Some Where : เกาะสีชัง : แว๊นซ์มันๆ เที่ยวรอบเกาะ
เกาะสีชัง….ได้ยินชื่อนี้มานานมาก
ภาพที่เห็นกันจนชินตา หนีไม่พ้นสะพานอัษฏางค์
แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปสักที แต่รอบนี้ไม่พลาดค่ะ
รีวิวนี้จะพาไปเที่ยวกันแบบมันส์ แว๊นซ์กระจาย
แต่ตอนพัก .. เราก็พักกันแบบหวานๆ สบายๆ นิดนึง กับที่พักเปิดใหม่ ที่พึ่งเปิดเมื่อเดือนพฤษภาคม นี้เอง
นั่นคือโรงแรม Some Where Koh Sichang
การเดินทาง
การเดินทางไปเกาะสีชัง เมื่อก่อนเราจะลงเรือกันที่ท่าเรือเกาะลอย
แต่ปัจจุบันท่าเรือเกาะลอยกำลังปิดซ่อมแซม ใช้เวลาประมาณ 2 ปี
ช่วงเวลานี้ให้เราไปลงเรือกันที่ท่าเรือจรินทร์นะค่ะ
แต่สำหรับคนที่พักที่โรงแรม Some where แล้วขับรถมาจากกรุงเทพ
แนะนำให้นำรถไปจอดที่โรงแรม Kantary Siracha เดินไปแจ้งที่หน้าฟร้อนท์
จะมีรถโรงแรมไปส่งที่ท่าเรือ และสบายใจหายห่วงเรื่องรถ
มาถึงท่าเรือซื้อตั๋วกันก่อนเลย
คนละ 50 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
เรือจะมีออกทุกๆ ชั่วโมง
บริเวณท่าเรือจะมีตุ๊ก ตุ๊ก มอเตอร์ไซค์รับจ้างมาคอยให้บริการเพียบ
ได้เวลาลงเรือกันแล้ว ….
วันนี้เรือลำไม่ใหญ่นัก ผู้คนก็ดูบางตา
นี่คือข้อดีของการไปเที่ยววันธรรมดา วันที่คนอื่นเขาทำงานการ
คนน้อย เดินทางสะดวก ที่พักราคาถูกกว่าเสาร์อาทิตย์
เมื่อเรามาถึงท่าเรือฝั่งเกาะราชา
จะมีทางเลือกให้เราสองทางเลือกคือ สกายแลป และมอเตอร์ไซค์
สกายแลปนำเที่ยววันละ 250- 300 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ วันละ 250-300 บาท (24 ชม.)
ตอนก้าวขาขึ้นท่าเรือ เราจะรู้สึกเหมือนโดนรุม ใครๆ ก็พากันแย่งเรา
แต่ทริปนี้เราเลือกใช้บริการทั้งสองอย่างเลย
เพราะเราไป 3 วัน 2 คืน
วันแรกเดินทางเข้าที่พักเรายังไม่เช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะคิดว่าวันแรกคงจะเน้นชิลๆ พักผ่อนอยู่ในโรงแรมก่อน
เราให้สกายแลปไปส่งที่พัก ราคา 60 บาท
และเช้าอีกวันเราแจ้งทางที่พักว่าต้องการเช่ามอเตอร์ไซค์ ทางที่พักจะจัดการให้ ค่าเช่า อยู่ที่ 300 บาท
มาถึงแล้วรีบไปเช็คอินกันก่อนเลย
โรงแรมของเราวันนี้ดูหวานแหววน่ารักเลยทีเดียว
ขนาดของโรงแรม ไม่ใหญ่โตนัก เล็กๆ กำลังน่ารักเลยค่ะ
มีจำนวนห้องไม่เยอะมาก
Welcome drink
เช็คอินเรียบร้อย ไปห้องพักกันเลย
ทางเดินน่ารักมาก แต่บางอารมณ์ก็ดูคลาสสิคดีนะ คล้ายๆวังจุฑาเทพ เวอร์ชั่นน่ารักๆ หน่อย
เพราะโทนสี
ห้องพักจะมีอาคารเดียว ซึ่งมี 2 ชั้น
ถ้าเราจำไม่ผัดชั้นละ 8 ห้อง (หรือเปล่าน๊า)
วันนี้ห้องที่เราพักอยู่ชั้นสอง ทางเดินขาวสะอาดมาก เพิ่มความหวานน่ารักด้วยสีฟ้า
ชอบๆ ให้อารมณ์อยู่ริมทะเลมุ้งมิ้งสุดๆ
มาถึงแล้วห้องพักของเรา
ขนาดห้องกว้างกำลังดีเลยค่ะ มีระเบียงด้านหลังด้วย
โทนสีในห้อง
ยังคุมโทนได้ดีเยี่ยม
เพราะยังคงเป็นสีฟ้า ขาว มีโซฟาเล็กๆ นุ่มๆ อยู่ตรงมุมห้อง
มีเก้าอี้หวานๆ ตรงมุมโต๊ะทำงาน
เพิ่มความน่ารักด้วยลวดลายบนที่นอน และบริเวณหัวเตียง
แอบเห็นว่าแต่ละห้องบริเวณหัวเตียงจะลายไม่เหมือนกันด้วยค่ะ แต่การตกแต่งอย่างอื่นคล้ายๆ กัน
ส่วนของข้าวของเครื่องใช้มีครบครันเลย ….
