"เกาะปันหยี" ที่รัก

สวัสดี... ท่านผู้อ่านทุกคนค่ะ...

บันทึกหน้านี้ เป็นบันทึกฉบับแรกของ ปี 2559 ของแอม

 

แอมจึงขอยกเอาสถานที่ที่หนึ่ง

ที่อยากจะเขียนมากที่สุด...

ที่วางแผนไว้นานที่สุด...

ที่มีรูปเยอะที่สุด...

เนื้อหายาวที่สุด...

ที่เขียนจากความรู้สึกเบื้องลึกในใจมากที่สุด...

และเป็นที่ที่เดียวแอมสามารถเขียนได้โดยไม่ต้องไปถ่ายรูปเอง

 

นั่นคือ...

"เกาะปันหยี"

 

 

และแน่นอนค่ะ...

หลายๆ คนที่อ่าน ต้องสงสัยแน่ๆ ว่า..

ทำไมต้องเป็นที่นี่

ที่นี่มีอะไรให้เขียน

ทำไมถึงเขียนจากใจ

และอีกมากมาย...

 

หลายๆ คนอาจจะเคยมาที่นี่

แล้วคิดเหมือนกันว่า ... ไม่เห็นมีอะไรเลย

 

แอมขอไม่ตอบ ขอไม่เถียงนะคะ

แต่ถ้าหากท่านผู้อ่าน... สนใจ ก็เลื่อนต่อลงไปข้างล่างเลยค่ะ

คำตอบอยู่ในบันทึกฉบับนี้ทั้งหมด...

 

 

"เกาะปันหยี"

ตั้งอยู่ในเขตของ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา

มีประชากรอาศัยอยู่มากมาย

โดยทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลามค่ะ

 

การเดินทาง... ใช้เรือเท่านั้นค่ะ

สามารถเดินทางจากท่าเรือบางโรง จ.ภูเก็ตก็ได้

หรือจะไปลงเรือที่พังงาก็ได้

 

ง่ายที่สุด หากคุณอยากนั่งเรือให้น้อยที่สุด

ต้องไปขึ้นเรือที่ท่าด่าน 

เข้าไปทางโรงแรมภูงานั่นล่ะค่ะ

พ้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาไปนิดนึง

เลี้ยวขวา แล้วตรงไปอีกนิด ก็จะเจอท่าเรืออยู่ท่างซ้ายมือค่ะ

 

 

ค่าเรือ คนละประมาณ 60 บาทค่ะ

โดยท่าเรือที่ว่านี้ คือท่าเรือที่ชาวเกาะปันหยีใช้กัน

 

หากคุณไม่เคยรู้สึกว่า...

เวลาไปเที่ยว แล้วสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

 

อยากให้คุณลองมาที่นี่ค่ะ...

เพราะที่นี่....

แค่ย่างเท้าลงเรือ ก็สบายใจแล้ว

(แอมรู้สึกแบบนั้นค่ะ ... รวมถึงทุกคนที่เคยมาที่นี่กับแอม

แต่นิดนึง... คุณต้องตัด social และมือถือออกก่อนนะคะ)

 

แน่นอนค่ะ ย่อมมีเหตุผล

เริ่มแรก เมื่อเรือเริ่มขยับ

คุณจะสัมผัสได้ทันที ว่าลมเย็น อากาศสบาย...

เพราะเรือจะพาคุณนั่งจากผืนแผ่นดินใหญ่

ผ่านคลอง...คลองเกาะปันหยีค่ะ

สองข้างทางเต็มไปด้วย ป่าโกงกาง

ภูเขาสูง ซึ่งเป็นจุดเด่นของ จ.พังงาอยู่แล้วค่ะ

 

    

 

นอกจากนี้ ... ยังมีภาพเขียนโบราณด้วยค่ะ

พี่คนขับเรือ จะพาไปชมแน่นอนค่ะ ไม่ขาไปก็ขากลับ

 

 

นั่งเรือไป ประมาณ 10 นาที 

ก็เริ่มเห็นเกาะแล้วค่ะ

แต่การเดินทางจริงๆ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีนะคะ

 

เกาะปันหยี เป็นเกาะกลางน้ำค่ะ

เรียกได้ว่า แทบจะไม่มีพื้นดินเลย

บ้านทั้งหมด สร้างบนน้ำเลยค่ะ

เสาทุกต้นปักลงบนดินที่อยู่ใต้น้ำเลย

 

ปัจจุบัน ท่าเรือของเกาะปันหยี

มีหลายจุดค่ะ ทั้งร้านอาหาร 

ทั้งฝั่งสนามฟุตบอล

และท่าเรือที่ชาวบ้านใช้ดั้งเดิมบริเวณด้านหน้าค่ะ

 

เมื่อมาถึงท่าเรือที่ว่า...

