ช่วงหลัง ๆ มานี้ หมู่เกาะทะเลพม่ากำลังบูมมาก ๆ เห็นหลาย ๆ เว็บเริ่มมีการรีวิวถี่ขึ้น ๆ ผมก็ชอบเข้าไปนั่งอ่าน นั่งดูรีวิว ดูรูป สวย ๆ ดูธรรมชาติยังคงดิบ ๆ อยู่มาก ๆ ในใจก็คิดว่า คงต้องไปลองดูสักครั้งนึงเพราะแถบระนอง ยังไม่เคยได้ลงไปเที่ยวเลยเหมือนกัน เกาะพยามว่าจะไปหลายครั้ง ๆ แต่แผนก็มีอันล่มไป ไม่ได้ไปสักกะทีจนในที่สุดโอกาสมาเที่ยวเมืองระนองนั้นก็มาถึง

เมื่อกลางปีที่แล้ว (2016) ทางแฟนเพจของแกรนด์อันดามัน (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นแกรนด์แทรลเวลแล้ว) เขาได้จัดกิจกรรมประกวด การตั้งชื่อลากูนกลางเกาะ ที่เขาเพิ่งค้นพบขึ้นใหม่ ที่หมู่เกาะทะเลพม่า ใกล้ ๆ กับเกาะหัวใจมรกต ผมก็เลยลองส่งชื่อเข้าไปร่วมประกวดด้วยโดยตั้งชื่อลากูนนั้นว่า หัวใจไพลิน ให้คล้องจองกับ หัวใจมรกต ปรากฎว่า โชคดีมาก ชื่อที่ตั้งไป ติด 1 ใน 10 ชื่อที่ทางแฟนเพจชอบ ผมก็เลยได้รางวัลมาเป็นแพคเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน ฟรี…. ความรู้สึกตอนนั้นคือ ดีใจมาก นาน ๆ จะมีโชคกับเขาแบบนี้เสียที จากนั้นก็ตั้งตารอ เพราะช่วงที่ได้รางวัลนั้นเป็นปลายเดือนกันยายน ฤดูฝนพอดี ถ้าไปช่วงนี้คงไม่เหมาะ เลยจองเป็นช่วง ปลายเดือน กพ. หมดหนาวเข้าหน้าร้อนพอดี

ผมเลือกเดินทางโดยใช้บริการรถทัวร์ เพราะเครื่องบินไประนอง มีเจ้าเดียวและราคาค่อนข้างสูง รถทัวร์ไประนองก็มีหลายเจ้าแต่ครั้งนี้ผมเลือกใช้บริการสมบัติทัวร์ เพราะเคยนั่งตอนไปเชียงใหม่นานมาแล้ว สภาพรถโอเคเลย

ผมเลือกจองตั๋วรถแบบ Supreme รอบ 20.50 ทั้งขาไปและขากลับ เบาะใหญ่นั่งสบาย แถมมีจอทีวีส่วนตัว มีหนัง คอนเสิร์ต การ์ตูน ให้ดูด้วย มีช่องเสียบ USB ไว้ชาร์ทแบตอีกต่างหาก 

ผมได้โทรไปจองทริปกับแกรนด์แทรลเวล ก่อนเดินทาง 1 เดือน แต่ปรากฎว่า 2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง ทางแกรนด์โทรมาบอกว่า วันที่ผมจองไป คืนแรก (พฤหัสบดี) ไม่มีแขกพักที่เกาะตาฟุ๊คเลย เขาเลยอยากจะขอเลื่อนให้ไปพักเป็นวันศุกร์แทน จะได้ไหม โชคดีที่ รร. ที่จองไว้ยังไม่ได้จ่ายเงิน เลยขอยกเลิกได้ แต่แผนเที่ยวที่วางไว้ตอนแรกก็ต้องปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ไม่เป็นไร หยวน ๆ

