ตี 3.45 ก็มาถึงเกาะเต่าแล้ว แต่ยังมึดอยู่เลยเลยกะนอนต่อบนเรือ แต่ซักพักมีพี่ตำหนวดเข้ามาในห้องนอนประมาน 4-5 คน
พวกที่นอนอยู่ในห้องมีประมาณ 7-8 คน ก็ทำหน้าเหว๋อๆ เราก็เหว๋อ แต่ไม่ได้คิดไร ซักพักหันมาถามผม มาทำไร มากับใคร ถึงแล้วทำไมไม่ลง มายืนล้อมเตียงกันหมด เราก็เลยเก็บของแล้วลงจากเรือเลยดีกว่า
พอลงจากเรือมาก็เดินไปตามทาง รีสอร์ตที่ผมพักอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือเลย เลยเดินไปไม่ไกล
นี่คือรีสอร์ตที่ผมจะพักแต่เค้ายังปิดเลยเดินไปซื้ออะไรรองท้องที่เซเว่น ที่อยู่ใกล้ๆ กับที่พัก (ใกล้มากๆ สบายเลย)
ได้โจ้กคัพกับเป๊ปซี่แมกซ์มา 1 กระป๋องกันตายไปก่อนเพราะร้านค้าก็ยังไม่เปิดกันเลย เช้าเกิน
และแล้วก็มีเรื่องสุดระทึกเกิดขึ้นกับผมจนได้ นั่งสูบบุหรี่อยู่หน้าเซเว่น ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตี 5 ซักพักก็มีฝรั่ง(ชาย)
รูปร่างใหญ่ กล้ามแขนเท่าลำตัวผมได้ เดินมานั่งมอไซด์ใครไม่รู้ที่จอดหน้าเซเว่น ใกล้ๆกับผม แมร่งก็นั่งจ้องผมตลอดเวลา
ด้วยความเป็นไทยยิ้มง่าย ผมก็เลยยิ้มทักทายมัน เท่านั้นละ... ฮิบอ้ายยยยย มันพูดอะไรซักอย่างพอจับใจความได้ว่า
“คุณสนใจไปนอนเล่นทวารกับผมไหม” นี่คือแปลแบบสุดภาพนะครับ ความจริงหยาบคายกว่านั้น แล้วมันก็แล่บลิ้นโชว์ เจาะลิ้น เจาะหน้าเตาะตาเต็มไปหมด ผมก็บอก no no (ตรูไม่ใช่กย์นะ แสรกกกกก) มีการทำเสียงแมว ทำ แง่วววทำท่าขยุ้มใส่ผมด้วย 555 ตอนแรกก็คิดว่ามันคงแกล้งเล่นแต่มันทำหน้าจริงจังมาก พูดจาเฮียๆ ไม่หยุด ไม่ยิ้มเลยด้วย ตอนนั้นเริ่มเหว๋อละเพราะตัวมันใหญ่มาก โครสลายทีเดียวผมคอหักอะ เลยแบกเป้จะเดินหนี
เท่านั้นละ! มันลุกพรวดตามผมเลย ดีที่มีรถเข็นขายของจอดขวางระหว่างมันกะผมอยู่ ผมจะเดินไปซ้ายมันก็เดินมาดักซ้าย
จะเดินไปขวามันก็เดินมาดักอีก ตอนนั้นเริ่มกลัวจริงจังละ
เลยใช้ทักษะที่มีโยกหลอกว่าจะไปซ้ายแล้วพุ่งตัวเข้าเซเว่นที่อยู่ทางขวาทันที มันก็พูดอะไรลับหลังผมซักอย่าง (เหมือนคนเมายา) ดีที่มันไม่ตามเข้ามาในเซเว่น โชคดีไป ซักพักมันก็เดินหายไป ถึงกับใจเสียไปนิดนึง แต่ไม่เป็นไร ฝรั่งดีๆ ก็มีเยอะ ไม่ทำให้ทริปนี้เฟลแน่นอน
ตรงนี้แหละครับสถานที่เกิดเหตุ แต่ตอนสว่างแล้วคนพลุกพล่านไม่น่ากลัวเลยครับ
ประมาณ 6 โมงก็เริ่มสว่าง เลยเดินไปหาดทรายรี รอเวลาเช็คอินตอน 10 โมงจะเช่ามอไซด์ร้านก็ยังไม่เปิด ถามพนักงานเซเว่นว่าไกลไหม น้องเค้าก็บอกประมาณ 2 กิโล แต่ด้วยความว่างก็เลยเดินไป เอาวะ!