ลงเรือปุ๊บ ลองหันหลังออกไป จะเจอภาพนี้ค่ะ

(รวมถึง 2 ภาพแรก ของบันทึกฉบับนี้ ก็ถ่ายจากท่าเรือจุดเดียวกันค่ะ)

 

 

เรือจะจอดที่โป๊ะ แล้วพวกเราต้องเดินบันได้ขึ้นไปนิดนึงนะคะ

เมื่อเดินขึ้นไปแล้ว... พวกเราจะเจอกับศาลา

ที่ไว้สำหรับนั่งรอเรือ หรือนั่งพักผ่อน ตากลม ก็ได้ค่ะ

 

เห็นไหมคะ ขนาดนั่งรอเรือ ยังมีความสุขเลยค่ะ

 

ที่สำคัญ ... หากพวกเราไปที่นี่ในช่วงใกล้เทศกาลแข่งเรือยาว

พวกเราจะเห็นการแกะ การลงสี การเตรียมพร้อมเรือ

เพื่อใช้ในการแข่งขัน


หากโชคดีกว่านั่น... อาจจะได้เห็นการซ้อมพายเรือด้วยค่ะ

ภาพเรือชมภาพล่างซ้ายค่ะ...

 

  

 

เอาล่ะค่ะ... บนเกาะปันหยี มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ...

ภาพบนซ้าย ... ร้านขายน้ำพริก ต่างๆ นานา

ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกุ้งเสียบ

น้ำพริกปลาป่น

กุ้งสามรส

ปูสามรส

ฯลฯ


  

 

ทางเดิน... ปัจจุบันเป็นปูนหมดแล้วค่ะ 

เดินง่าย เดินสบาย

ระหว่างทางก็มีร้านค้ามากมาย


เดิมชาวเกาะปันหยีจะประกอบอาชีพประมง 

และค้าขาย (สร้อย อุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำจากเปลือกหอย มุก และอื่นๆ) 

เป็นหลักค่ะ


 

 

แต่ในปัจจุบัน ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

จึงมีการขายทั้ง เสื้อผ้า รองเท้า ที่ติดตู้เย็น และอื่นๆ เข้ามาด้วย

 

  

 

ภาพซ้ายบน... ร้านค้ายามค่ำคืนค่ะ

ภาพขวาบน... การสัญจรบนเกาะ ส่วนใหญ่เน้นการเดินเท้า 

แต่ก็มีการนำจักรยานมาใช้ด้วยค่ะ

 

   


สภาพบ้านเรือน ทางเดินบนเกาะปันหยีค่ะ

บ้านเรือนบนเกาะปันหยีจะปลูกติดๆ กันค่ะ

ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ญาติพี่น้องกัน

แน่นอนค่ะ... ชาวเกาะปันหยีมีสิ่งหนึ่งที่แอมประทับใจ

คือ... ไม่ว่าเขาจะมีปัญหา เขาจะทะเลาะกัน

เขาจะโกรธกันแค่ไหน...

แต่สุดท้าย เขาคิดเสมอค่ะ ว่าเขาเป็นพี่น้องกัน

และแน่นอนค่ะ... ความโกรธก็หายไป

 

ในภาพทางขวามือ บ้านกำลังก่อสร้างค่ะ

เห็นมัสยิดและภูเขาด้วยค่ะ

 

สมัยก่อน... ทางเดินและหน้าบ้านบางหลังของที่นี่เป็นไม้

ดังภาพบนเลยค่ะ

ไม้มาเรียงๆๆๆ กัน

เวลาเดิน แอมจะเดินด้วยความกลัว 

เหยียบแล้วไม้กระดิกได้ค่ะ ^___^

 

ไม้เป็นแผ่นๆ ก็มี

แบบนี้ค่อยเดิน นั่งอย่างอุ่นใจหน่อยค่ะ

 

หลายๆ คนอาจจะจินตนาการว่า...

ที่เกาะแห่งนี้ ต้องเต็มไปด้วยคนผิวดำใช่ไหม


ผิดอย่างรุนแรงเลย...

สาวๆ ที่นี่ ขาวมากกกกก


มีงานแต่ละที ก็แต่งตัวกันสวยงามมากเลยค่ะ


เอาล่ะค่ะ... พักสายตากันก่อน

อย่างที่บอก บันทึกฉบับนี้ยาวววววมากค่ะ

 

วิวฝั่งอนามัยเกาะปันหยีค่ะ

 

วิวฝั่งหลังเกาะค่ะ

 

  

ซ้าย... คุณลุง พายเรือ อย่างมีความสุขค่ะ

ขวา... วิว เมื่อมองจากเกาะ ไปยังท่าเรือ

ถ้าจำไม่ผิด เป็นท่าเรือทางด้านหลังค่ะ

 

 

ที่เกาะแห่งนี้... สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ ขึ้นและตกนะคะ

ต้องไปชมด้วยตัวเองค่ะ สวยจนบรรยายไม่ถูก

และแน่นอนค่ะ สิ่งที่สอง ที่แอมประทับใจที่นี่

ก็คือ... วิว... ท่านผู้อ่านลองคิดดูนะคะ

ว่านี่ขนาดคนธรรมดาถ่ายภาพ

แล้วภาพไม่ผ่านการตกแต่ง ยังขนาดนี้

แล้วถ้าลองให้ช่างภาพถ่าย แล้วแต่งภาพ

จะสวยขนาดไหน... 

