Babybackpacker in Koh Phayam , Ranong
สวัสดีค่ะ รีวิวแรกในชีวิต ไม่กล้าเรียกรีวิวเต็มปากเพราะไม่สามารถบรรยายรายละเอียดออกมาได้ทั้งหมด มีแต่ความอยากอวดล้วนๆของแม่ที่อยากอวดเด็กเพิ่ง 2ขวบที่ไปเที่ยวแบบ Backpacker ผิดพลาดอะไรยังไง ให้จุ๊บแก้มเด็กในภาพทีนึงนะคะ ^^
รูปทั้งหมดถ่ายจากมือถือกากๆของแม่ อาจเบลอบ้าง ไม่ชัดบ้าง แต่ประสบการณ์ใน Memmory card ของเด็กชัดเจนมากแน่ๆค่ะ ทริปนี้เป็นที่ๆ 5 แล้ว ตั้งแต่เด็กชายตัวจิ๋วเกิดมา บ้านเราเป็น Backpacker ค่ะ คุณพ่อทำงานประจำ แม่ลางานประจำออกมาอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงลูกและทำงานในเน็ต พอมีตัวจิ๋วก็ยังสนุกไปกับการแบกเป้อยู่ แค่มีเป้เพิ่มขึ้นอีกใบก็เท่านั้น ความพยายามในการไปเกาะพยามครั้งนี้ เป็นเพียงเพราะข้อจำกัดที่เรามีเด็กเล็ก ทำให้ต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ๆมีผู้คนมากเกินกว่าที่จะควบคุมลูกได้ เพราะการมีเด็กเล็กไปเที่ยวต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพทางหูและสายตาของส่วนรวมนะ แต่ถึงเราจะมี backpackตัวจิ๋วไปด้วยในทุกทริปตั้งแต่ 1ขวบเป็นต้นมา เราก็บอกลูกเสมอว่า ทุกครั้งที่แบกเป้ " อย่าลืมแบกมารยาทและความใส่ใจคนรอบข้างไปด้วย " ทริปนั้นจะ Happy and cozy ที่สุด " เพราะลูกเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน "...... ความพยายามในการเดินทางทริปที่ 5ของเราเป็นผลแล้วเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการพยายามเพื่อฉลองวันเกิดให้ Backpackตัวจิ๋วครบ 2ขวบเต็มพอดิบพอดี ไปเที่ยวเกาะพยามด้วยกันนะคะ ^^
#BabyBackpacker #PooppupinPhayam
. เราออกจากบ้านด้วยการแบกสัมภาระหนักเกือบ 10 กิโล ของพ่อ ครึ่งกิโลของลูก และ 5กิโลของแม่ ออกจากบ้าน ไปห้อยขาบน Bts นั่งยาวๆสุดสายไปลงสถานีบางหว้า และโบกแท๊กซี่ไปสายใต้ใหม่ ถึงสายใต้ก่อนเวลาเกือบ 2ชั่วโมง เพราะเรากลัวรถติดและไม่ชินทาง เผลอๆหลงเอาง่ายๆ ถึงก่อนมั่นใจกว่า แล้วก็ได้รับรู้ว่า สายใต้ใหม่นั้น เป็นแหล่งละลายทรัพย์ชั้นดีของผู้เดินทาง ก็เล่นมีทุกอย่างยังกะตลาด ห้างสรรพสินค้าย่อมๆ kfc , blackcanyon สารพัดเลย ระหว่างรอรถก็ทั้งกิน วิ่งเล่น แม่จัดการเด็กให้เหนื่อยด้วยการพาไปวิ่งตรง zone ที่เค้ามาทำ passport กัน เค้าปิดไปตั้งกะ 4โมง พื้นที่โล่งๆว่างๆ ไร้ผู้คน มีเก้าอี้นวดหยอดหรียญ 10บาท ด้วย ทำเอาเด็กใส่ไม่ยั้ง วิ่งสนุกสนานมาก หารู้ไม่เป็นกลอุบายแม่ที่หลอกให้เหนื่อยจนง่วง 20:50 รถเตรียมตัวออก เด็กบอก แม่ ขอกินนม เอาแล้วไง ความสงบกำลังจะมาเยือน 3ทุ่มกว่าๆ ทั้งรถปิดไฟเงียบ พร้อมกับ backpack ตัวจิ๋วที่หลับสนิท ส่วนพ่อกับแม่มันตาโพลงดูหนังกันไป ....