ออกมายืนดูตรงระเบียงห้องกันสักหน่อย
แม้ว่าจะเป็นโรงแรมเล็ก ๆ จำนวนห้องไม่มากนัก
แต่ที่นี้ก็ยังมีสระว่ายน้ำนะคุณ
ไหนๆ วันนี้เราก็ตั้งใจอยู่ในที่พักอยู่แล้ว
เราก็เล่นน้ำในสระกันก่อนละกัน ค่อยออกแว๊นซ์กันพรุ่งนี้
สระว่ายน้ำไม่ได้กว้าง หรือใหญ่โตมาก แต่ว่ายไปกลับก็เหนื่อยเอาการเลยนะ
ไปดูห้องอาหารกันบ้าง เพราะเย็นนี้เราทานข้าวกันที่ซัมแวย์นี่แหละ
เพราะไม่มีรถ จะเดินออกไปก็ขี้เกียจ
ห้องอาหารจะอยู่ติดกับล็อบบี้เลย
มีบาร์เล็กๆ ให้นั่งดื่มด้วย
ห้องอาหารยังคงเป็นสีฟ้า ขาว เหมือนกัน เพื่อมเติมสีเขียวนิดหน่อย
กับลายน่ารักๆ บนเก้าอี้ พึ่งสังเกตุนะนี่ ว่านี้คือลายต้นมะพร้าว
อาหารก็หลากหลายพอสมควรนะ มีทั้งไทย และเทศ
อารมณ์ฟาดฟู๊ดก็มานะ ชิ้นใหญ่มาก อิ่มไปถึงเช้า
สปาเก็ตตี้ผัดซอส เส้นนุ่มหนึบอร่อยดีจ้า
ซีซ่าสลัดไก่ย่าง
สเต็กหมู ซอสพริกไทยดำ
ทานอาหารเสร็จ เดี๋ยวจะพาเดินเล่นรอบๆ โรงแรมกันคะ
พูดยังกะโรงแรมกว้างเลยเนอะ
ช่วงเวลากลางคืนก็สวยไปอีกแบบนะ
ได้เวลาเข้านอนกันแล้ว
เช้าวันที่นี้ เราจะออกไปตระเวนเกาะสีชังกัน
ข้อผิดพลาดของเราคือ ลืมครีมกันแดดค่ะ
ใครจะมาแว๊นซ์ ห้ามเลยนะค่ะ ห้ามลืมเด็ดขาด
มอร์นิ่ง เช้าอันสดใส
ระเบียงหลังห้อง เห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วยน๊า
ทุกทริปสินะ ที่จะต้องตื่นเช้า ความตื่นเต้นสำหรับการเดินทางยังคงมีมากในทุกๆ ทริป
วันนี้เราแจ้งทางโรงแรมให้ติดต่อเช่ามอเตอร์ไซค์ ได้มาในราคา 300 บาท
นำมอเตอร์ไซค์มาส่งให้ถึงโรงแรม
แต่ก่อนออกเที่ยวก็ไปเพิ่มพลังกับอาหารเช้ากันก่อน
อาหารเช้าของที่นี้จะมีทั้งแบบสั่งจากเมนู และบัฟเฟ่ต์นะค่ะ
ชอบทั้งสั่งแบบ เพราะแม้จะเป็นแบบสั่งจากเมนู อาหารก็มีให้เลือกเยอะ สั่งได้ไม่อั้น
อิ่มแล้วก็ลุยกันเลย
โรงแรมอยู่กึ่งกลางของสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเลยก็ว่าได้
นุ้ยเริ่มจากทางซ้ายก่อน มุ่งหน้าไปยังหาดถ้ำพัง
วิวข้างทาง สวยเลยเป็นโขนหินที่มีต้นหญ้าขึ้นแซมเต็มไปหมด
หาดถ้าพังเป็นหาดที่มีทรายขาวละเอียด ผู้คนนิยมมาเล่นน้ำกันที่นี้
แต่วันนี้ เราขอแค่แว๊นซ์ ๆ ละกัน
บทสร้างภาพก็ต้องมานะจ๊ะ
และนี่คือยานพาหนะของเราวันนี้
Zoomer X รู้สึกว่าคันมันจะเล็กกว่าขนาดตัวเรา 2 คน
บริเวณนี้อยู่ใกล้ๆ กับหาดถ้ำพัง น่าจะเป็นอ่าวอัษฎางค์
ของจริงสวยกว่าภาพมาก
มันเป็นความชอบส่วนตัวนะ เราชอบอ่าวที่มีโขดหิน แบบนี้ มันให้ความรู้สึก แข็งแรง สวย น่ากลัว
ท้าทาย อยากให้ไปยืนอยู่ตรงนี้ แล้วจะสัมผัสได้
ขับรถไปต่อกันเรื่อยๆ
ที่เราเห็นกันอยู่ไกลๆ คือ พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิตร
เราไปต่อกันที่ พระจุฑาธุชราชฐาน
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังที่สุดในเกาะสีชังเลย
แต่ฟังจากชื่ออาจจะไม่คุ้นกัน แต่ถ้าบอกว่าเป็นสะพานอัษฎางค์ ร้องอ๋อ กันเลยใช่มั๊ย