ยังไม่พอค่ะ แล้วบรรยากาศยามเช้ากับยามเย็นล่ะ

สุดจะบรรยายเลยค่ะ

 

 

บนเกาะแห่งนี้มีร้านอาหารมากมาย

เน้นขายอาหารทะเล

ดังภาพด้านล่าง... หลังคาสีแดง เขียว ฟ้า ใช่ทั้งหมดค่ะ

 

 

และแน่นอนค่ะ... ประชากรที่นี่ นับถือศาสนาอิสลาม

ที่นี่ต้องมีมัสยิด... เป็นศูนย์รวมจิตใจ

และใช้ในการประกอบพิธีต่างๆ ทางศาสนา

 

มัสยิด เมื่อมองจากสนามฟุตบอลค่ะ


มัสยิดแห่งนี้เป็นมัสยิดที่สร้างขึ้นใหม่

ใหญ่และสวยมากค่ะ

 

ภายในมัสยิดค่ะ (ขณะมีการถ่ายพรีเวดดิ้ง)


มัสยิดของที่นี่อยู่ติดกับภูเขาค่ะ

ภูเขาลูกนี้ตั้งโด่อยู่กลางทะเลเลย

ดังนั้น กุโบร์ หรือที่ฝังศพก็อยู่ตรงนี้ด้วยค่ะ

นี่ล่ะค่ะ สาเหตุที่แอมไม่บอกแต่แรกว่าที่นี่ไม่มีพื้นดิน

มีอยู่นิดนึงนะคะ.. ^^

 

  

เมื่อมีผู้เสียชีวิต ประชากรของที่นี่แทบทั้งหมด

จะมารวมตัวกับบริเวณนี้ค่ะ

 

ญาติของผู้เสียชีวิตกำลังอ่านหนังสือที่หลุมศพค่ะ

 

ยามใกล้ค่ำค่ะ

 

 

มัสยิดกับภูเขาลูกเดียวที่ว่าค่ะ...ยามเย็น

 

ด้านบนของมัสยิดค่ะ... บริเวณนี้แอมยังไม่เคยขึ้นไป 

น้องส่งภาพมาให้ค่ะ


เป็นทั้งจุดถ่ายรูป และจุดชมวิวที่สวยงามเลยทีเดียวค่ะ

 

 

มาถึงตรงนี้ ... เริ่มสงสัยกันไหมคะ

ว่าเวลามีกิจกรรม เขาจะทำกันที่ไหน

เด็กๆ เรียนหนังสือกันตรงไหน


แน่นอนที่สุดค่ะ... โรงเรียนเกาะปันหยี

จุดนี้ ... เริ่มด้วยภาพ สมัย พ.ศ. 2518 - 2520 นะคะ

 

คณะครูกับโรงเรียนในสมัยนั้นค่ะ

 

เด็กๆ เข้าแถว เคารพธงชาติ

 

ครูกำลังสอนเด็กๆ ค่ะ

 

บริเวณลานกิจกรรมของโรงเรียนค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแถวเคารพธงชาติ

 

การเรียนนอกห้องเรียน

 

การเล่นกีฬา

 

  

งานกีฬาสีก็มี และนางรำก็มา

รวมถึงงานแต่งงานก็จัดกันที่นี่ค่ะ


ลานหน้าโรงเรียน เดิมเป็นไม้ค่ะ

แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาขึ้นเป็น....


เป็นพื้นปูนหมดแล้วค่ะ

 


รวมถึงมีการขยายสนามฟุตบอลเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ


 

ปั่นจักรยานก็มีนะคะ


เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2558 

ทางบนผืนแผ่นดินใหญ่ มีการจัดกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ"

ที่นี่ก็มีเช่นกันค่ะ

 

จัดเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความสุขค่ะ

 

งานเลี้ยงที่ โรงเรียนค่ะ


นอกจากการเรียนบทเรียนทั่วไปแล้ว

ที่นี่มีการเรียนหนังสืออิสลามในช่วงค่ำด้วยค่ะ

 

 

บ้างก็เรียนกันที่บ้าน 

บ้างก็เรียนที่มัสยิด

บ้างก็เรียนที่โรงเรียนค่ะ

 

 

เอาภาพโรงเรียนมาให้ชมกัน

ในมุมสวยๆ บ้างค่ะ

 

 

 

นอกจากนี้คุณเคยรู้ไหมคะ ว่าที่เกาะเล็กๆ แห่งนี้...

มีสิ่งหนึ่งที่ติดอันดับโลก...


นั่นคือ....

 

สนามฟุตบอลลอยน้ำค่ะ


สนามฟุตบอลแห่งนี้ได้รับการยกย่อง

ให้เป็นสนามฟุตบอลที่มีวิวส