รถทัวร์ สมบัติทัวร์ กรุงเทพ -ระนอง VIP 24 seat รอบดึกที่สุดเหมาะสมกับ Backpack ตัวจิ๋วที่จะตีตั๋วนอนยาวๆ ตลอดทาง ปล. รถแวะกินข้าวต้นที่ประจวบแป๊บนึงนะคะ
เมื่อเป้เล็กต้องห้อยรวมกับเป้ใหญ่ หนักแค่ไหนก็มีกำลังใจแบก ^^
backpack ตัวจิ๋วยังกินนมแม่ เพราะฉะนั้นแสนสะดวกสบาย สด สะอาด ปลอดภัย แน่นอน
เช้าแล้วที่ระนอง เราถึงบขส.ตามแพลนที่วางไว้คือ ก่อน 6โมง ก่อนเดินทางได้ทำการนัดแนะรถจากบ้านลุงเงาะให้มารับเพื่อไปส่งท่าเรือ แต่ด้วยความที่เราไปถึงเช้ามากคุณป้า บอกว่าไปเที่ยวมั้ย เฮ้ย!! ได้การดิ แอบแพลนจะไปน้ำพุร้อนพอดี ตกลงใจกันเสร็จสรรพ ก็มาโผล่ที่นี่ น้ำพุร้อน เมืองระนอง
เป็นความโชคดีของคนที่นี่ และน่าอิจฉามากมาย มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ ภายใต้สวนสาธารณะร่มรื่น เปิดบริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง เราไปถึงกันเช้ามาก อากาศดีเวอร์วัง ขอแม่แอบอิงแช่เท้า ส่วนพ่อมันแช่ตัวไปเรียบร้อย รูป 18+ คล้ายพยูนเกยตื้นจึงไม่เหมาะแก่การนำมาเผยแพร่ 5555
Backpack ตัวจิ๋ว ตื่นเต้นกับไอร้อน ควันลอยฟ่องจากบ่อพ่อ ถือเป็นการเรียนรู้ไปอีกขั้น แม่นั่งอธิบายปากเปียกปากแฉะไป ลองเอาน้ำแตะๆให้รู้ว่ามันร้อนกว่าปกติ เดินเล่นรอบๆ ชื่นชมบรรยากาศยามเช้า ก่อนต้องไปผจญภัยต่อ
คนพื้นที่บอกว่า นี่คืออีกสัญลักษณ์เมืองระนอง "สองแถวไม้ " คันนี้น่ารัก จอดอยู่หน้าบ่อน้ำพุร้อน
ออกจากบ่อน้ำพุร้อนประมาณ 8โมง ก็มาซื้อตั๋วเรือรอที่บ้านคุณป้า ( บ้านลุงเงาะ) ที่นี่รับฝากรถด้วยนะคะ มีตั๋วเรือหลากหลายเจ้าให้เลือก วันนี้เราเลือกเรือเมล์ของท่าเรือไต๋แขก เพราะการันตีจากคุณป้าแล้วว่า สะอาด และดีที่สุด ราคาคนละ 200 บาท ส่วนไอ้ตัวจิ๋ว ฟรี ไม่คิดตังค์ ไปกันเหอะ เรือออกแล้ว ^^
รถสามล้อพ่วงลุงเงาะเอาไว้ส่งลูกค้าไปท่าเรือ ไอ้ตัวจิ๋วไปเจิมมาละเรียบร้อย
cozy ที่สุด
นอนกันที่นี่ lazy hut การันตี ที่พักดี บริการดี และอาหารอร่อยสุดๆ
เราเลือกนอนห้อง luxury เพราะมีมุ้งลวดกันยุงให้เด็ก และใกล้หาดมากๆค่ะ
เปลี่ยนที่วาดรูป
อ่าวเขาควาย ^^
ที่สุดของทริปนี้คือ นกเงือก เราเจอเย็นวันแรกที่ต้นไทรท้ายโขดหินช่วงปลายอ่าว เช้าตื่นมาเจออีก ครั้งนี้มากัน 2ตัว พี่ยอดเจ้าของ lazy hut บอกว่าบางวันพากันมาทั้งครอบครัว เกิดมาไม่เคยเจอนกเงือกตามธรรมชาติตัวเป็นๆระยะใกล้ๆแบบนี้มาก่อน ตื่นเต้นมากกว่าตัวจิ๋วซะอีก เพราะตัวจิ๋วรู้เพียงแค่ แม่!! that's bird ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
Bye Bye แล้วนะ Phayam แบกตัวจิ๋วขึ้นคอ รีบจ้ำสุดชีวิต ร้อนประหนึ่งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย แต่ไม่วายถ่ายรูป