และแล้ว วันเดินทางก็มาถึง…

ผมออกจากสายใต้ใหม่ 20.50 จริง ๆ ต้องมาถึงระนอง 6.15 แต่ปรากฎว่า มาถึงระนองจริง ๆ 7 โมงกว่า ๆ เนื่องจากรถติดมากตรงช่วงบางสะพาน พอลงจากรถทัวร์ รถตู้ของแกรนด์ก็มารับไปส่งที่โรงแรมเพชรระนอง จองผ่านอโกด้ามาเรียบร้อย พอไปถึงโรงแรมมีห้องว่างพอดี เลยขนของเข้าห้องได้เลย ถ้าปกติต้องเช็คอินเข้าตอนบ่ายสอง โชคดีจริง ๆ โรงแรมนี้จะออกเป็นแนวอพาร์ตเมนต์ ตึกยังใหม่มาก ทำเลดี ใกล้ถนนคนเดินวันเสาร์ด้วย ภายในห้องพักสะอาด ตกแต่งห้องน่ารักๆ

หลังจากเก็บของเสร็จ รถตู้ของแกรนด์ก็พาเราไปร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ วันนี้จะพักผ่อน ได้แวนซ์ ๆ อยู่ในเมือง 1 วัน แต่พอไปถึงร้านเช่ารถพลเพลส ปรากฎว่ารถมอเตอร์ไซต์เช่าหมดแล้ว ทำไงต่อล่ะทีนี้ เหอ ๆ ทางร้านพลเพลสแนะนำให้ไปเช่าอีกร้านแทน ชื่อร้านเก๋ไก๋ อยู่ถัดไปอีกนิดนึง โชคดีที่ยังมีรถว่าง เราเลยได้ออกแวนซ์สมใจ อ่อร้านเก๋ไก๋ หาไม่ยากครับ อยู่ติดกับโรงแรม The B Ranong เลย เจ้าของร้านใจดี แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่กินให้เราเสร็จสรรพครับ 

พอได้มอไซต์แล้ว ไปหาของกินกันดีกว่า เช้านี้ไปกินโจ๊กกะโรตีเบา ๆ รองท้องและกัน ผมเลยเลือกไปร้านร้านบังกีโรตีอาหรับ เคยเปิดเจอในเว็บดูน่ากินดี แถมไม่ไกลจากโรงแรมด้วย จากร้านเก๋ไก๋ ขับตรงไป เจอสามแยก เลี้ยวซ้ายก็จะถึงโรงแรมเพชรระนองและ ใกล้มาก ขี่ตรงไปอีกหน่อยจะเจอแยกเลี้ยวซ้าย ขี่ไปอีก 400 เมตร ด้านขวามือ จะเจอร้านร้านบังกีโรตีอาหรับ ถ้าไปไม่ถูกลองดูตามแผนที่นี่เลย 

เมนูที่นี่มีให้เลือกเยอะมากโดยเฉพาะโรตี ส่วนอาหารอย่างอื่นก็เป็นพวกโจ้ก ข้าวต้ม ข้าวหมกไก่ เครื่องดื่มพวกชา กาแฟ ก็มีให้เลือกสั่งมากมากมาย

อันนี้เป็นโจ๊กไก่ใส่ไข่ อารมณ์ประมาณเอาโจ๊ก มาเติมน้ำซุปลงไป ใส่ไก่ฉีก น้ำซุปหอม หวาน อร่อยดีเหมือนกัน ด้านหลังจะเป็นโรตีอาหรับ แป้งหนา นุ่ม จิ้มกินกับนมอย่างอร่อย

อันนี้เป็นโรตีไส้กรอก ลองสั่งมากินดู แต่อร่อยเกินคาด

หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็แวะไปไหว้พระ ที่วัดหาดส้มแป้น วัดนี้จะอยู่ตรงทางไปบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน ขี่เลยบ่อน้ำร้อนไปอีก ผมก็ดูป้ายบอกทางไปเรื่อย ๆ ปรากฎว่าช่วงเลี้ยวเข้าวัดไม่ทันมองป้ายเลยหลง ขี่ขึ้นเขาเลยไปหลายกิโลเลย แต่ทางสวยมาก ๆ

หลังจากไหว้พระเสร็จ ก็แวะให้อาหารปลากันหน่อย แต่มีนกพิราบมาร่วมแจมด้วย เอ้า แบ่ง ๆ กัน

ระหว่างทางกลับ ตอนแรกกะจะแวะไปแช่น้ำร้อนที่บ่อน้ำร้อนรักษะวาริณสักหน่อย ปรากฎว่าเจอรถบัสนักเรียนมาทัศนศึกษากัน 3 รถบัส เด็กนักเรียนเดินกันเยอะมาก ผมก็เลยเปลี่ยนใจ กลับโรงแรมไปนอนพักสักหน่อยแล้วบ่ายแก่ ๆ ค่อยออกมาใหม่ ปรากฎว่าหลับเพลิน ตื่นมาอีกทีก็เย็นเลย 5555 เลยออกไปถ่ายรูปที่พระราชวังรัตนรังสรรค์แทนแล้วกัน แสงตอนเย็นน่าจะสวย 

ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป้นสีส้ม

ที่นี่อารมณ์จะเป็นเหมือนสวนสาธารณะ มีคนมาวิ่ง มาเดิน  มีเด็กน้อยมาวิ่งเล่นกันสนุกสนาน แต่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ บรรยากาศดูสบาย ๆ

รถตู้ของแกรนด์แทรลเวลจะมารับเราที่โรงแรมแต่เช้า ประมาณ 7 โมงกว่า ๆ  เพื่อไปยังท่าเรือแกรนด์อันดามัน ใช้เวลาเดินทางไม่นาน รถตู้จะมาส่งเราที่ออฟฟิสท่าเรือแกรนด์อันดามัน ใครยังไม่ได้หม่ำข้าวเช้ามา ตรงนี้จะมีข้าวต้ม ขนมปัง ให้กินรองทองด้วย จัดไป… 

หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย เราก็จะได้สายรัดข้อมือกับเอกสารผ่านแดนมา จากนั้นก็ฟังไกด์เรียกขึ้นรถเพื่อไปยื่นเอกสารผ่านแดน ตรงบริเวณท่าเรือ โดยเขาจะเรียกตามสีสายรัดข้อมือ ของผมได้สีชมพูหวานแหววเชียว

หลังจากยื่นเอกสาร สแกนบัตรประชาชนเสร็จ ตม.ปั้ม ตุ๊บ ๆ เป็นอันเสร็จพิธีแดนไทย ก็เอาเอกสารนั้นส่งคืนให้ไกด์ เพื่อที่ไกด์จะเอาไปยื่นให้ ตม. ฝั่งพม่า ตรงนี้เราไม่ต้องลงไปยื่นเอง นั่งรออยู่ในเรือเลย

เสร็จแล้วเราก็เดินออกไปยังท่าเรือกันเลย

นั่งรอเรืออยู่พักใหญ่ ๆ เลยกว่าเรือจะมารับ ระหว่างนี้ไกด์ก็จะแนะนำเราเบื้องต้นว่า วันนี้เราจะไปดำน้ำจุดไหนกันบ้าง ตามแผนที่ด้านบนเลยครับ

เย้ ๆ เรือมาแล้ว ต่อแถวลงเรือกัน ฟังไกด์เรียกตามสีของสายรัดข้อมือเลยเน้อ สีชมพูพร้อม..มาก 

แต่ก่อนออกเดินทาง เรือต้องแวะไปรับไกด์ชาวพม่าที่เกาะสองเดินทางไปกับเราด้วย

หรือเกาะเกือกม้า ที่ชื่อนี้เพราะเกาะแห่งนี้มีชายหาดที่ขาวสะอาดและโค้งคล้ายกับ “เกือกของม้า” นั่นเอง ถ้ามองไม่เห็นภาพ ดูจากภาพนี้เลย

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.grandetravel.com

เรือจะมาจอดส่งสตาฟลงเกาะก่อน ให้สตาฟลงไปจัดเตรียมอาหารเที่ยงให้เรา ก็ถ่ายรูปในเรือวน ๆ ไป  น้ำใสมาก

เนื่องจากตอนนี้น้ำกำลังลงอยู่ เขาเลยพาเราเข้าไปเที่ยวเกาะหัวใจมรกตกันก่อน จากเกาะฮอร์สชูนั่งเรือไป 10 นาที 

เกาะนี้จะไม่มีชายหาด แต่จะมีลากูนสีมรกตอยู่ด้านใน ถ้ามองจากมุมสูงจะคล้าย ๆ เป็นรูปหัวใจสีมรกต เขาก็เลยเอามาตั้งชื่อภาษาไทยว่า เกาะหัวใจมรกต ผมไม่มีโดรน ขอนำภาพจากเว็บแกรนด์แทรเวลมาให้ดูแทนล่ะกัน ครับ

