่อยๆสักสี่ทุ่มพอเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วเลยตัดสินใจกลับครับ อาบน้ำแล้วมานอนเล่นสักพัก ที่นี่เค้ามีไนท์ซาฟารีด้วย แต่ต้องบริการตัวเอง หมา แมว รอบเต็นท์ทั้งคืน สนุกสนานละคืนนี้
คืนนั้นนี่หลอนมากครับ ตอนหัวค่ำมันก็ไม่เท่าไร หลังเที่ยงคืนเนี่ยแหละ มันวังเวง ได้ยินแต่เสียงคลื่นทะเล เจ้าหน้าที่ก็หลับไปแล้ว ผมได้ยินเสียงอย่างกับมีอะไรมาเดินรอบเต็นท์ๆตลอด บอกตรงๆเลยว่าโคตรกลัว นอนอยู่สักพักเลยตัดสินใจเปิดเต็นท์ออกมาดู ปรากฏว่าเป็นหมากับแมวมาแทะกระดูกไก่ที่ผมวางไว้ เดินวนไปวนมารอบเต็นท์ผม แม่เจ้า!!!โล่งอก แต่พอหันหลังไปก็ตกใจอีก!!! ขนนี่ลุกซู่ แต่พอดูดีๆ เอ้า!!! ผ้าเช็ดเช็ดตัวนี่หว่า ตากไว้เองแท้ๆ ประสาทหลอนไปหมดละครับ สรุปคืนนั้นมีหมากะแมวมานอนเป็นเพื่อน ค่อยยังชั่วยังพอหลับลงได้
อากาศในเต็นท์ร้อนมากครับ ลมมันไม่เข้า ตี 4 กว่าๆ ผมก็ออกมาถ่ายรูปดาว ดูในเฟสเห็นเค้าถ่ายทางช้างเผือกก็เลยลองมั่ง เออ มันก็พอได้อะนะ ลูกมั่วเราเนี่ย แต่เมฆเยอะมาก ถ่ายมาติดเมฆไปซะส่วนใหญ่ นอนที่นี่ไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องแบตหมดครับ มีที่ให้เสียบปลั๊กไฟ ชาร์จได้ตลอดเวลา
นั่งถ่ายไปจนเช้ารอพระอาทิตย์ขึ้น ยุงก็เยอะจัง เงยหัวขึ้นไปนี่บินวนยังกับฝูงอีแร้ง ดีที่ผมเอาซอฟเฟลมาด้วย
บรรยากาศยามเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น ณ อ่าวลูกโยน เกาะเสม็ด โดยรวมๆครับ
นี่คือเพื่อนใหม่ผมครับ อยู่ด้วยกันทั้งคืน เช้ามาก็มาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน สักพักก็จะมีลุงขี่มอไซค์มาขายข้าวเหนียวไก่ทอด ผมก็จัดไป 100 บาท คนนี่แทบจะได้กินแต่ข้าวเหนียว
ผมจดบันทึกรายจ่ายไว้ด้วยครับ
สรุปค่าใช้จ่ายวันแรก
- รถทัวร์ไป กทม 369 บาท
- รถคู้ไประยอง 160 บาท
- โออิชิ 20 บาท
- เข้าห้องน้ำ 5 บาท
- รถสองแถวไปบ่านเพ 25 บาท
- เรือไปเกาะเสม็ด 100 บาท
- กางเต็นท์ 50 บาท
- ข้าว+น้ำ 80 บาท
- ข้าวเหนียวไก่ทอด 70 บาท
- ข้าวกะเพราหมูกรอบไก่ทอด 90 บาท
- ทิปควงกระบองไฟ 20 บาท
- น้ำ 20 บาท
ยอดรวมค่าใช่จ่ายวันแรก 1,009 บาท