จะมีบางช่วงที่กำลังทำถนน แต่ส่วนใหญ่ถนนดีนะครับ
มาถึงหาดทรายรี ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการเดิน เริ่มมีผู้คนออกมาหน้าหาดแล้ว
บรรยากาศยามเช้าอันฉดฉื่นนน
มาสำรวจทำเลที่ต้องมาซิ่งคืนนี้ซะหน่อย ฮ่า ฮ่า
เดินกลับมาจะถึงที่พักประมาณ 8 โมง กะหาร้านข้าวข้างทางธรรมดานั่งกินก่อน เจอร้านข้าวแกงใกล้ๆ ที่พัก
เลยจัดไปเลย คั่วกลิ้งไข่ดาวราดข้าว 70 บาท! ตกใจเล็กๆ แต่รสชาดดีฮะ อร่อยเลยละพริกแกงเผ็ดมาก
เดินกลับมาที่พักที่จองไว้ Koh Tao Loft Hostel เจอพี่พนักงานคนนึงมาเปิดให้พอดี ชื่อพี่คมครับ หน้าโหดแต่ใจดี
เค้าบอกให้เข้ามานั่งรอก่อน เชคอินได้ 11 โมง - -“ ก็นั่งคุยกับพี่เค้าไปจนรีเซฟชั่นมา
แล้วก็เป็นอย่างกระทู้รุ่นพี่บอกไว้ พูดภาษาไทยกับเค้าไม่ค่อยรู้เรื่องครับ เลยต้องโชว์ภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ ไป เค้าถึงเข้าใจ ตอบกลับมาคล่องแคล่วมากสำเนียงเป๊ะ You Know?
นี่พี่คม คนไทยนะครับ ถึงหน้าโหดแต่ใจดี 555
เนื่องจากยังไม่สามารถเชคอินได้ แต่เค้าให้เข้าไปอาบน้ำก่อนได้ ผมก็เลยอาบน้ำก่อน ซักพักไฟดับ! เค้าว่าดับรอบเกาะ ประมาณ 4 โมงเย็นอะไฟถึงจะมาอีกที กะจะนั่งเล่นนั่งพักซะหน่อย เลยเดินไปจองทริปดำน้ำสำหรับพรุ้งนี้ กับพี่ปุ๊กตามลายแทงเลยครับ พี่ปุ๊กใจดีสมคำร่ำลือ แถมจองเลยกลับให้ แล้วกลับจากดำน้ำพี่เค้าก็ให้อาบน้ำที่ร้านแกด้วย และยังหามอไซด์ให้อีกคันนึงอีก แนะนำเลยครับ แสงทองทัวร์ ของพี่ปุ๊ก ค่าดำน้ำพี่ปุ๊กคิด 630 ค่ามอไซด์ 200 บาท ไม่มีมัดจำครับ
พี่ปุ๊กครับ พี่เค้าบอกว่าทริปพรุ้งนี้เค้าไม่ได้ไปด้วย เพราะต้องกลับไปหาแม่ครับ
ได้มาแล้ว Koh Tao Complete Guide ไกด์บุ๊คในตำนาน แถมมากับมอไซด์ น้ำมันก็มีให้เต็มถัง ลุยฮะ!