เรือจะมาจอดส่งเราตรงหน้าปากทางเข้า เราต้องว่ายน้ำเข้าไปคล้าย ๆ กับถ้ำมรกตที่ตรัง แต่ที่นี่ ระยะทางจะสั้นกว่าไกด์ก็บอกว่าให้ทุกคนเตรียมตัวใส่สนอร์กเกิ้ลให้พร้อม จากนั้นให้รีบโดดลงไปแล้วรีบว่ายเข้าไปด้านในเลย เพราะถ้าช้า จะถูกคลื่นตีกลับออกมาอีก ไกด์บอกว่าปากทางเข้าจะมีพวกกัลปังหากับแส้ทะเลเยอะมาก ให้ลองสังเกตุดู ว่าแล้วก็เตรียมตัว เตรียมกล้องใต้น้ำ พร้อมแล้วก็โดดลงไปเลย ว่ายฟรีสไตล์รีบเข้าไป ให้พ้นเรือก่อนเลย…. 

ด้วยความรีบร้อนตีขา เกร็งขา บวกกับน้ำที่เย็นมาก ทำให้ขาผม ตะคริวจะขึ้น….T__T พอรู้ว่าตะคริวจะขึ้น ผมก็รีบนอนหงายก่อนเลย ปล่อยขา ค่อย ๆ ประคองตัวด้วยมือลอยตามน้ำไป สักพักขาเริ่มเกร็งน้อยลง ดีขึ้น ก็ค่อย ๆ พยุงตัวว่ายกระดึบ ๆ เข้าไปด้านในก่อนเลย

เข้ามาด้านในแล้ว น้ำใสมากกก เป็นลากูใหญ่ คล้าย ๆ สระว่ายน้ำ โดยมีภูเขาล้อมรอบ สวยงาม อลังการอย่างยิ่ง ว่าแล้วก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรัว ๆ รีบไปหน่อย หยดน้ำเกาะหน้ากล้องเต็มเลยแต่ลืมเช็ด ก้ได้ภาพออกมาแบบ มัวบ้างชัดบ้าง เศร้า… T__T 

ด้านในนี้น้ำค่อนข้างตื้น ต้องคอยยกขาขึ้น เพราะถ้าเหยียดมากไป อาจไปโดนปะการังได้ อีกอย่าง เม่นทะเลเยอะมากกกก โดนเข้าไปมีหวังหมดสนุกแน่ ๆ 

ดำผุด ดำว่ายอยู่พักใหญ่ ๆ ก็ค่อย ๆ ตั้งสติ ลองไปดำดูกัลปังหา กับ แสทะเลแถวปากถ้ำดูหน่อยดีกว่า ว่าจะเยอะขนาดไหน ไปกันเลย….

เห็นกัลปังหาแล้ววว…อยากดำลงไปถ่ายใกล้ ๆ แต่ก็ไม่สามารถ ดูมุม ไกล ๆ แบบนี้ไปแทนและกันครับ

แถว ๆ ก้อนหินใกล้ผนังถ้ำ จะมีฝูงปลาเต็มไปหมดเลย ดำดูอย่างเพลิน ระหว่างนั้นก็โผล่ขึ้นเหนือน้ำเป็นระยะ ๆ เพราะในโถงถ้ำ จะมีคลื่นซัดเข้ามาตลอด ต้องคอยระวังหัว ไม่ให้น้ำซัดไปกระแทกหิน

กัลปังหาสีขาวกอใหญ่ กับแส้ทะเล อย่างเยอะเลยจริง ๆ ด้วย

เสียดายน้ำค่อนข้างขุ่น เลยถ่ายมาได้ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ 

พอออกมานอกถ้ำแล้ว ก็จะมีเรือกับไกด์มาคอยรับ ลากเรากลับเรือ เพื่อเดินทางกันต่อ… 

เรือจะพาเราไปที่ด้านหน้าเกาะฮอร์สชูวส์เพื่อแวะดำน้ำอีกจุดนึง ก่อนพาขึ้นฝั่งไปกินข้าวเที่ยงกัน พร้อมแล้วก็โดดเลย