สาระกันสักนิด พระจุฑาธุชราชฐาน นอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ แลัวยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร เนื่องจากในอดีตมีพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์เสด็จมาประภาสพักผ่อนที่นี่ คือรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” ปัจจุบันได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เเละสถานที่ท่องเที่ยวให้แก่ประชาชนทั่วไป
จุดเด่นคงนี้ไม่พ้นสะพานไม้แห่งนี้
จุดมหาชน ที่ใครๆ มาก็ไม่พลาดจะมาถ่ายรูปกันที่นี้
เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนถึงเรือนไม้ริมทะเล
เป็นเรือนไม้ที่คลาสสิคมาก โดดเด่นด้วยสีเขียวเข้ม
เรือนไม้หลังนี้ยังเป็นสถานที่ขายอาหารว่างขนม และเครื่องดื่มอีกด้วย
ด้านในจะเป็นแบบนี้
มุมนั่งเล่น นั่งพักผ่อนมีอยู่รอบๆ เลย เหนื่อยก็พัก แต่เราเดินไปต่อกันเรื่อยๆ ดีกว่าเนอะ
ใกล้ๆ กันจะเป็น พระที่นั่ง มันธาตุรัตนโรจน์
ตอนนี้เป็นเพียงแค่รากฐาน แอบอดคิดไม่ได้ว่าแต่ก่อน พระที่นั่งริมทะเลแห่งนี้
จะสวยงามขนาดไหน
เดินมาจนถึงเรือนวัฒนา
เราไม่ได้เดินเข้าไปด้านในเพราะวันนี้สถานที่แห่งนี้มีการเตรียมอะไรสักอย่างอยู่ด้านใน
และในบริเวณนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกเพียบ มาแล้วเพื่อนๆ ต้องเดินดูกันให้รอบนะ
ต่อจากนั้น ความร้อนเริ่มมาเยือน
เรามองหาร้านกาแฟนั่งเล่น
มองไปมองมา ก็เห็นร้านนี้แหละ น่านั่งสุด
เข้าไปเลยค๊าา ร้านหาไม่ยาก อยู่ติดถนนเลย
ภายในร้านก็คิกคุ๊ น่ารักดี
จัดไปเครื่องดื่มคนละแก้ว ก่อนแวะไปทานอาหารเที่ยงที่ซัมแวย์
เหตุผลสำหรับการกลับมาทานอาหารเที่ยงที่ซัมแวย์ เพราะช่วงเวลากลางวันค่อนข้างร้อนมาก
ขอแวะมาพักก่อนสักพัก เพราะสถานที่ท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมากจนเราต้องฝ่าแดดเที่ยง
เมนูสิ้นคิดที่ยังคงอร่อยเสมอ แต่สำหรับต้องเป็น กระเพรากุ้ง ของต้นก็เป็นกระเพราเนื้อสับ
แต่ความอ้วนไม่เคยปราณีใคร ตามด้วยราดหน้ากุ้งอีกสักจาน
เป็นท้ายด้วยของหวาน ฮันนี่โทสต์ แสนอร่อย
บอกเลยว่่าอร่อยจริงๆ น่าจะเป็นสูตรเดียวกับ แคนทารี่คาเฟ่นะ
เที่ยงๆ ถ้าเพื่อนขับรถเที่ยวกันเหนื่อยๆ ร้อน ๆ แวะมาทานอาหารที่นี้ก็โอเคนะ ร้านน่านั่งมีขนม และเครื่องดื่มด้วย
ช่วงบ่ายๆ เราออกไปเที่ยวต่อ
เริ่มต้นกันที่ไปกราบสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขา “คยาศิระ” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่บรรดาชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ
ให้ความเคารพสักการะเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องค้าขายและการงาน
ศาลเจ้าเป็นอาคารใหญ่ลักษณะทรงวิหารจีน ส่วนองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่จะอยู่ภายในถ้ำบนเขานั่นเอง
นอกจากองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่แล้วภายในยังเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าพ่อเห่งเจีย
เจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจาย และองค์เทพต่างๆ อีกด้วย
วัดด้านบนเป็นถ้ำต้องเดินขึ้นบันไดมังกร ไม่สูงมากค่ะ แต่ก็ได้เหงื่อเลยทีเดียว
ยังมองเห็นวิวทะเลบริเวณท่าเรืออีกด้วย
หลังจากการสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่
เรามุ่งหน้าไปยัง มณฑปรอยพระพุทธบาท
บนเนินเขาเหนือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้นไป เป็นที่ตั้งของรอยพระพุทธบาทที่ อัญเชิญมาจากอินเดีย
และเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งสองนี้อยู่สูงสุดของสิ่งก่อสร้างทั้งหมดบนเกาะสีชัง
เขาว่ากันว่า ถ้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดนี้จะสวยมาก และสามารถมองเห็นเกาะสีชังทั้งเกาะ
ก่อนพระอาทิตย์ตกไม่นานนัก
เรารีบขับรถไปยังช่องเขาขาด ไปดูพระอาทิตย์ตกกันที่นี้ค่ะ
ช่องเขาขาด หรืออีกชื่อนึงคือ ช่องอิศริยาภรณ์
เป็นอีกจุดที่ทุกคนไม่ควรพลาด แม้จะไม่ได้รอดูพระอาทิตย์ตก
ที่นี้ก็มีความสวยในตัวเอง ด้วยลักษณะของช่องเขาที่ลัดเลาะริมทะเล
มีทางเดินเป็นสะพานสีขาวทอดยาวไป
หรือจะเดินทางด้านล่าง ลัดเลาะริมทะเลไป
แสงยามเย็นสวยสุดๆ แต่วันนี้เมฆเยอะไปสักหน่อย ทำให้ไม่เห็นดวงอาทิตย์
แต่ฟิวของการมาเดินเล่นนั่งเล่นที่นี้ รู้สึกดีมากสถานที่สวย
ธรรมชาติมีอะไรดึงดูดเราได้ตลอดเวลาจริงๆ ลมพัดเย็นๆ นั่งร้องเพลงคลอเบาๆ ดูแสงอาทิตย์ที่เปลี่ยนไปเรื่อย
ทริปวันนี้เป็นทริปที่สนุก และมีความสุขมากๆ
กลับมาถึงที่พักก็เผลอหลับไปแปบนึงตื่นมาก็เล่นน้ำกันต่อเลย
เพราะความสดชื่อก่อนจะไปทานอาหาร
มื้อนี้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพิซซ่า
กลางคืนหมดแรงหลับปุ๋ยเลยทีเดียว
เพราะต้องเก็บแรงไว้อีกวัน
เพราะวันนี้เราตื่นกันเช้ามาก ตั้งแต่ ตีห้าครึ่ง
เพื่อกลับมาที่นี้อีกรอบ
มารอดูแสงแรงของวัน
ทุกๆ วันของเรา ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย
ต้องการเพียงแค่เรายังยืนอยู่ข้างกันๆ ดูแลกันก็พอ
บ๊ะบายสีชัง เราเจอกันอีกน๊าา
เราว่าทุกๆ การเดินทาง ทุกๆ สถานที มีเรื่องราวให้จดจำมากมาย
ที่มากกว่านั้น คือประสบการณ์ ที่เราจะไม่มีทางหาจากที่ไหนได้เลย
ถ้าไม่ไปเจอด้วยตัว …. จูงมือคนข้างๆ ออกมาเที่ยวกันเถอะ
แบบ VDO ก็มีน๊าา
คลิปที่พัก Some where Koh Sichang
คลิปท่องเที่ยวเกาะสีชัง
ข้อมูลที่พัก
Some Where Koh Sichang
http://www.somewherehotel.com/th
194, 194/1 หมู่ 3 ถ.ท่าเทววงษ์ ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี 20120
โทรศัพท์: +66 (0) 3810 9400
อีเมล์: reservations@somewhere-kohsichang.com
——————————-
ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับการติดตามกันนะค่ะ
ทักทายกันได้ที่ช่องทางเล่านี้
Facebook : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/
Instagram : https://www.instagram.com/mylifemytravel/
Website : http://www.mylifemytravels.com/
YouTube : https://goo.gl/Gync7Y