ที่แรกที่ผมมาคือ หาดโฉลกบ้านเก่า เป็นหาดเล็กๆ แต่บรรยากาศดีโคตรๆ มีเกาะทรายเล็กๆ กลางทะเลด้วย
ธรรมชาติช่างสวยงามตามที่เค้าบอกไว้จริงๆ
ที่ต่อมาคือตาโต๋บีช ตรงนี้เสียค่าเข้า 50 บาท เพราะเป็นหาดส่วนตัวและเป็นทางไปจุดชมวิว จอห์นสุวัน ด้วยครับ หาดนี้ติดกับหาดโฉลกบ้านเก่าครับ สวยงามไม่แพ้กัน
มีความใส
และนี่คือ Freedom Beach
สำหรับผม ผมชอบหาดนี้ที่สุด เป็นหาดเล็กๆ เล็กกว่าหาดอื่น แต่ผมว่ามันสวยสุดๆ แนะนำเลยครับมานี่ต้องมา
Freedom Beach ให้ได้ ต่างชาติมาสน๊อกเกิ้ลกันริมหาดเลย ลงน้ำไป 2-3 ก้าวก็เจอฝูงปลามากมาย มีแต่ต่างชาติครับ
ไม่มีคนไทยเลย
สุดด่ะ!!
นักดำน้ำตัวน้อย กำลังโดนโค้ชเทรนอยู่ครับ
เงาผมไง จะใครละ
ไฮไลท์ของวันนี้อีกอย่างคือ จุดชมวิว John Suvan เสียค่าเข้าเพิ่มอีกคนละ 50 บาท ขอเตือนไว้ก่อนว่าทางค่อนข้างโหดร้ายพอสมควร ฟีลเดินขึ้นเขาจริงจัง เค้าทำทางแบบหยาบๆ ไว้ให้ แต่ก็มีบางจังหวะที่ต้องใช้มือก่ายหรือพยุงตัวขึ้นไป เค้ามีเชือกไว้ให้เกาะขึ้นไปนะครับจะง่ายขึ้น
ใส่รองเท้าแตะมาอีกตะหาก ไม่ใช่เหงื่อตก เหงื่อแตกเป็นทางเลย -_-“
แต่วิวที่ได้มาเห็นผมว่าโคตรคุ้มกับเหงื่อที่เสียไปนะครับ มองเห็นได้ 2 หาดซ้ายขวา หาดทางซ้ายเป็นหาดโฉลกบ้านเก่า
หาดขวาคือ ชาร์ค เบย์
สวยงามตามท้องพระโรง!
ขาลงมาก็กลับมาแวะ Freedom Beach อีกทีครับ เสียดายค่าเข้า 50 บาท ฝรั่งเยอะขึ้นครับคราวนี้ ผมเลยต้องใส่แว่นกันแดดไว้อำพรางสายตา ฮ่า ฮ่า
ออกมากจาก Freedom Beach ก็บ่ายโมงกว่าละ กะจะหาไรกินก่อนเข้าที่พัก เจอร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านๆ ร้านนึงระหว่างทาง ผมเลยรีบพุ่งตัวเข้าไป รสชาดโอเคครับ แต่ให้เยอะมาก
สนนราคาอยู่ที่ 60 บาท
นี่คือที่พักของเราในคืนนี้ ที่นี่มีทั้งหมด 3 ห้อง เป็นห้องแอร์ 2 ห้อง ห้องพัดลม 1 ห้อง ในห้องจะมีเตียงสองชั้น 3 เตียง
ทั้งหมดจึงมี 6 ที่นอน เป็นห้องรวมชายหญิง สภาพห้องโอเคเลยนะ สะอาดดีทีเดียว มีปลั๊กไฟให้เตียงละ 1 รู ห้องน้ำในตัว
ก็ไม่แย่ครับ แต่ต้องทำใจนิดนึง ใช้รวมกัน
พอซัก บ่าย 3 ก็ออกไปขี่รถเล่นอีกครั้ง คราวนี้ไปทางเหนือของเกาะครับ ไปตรงนางยวนเทอเรส
จุดนี้จะสามารถมองเห็นเกาะนางยวนได้ครับ ขี่มอไซด์ไปได้ชันนิดหน่อย แต่ไม่ลำบากมากครับ
นั่งชมวิวซักพัก ถ่ายรูปอะไรไปเรื่อย ผมก็ตั้งใจจะขับไปอ่าวหินวงต่อ แต่ด้วยความร้อนแรงของแดดบนเกาะ บวกทางไปที่ชันใช้ได้ ผมเลยขี่กลับดีกว่า ฮ่า ฮ่า