แถวนี้ปะการังแข็งเยอะและสมบูรณ์มาก ๆ ปลาก็เยอะ โดยเฉพาะสลิดหินบั้งเหลือง

ตรงบ้างช่วงมีเม่นทะเลจับกลุ่มกันเยอะมาก

ปะการังเขากวางก็มีนิดหน่อย

เจอปลาโนรีด้วย

ดำผุดดำว่ายจนเหนื่อย ไกด์ก็เรียกขึ้นเรือ เตรียมเข้าฝั่ง ไปทานอาหารกลางวันกัน

อาหารกลางวันวันนี้ เราจะนั่งกินกันในโรงอาหาร อยู่ถัดเข้าไปจากชายหาดเล็กน้อย มองออกไปจะเห็นบ้านพักและวิวทะเลประมาณนี้

อาหารกลางวันวันนี้ เป็นผัดผักรวมมิตร ทอดมัน น่องไก่ทอด ไก่ผัดพริกแกง วางเป็นถาด ๆ ให้เราตักราดข้าว ส่วนของหวาน จะเป็นเฉาก๋วย อร่อย ๆ หลังจากหม่ำเสร็จก็เดินสำรวจที่พักเล็กน้อย แต่คืนนี้เราไม่ได้นอนที่นี่นะ เราจะไปนอนที่เกาะตาฟุ๊ก แต่ดู ๆ ไว้ก่อนเพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกลับมานอน 

บ้าพักที่เกาะฮอร์สชูวส์ จะเป็นกระท่อมไม้ไผ่ ขนาดกระทัดรัด สำหรับนอนได้ 2 คน ด้านในจะมีฟูก หมอน มุ้ง พัดลมและปลั๊กเสียบไฟให้ ไม่มีห้องน้ำในตัว ถ้าจะเข้าห้องน้ำต้องเดินไปทางโรงอาหารแล้วเดินเข้าไปอีกนิดหน่อยจะเจอห้องน้ำจะปลูกเรียงเป็นแถว แบ่งเป็นห้องน้ำชาย 3 ห้อง ห้องน้ำหญิง 3 ห้อง  ส่วนไฟฟ้าจะมาหลัง 17.30 น. สัญญาณโทรศัพท์ ณ จุดนี้ ดับสนิททุกค่าย รู้สึกจะมีเจ้าเดียวที่พอโทรได้คือ ดีแทค แต่ต้องออกไปยืนโทรที่หน้าหาดแถว ๆ บริเวณชิงช้าหน้าหาดเท่านั้น 

จากบ้านพัก มองออกไปจะเห็นทะเลอยู่ใกล้ ๆ เลย

เขาจะวางบ้านพักสลับสับหว่างกัน นอนหลังไหน ก็จะได้เห็นวิวทะเล แต่ถ้าได้นอนหลังหน้าสุด ก็จะได้วิวสุดฟิน ทะเลใกล้แค่เอื้ม อ่อไม่สิ มีหินกั้นอยู่ ต้องเดินอ้อมไปนิดถึงจะลงหาดได้ วิวหน้าหาดก็ประมาณนี้เลยครับ

หลังจากถ่ายรูปสักพัก ไกด์ก็เรียกให้เตรียมตัว ไปขึ้นเรือ เพื่อเดินทางไปเกาะตาฟลุ๊คกัน

แต่ก่อนจะไปถึงเกาะตาฟุ๊ก เราจะไปแวะดำน้ำกันอีก 1 จุด

ไกด์บอกว่าเกาะนี้จะเป็นไฮท์ไลท์ของทริปนี้เลยก็ว่าได้ เป็นจุดที่มีปะการังเยอะที่สุดหลากหลายที่สุด 

เกาะย่านเชือกจะเป็นเกาะที่ใหญ่มาก ๆ แต่จุดที่จะพาไปดำน้ำ จะเป็นอ่าว ๆ นึงที่อยู่บนเกาะ มีหาดทราย แต่…ห้ามขึ้นไปเด็ดขาด บนเกาะนี้จะเป็นที่ตั้งของฐานทัพทหารพม่า ไกด์เลยจะย้ำบ่อย ๆ ว่าห้ามขึ้นไปเด็ดขาด

เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็โดดกันเลย…

ปะการังแข็งที่นี่ค่อนข้างจะหลากหลาย และสมบูรณ์มาก ๆ มีปะการังแปลก ๆ ให้ดูเยอะแยะเลย