600 กิโลเมตรจากกรุงเทพ 3 วัน 2 คืนที่เราติดเกาะ ลูกสอนอะไรเรามากมาย เค้าทำให้เรารู้ว่าเด็กเล็กๆอย่างเค้า มองเราตลอด เห็นเราเป็นกระจก และพร้อมจะซึมซับสิ่งที่เราเป็นเพื่อเอาไปเลียนแบบ มันเลยกลายเป็นไฟลท์บังคับที่ทำให้เราต้องสะกิดตัวเองอยู่บ่อยๆว่า อะไรควรทำไม่ควรทำ ได้เรียนรู้ว่าเราควรสอนอะไรลูกบ้าง เพราะการเดินทางด้วยรถสาธารณะ การใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกับคนอื่นๆ มันย่อมต้องมีมารยาทและระเบียบวินัย อีกส่วนนึง เราต้องยึดลูกเป็นหลัก เราถามลูกตลอดร้อนมั้ย ถ้าร้อนก็กินน้ำ เราเตรียมของ support ลูกทุกอย่าง เสื้อผ้า ยา ของเล่น และของจำเป็น ร้อนก็ใส่หมวก เอาผ้าเย็นเช็ดหน้า กินน้ำสะอาด เหนื่อยก็หยุด พอ เลิกเล่นก่อน หิว ก็กินข้าว นั่งกินเป็นที่เหมือนที่บ้าน ปล่อยให้วิ่งอิสระในพื้นที่ๆปลอดภัย และเมื่อเด็กได้เจอปลาตัวจริงๆ ปู ปูเสฉวน นกเงือก เหยี่ยวแดง และสารพัดที่มีอยู่ในคลังศัพท์ของเด็ก 2ขวบคนนึงจากหลายวิธีที่แม่เคยสอน เด็กที่พูดๆน้อยกลายเป็นขุดรื้อคำพูดมาจากไหนไม่รู้มากมายจนแม่รำคาญด้วยซ้ำ ถึงเวลาก็นอน มันง่ายมากสำหรับเด็กอย่างbackpack จิ๋ว จะมีงอแงง่วงนอนบ้าง หิวบ้างแต่เราก็พร้อมที่จะเคลียร์ปัญหาเหล่านั้น แล้วมันก็ผ่านไปด้วยดี
แล้วถ้ากังวลเรื่องความสะอาดละ ? ไปไกลแบบนั้น อาหารเอย สิ่งแวดล้อมเอย ไม่กลัวเหรอ? ไม่กลัวดิ เตรียมให้พร้อมก็ไม่กลัว เราให้นมแม่จากเต้าตลอด เราเลยไม่กลัวว่าลูกจะไม่ได้รับอาหารที่สะอาด เราเลือกที่จะมองว่า อันนี้ร้านนี้ยังสะอาดไม่พอ เราก็งดไม่ให้กิน จนกว่าเราจะมั่นใจว่าสะอาด ลูกกินนมแม่แก้หิวก่อน แต่การออกทริปเรื่องการหาร้านอาหารสำคัญมากนะ หาไว้ก่อนคุยไว้ก่อนเลย เพื่อความชัวร์ ยิ่งลูกขี้แพ้แบบนี้ยิ่งต้องรอบคอบ ยิ่งออกทริปตจว. ไกลๆมากๆ รพ. ไม่มีนะคะ มีแต่สถานีอนามัยเตรียมให้พร้อมดีสุด แผ่นแปะกันยุง ยาทากันยุง อาหารแบบพกพา และอีกอย่างที่เราไม่กังวล เรามีนมแม่เราไม่กลัวว่าลูกจะงอแง เพราะเค้ากอดเรา เรากอดเค้าอยู่ตลอด ลูกไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เสียงเรือดัง เสียงตุ๊กแก หมาเห่า แมววิ่ง อุ้มลูกมากอดแล้วอธิบายว่า มันคืออะไร แค่นั้น ก็พอ
ความสุขของพ่อแม่ มันไม่ใช่แค่การสนองความต้องการของตัวเองว่าอยากเที่ยว อย่าเอาความอยากของตัวเองมาใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการทำอะไรๆ เป้าหมายใจความสำคัญที่พาลูกออกเที่ยว หรือ ทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ต้องมีการวางแผน มีการคาดหวังจากแผน ส่วนแผนบ้านเราแค่ต้องการให้เค้าเห็น หยิบดู สัมผัส ทดลอง เหยียบลงบนพื้นที่จริงๆ ที่ไม่ใช่ในภาพจากนิทานที่แม่เล่า เมื่อเล่าเรื่องด้วยจินตนาการแล้ว ต้องพามาให้เจอสิ่งที่เค้าจินตนาการไว้ด้วยว่ามันใกล้เคียงกันรึเปล่า ค่อยอธิบาย เล่า บอก และสร้างความคิดแนบไปกับสิ่งที่เค้ารับรู้จากจินตนาการของเค้าเอง ใส่เท่าที่ใส่ได้ ใส่แบบพอดี ไม่ยัดเยียด เลือกที่เค้าชอบก่อน พ่อแม่เลี้ยงลูกย่อมเห็นอยู่แล้วว่าลูกชอบอะไรไม่ชอบอะไร ทริปนี้โหดกว่าทุกทริปแต่จบลงด้วยดีไม่มีแม้แต่เสียงโวยวาย เราไม่ขออธิบายบรรยายภาพมากมาย เพราะเราเชื่อว่าภาพแต่ละภาพ มีความหมายในตัวมันเอง สิ่งที่เราอยากบอกคือ ตัดข้อจำกัดบางข้อออกจากชีวิตบ้างแล้วจะพบว่า การออกไปเที่ยวมันช่วยให้คุณได้พบประสบการณ์ใหม่ๆที่คุณไม่มีวันลืม ในเมื่อตัวจิ๋วบ้านนี้ยังเที่ยวได้ แล้วคุณละ ลางาน เก็บเสื้อผ้า แล้วเดินทางกันเถอะ !!!!!!
See you next trip นะฮะ !!!! <3
#Babybackpacker #Pooppup