จุดชมวิว Mango ตอนแรกก็กะจะไปแต่ไม่ไหวกับแดด และระยะทาง น่าเสียดายจริงๆ ที่ขี้เกียจซะก่อน
ต้องแวะ เซเว่นซื้อครีมกันแดด ทาผิวเลยครับ เพราะตอนนี้แสบทั้งตัวจริงจัง
พระอาทิตย์เริ่มตกดินผมเลยออกมาเดินเล่นที่หาดตรงท่าเรือครับ แต่จะมีเรือมาจอดกันเยอะ คนลงเล่นน้ำก็มี
ที่โฮลเทลนี้เค้ามีล็อคเกอร์ให้นะครับ แต่ไม่มีกุญแจให้ ต้องหามาเอง ผมเลยเดินไปซื้อแม่กุญแจอันเล็กมาเนื่องจากผม
เอาแม็คบุ๊คมาด้วย เลยต้องลงทุนค่าแม่กุญแจ 70 บาทครับ เพื่อความปลอดภัยของแม็คบุ๊ค(ที่ยืมเพื่อนมา)
เดินกลับมาที่พัก ตั้งใจว่าจะอาบน้ำแล้วไปหาของกินที่หาดทรายรี พร้อมดูแสงสียามค่ำคืนซักหน่อย ดั้นนนนนนนน ลืมกุญแจห้องไว้ที่เตียง! ไม่รู้จะทำยังไง เผอิญเห็นต่างชาติ 2 คน เดินผ่านมา จำได้ว่านอนเตียงข้างๆ เลยรีบพุ่งตัวเข้าไปขอความช่วยเหลือ
Please Open the door for me, I’m forget key in room
ตอนแรกก็กังวลว่าเค้าจะเข้าใจเราปะวะ สำเนียงไทยมากๆๆ ฮ่า ฮ่า แต่เค้าก็ตอบกลับมาว่า Oh yessss ok ok ยิ้มแย้ม วิ่งไปเปิดประตูให้
(ขอบอกว่าเธอสองคนนี้น่ารักแบบมากๆๆๆ ซะด้วย 555)นางฟ้ามาโปรดแท้ๆ >///<
นี่ละครับ แอบถ่ายหนังหัวเธอมาได้แค่นี้ 555 (ไม่กลับหัวให้ด้วย เด๋วไม่ Real)
เข้าไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพราะใกล้ค่ำแล้ว (คำเตือนน้ำอุ่นที่นี่ร้อนแรงมากนึกว่าน้ำจากกะทะทองแดง)
19.30 ไปถึงหาดทรายรีอีกครั้ง แต่คราวนี้ผิดกับตอนเช้าลิบลับ คนพลุกพล่านมาก ฟีลเหมือนอยู่ถนนข้าวสาร ผมเลยเดินเล่นตามซอยต่างๆ ของขายเยอะครับ 80% เปนฝรั่ง อีก 20% เป็นพม่าครับ ไม่เจอคนไทยเลย
มื้อเย็นของผมครับ ไส้อั่ว แต่ทำไมเป็นไส้อั่วที่เปรี้ยวที่สุดที่ผมเคยกินมาครับ ไม่รู้เป็นสูตรเค้าหรือบูด...
รู้ตัวอีกทีมานั่งอยู่ Lotus Bar (ในตำนาน) แบบงงๆ ซะงั้น เนื่องจากยังหัวค่ำเลยยังไม่มีใครลุกขึ้นมาดีดดิ้นกัน
แล้วก็มีควงไฟกันตามประเพณี
หรือจะซื้อเบียร์เซเว่นเดินมาเนียนก็ได้นะครับ คือ Hoe นี่ผมไม่ได้หยิบนะ ผมหยิบช้างข้างล่าง 555
ก็นั่งเล่นจิบชิวๆ ไป ประมาณ 4 ทุ่มก็กลับครับ แหม่ะที่ร้านกำลังมันส์เลย แต่เนื่องจากกลัวอันตรายมาถึงตัว(เหมือนเมื่อตอนเช้ามืด -“-) และเด๋วจะขี่มอไซด์กลับไม่ไหวเลยกลับมานั่งจิบที่ที่พักอีกนิดหน่อยก็เข้านอนครับ พรุ้งนี้มีทริปดำน้ำแต่เช้า
บาร์หน้าที่พักก็ได้รับความนิยมใช้ได้นะ