จริง ๆ ไกด์บอกว่าแถวนี้จะมีปลาการ์ตูน ดอกไม้ทะเลเยอะมาก ๆ แต่ผมลองดู ๆ แล้ว จะเห็นแค่กอเล็ก ๆ ปลาการ์ตูนก็จะมีแค่อินเดียแดง ส้มขาวไม่ค่อยมีเท่าไหร่ สงสัยอาจไปไม่ถูกจุด เพราะอ่าวบริเวณนี้ กว้าง มาก ๆ ไอ้เราก็ลืมตามไกด์ มัวแต่ดำดุ่ม ๆ อยู่คนเดียว

น้ำบริเวณนี้ไม่แรง และค่อนข้างลึกอยู่เลยดำได้สบาย ๆ เพลิน ๆ ไม่ต้องกลัวขาจะโดนปะการัง 

มีปะการังก้อนใหญ่ ๆ ให้ดูเยอะเหมือนกัน

เดิมทีเกาะนี้แรก ๆ ไม่ได้ชื่อเกาะตาฟลุ๊คนะครับ แต่ด้วยความที่มีชายหาดยาวแถมทรายขาวละเอียดคล้าย ๆ กับเกาะตาชัยของบ้านเรา เขาก็เลยตั้งชื่อเลียนแบบเกาะตาชัย กลายเป็นเกาะตาฟลุ๊คมาจนทุกวันนี้..

แรกเริ่มที่เท้าแตะทรายของเกาะนี้ โอ้ว ทรายนุ่ม ละเอียดมาก ๆ เดินทียุบไปครึ่งข้อเท้า ชายหาดขาวและยาวมาก น้ำทะเลใส ๆ

เรือจะจอดส่งเราอยู่ที่ปลายหาดด้านขวามือ ส่วนที่พักจะอยู่ชายหาดตรงกลาง เราก็ขนกระเป๋าลงจากเรือ เพราะคืนนี้เราจะค้างกันที่นี่ คืนนี้มีคนค้างที่เกาะ 5 คน ผมกับเพื่อนสองคน กับอีกกลุ่มนึง มากันสามคน ส่วนคนอื่นที่มาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป เขาจะปล่อยให้เล่นน้ำกันที่เกาะนี้อย่างหนำใจ 40 นาที แล้วค่อยเดินทางกลับ

ว่าแล้วก็แบกกระเป๋าเดินทาง ย่ำพื้นทราย ไปยังโซนที่พักกันก่อนเลยดีกว่า ที่พักของเราคืนนี้จะเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ กางบนพื้นไม้ที่ยกสูง ดูดีเลยทีเดียว

ผมพักเต็นท์หมายเลข 2 จะอยู่ด้านหน้าสุด คือเดินไปถึงก็จะเจอเต็นท์นี้เป็นหลังแรกเลย รูปด้านบนนี้เป็นหมายเลข 3 อยู่ถัดจากเต็นท์ผมไป

ภายในเต็นทร์จะมีที่นองสองเบาะ มีหมอน ผ้าเช็ดตัวให้

อีกด้านหนึ่งของเต็นท์ จะมีโต๊ะเล็ก ๆ เบาะรองนั่ง วางไว้ให้ มีพัดลมและปลั๊กไฟ มีเจลอาบน้ำและชมพูขวดเล็ก ๆ ให้ไว้อย่างล่ะ 2 ขวด 

มองออกไปหน้าเต็นท์วิวก็ประมาณนี้ครับ มีเนินทราย กับต้นไม้บังอยู่ เห็นทะเลอยู่ไม่ไกล

จากเต็นท์ มองออกไปด้านซ้ายมือ ก็จะเป็นห้องอาบน้ำ อยู่ห่างออกไปไม่ไกล เดินไปดูกันดีกว่า

ห้องอาบน้ำด้านนี้ จะมี 2 ห้อง มีม่านพริ้วไหว กั้นแทนประตู แอบเซ็กซี่นะ

ในห้องน้ำแต่ล่ะห้อง ข้างในจะมี 2 ฟักบัว มีราวให้พาดผ้า

จากห้องอาบน้ำ มองไปยังที่เต็นท์ ไม่ไกล ๆ

ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องอาบน้ำ จะมีห้องส้วมอยู่ 2 ห้อง ไม่ได้แบ่งชายหญิงนะครับ กับห้องอาบน้ำ อีก 1 ห้อง

หลังจากสำรวจที่นอน+ห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็นอนเล่นหน้าเต็นท์สักพักรอให้แดดร่มหน่อย แล้วค่อยออกไปเดินถ่ายรูปที่ริมหาดกันดีกว่า อากาศที่เต็นท์ตอนกลางวันช่วงบ่าย 3 ไม่ร้อนเลย เพราะมีร่มไม้ช่วยบังแดดให้ แถมมีลมเย็น ๆ พัดผ่านตลอด นอนกลิ้งไปกลิ้งมาเกือบจะหลับไปหลายรอบ

ริมหาดจะมีต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงาบังแดด ตลอดแนวชายหาดเลย แถมมีชิงช้าและเปลผูกไว้ให้นั่งเล่นด้วย

แดดร่มแล้ว ออกไปเดินเล่นที่ชายหาดกันดีกว่า มุมนี้จะเป็นชายหาดด้านที่เรือจะมาจอด ตอนนี้เรือกลับฝั่งไปหมดแล้วเหลือเพียงคนที่ค้างที่เกาะเพียง 5 คน กับไกด์และสตาฟอีก 3-4 คน อารมณ์เป็นเกาะส่วนตัวมาก ๆ

ทรายอย่างนุ่ม เหยียบลงไปบางช่วงเกือบครึ่งแข้งแนะ แต่เดินมาก ๆ ก็เมื่อยขาเหมือนกันนะเนี่ย 5555

ถ้าข้ามโขดหินช่วงนี้ไป ก็จะเป็นอ่าวเล็ก ๆ อีกอ่าวนึง แต่ผมก็ไม่ได้ข้ามไป ดู ปีนหินไม่ไหวติดพุง 555

ลองซูมิเข้าไปดูอ่าวนั้น เห็นเรือประมงเล็ก ๆ มาจอดอยู่หน้าหาดด้วย

ปูเสฉวนตัวเล็ก ๆ เยอะมากบนหาดทราย ต้องสังเกตุดี ๆ

** ข้อควรระวัง** : ที่ชายหาดช่วงบ่ายสี่โมงนิด ๆ  ถึงช่วงก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน จะมีตัวลิ้นทะเลเยอะมาก ตัวมันจะคล้าย ๆ แมลงหวี่ แต่มันไม่ได้ตอมอย่างเดียว มันดูดเลือดด้วย ไกด์ก็เตือนอยู่ว่าให้ระวัง ตอนผมลงไปนั่งถ่ายรูปหน้าหาดทรายก็ยังสงสัยว่าตัวไรเยอะจัง มาตอมขาอยู่ได้ ไล่ ๆ มันก็ไป แต่สักประเดี๋ยวมันก็กลับมาเกาะอีก พอมันมาเกาะก็รู้สึกเจ็บนิด ๆ ก็ไม่คิดอะไร ไม่คิดว่ามันจะเป็นตัวลิ้นทะเลเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่หลังจากกลับมา กทม แผลที่มันกัดเริ่มออกฤทธิ์ ที่ขาเป็นตุ่มสีแดง เต็มขาเยอะมาก และคันสุด ๆ แต่ห้ามเกาแรงเพราะอาจจะทำให้ผิวหนังอักเสบ เป็นแผลเป็นได้ ถ้าใครไปเที่ยว ควรพกพวกยาทากันยุงไปทาด้วย น่าจะช่วยกันพวกมันได้อยู่นะครับ แต่พอหลังจากพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว มันก็หายไปหมด สงสัยกลับบ้านไปนอนและ 5555 ส่วนยุง ไม่เจอเลยนะครับ 

หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็เดินเล่นไปเรื่อย นั่งมองดูทะเลสงบ ๆ รอดูดวงอาทิตย์ตกดิน

ดวงอาทิตย์ตกแล้ว ความมืดเริ่มมาเยือน ไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า

อาหารเย็นวันนี้ น่องไก่กอด อย่างกรอบ , ต้มยำทะเลน้ำข้น เผ็ดเปรี้ยว ซี๊ดซ๊าด , ผัดผักรวมมิตรเต้าหู้ปลา หวานหอมอร่อย , กุ้ง ปู หมึก เผา กับน้ำจิ้มซีฟูดรสแซ๊บแสนอร่อย อาหารอร่อยมากทุกเมนูเหมือนกินอยู่ที่เมืองไทยเลย อรอ่ย ๆ แถมเยอะมาก กินกันสองคนไม่หมด ปิดท้ายด้วยผลไม้เป็นแตงโม

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จก็เอาเสื่อไปปูนอนพึ่งพุงรับลมเย็น ๆ ที่ชายหาดดีกว่า ช่วงนี้ไม่มียุงและแมลงอะไรมากวนใจและ นอนฟังเสียงคลื่น ดูดาวอย่างชิว

ที่นี่เขาจะเปิดไฟทางไว้ตลอดทำให้ดูสว่างและไม่น่ากลัว ช่วงที่ผมไปอากาศไม่ร้อน ตอนกลางคืนที่นอนในเต็นท์เปิดพัดลมเป่าไว้เบา ๆ ไว้ช่วยระบายอากาศ พอตกดึก ต้องลุกขึ้นมาปิดเพราะชักจะเริ่มหนาว

ตื่นเช้ามา อากาศแจ่มใส ฟ้าใส แดดดีเหมือนเดิม อาหารเช้าวันนี้ จะเป็นข้าวต้มกุ้ง ชา กาแฟ ก็มี ชงดื่มได้ตามสบายเลย

เดินไปดูหน้าชายหาดตอนเช้ากันหน่อย

แดดอ่อน ๆ ตอนเช้า อากาศสดชื่นเย็นสบาย

เช้านี้น้ำลง หน้าหาดแถวที่พัก หินจะเยอะเหมือนกัน

เรือประมงเล็กเริ่มออกหาปลา

หาดฝั่งนี้หินเยอะมาก

ฝากรอยเท้าเอาไว้ บนทรายนุ่ม ๆ

พอสาย ๆ แดดเริ่มแรงและ

หลังข้ามเนินเขามาก็จะถึงอ่าวเต่า เป็นอ่าวเล็ก ๆ มีหาดทรายสั้น ๆ แต่หน้าหาดทรายลงไป จะเป็นดงปะการังแข็งเยอะมาก น้ำใสมาก มองเห็นปะการังเลยขนาดยังไม่ได้ดำลงไปดูนะเนี่ย 

จัดเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำให้พร้อม เสร็จแล้ว ไปกันเลย

ช่วงน้ำตื้น ๆ ปะกะรังจะกระจายกันอยู่เป็นกระหย่อม ๆ

ปลาการ์ตูนปล้องดำ ตัวใหญ่มาก ว่ายมาต้อนรับ

พอเริ่มไกลฝั่งหน่อย ปะการังเริ่มรวมตัวกันหนาแน่น

แบบด้วยความที่น้ำตื้นมาก ทำให้เห็นปะการังชัดเจนมาก อย่างสวยอ่ะ

น้ำนิ่ง ไม่มีคลื่น ดำน้ำสบายมาก สวยสุด ๆ

ดงปะการังจาน

ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูนอินเดียแดงก็มีนะเออ

หอยมือเสือ เยอะมาก ๆ

ปลาปั๊กเป้ากล่องเหลือง น่ารัก

ดำออกมานอกหาดตั้งไกล แต่น้ำไม่ลึกเลย แค่ระดับอกเอง เหนื่อย ๆ ก็หาจุดที่ว่างไม่มีปะการัง ยืนพักได้

เพิ่งจะเห็นหอยตัวใหญ่ ๆ แถมเป็น ๆ เดินได้ด้วย ปกติจะเห็นแต่เปลือกของมัน

ไม่คิดเลยว่าอ่าวเต่า อ่าวเล็ก ๆ บนเกาะตาฟุ๊ก จะมีจุดดำน้ำวิวอลังการขนาดนี้ เพราะไกด์บอกว่าไฮไลท์ จะอยู่ที่เกาะย่านเชือก ถ้าเทียบกัน ผมชอบอ่าวเต่ามากกว่าเยอะเลย เพราะปลาเล็ก ปลาน้อย จะเยอะมาก แถมน้ำตื้นมองเห็นปะการังชัดแจ๋วเลย ปลาการ์ตูนนี่แทบจะว่ายมาชนหน้ากากกันเลย ประทับใจสุด ๆ

หลังจากดำน้ำจนหนำใจ ก็เดินกลับไปอาบน้ำ เตรียมตัวทานอาหารกลางวันกัน อ่อทางเดินข้ามเนินเขาไปอ่าวเต่า ค่อนข้างรก และมีเศษขยะ เศษแก้วเยอะ ยังไงใครที่จะเดินมาจุดนี้ ควรใส่รองเท้าแตะมาด้วยนะครับ